ชาเขียว VS ชาขาว
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ชาเขียว VS ชาขาว
โพสต์ที่ 33
:lol: :lol: :lol: :lol:
จากเบียร์สู่เครื่องดื่มสุขภาพ ปรับโมเดลบุญรอดตามอาซาฮี
"ชาเขียวพร้อมดื่ม" กลายเป็นโปรเจคใหม่ที่กลุ่มบุญรอดให้ความสำคัญ ถึงขั้นนำกำไรจากการขายเบียร์มาลงทุนซื้อเครื่องจักรตั้งโรงงานผลิตอย่างเป็นทางการ โดยใช้เม็ดเงิน 600 ล้านบาท
เพื่อผลิตชาเขียวยี่ห้อโมชิ ออกมาวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา ที่โรงงานสามเสน ซึ่งสามารถสร้างความฮือฮา ให้กับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่าหมื่นล้านได้เป็นอย่างดีหลายคนคงอยากทราบถึงที่มาของโปรเจคนี้ รวมทั้งทิศทางของกลุ่มบุญรอดต่อจากนี้ไป ซึ่งคงไม่มีใครตอบได้นอกเหนือจาก "สันต์ ภิรมย์ภักดี" ในฐานะผู้นำกลุ่มยังก์ บลัด สิงห์ นั่นเอง
http://www.bangkokbiznews.com/2005/06/0 ... s_id=12105
:lol: :lol: :lol: :lol:
จากเบียร์สู่เครื่องดื่มสุขภาพ ปรับโมเดลบุญรอดตามอาซาฮี
"ชาเขียวพร้อมดื่ม" กลายเป็นโปรเจคใหม่ที่กลุ่มบุญรอดให้ความสำคัญ ถึงขั้นนำกำไรจากการขายเบียร์มาลงทุนซื้อเครื่องจักรตั้งโรงงานผลิตอย่างเป็นทางการ โดยใช้เม็ดเงิน 600 ล้านบาท
เพื่อผลิตชาเขียวยี่ห้อโมชิ ออกมาวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา ที่โรงงานสามเสน ซึ่งสามารถสร้างความฮือฮา ให้กับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่าหมื่นล้านได้เป็นอย่างดีหลายคนคงอยากทราบถึงที่มาของโปรเจคนี้ รวมทั้งทิศทางของกลุ่มบุญรอดต่อจากนี้ไป ซึ่งคงไม่มีใครตอบได้นอกเหนือจาก "สันต์ ภิรมย์ภักดี" ในฐานะผู้นำกลุ่มยังก์ บลัด สิงห์ นั่นเอง
http://www.bangkokbiznews.com/2005/06/0 ... s_id=12105
:lol: :lol: :lol: :lol:
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
ชาเขียว VS ชาขาว
โพสต์ที่ 34
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2015 05 มิ.ย. - 08 มิ.ย. 2548
บุญรอดฯ รุกหนักไตรมาส3 ดันสินค้าใหม่ขยายตลาด
"บุญรอดฯ" ขยายไลน์สินค้ารอบใหม่ ประเดิมส่ง ชาเขียว "โมชิ" แชร์เค้ก 6,000 ล้าน ทุ่มงบ 600 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีคว้ายอดขาย 10% เผยครึ่งปีหลังรุกหนักตลาดอินเตอร์ พร้อมขยายไลน์สินค้าในประเทศ เพิ่มศักยภาพการตลาดให้กลุ่มบุญรอดฯ
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัททุ่มงบ 500-600 ล้านบาท ในการสร้างสินค้าตัวใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชาเขียวภายใต้แบรนด์ "โมชิ" ลงสู่ตลาด โดยถึงศักยภาพของบุญรอดฯ ที่มีอยู่มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ทั้งเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย การกระจายสินค้า และสายป่านที่ยาว ที่สามารถสร้างตลาดได้แม้จะเป็นผู้ตามในตลาดชาเขียว
สำหรับความแข็งแกร่งทางการตลาดที่บุญรอดฯ นำมาใช้กับเครื่องดื่มชาเขียว "โมชิ" นี้ คือ ระบบการกระจายสินค้า และช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันบุญรอดฯ มีเอเย่นต์อยู่ 500-600 ราย โดยเอเยนต์แต่ละรายกระจายให้ซาปั๊ว 50-60 แห่ง นอกจากนี้ บุญรอดฯ ยังมีระบบการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งในทุกตลาด ทั้งตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมทั้งช่องทางจำหน่ายทุกช่องทางทั้งร้านค้า ร้านหาอาหาร ที่ชาเขียวทั่วไปไม่สามารถกระจายสินค้าไปได้ทั่วถึง
ส่วนการทำแคมเปญการตลาด จะเริ่มออนแอร์ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อแนะนำสินค้าตั้งแต่ 15 มิ.ย.นี้เป้นต้นไป โดยจะมีภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ออกอากาศติดต่อกัน ส่วนการทำแคมเปญโปรโมชั่นในระยะแรกจะยังไม่ทำ เนื่องจากจะเป็นการทำลายแบรนด์มากเกินไป แต่จะเน้นที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคก่อน
ด้านนายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยจะมีการขยายไลน์การผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดถึง 8-9 ตัว โดยคาดว่าจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดภายในปีนี้เพิ่มเติม นอกเหนือจากชาเขียวโมชิแน่นอน
นอกจากนี้ สำหรับสินค้าเดิมในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทมีการปรับโครงสร้างใหม่มาแล้ว 4 ปี ในปีนี้ ยังเหลือส่วนที่ต้องเร่งปรับปรุงพัฒนาอีกประมาณ 10% ซึ่งจะเป็นส่วนการทำตลาด ระบบการกระจายและขนส่งสินค้า การจัดการระบบการผลิต การสต็อกสินค้า เพื่อให้ได้ประสิทธิผลของสินค้าและการทำตลาดอย่างเต็มที่ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะรุกหนักในการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นหนักที่ตลาดเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพิ่มปริมาณการขายให้มากขึ้น โดยสัดส่วนการส่งออกสินค้าในตลาดต่างประเทศ ประมาณ 4 % ของกำลังผลิตทั้งหมด
นายสันติ กล่าวว่า การปรับปรุงและเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ สู่ตลาด ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัท รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2015
บุญรอดฯ รุกหนักไตรมาส3 ดันสินค้าใหม่ขยายตลาด
"บุญรอดฯ" ขยายไลน์สินค้ารอบใหม่ ประเดิมส่ง ชาเขียว "โมชิ" แชร์เค้ก 6,000 ล้าน ทุ่มงบ 600 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีคว้ายอดขาย 10% เผยครึ่งปีหลังรุกหนักตลาดอินเตอร์ พร้อมขยายไลน์สินค้าในประเทศ เพิ่มศักยภาพการตลาดให้กลุ่มบุญรอดฯ
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัททุ่มงบ 500-600 ล้านบาท ในการสร้างสินค้าตัวใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชาเขียวภายใต้แบรนด์ "โมชิ" ลงสู่ตลาด โดยถึงศักยภาพของบุญรอดฯ ที่มีอยู่มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ทั้งเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย การกระจายสินค้า และสายป่านที่ยาว ที่สามารถสร้างตลาดได้แม้จะเป็นผู้ตามในตลาดชาเขียว
สำหรับความแข็งแกร่งทางการตลาดที่บุญรอดฯ นำมาใช้กับเครื่องดื่มชาเขียว "โมชิ" นี้ คือ ระบบการกระจายสินค้า และช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันบุญรอดฯ มีเอเย่นต์อยู่ 500-600 ราย โดยเอเยนต์แต่ละรายกระจายให้ซาปั๊ว 50-60 แห่ง นอกจากนี้ บุญรอดฯ ยังมีระบบการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งในทุกตลาด ทั้งตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมทั้งช่องทางจำหน่ายทุกช่องทางทั้งร้านค้า ร้านหาอาหาร ที่ชาเขียวทั่วไปไม่สามารถกระจายสินค้าไปได้ทั่วถึง
ส่วนการทำแคมเปญการตลาด จะเริ่มออนแอร์ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อแนะนำสินค้าตั้งแต่ 15 มิ.ย.นี้เป้นต้นไป โดยจะมีภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ออกอากาศติดต่อกัน ส่วนการทำแคมเปญโปรโมชั่นในระยะแรกจะยังไม่ทำ เนื่องจากจะเป็นการทำลายแบรนด์มากเกินไป แต่จะเน้นที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคก่อน
ด้านนายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยจะมีการขยายไลน์การผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดถึง 8-9 ตัว โดยคาดว่าจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดภายในปีนี้เพิ่มเติม นอกเหนือจากชาเขียวโมชิแน่นอน
นอกจากนี้ สำหรับสินค้าเดิมในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทมีการปรับโครงสร้างใหม่มาแล้ว 4 ปี ในปีนี้ ยังเหลือส่วนที่ต้องเร่งปรับปรุงพัฒนาอีกประมาณ 10% ซึ่งจะเป็นส่วนการทำตลาด ระบบการกระจายและขนส่งสินค้า การจัดการระบบการผลิต การสต็อกสินค้า เพื่อให้ได้ประสิทธิผลของสินค้าและการทำตลาดอย่างเต็มที่ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะรุกหนักในการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นหนักที่ตลาดเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพิ่มปริมาณการขายให้มากขึ้น โดยสัดส่วนการส่งออกสินค้าในตลาดต่างประเทศ ประมาณ 4 % ของกำลังผลิตทั้งหมด
นายสันติ กล่าวว่า การปรับปรุงและเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ สู่ตลาด ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัท รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2015
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ชาเขียว VS ชาขาว
โพสต์ที่ 36
เดี๋ยวคงเกิด Price War ซัดกันปากบวม Profit Margin ตกแหงๆ
I do not sleep. I dream.