หัดทำสมาธิครับ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 91

โพสต์

เอาพุทโธเป็นจิตเสียก่อน ครั้นเมื่อคุมจิตอยู่แล้วพุทโธจะหายไป จะยังเหลือแต่จิตก็เอา ไม่ต้องไปนึกถึงพุทโธอีกเท่านี้ล่ะเป็นพอ ที่นี้ก็เอาแต่จิตนั่นแหละ
ตรงนี้นี่แหละที่เท่ห์ค่ะ
ถ้าเราพิจารณาให้เข้าใจอย่างละเอียดละออ ในอาณาทั้ง 16 ขั้น จะเห็นภาพรวมของการดำเนินการ

สมถะ และ วิปัสสนา มีการสอดประสาน ซ่อนอยู่ในวิธีการ

เริ่มแรกนั้นมีการหลอกล่อก่อน ค่อยๆดัดจิต อย่างแนบเนียนมาก

พระพุทธเจ้า มีวิธีในการสอน แต่ละประเภทจิตแต่ละคนได้อย่างดี บางคนต้องเห่กล่อมก่อน บางคนไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม
แต่หลักอาณาปานสติที่ท่านคิดขึ้นมาให้ 16 ขั้นนั้น เหมือนวิธีมาตรฐาน ที่ใช้ได้ทุกระดับจิต เหมือนแบบฝึกหัดมาตรฐาน สำหรับนักเรียนทั้งที่เรียนเก่ง หรือเรียนไม่เก่ง

ช่างแยบยลยิ่งนัก  :wink:
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 92

โพสต์

ต่อล่ะนะ.....สู้ๆ ....อีกนิดเดียววววว
:lol:

.......................................................

อาณาปานสติ ขั้นที่ 14 รู้ ความจางคลาย (วิราคะ)

(ก่อนอื่น อย่าลืมทบทวนถึงความจำเป็นในการศึกษาธรรมมะ เห็นถึงข้อดีของการละกิเลส ว่าเป็นการกำจัดทุกข์ได้อย่างแท้จริง)
ทบทวนขั้นตอน....
....ทำจิตให้อยู่ในอำนาจ..........จับสัตว์ป่ามาเฆี่ยนตี =ควบคุมกายให้สงบระงับ
....สั่งมันให้ทำนั่นนี่ได้.........ฝึกแบบละเอียดอ่อนขึ้น =เข้าสู่ฌาน เกิดปีติ สุข ,จนมันทำได้ตามสั่งทุกลีลา จนมาถึงสงบเย็น ,ใช้จิตที่นิ่มนวลอ่อนโยนดีแล้ว มาใช้งานเพื่อการพิจารณาถึง "ความไม่เที่ยง"
.....ได้รับผลประโยชน์จากการฝึกจิตนั้น.......เมื่อฝึกจนเห้นถึง ไม่เที่ยง จึงเกิด วิราคะ(จางคลาย) ดังนั้น จึงเกิดมีสุขชนิดสงบสะอาด,สว่างสงบจากความยึดมั่นถือมั่น

....................................................

ผลของการเห็นความไม่เที่ยงอย่างละเอียดถึงที่สุด = เกิดความจางคลายจากความยึดมั่นถือมั่น ...ดังนั้น...ทุกข์ กิเลส ย่อมจางลงไปด้วยในสัดส่วนเดียวกัน

(วิธีการที่ดีที่สุด คือย้อนกลับไปเริ่มดูมาแต่ขั้นแรก เห็นความเปลี่ยนแปลงไป ไม่เที่ยงนั้น อย่างแยบคาย)
มองเห็นความไม่เที่ยง แม้แต่กระทั่ง ไม่เที่ยงของความตั้งมั่นของจิต  8) ,ไม่เที่ยงของความที่จิตปล่อยวางอยู่  8) ....เนื่องจาก แม้ในสองขั้นนี้ มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะมันมีเหตุ มีปัจจัย กระทำให้เกิด....ก้เราไง เราทำเอง เราทำตามขั้นตอนแต่ละขั้นมา นั่นแหละ คือปัจจัย ที่ทำให้จิตสามารถตั้งมั่นได้ ,ปล่อยวางได้....เห็นไหม เห็นไหม  :wink: ลองเราไม่ทำสิ มันจะเกิดได้ไหม เห็นไหม เห็นไหม ไม่เที่ยง ไม่เที่ยง .....

เมื่อเห็นถึง"ไม่เที่ยง"จนลึกซึ้งถึงที่สุดขนาดนี้ จางคลายจึงเกิดอย่างอัตโนมัติ เพราะมันทราบแจ้งอย่างแท้จริง ว่าไม่มีอะไรที่จะยึดมั่นถือมั่นได้จริงเลยยยยยย

การยึดเป็น  "ตัวกู ของกู" นั้น ที่แท้แล้วมัน "มายา" นั่นเอง

..............................................................................................

กำไร-เสมอตัว-ขาดทุน ของกูนั้น มันก็แค่เป็นอย่างนั้นเอง  :mrgreen:

มันมีเหตุ-ปัจจัย ที่ทำให้เกิดเป็นเช่นนั้น ก็แค่กระทำอย่างไรต่อไปอย่างมีสติพิจารณา ...ไม่จำเป็นเล้ยยยย...ที่ต้องไปยึดเอาอารมณ์เข้ามาประกอบเป็น ทุกข์หรือสุข ,
กำไร-ขาดทุน แล้วยึดมั่นในอารมณ์เป้นตัวเป็นตน .....ไม่เกิดฉลาด แต่กลับพร่ามัวมากขึ้นนนนน :\/:

คลายกำหนัดเสีย คลายยึดมั่นถือมั่นนั้นเสีย ด้วยวิธี"จี้"ไปดูถึงความไม่เที่ยง มันก็รู้แล้วว่าไม่มีอะไรที่จะยึดมั่นไว้ได้เลย
ดูให้รู้ ให้เห็น ให้รู้สึกถึง "จางคลาย" ในทุกๆขั้นตอน

(เทคนิค การแลเห็นถึงความไม่เที่ยงนี้นั้น มันไม่ต้องใช้เหตุผล ไม่ต้องคำนวน แค่รู้ว่ามันแปรเปลี่ยนไปได้ "มันคือไม่เที่ยง"...โดยไม่ต้องนั่งหาเหตุผล รู้สึกได้จริงว่า "ไม่เที่ยง" นั้นมันเกิดขึ้นจริง ไม่ต้องคำนวน , เช่น กินอะไรเข้าไปแล้วมันเกิดอร่อย และพักนึงมันก็จะหายอร่อยไป....มันเห็นเอง รู้สึกออกมาเอง ไม่ต้องมัวหาอยู่ว่า มันอร่อยเพราะอะไร , ให้ตั้งมั่นแต่การเห็นถึงความไม่เที่ยงของมัน , เพราะถ้ามัวไปแวะหาว่าอร่อยเพราะอะไร((เช่นอร่อยเพราะข้าวมันหุงมาร้อนๆ)) มันจะเกิดหลงรอ อยากจะได้อร่อยอยู่อย่างนั้น ...ก็พอดีเสร็จกัน ลืมพิจารณาถึงความไม่เที่ยง)

.........................................................

เปรียบความยึดมั่นเป็นเสือร้าย กระโจนเข้ามาจะกัดเรา
เพียงเรามองมัน กำหนดรู้ถึง อนิจจานุปัสสี -ไม่เที่ยง ๆๆๆๆๆ จนเห็นความจางคลาย
มองปราดเดียว เสือร้ายละลายไป พุ่งมากัดเราไม่ได้
ติดอาวุธทางสายตาแห่งการรู้แจ้ง
เมื่อเสือร้ายหายไป ปัญญาจึงเกิด



:welcome: ยินดีต้อนรับเสี่ยตา ปัญญา ค่ะ....................... :lovl:




"มี วิราคานุปัสสี เห็นถึงความจางคลาย จากความยึดมั่นถือมั่นนั้นๆ อยู่ทุกลมหายใจออกเข้า"


:wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 93

โพสต์

มาช่วยให้กำลังใจพี่สายลับครับ  :cool:

ผมอนุโมทนาบุญด้วยคน :pray:
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 94

โพสต์

ขอบคุณค่า พี่ริว ต่อให้จบล่ะน๊า...

.......................................................................................................

อาณาปานสติ ขั้นที่ 15 ....รู้ ความดับไม่เหลือ(นิโรธานุปัสสี)

มีความดับไม่เหลืออยู่ในทุกลมหายใจออกเข้า ความดับไม่เหลือ เพราะอำนาจของความจางคลาย อันเกิดแต่อนิจจานั้น

ตลอดที่หายใจออกเข้า เห็นถึงแต่ความดับไปแห่งสิ่งที่เป็นทุกข์ หลุดพ้นจากทุกข์(วิมุติ)นั้นคือ การไม่หลงไปยึดถือ "ตัวกู-ของกู"

ไม่มีอะไรเป็นตัวตนที่แท้จริงที่ตรงไหน ทุกอย่างเป็น ปฏิจสมุปบาท สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุมาจากอีกสิ่งหนึ่ง เกิดขึ้นเป็นผลที่จะเป็นเหตุต่อไป ของอีกสิ่งหนึ่ง เสมอ

ดูให้เห็นถึงความดับไปของทุกสิ่ง ดับไปแห่งกิเลส อันเป็นต้นเหตุที่ก่อทุกข์ทั้งปวง อยู่ทุกลมหายใจออกเข้า จนกระทั่งเห็นว่าเหลือสิ่งเดียว(หลังทุกอย่างดับไปแล้ว ณ ขณะนั้น)นั่นคือ นิพาน ซึ่งคือ เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่-ทรงตัวอยู่ได้โดยตัวเอง , ต่างจากสิ่งอื่น ที่ล้วนทรงตัวอยู่ได้โดยปัจจัยแห่ง ความไม่เที่ยงนั้นๆ
(ความว่างนั้น ทรงตัว-มีอยู่ ตามธรรมดา โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับความไม่เที่ยงใดใด)

ตย.เช่น....โต๊ะตัวนึง ไม่ว่าจะเกิดขึ้น,ตั้งอยู่,ดับไป ล้วนต้องขึ้นอยู่กับกฏแห่งความไม่เที่ยง
แต่แม้ว่า โต๊ะตัวนั้น จะ เกิด-ตั้ง-ดับ หรือไม่-อย่างไร ...ความว่างนั้นก็มีอยู่แล้ว ซ้อนอยู่เสมอ ในความมี หรือไม่มีโต๊ะตัวนั้น

ดังนั้น....ความว่าง มีอยู่แล้ว และมีอยู่เสมอมา และเสมอไป คือความทรงตัวอยู่ได้ โดยไม่อาศัยกฏแห่งความไม่เที่ยงแต่อย่างใดเลย

:wink:
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 95

โพสต์

อาณาปนสติ ขั้นที่ 16 ...รู้ ความกลับคืน

8) ในขั้นนี้นั้น แทบจะเรียกว่า ไม่ต้องปฏิบัติใดเลย มันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยอัตโนมัติ

เพียงแต่ ดู -รับรู้ ในขั้นต่างๆที่ผ่านมา ทั้ง 15 ขั้นโดยต่อเนื่องกัน

ดูความรอดพ้น ดูความเป็นอิสระ เห็นถึงความสลัดกลับคืนไป ทราบแจ้งแล้วว่า ใดใดก็ล้วนไม่สามารถเป้นที่ยึดมั่นถือมั่นได้
ดังนั้นจึงสลัดกลับออกไป คืนแก่ธรรมชาติ ไร้ซึ่งการยึดถือสิ่งใดเอามาเป็น..ตัวกู..ของกู

หลุดพ้นแล้วจากวิมุติ(หลุดจากทุกข์) พ้นจากการยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง ทั้งไม่ย้อนกลับไปยึดถืออีก
เข้าใจ รู้แจ้งถึง อนิจจัง จนรู้จริง สามารถสลัดความยึดมั่นในตัวตนนั้น คืนกลับไปเป็นของธรรมชาติ ได้อยู่ ณ ขณะทุกลมหายใจออกเข้านั้นๆ

เข้าถึงภาวะนิพาน ...เป็นความเย็น ที่ไร้ไฟแห่ง โลภะ โทสะ โมหะ...เป็นความว่าง...เป็นอิสระ หลุดจากความยึดมั่นได้ดังนี้แล...........



..............นิพาน มีอยู่ ที่นี่ และ เดี๋ยวนี้......................



มีจิตใจที่หมดจด สลัดคืน สิ่งที่ยึดมั่นด้วยกิเลสออกไปได้ จึงมีจิตใจที่ สะอาด สว่าง สงบ......ก็คือ จะพบพระพุทธเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา....เป็นผู้เห็นพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง



............ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็น ตถาคต....................



ไม่ว่า อรหันต์ หรือฆาราวาส ก็สามารถมี นิพาน ด้วยกันทั้งสิ้น โดยแล้วแต่ระดับของการสลัดโยนกลับซึ่งความยึดมั่นในกิเลสนั้น ได้ตามสัดส่วนมากน้อย
เย็น(นิพาน)ได้ตามแต่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือตลอดเวลาไป ในทุกลมหายใจเข้าออก นั่นก็ขึ้นอยู่กับ การปฏิบัติของแต่ละบุคคล




ดังนั้น.....นิพานนั้น มีอยู่-ทรงตัวอยู่เอง อยู่แล้ว....ที่นี่ และเดี๋ยวนี้

เราทุกคน สามารถ ถึงนิพาน ได้ด้วยตัวเราเอง ในทุกลมหายใจออกเข้า นั้นแล





:bow:  :bow:  :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 96

โพสต์

8) เอ อย่างนี้ที่หนุ่มบอกรักสาวว่า
    คุณคือลมหายใจของผม
    แสดงว่าเป็นการบอกรักอย่างมีสติ หรือเปล่าเอ่ย...

    โมทนา สาธุ ในธรรมะที่ให้มาครับ
    ยังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องแต่จะเซฟไปพิมพ์เก็บไว้อ่านเรื่อยๆ
    คงสว่างขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 97

โพสต์

น่าจะหมายถึง...

การเอาสติของผม เข้าไปจดจ่ออยู่ที่คุณ ในทุกลมหายใจออกเข้า...แปลตามตัวอักษรน่ะนะคะ

แต่ถ้าแปลอย่างความหมายแบบโลกๆ...มีความหมายหลากหลาย...อาจต้องพิจารณาช่วงอายุประกอบการตัดสินความ...

ถ้ายังวัยรุ่น...ผมหลงไหลคุณอย่างแรง รับรักป๋มเต๊อะ ป๋มพาคุณมาดูหนังหลายเรื่องแล้วนะ งบจะหมดแย้วว :lol: ลงเอยกะป๋มเหอะ

แต่ถ้าวัยร่อน...อย่าโกรธเคืองป๋มเยย แม้ป๋มจะเหลวไหลไปบ้าง แต่หญิงอื่นเป็นเพียงทางผ่าน คุณคือของจริง :lovl:

ส่วนวัยทองกึ่งๆจะปลายทาง...อย่าทิ้งป๋มไปไหนนะ ถ้าขาดคุณป๋มคงเหมือนขาดอากาศหายใจ ไหนๆคุณก็ยึดทัรพย์สมบัติป๋มไว้ในกำมือหมดแย้ว ป๋มไปไหนไม่รอดแล้ว ช่วยกรุณาดูแลป๋มดีๆกว่านี้หน่อย

:rofl:



ขำขำค่ะ แก้ง่วง 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 98

โพสต์

มาอนุโมทนาบุญกับพี่สายลับด้วยครับ :pray:

เอาของมาฝากนิดหน่อย :mrgreen:

เป็นภาพปริศนาธรรมแบบเซนครับ เกี่ยวข้องกับการฝึกจิตจนหลุดพ้น แต่ละเส้นแต่ละลวดลายล้วนแฝงความหมายอันลึกซึ้ง ลองพิจารณาดูนะครับว่าสัญลักษณ์แต่ละอย่างในภาพนั้นแทนอะไร :D

หมายเหตุ - ผมเอามาจากหนังสือท่านพุทธทาสครับ  :bow:  :bow:  :bow:  :pray:

รูปภาพ

1. ติดตามสังเกต

เจ้าวัวป่าสะบัดเขาเต้นเร่าโลด
ก้าวกระโดดข้ามโขดเขาอย่างบ้าคลั่ง
ใต้เมฆครึ้มคลุมทางหว่างเขาบัง
ย่ำหญ้าพังเพียงไรใครจะรู้

รูปภาพ

2. เริ่มการฝึก

ใช้เชือกฟางร้อยหว่างรูจมูกเข้า
วัวดิ้นเร่าหนุ่มเฝ้าเวียนเฆี่ยนขวับอยู่
ถึงดื้อด้านต้านฝืนขืนมือครู
ก็เฆี่ยนสู้ซ้ำดึงตรึงมือตี

รูปภาพ

3. รับการฝึก

พอคุ้นเข้าเจ้าวัวเริ่มจะรู้เรื่อง
ให้จูงเชื่องเยื้องย่างหว่างวิถี
เชือกในมือถือกระชับกระชั้นดี
เหมือนไม่มีคืนวันอันเหนื่อยใจ

รูปภาพ

4. เปลี่ยนนิสัย

ฝึกนานพอก็มีผลดลใจสัตว์
ค่อยขจัดจิตร้ายกลายอ่อนไหว
ปราบวัวป่าอย่าประมาทก่อนมั่นใจ
ผูกเชือกไว้กับไม้ต้นคอยยลตาม

รูปภาพ

5. ฝึกราบคาบ

ใต้พฤกษ์พุ่มลุ่มธารที่เชิงเขา
ปล่อยวัวเจ้าเที่ยวได้ไม่ต้องล่าม
ครั้นเย็นย่ำจะคืนเหย้าเข้าเขตคาม
มีวัวตามต้อยติดสนิทใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 99

โพสต์

รูปภาพ

6. หมดปัญหา

วัวหมอบนอนในลานทุ่งไม่ยุ่งจิต
ไม่มีกิจการฝึกฝืนนิสัย
หนุ่มก็พักผ่อนกายสบายใจ
เป่าขลุ่ยไพเราะล้ำฉ่ำชื่นจริง

รูปภาพ

7. วางมือหมด

พริ้วสายธารผ่านทิวหลิวแดดร่ม
แสงฟ้าพรมผืนหญ้าหนาหนั่นยิ่ง
วัวดื่มน้ำเล็มหญ้าผาสุกจริง
หนุ่มหลังพิงอิงหินสิ้นกังวล

รูปภาพ

8. หมดลักษณะสมมุติ

เมฆขาวคลุมร่างวัวเปลี่ยนตัวขาว
หนุ่มถึงคราวโปร่งใจไร้มัวหม่น
จันทร์ส่องเมฆเสกสีขาวพราวสกล
ต่างเปลี่ยนตนตามกฎบทจร

รูปภาพ

9. ผู้เด่นอยู่โดดเดี่ยว

วัวดับหายนายหนุ่มน้อยพลอยว่างจิต
ลอยทั่วทิศเทียมเมฆเหนือสิงขร
แฝงจันทร์ผ่องร้องเพลงร่าเริงอัมพร
เพียงสังวรกำแพงกั้นคั่นเขตคาม

รูปภาพ

10. ดับทั้งคู่

คนและสัตว์สูญลับดับสิ้นแล้ว
จันทร์แฝงแววว่างเปล่าไร้เงาอร่าม
ใครใคร่รู้เรื่องซึ้งพึงเพ่งความ
ลิลลี่ตามเถื่อนถวิลกลิ่นสีเทอญ

:bow:  :bow:  :bow:
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 100

โพสต์

ขุดขึ้นมาครับ เผื่อคนสนใจ
อนุโมทนาบุญทุกท่านครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

หัดทำสมาธิครับ

โพสต์ที่ 101

โพสต์

search ไป search มาเจอ ครับ ขอขุดมาอีกรอบนะครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
dinnn
Verified User
โพสต์: 65
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้แนะนำหนังสือหรือสถานที่สำหรับฝึกสมาธิ

โพสต์ที่ 102

โพสต์

อยากให้แนะนำหนังสือหรือสถานที่สำหรับฝึกสมาธิ   ถ้าเป้นไปได้อยากไปฝึกสมาธิตามสถานที่เค้าฝึกแบบจริงจังคราบ   หรือ  อยากฝึกที่บ้านก็ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วิธีฝึกแบบไหนดีเพราะไปดูหนังสือตามร้านมาก็ มีวิธีฝึกหลายแบบมาก
วัฒนา
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากให้แนะนำหนังสือหรือสถานที่สำหรับฝึกสมาธิ

โพสต์ที่ 103

โพสต์

[quote="dinnn"]อยากให้แนะนำหนังสือหรือสถานที่สำหรับฝึกสมาธิ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์