chartchai madman เขียน:ฟาร์อีสท์-แนะนำ "Buy" SPALI
SUPALAI PCL.(SPALI)
Buy
Price 3.80 Bt
Target 5.25 Bt
Company Visit Notes & 1Q51Earnings Preview
Presales 1Q51 ค่อนข้างดี
SPALI มียอด Presales 1Q51 ที่ 2,528 ล้านบาท (รวม Presales จากโครงการ Supalai Premier Sathorn-Narathiwas เปิดตัวช่วงปลายปี 50 ที่ยังไม่มีการทำสัญญาจำนวน 500-600 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเป้า Presales ที่ 9,999 ล้านบาท ก็ถือว่ายอด Presales ใน 1Q51 ทำได้ตามเป้า อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในแง่ของ Product Mix แล้ว สัดส่วน Presales จากโครงการคอนโดมิเนียมยังมีส่วนแบ่งที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 67% ของยอด Presales สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่เพียง 55% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการแนวราบที่ค่อนข้างน้อยในช่วง 1Q51 เราคาดว่าสัดส่วนคอนโดมิเนียมจะยังคงสูงต่อเนื่องใน 2Q51 และจะเริ่มทยอยลดสัดส่วนลงในช่วง 2H51 เนื่องจากใน 3Q51 SPALI จะมีการเปิดตัวโครงการแนวราบจำนวน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 3,743 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอด Presales ของโครงการแนวราบให้ฟื้นตัวได้
คาดผลประกอบการ 1Q51 ออกมาน่าผิดหวัง
จากเดิมที่เราคาดว่าผลประกอบการ 1Q51 ของ SPALI จะยังทรงตัวในระดับที่ค่อนข้างดีเนื่องจากมีการโอนโครงการ City Home Sukumvit 101/1 แต่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการลดภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธดรรมเนียมการโอน ทำให้ SPALI มีการเลื่อนโอนโครงการดังกล่าวออกไปในช่วง 2Q51 ส่งผลให้ยอดโอนใน 1Q51 ของ SPALI จะออกมาต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ โดยประเมินยอดรับรู้รายได้ใน 1Q51 ไว้ที่ 926 ล้านบาท ลดลง 28.24%QoQ และ 36.95%YoY ด้าน GPM ประเมินไว้ที่ 42.36% เพิ่มขึ้นจาก 39.57% ใน 4Q50 และ 39.51% ใน 1Q50 ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนการรับรู้รายได้จากโครงการ Casa Riva ที่สูงถึง 50% ของยอดรับรู้รายได้รวม ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายงวด 1Q51 คาดว่าจะอยู่ที่ 17.52% ทรงตัวจาก 17.63% ใน 4Q50 แต่เพิ่มขึ้นจาก 12.55% ใน 1Q50 และประเมิน effective tax rate ไว้ที่ 30% ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 1Q51 คาดว่าจะอยู่ที่ 147 ล้านบาท ลดลง 35.67%QoQ และ 41.82%YoY
อานิสงส์ปรับวิธีบันทึกบัญชี กระตุ้น Backlog เพิ่มประมาณ 450 ล้านบาท
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีใหม่ SPALI ได้มีการปรับวิธีการรับรู้รายได้โครงการ Casa Riva จาก Percentage of Completion เป็นรับรู้เมื่อโอน ส่งผลให้ต้องมีการ Restate งบการเงินปี 49-50 ใหม่ โดยผลกระทบจากการปรับวิธีบันทึกบัญชีดังกล่าวจะช่วยให้ SPALI สามารถรับรู้รายได้โครงการ Casa Riva ได้อีกประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งยอดรับรู้รายได้ดังกล่าวถูกรับรู้ตามวิธี Percentage of Completion ไปแล้วในช่วงปี 49-50 แต่หลังจากการปรับวิธีการรับรู้รายได้ ยอดรับรู้รายได้ดังกล่าวจะถูกยกเลิกออกจากงบปี 49-50 และจะถูกนำมารับรู้ในปี 51 จากการปรับมาตรฐานบัญชีดังกล่าวช่วยให้ SPALI มียอด Backlog ที่จะรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 450 ล้านบาท ส่งผลให้การเติบโตของยอดรับรู้รายได้ปี 51 มีความชัดเจนขึ้นทันที
ปรับเพิ่มประมาณการปี 51 ขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับ Backlog ที่สูงขึ้น
เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 51 ของ SPALI ขึ้น 3.93% มาอยู่ที่ 5,278 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับ Backlog ที่สูงขึ้น และปรับเพิ่มกำไรสุทธิของ SPALI ขึ้น 2.8% มาอยู่ที่ 1,028 ล้านบาท โดยยอดรับรู้รายได้ดังกล่าวมีความแน่นอนค่อนข้างมากเนื่องจาก SPALI จะมียอด Backlog หลังการรับรู้รายได้ใน 1Q51 อีกประมาณ 3,163 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดรับรู้รายได้ใน 1Q51 ที่ 926 ล้านบาท จะทำให้ SPALI มีฐาน Backlog รองรับจำนวน 4,089 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของประมาณการรายได้ปี 51 และจากฐาน Backlog สำหรับปี 52 จำนวน 4,561 ล้านบาท และ Backlog สำหรับปี 53 จำนวน 4,912 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณ Backlog ที่ค่อนข้างสูง ได้สร้างความมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 52 และ 53 จะยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง
ผลประกอบการ 1Q51 ที่น่าผิดหวังจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นในช่วงสั้น ประเมินว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าสะสมโดยคาดหวังผลประกอบการใน 2Q51 จะโดดเด่นมาก แนะนำ "ซื้อ
แม้เราจะประเมินผลประกอบการงวด 1Q51 ของ SPALI จะน่าผิดหวังเนื่องจากการเลื่อนโอนโครงการ City Home Sukumvit 101/1 แต่จากการที่โครงการดังกล่าวจะรับรู้รายได้เข้ามาใน 2Q51 กว่า 1,300 ล้านบาท ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q51 ของ SPALI จะออกมาโดดเด่นมาก และเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 51 ของ SPALI ไว้ที่ 5.25 บาท โดยอิง Prospective PER ที่ 9 เท่า จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3.80 บาท ยังมี upside อีก 38.16% ถือว่าน่าสนใจ นอกจากนี้เรายังคาดว่า SPALI จะสามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 1H51 ได้อีก 0.15 บาทต่อหุ้นคิดเป็น dividend yield ที่ระดับ 3.95% ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน เราจึงยังคงแนะนำให้ ซื้อ
///
ฟินันซ่า- แนะนำ "BUY" SPALI
Supalai Plc. (SPALI) - BUY
Recommendation BUY
Share price Bt3.80
Target price Bt5.65
Upside/(Downside) 48.68%
Warrant price Bt2.24
52W range high/low Bt4.50/Bt3.26
Foreign limit/ownership 35%/22.07%
Foreign premium N/A
SET index 845.4
ดีขึ้นต่อเนื่องนับจากนี้ เพราะวางแผนมาดี
อย่าตกใจถ้ากำไร 1Q08 จะหด 33% QoQ & 40% YoY เหลือ 152 ลบ.
ในเดือนมี.ค. SPALI แทบไม่มียอดโอนเลย เพราะลูกค้ารอให้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯมีผลบังคับใช้ (29 มี.ค.08 เป็นเวลา 1 ปี) ซึ่งภาษีโอนส่วนที่ลูกค้าต้องจ่ายจะลดลงจาก 1% เหลือ 0.005% ทำให้การรับรู้รายได้ใน 1Q08 จะต่ำเพียง 935 ลบ. (-28% QoQ & -36% YoY) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโด Casa Riva 550 ลบ. ที่เหลือมาจากโครงการแนวราบ ทั้งนี้ Casa Riva มี GPM สูงมากถึง 45% ส่งผลให้คาด GPM โดยรวมใน 1Q08 จะสูงถึง 42.5% (vs. 39.9% ปี 07) แต่จากยอดรับรู้รายได้ที่น้อยส่งผลให้ SG&A/Sales พุ่งขึ้นเป็น 17.5% (vs. 14.7% ปี 07) และกำไรชะลอเหลือแค่ 152 ลบ. (-33% QoQ & -40% YoY) ทั้งนี้ SPALI จะมีการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่โดยปรับงบการเงินย้อนหลังเป็นแบบรับรู้รายได้ตามการโอน (vs. ปัจจุบันใช้วิธีอัตราส่วนของงานที่ทำเสร็จ) ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิของปี 07 ลดลง 2% และ 4% เหลือ 4.92 พันลบ. และ 816 ลบ.ตามลำดับ แต่สำหรับผลประกอบการในปัจจุบันจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
ปีนี้ลุยเปิดโครงการเพิ่มเท่าตัวจากปีก่อนเป็น 14 แห่ง (1.4 หมื่นลบ.)
โดยการเติบโตจะเริ่มปรากฎใน 2Q08 นี้ที่คาดว่าการรับรู้รายได้จะพุ่งขึ้นเป็น 1.77 พันลบ. (+89%QoQ & +39% YoY) โดยมาจาก 2 โครงการหลัก คือ City Home สุขุมวิท 730 ลบ. และ Casa Riva อีก 635 ลบ. (ที่เหลืออีก 400 ลบ. มาจากโครงการแนวราบ) สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอด Presales ไว้ที่ 1 หมื่นลบ. (vs. 7.35 พันลบ.ปีก่อน) โดยแต่ไตรมาสแรกก็ทำได้แล้ว 1/4 หรือ 2.5 พันลบ. (+228% YoY แต่ -37% QoQ เนื่องจากใน 4Q07 เปิดคอนโดใหม่ถึง 3 โครงการ มูลค่ารวม 7.2 พันลบ. ขายได้ 3.4 พันลบ.) ส่วนอีก 9M ที่เหลือของปีนี้น่าจะยิ่งดีขึ้นอีกเพราะรัฐช่วย (มาตรการภาษี) และช่วยตัวเองโดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นลบ. (vs. 7 โครงการ 9.3 พันลบ.ในปี 07) แบ่งคอนโด: แนวราบ = 71: 29 ณสิ้น 31 มี.ค.08 SPALI มี Backlog คงเหลือ 1.26 หมื่นลบ. ซึ่งจะรับรู้รายปีนี้ 3.1 พันลบ., ปีหน้า 4.6 พันลบ. และ ปี 10 อีก 4.9 พันลบ. ส่งผลให้ประมาณการรายได้ปีนี้ของเราที่ 5.2 พันลบ. (+4% YoY) มี
Backlog รองรับแล้วถึง 76% จึงไม่น่าพลาด ส่วน GPM ปี 08 คาดอยู่ที่ 39%(vs. 40% ปี 07) เพราะปีนี้รับรู้โครงการที่มี GPM ต่ำอย่าง City Home สุชุมวิท(GPM ~30%) มูลค่า 1.38 พันลบ. แต่จะถัวกับโครงการอื่นๆ ที่มี GPM สูงถึง 40-45% อีกทั้งวัสดุก่อสร้างอย่างเหล็กได้ซื้อล่วงหน้าไป
แล้ว 1 ปี ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คงไว้ที่ 970 ลบ.(+14% YoY) แต่จะไปตื่นเต้นปีหน้าที่ทั้งรายได้ (+43% YoY เป็น 7.5 พันลบ.) และกำไร (+30% YoY เป็น 1.26 พันลบ.) จะเติบโตโดดเด่น เพราะรับรู้รายได้คอนโดถึง 3 โครงการมูลค่า 5 พันลบ. ส่วน EIA ยังไม่ได้อีก 4 โครงการ(จากที่เปิดไปแล้ว)คือรัชดา-ปิ่นเกล้า เกษตร สาทร และท่าพระ ซึ่งทั้งหมดจะรับรู้ในปี 10-11 จึงไม่มีปัญหากับปี 08-09
- คงประมาณการ คำแ นะนำ ซื้อ & เป้าที่ 5.65 บาท (+49%)
โดยบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ประจำวันที่ 21 เม.ย. 2551
///
ดีบีเอสฯ-แนะนำ "ซื้อ" SPALI
SPALI คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 3.80 บาท ราคาพื้นฐาน 5.21 บาท (เดิม 5.00 บาท)
น่าสนใจ! หลังเปลี่ยนนโยบายบัญชี กำไรปีนี้โตดีมาก
- หลังกลับมาจากเยี่ยมเยียนบริษัท เรายิ่งมีมุมมองที่ดีกับบริษัทมากยิ่งขึ้นไปอีก สืบเนื่องจากแนวโน้มของบริษัทที่สดใส
- ยอดขาย (Presales) เติบโตก้าวกระโดด 228% y-o-y เป็น 2.5 พันล้านบาท ใน 1Q51 ผลพวงจากการความสำเร็จในการเปิดขายโครงการใหม่ สองโครงการ คือ ภูเก็ตซิตี้รีสอร์ท และสาทรพรีเมียร์นราธิวาส เมื่อไม่นานนี้ ส่งผลดีให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงเป็น 12.6 พันล้านบาท ณ ปลาย 1Q51 นั่นหมายถึงการรับรู้รายได้ระหว่างปี 51-53 ก็จะมีความมั่นคงสูง นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชีรายได้ จากเดิมเป็นร้อยละของงานที่เสร็จ มาเป็นเมื่อโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีไทย (Thai GAAP) ซึ่งจะประกาศใช้ในไม่ช้านี้ และโครงการคอนโด คาซ่าริว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์มากในปีนี้ เราจึงได้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 51 ขึ้นไปอีกถึง 22% เพื่อสะท้อนถึงเรื่องนี้ และเมื่อเทียบกับ y-o-y แล้ว กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 51 และ 52 เติบโตดีเป็น 39% และ 12% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเรื่องคาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q51 ที่ใกล้ประกาศจะออกมาไม่ดีนัก สอดคล้องกับอุตสาหกรรมที่ผู้ซื้อบ้านชะลอการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรอกฏหมายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเพิ่งประกาศใช้ตั้งแต่ 29 มี.ค.51 เป็นต้นไป
- คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 51 ถูกมากเป็น 5.1 เท่า ซึ่งถือว่าถูกที่สุดในอุตสาหกรรม ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 5.21 บาท อิงตามวิธีประเมินด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (RNAV) ซึ่งเทียบเท่า P/E ปี 51 ที่เพียง 7.0 เท่า ราคาพื้นฐานให้ส่วนเพิ่ม 37% เทียบกับราคาปิด อีกทั้งคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 51 น่าประทับใจสูงเป็น 9.4%
โดยบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประจำวันที่ 21 เมษายน 2551[/b]
http://www.thunhoon.com/home/