....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 93
ลองดูรูปที่พี่ adi post อ่ะครับ
ทำให้เข้าใจง่าย
คือถ้าอธิบาย บ้านๆ
ถ้าพิธีกรรู้เนี่ย เค้าจะคัดเอาแต่กล่องที่ ไม่มีรางวัลออกไป
ดังนั้น ถ้ามีกล่อง 100 กล่อง โอกาสที่ รางวัลอยู่ในกล่องกองที่เราไม่ได้เลือกนี่ 99/100 เลยนะครับ
นี่คือการมองเป็นเกมเดียวกัน และ พิธีกรรู้ แล้วคัดเอากล่องที่ไม่มีออกไป
แต่ถ้า พิธีกรไม่รู้ นี่ ก็ มองว่าเป็น 50-50 ได้ครับ
ทำให้เข้าใจง่าย
คือถ้าอธิบาย บ้านๆ
ถ้าพิธีกรรู้เนี่ย เค้าจะคัดเอาแต่กล่องที่ ไม่มีรางวัลออกไป
ดังนั้น ถ้ามีกล่อง 100 กล่อง โอกาสที่ รางวัลอยู่ในกล่องกองที่เราไม่ได้เลือกนี่ 99/100 เลยนะครับ
นี่คือการมองเป็นเกมเดียวกัน และ พิธีกรรู้ แล้วคัดเอากล่องที่ไม่มีออกไป
แต่ถ้า พิธีกรไม่รู้ นี่ ก็ มองว่าเป็น 50-50 ได้ครับ
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 94
อ๋า...macarian เขียน:อิอิ รู้แล้ว
หยิบมาคนละสองคู่
แล้วก็แลกกันคนละคู่
หนึ่งคู่มีสองข้าง
ชัวร์
ตอบได้เร็วจริงๆแฮะ
เข้าใจว่าคุณ macarian น่าจะพิมพ์ผิด
จริงๆต้องพิมพ์ว่า
หยิบมาคนละ 2 คู่
แล้วแลกกันคู่ละข้าง
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 96
หมวกดำ ด้วยคนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 97
อืม เริ่มหายโง่ เดี๋ยวขอคิดดูก่อนPn3um0n1a เขียน:ลองดูรูปที่พี่ adi post อ่ะครับ
ทำให้เข้าใจง่าย
คือถ้าอธิบาย บ้านๆ
ถ้าพิธีกรรู้เนี่ย เค้าจะคัดเอาแต่กล่องที่ ไม่มีรางวัลออกไป
ดังนั้น ถ้ามีกล่อง 100 กล่อง โอกาสที่ รางวัลอยู่ในกล่องกองที่เราไม่ได้เลือกนี่ 99/100 เลยนะครับ
นี่คือการมองเป็นเกมเดียวกัน และ พิธีกรรู้ แล้วคัดเอากล่องที่ไม่มีออกไป
แต่ถ้า พิธีกรไม่รู้ นี่ ก็ มองว่าเป็น 50-50 ได้ครับ
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 98
ตามหลักพื้นฐานของ "ความน่าจะเป็น" แล้ว
ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนแค่ไหน
แต่พื้นฐานของความน่าจะเป็นก็คือหลักการนับ
ในเรื่อง event ของการเกิดความน่าจะเป็น
แต่ละ event อาจจะแบ่งเป็น event ย่อยๆได้
โดยจากหลักการนับแล้ว
ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ จะประกอบจากความน่าจะเป็นของ event ย่อยแต่ละevent ครับ
อันนี้เป็นเฉลยจากโจทย์ ซึ่งอาจารย์ผมอธิบายมาครับ (แปลมาจาก text มั้ง)
ทีนี้
ถ้ามองว่า 2 กล่องที่เราไม่ได้เลือกเป็น event ใหญ่
ดังนั้นโอกาสในการถูกรางวัลก็เป็น 2 ใน 3
ซึ่ง 2 ใน 3 นี้เป็นความน่าจะเป็นที่เกิดจาก event ย่อยของกล่องแต่ละใบ
ดังนั้น ถ้าเรามองเป็น event ใหญ่แต่แรก
ไม่ว่า event ย่อยของกล่องใบแรกเป็นยังไง
แต่ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ในการถูกรางวัล ก็ต้องเป็น 2 ใน 3 เหมือนเดิม
อธิบายอย่างนี้ จะยิ่งงง รึเปล่าหว่าเนี่ย
ปล. ตอนโน้น ผมเคยลองเอา turbo basic(ยุคโน้นทันสมัยโคตรๆ) มาลอง run ผลด้วยนะ ใกล้เคียงเลยแหละ
ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนแค่ไหน
แต่พื้นฐานของความน่าจะเป็นก็คือหลักการนับ
ในเรื่อง event ของการเกิดความน่าจะเป็น
แต่ละ event อาจจะแบ่งเป็น event ย่อยๆได้
โดยจากหลักการนับแล้ว
ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ จะประกอบจากความน่าจะเป็นของ event ย่อยแต่ละevent ครับ
อันนี้เป็นเฉลยจากโจทย์ ซึ่งอาจารย์ผมอธิบายมาครับ (แปลมาจาก text มั้ง)
ทีนี้
ถ้ามองว่า 2 กล่องที่เราไม่ได้เลือกเป็น event ใหญ่
ดังนั้นโอกาสในการถูกรางวัลก็เป็น 2 ใน 3
ซึ่ง 2 ใน 3 นี้เป็นความน่าจะเป็นที่เกิดจาก event ย่อยของกล่องแต่ละใบ
ดังนั้น ถ้าเรามองเป็น event ใหญ่แต่แรก
ไม่ว่า event ย่อยของกล่องใบแรกเป็นยังไง
แต่ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ในการถูกรางวัล ก็ต้องเป็น 2 ใน 3 เหมือนเดิม
อธิบายอย่างนี้ จะยิ่งงง รึเปล่าหว่าเนี่ย
ปล. ตอนโน้น ผมเคยลองเอา turbo basic(ยุคโน้นทันสมัยโคตรๆ) มาลอง run ผลด้วยนะ ใกล้เคียงเลยแหละ
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 99
พิมพ์ตกไปหน่อยดาวหางสีแดง เขียน: ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ จะประกอบจากความน่าจะเป็นของ event ย่อยแต่ละevent ครับ
ซึ่ง 2 ใน 3 นี้เป็นความน่าจะเป็นที่เกิดจาก event ย่อยของกล่องแต่ละใบ
อ่า...
ความน่าจะเป็นของ event ใหญ่ จะเกิดจากความน่าจะเป็นของ event ย่อยแต่ละ event ประกอบกัน ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 384
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 100
กลัวพี่ปุยจะหงุดหงิดกับข้อกล่องไม่พอครับ
เอามาให้หงุดหงิดช่วงวันหยุดอีกสักข้อ
มีกล่องสามกล่อง(อีกแระ)
กล่องนึง มีลูกบอลสีดำสองลูก
อีกกล่องนึง มีลูกบอลสีขาวสองลูก
อีกกล่องหนึ่ง มีสีดำหนึ่งลูกสีขาวหนึ่งลูก
แน่นอน เราไม่รู้กล่องไหนเป็นกล่องไหน
เราเดินไปสุ่มหยิบลูกบอลจากกล่องใบนึง
ปรากฎว่าเป็นสีขาว
ถามว่า
โอกาสที่ลูกบอลอีกลูกที่เหลือในกล่องนั้น
จะเป็นสีขาวเหมือนกัน
คือเท่าไหร่
ก. ไม่เห็นต้องคิด 2/5 ไง เพราะเหลือ 5 ลูก เป็นสีขาวซะ 2
ข. 1/3 ต่างหากเล่า เพราะมันมีกล่องที่มีสีขาวทั้งสองลูก แค่กล่องเดียว
ค. 1/2 เว๊ย ก็มันมีอยู่ แค่สองกล่องที่มีบอลสีขาวอยู่ และในบรรดาสองกล่องนี้
ก็มีแค่กล่องเดียวที่อีกลูกจะเป็นสีขาวได้
ง. โอ๊ย... ปวดหัว ไม่รู้เว๊ย เอ้า 2/3 แล้วกัน มั่วๆ
เฉลย
ตอบข้อ ง. สองในสามครับ
กรี๊ดดด... เชื่อดีไหมเนี่ย ทำไมน๊อ
ลองดูครับ เฉลย สองในสามจริงๆ
วิธีพิสูจน์ของคุณดาวหางที่ใช้โปรแกรมมาลองดู
เป็นวิธีพิสูจน์ที่ดีครับ
ถ้าไม่เชื่อต้องลองทำซ้ำๆดู
ว่าผลลัพธ์มันเป็นอย่างไร
ข้อคนตาบอด สีดำ ถูกแล้วคร๊าบ
เอามาให้หงุดหงิดช่วงวันหยุดอีกสักข้อ
มีกล่องสามกล่อง(อีกแระ)
กล่องนึง มีลูกบอลสีดำสองลูก
อีกกล่องนึง มีลูกบอลสีขาวสองลูก
อีกกล่องหนึ่ง มีสีดำหนึ่งลูกสีขาวหนึ่งลูก
แน่นอน เราไม่รู้กล่องไหนเป็นกล่องไหน
เราเดินไปสุ่มหยิบลูกบอลจากกล่องใบนึง
ปรากฎว่าเป็นสีขาว
ถามว่า
โอกาสที่ลูกบอลอีกลูกที่เหลือในกล่องนั้น
จะเป็นสีขาวเหมือนกัน
คือเท่าไหร่
ก. ไม่เห็นต้องคิด 2/5 ไง เพราะเหลือ 5 ลูก เป็นสีขาวซะ 2
ข. 1/3 ต่างหากเล่า เพราะมันมีกล่องที่มีสีขาวทั้งสองลูก แค่กล่องเดียว
ค. 1/2 เว๊ย ก็มันมีอยู่ แค่สองกล่องที่มีบอลสีขาวอยู่ และในบรรดาสองกล่องนี้
ก็มีแค่กล่องเดียวที่อีกลูกจะเป็นสีขาวได้
ง. โอ๊ย... ปวดหัว ไม่รู้เว๊ย เอ้า 2/3 แล้วกัน มั่วๆ
เฉลย
ตอบข้อ ง. สองในสามครับ
กรี๊ดดด... เชื่อดีไหมเนี่ย ทำไมน๊อ
ลองดูครับ เฉลย สองในสามจริงๆ
วิธีพิสูจน์ของคุณดาวหางที่ใช้โปรแกรมมาลองดู
เป็นวิธีพิสูจน์ที่ดีครับ
ถ้าไม่เชื่อต้องลองทำซ้ำๆดู
ว่าผลลัพธ์มันเป็นอย่างไร
ข้อคนตาบอด สีดำ ถูกแล้วคร๊าบ
แมนยู โรม่า ลิสบอน เคี๊ยฟ
หมาป่าสู้สู้
หมาป่าสู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 102
งงครับmacarian เขียน:ข้อคนตาบอด สีดำ ถูกแล้วคร๊าบ
คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3(ตาบอด)
ขาว ขาว ดำ
ดำ ดำ ขาว
ผมคิดว่าทั้ง 2 กรณีนี้คนตาดีก็ตอบไม่ได้ว่าตนเองใส่หมวกสีอะไรซึ่งคนตาบอดก็ไม่น่าจะตอบถูกนะครับ
สติมา ปัญญาเกิด
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 104
แบบทดสอบ IQ ก็มีโจทย์ประมาณนี้แหละ
ใครอยากได้ IQ สูงๆ ก็มาทำโจทย์จากในนี้นะ มีประโยชน์มาก
ใครอยากได้ IQ สูงๆ ก็มาทำโจทย์จากในนี้นะ มีประโยชน์มาก
-
- Verified User
- โพสต์: 384
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 106
มาทำการบ้านกับชายกัน
ข้อ 1
[(-1)^10]^3/10
คุณครูตอนป.3 สอนว่า
มีวงเล็บ ต้องทำในวงเล็บก่อน
= (1)^3/10
= 3sqrt(1^10)
= 1
เอ๊ะ แต่ตอน ป. 4 คุณครูสอนว่า
เลขยกกำลังซ้อนกัน ให้เอามันมาคูณกัน
=[(-1)^10*3/10]
=(-1)^3
= -1
อืม ใครสอนผิดหว่า งงๆ...
ทำข้ออื่นก่อนแล้วกัน
ข้อ 2
3=6/2
คุณครูบอกว่า
ถ้า a^x = a^y แล้ว x=y
งั้น (-1)^3 = ((-1)^6/2)
= -1 = sqrt((-1)^6)
= -1 = sqrt(1)
-1 = 1 :shock: :shock:
อ๋อ... ที่จริงแล้ว
-1 = 1 นี่เอง
เหมือนปริศนา ใส่แว่น ก็คือพจนา
ถ้าพจนา ไม่ใส่แว่น ก็คือปริศนา
...และมันจะเป็นอย่างนั้นเสมอ
งวดนี้ชายกลางเข้าใจผิดแน่ๆครับ
แต่ผิดตรงไหนกันครับ
ข้อ 1
[(-1)^10]^3/10
คุณครูตอนป.3 สอนว่า
มีวงเล็บ ต้องทำในวงเล็บก่อน
= (1)^3/10
= 3sqrt(1^10)
= 1
เอ๊ะ แต่ตอน ป. 4 คุณครูสอนว่า
เลขยกกำลังซ้อนกัน ให้เอามันมาคูณกัน
=[(-1)^10*3/10]
=(-1)^3
= -1
อืม ใครสอนผิดหว่า งงๆ...
ทำข้ออื่นก่อนแล้วกัน
ข้อ 2
3=6/2
คุณครูบอกว่า
ถ้า a^x = a^y แล้ว x=y
งั้น (-1)^3 = ((-1)^6/2)
= -1 = sqrt((-1)^6)
= -1 = sqrt(1)
-1 = 1 :shock: :shock:
อ๋อ... ที่จริงแล้ว
-1 = 1 นี่เอง
เหมือนปริศนา ใส่แว่น ก็คือพจนา
ถ้าพจนา ไม่ใส่แว่น ก็คือปริศนา
...และมันจะเป็นอย่างนั้นเสมอ
งวดนี้ชายกลางเข้าใจผิดแน่ๆครับ
แต่ผิดตรงไหนกันครับ
แมนยู โรม่า ลิสบอน เคี๊ยฟ
หมาป่าสู้สู้
หมาป่าสู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 107
ไม่น่าเชื่อว่าเดี๋ยวนี้เค้าเรียนเลขยกกำลังกันตั้งแต่ป.3 :shock:
สอนผิดกันตั้งแต่ ป.3
(1)^3/10 = 3sqrt(1^10) นี่ใครสอนชาย :idea:
(1)^3/10 = +-10sqrt(1^3) ต่างหาก
ข้างหน้า sqrt ต้องมีบวกลบด้วยนะจ้ะชาย
สอนผิดกันตั้งแต่ ป.3
(1)^3/10 = 3sqrt(1^10) นี่ใครสอนชาย :idea:
(1)^3/10 = +-10sqrt(1^3) ต่างหาก
ข้างหน้า sqrt ต้องมีบวกลบด้วยนะจ้ะชาย
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 109
ข้อแรกที่งงอยู่ เข้าใจแล้วเพราะว่าโอกาสในครั้งแรก คือโอกาสในครั้งแรก
โอกาสจะเปลี่ยนใหม่ทันที ที่มีโอกาสเลือก
ดังนั้น ถ้าเราถือว่า เรามีโอกาสเลือกใหม่ แล้วหลับตาเลือก
โอกาสจะกลายเป็น 50/50 ทันที
อันนี้ชอบๆๆ
ข้อแรก ลูกบอล ผมว่าน่าจะตอบข้อ ค เหมือนกัน
แล้วอ่านของคุณอะกาลิโก ถึงร้องอ๋อ เพราะเหตุการณ์ใหญ๋สำคัญกว่า
เจ๋งๆๆ
โอกาสจะเปลี่ยนใหม่ทันที ที่มีโอกาสเลือก
ดังนั้น ถ้าเราถือว่า เรามีโอกาสเลือกใหม่ แล้วหลับตาเลือก
โอกาสจะกลายเป็น 50/50 ทันที
อันนี้ชอบๆๆ
ข้อแรก ลูกบอล ผมว่าน่าจะตอบข้อ ค เหมือนกัน
แล้วอ่านของคุณอะกาลิโก ถึงร้องอ๋อ เพราะเหตุการณ์ใหญ๋สำคัญกว่า
เจ๋งๆๆ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 112
เพราะตั้งแต่ถามมา ยังไม่เคยมีใครตอบได้โดยไม่อาศัยเฉลยนิดๆ หน่อยๆ ช่วยเลยครับ
ปล. มีคนตอบได้แต่มีตัวช่วย
ปล. มีคนตอบได้แต่มีตัวช่วย
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 115
ใช่แล้ว
คำตอบคือ 3 ที
แต่ต้องรู้นะลูกบอล ลูกไหน แล้วหนักกว่าหรือเบากว่า ในทุกกรณี
ถ้าบอกแค่ลูกไหนผิดปกติ รู้สึกว่าผมคิดออกนะ นานแล้วจำไม่ค่อยได้
แต่ตอนนี้จำเฉลยไม่ได้ละต้องไปคิดใหม่
คำตอบคือ 3 ที
แต่ต้องรู้นะลูกบอล ลูกไหน แล้วหนักกว่าหรือเบากว่า ในทุกกรณี
ถ้าบอกแค่ลูกไหนผิดปกติ รู้สึกว่าผมคิดออกนะ นานแล้วจำไม่ค่อยได้
แต่ตอนนี้จำเฉลยไม่ได้ละต้องไปคิดใหม่
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 116
3 ทีครับ
ขอเฉลยเลยได้มั้ยอ่ะ
ขอเฉลยเลยได้มั้ยอ่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 117
คิดได้ 3 ทีครับ
ตอนแรกเอามาชั่งด้านละ 4 ก่อน (อีก 4 เก็บไว้) จะมีโอกาสเกิดขึ้น 2 อย่าง คือ หนักเท่ากัน กับหนักไม่เท่ากัน
1. เท่ากัน แสดงว่าบอลที่มีปัญหาอยู่ใน 4 ลูกที่ไม่ได้ชั่ง เอาที่ไม่ได้ชั่งมา 2 ลูก ชั่งกับ ลูกมาตรฐานอีก 2 ลูก ที่เหลือคิดต่อเองได้เพราะขี้เกียจพิมพ์ :P
2. ไม่เท่ากัน แสดงว่าบอลมีปัญหาอยู่ใน 8 ลูกที่เอามาชั่ง มี 4 ลูกเบา 4 ลูกหนัก ให้ บ = เบา น = หนัก ครั้งที่ 2 ชั่งอย่างนี้ครับ
บ บ น กับ น น บ
เก็บ เบา กับ หนัก ไว้อย่างละลูก
ที่เหลือน่าจะต่อเองได้จนจบครับ
ตอนแรกเอามาชั่งด้านละ 4 ก่อน (อีก 4 เก็บไว้) จะมีโอกาสเกิดขึ้น 2 อย่าง คือ หนักเท่ากัน กับหนักไม่เท่ากัน
1. เท่ากัน แสดงว่าบอลที่มีปัญหาอยู่ใน 4 ลูกที่ไม่ได้ชั่ง เอาที่ไม่ได้ชั่งมา 2 ลูก ชั่งกับ ลูกมาตรฐานอีก 2 ลูก ที่เหลือคิดต่อเองได้เพราะขี้เกียจพิมพ์ :P
2. ไม่เท่ากัน แสดงว่าบอลมีปัญหาอยู่ใน 8 ลูกที่เอามาชั่ง มี 4 ลูกเบา 4 ลูกหนัก ให้ บ = เบา น = หนัก ครั้งที่ 2 ชั่งอย่างนี้ครับ
บ บ น กับ น น บ
เก็บ เบา กับ หนัก ไว้อย่างละลูก
ที่เหลือน่าจะต่อเองได้จนจบครับ
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 118
นึกได้อันนึง
อันนี้น่าจะมีคนเคยลองเล่นเยอะแล้ว แต่ลองเอามาถามดูละกัน
ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง มีคนป่าอยู่ 3 คน และนักบวชอีก 3 คน
ทั้ง 6 คนต้องการที่จะข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง
ซึ่งวิธีที่จะข้ามไปต้องอาศัยเรือพายลำเล็กๆที่นั่งได้ทีละ 2 คนเท่านั้น
ทีนี้มันติดปัญหาอยู่อย่างนึงว่า ไอ้เจ้าคนป่าที่ว่ามันเป็นคนป่าเผ่ามนุษย์กินคน
ถ้าหากว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ มีจำนวนคนป่ามากกว่านักบวชเมื่อไร
เจ้าคนป่าจะจับนักบวชกินทันที
คำถามก็คือ
ให้จัดการลำเลียงทั้ง 6 คนไปอีกฝั่งนึงให้ครบทั้ง 6 คน(โดยนักบวชไม่ถูกกิน)
อันนี้น่าจะมีคนเคยลองเล่นเยอะแล้ว แต่ลองเอามาถามดูละกัน
ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง มีคนป่าอยู่ 3 คน และนักบวชอีก 3 คน
ทั้ง 6 คนต้องการที่จะข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง
ซึ่งวิธีที่จะข้ามไปต้องอาศัยเรือพายลำเล็กๆที่นั่งได้ทีละ 2 คนเท่านั้น
ทีนี้มันติดปัญหาอยู่อย่างนึงว่า ไอ้เจ้าคนป่าที่ว่ามันเป็นคนป่าเผ่ามนุษย์กินคน
ถ้าหากว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ มีจำนวนคนป่ามากกว่านักบวชเมื่อไร
เจ้าคนป่าจะจับนักบวชกินทันที
คำถามก็คือ
ให้จัดการลำเลียงทั้ง 6 คนไปอีกฝั่งนึงให้ครบทั้ง 6 คน(โดยนักบวชไม่ถูกกิน)
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 119
ผมว่ายังไม่ใช่นะครับadi เขียน:คิดได้ 3 ทีครับ
ตอนแรกเอามาชั่งด้านละ 4 ก่อน (อีก 4 เก็บไว้) จะมีโอกาสเกิดขึ้น 2 อย่าง คือ หนักเท่ากัน กับหนักไม่เท่ากัน
1. เท่ากัน แสดงว่าบอลที่มีปัญหาอยู่ใน 4 ลูกที่ไม่ได้ชั่ง เอาที่ไม่ได้ชั่งมา 2 ลูก ชั่งกับ ลูกมาตรฐานอีก 2 ลูก ที่เหลือคิดต่อเองได้เพราะขี้เกียจพิมพ์ :P
2. ไม่เท่ากัน แสดงว่าบอลมีปัญหาอยู่ใน 8 ลูกที่เอามาชั่ง มี 4 ลูกเบา 4 ลูกหนัก ให้ บ = เบา น = หนัก ครั้งที่ 2 ชั่งอย่างนี้ครับ
บ บ น กับ น น บ
เก็บ เบา กับ หนัก ไว้อย่างละลูก
ที่เหลือน่าจะต่อเองได้จนจบครับ
ถ้าเท่ากันตลอดใน 2 ครั้งแรก แล้วครั้งที่สามจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าลูกไหน ลองคิดดูๆ
ไว้จะมาเฉลย
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
....เขาว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้....
โพสต์ที่ 120
[quote="adi"]คิดได้ 3 ทีครับ
ตอนแรกเอามาชั่งด้านละ 4 ก่อน (อีก 4 เก็บไว้) จะมีโอกาสเกิดขึ้น 2 อย่าง คือ หนักเท่ากัน กับหนักไม่เท่ากัน
1. เท่ากัน แสดงว่าบอลที่มีปัญหาอยู่ใน 4 ลูกที่ไม่ได้ชั่ง เอาที่ไม่ได้ชั่งมา 2 ลูก ชั่งกับ ลูกมาตรฐานอีก 2 ลูก ที่เหลือคิดต่อเองได้เพราะขี้เกียจพิมพ์
ตอนแรกเอามาชั่งด้านละ 4 ก่อน (อีก 4 เก็บไว้) จะมีโอกาสเกิดขึ้น 2 อย่าง คือ หนักเท่ากัน กับหนักไม่เท่ากัน
1. เท่ากัน แสดงว่าบอลที่มีปัญหาอยู่ใน 4 ลูกที่ไม่ได้ชั่ง เอาที่ไม่ได้ชั่งมา 2 ลูก ชั่งกับ ลูกมาตรฐานอีก 2 ลูก ที่เหลือคิดต่อเองได้เพราะขี้เกียจพิมพ์
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่