จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 9:59 pm | 0 คอมเมนต์
คัดท้าย เขียน: ฟันธง ... ผมเชื่อว่าบัฟเฟต ต่างกับเราตรงที่เค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลภายใน จากบริษัทที่เค้าลงทุนไปแบบถึงแก่น ...
แต่เราไม่สามารถทำได้แบบนั้น ....
นี่คือ คำว่า วงใน แบบหนึ่ง
แต่เป็นวงใน ที่ใช้ในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมพยายามบอกว่า เค้าเหาะได้ แต่เราเหาะไม่ได้ ... ดังนั้น ผมเชื่อว่า ในหลายๆอย่างแล้ว เราต้องมีวิธีของเราเอง ... จะทำแบบเค้าหมดคงไม่ได้ครับ
ผมจำได้ว่าคัดท้ายเคยโพสต์ทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว
มองดูผิวเผิน ก็ดูเหมือนจะจริง
แต่ในฐานะของคนที่ชื่นชมบัฟเฟต ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตุอย่างนี้
1.ถ้านักลงทุนสถาบันเข้าถึงผู้บริหารได้ ทำไมนักลงทุนสถาบันอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนบัฟเฟต
2.บริษัทที่วอเรนเข้าซื้อ และมีตำแหน่งกรรมการ ล้วนเกิดขึ้นหลังจากวอเรนซื้อหุ้นจนมีสัดส่วนค่อนข้างมากแล้ว และแน่นอนว่าก่อนที่จะซื้อหุ้นจนมีอำนาจบริหาร วอเรนต้องทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว ไม่น่าจะเป็นเพราะเห็นว่าเป็นบริษัทที่ดี หลังจากมีตำแหน่งกรรมการและได้รู้ข้อมูลวงใน ใช่ไหมครับ
และผมก็ไม่คิดว่าเหตุผลเพียงแค่นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้วอเรน มีผลงานที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ มันต้องอาศัยหลายๆอย่างที่จะทำให้แตกต่างออกมาชัดเจน เหมือนวงการเทนนิส ทำไม โรเจอร์ เฟดเดอเร่อ โดดเด่นมาก แทนที่จะเป็นร็อดดิค หรือซาฟิน ซึ่งเสริฟหนักมากๆ คำตอบก็คือ โรเจอร์ มีครบเครื่องกว่า ทั้งโฟแฮนด์ แบ็คแฮนด์ ลูกสไลด์ ลูกเสริฟ ลูกวอลเล่หน้าเน็ต
วอเรน ก็เช่นกัน ครบเครื่องกว่า
ถ้าเราอยากเก่ง ก็ต้องครบเครื่องครับ ผมเห็นด้วยอย่างที่น้องโยโย่ว่ามา
และผมก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน คือต้องได้พูดคุยกับผู้บริหารก่อน ยกเว้นแต่บริษัทที่มีโบรคเกอร์ติดตามเยอะอยู่แล้ว
ได้คนขับนักบินที่ดี (มีความรู้ หมั่นศึกษา มีวุฒิภาวะทางอารมณ์)
ได้เครื่องบินที่ดี (เครืองบินเอฟ VI
)
เราก็น่าจะเหาะได้ เหมือนบัฟเฟต เช่นกัน