ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 1

โพสต์

พอดีวันนี้มือซนครับ
เปิด Google Earth ขึ้นมาดูอีกครั้งในรอบ 3 เดือน
เพิ่งไปเที่ยวนครนายกมา กลับมาบ้านก็แวะไปเที่ยวต่างประเทศต่อ (ทาง GE)
แล้วก็ได้ไปเที่ยวประเทศหนึ่งครับ ซึ่งในความรู้สึกผมมันลี้ลับมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ระดับที่ว่าถ้าเขาเปิดประเทศเมื่อไหร่ คนคงจะทะลักเข้าไปดูกันว่ามันมีอะไรบ้าง

ผมซูมดูถนนเส้นใหญ่ ๆ ในเมืองหลวงของเขา
เห็นว่าแทบจะไม่มีรถเลย.....ถนนว่างมากครับ อิจฉาจัง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะระบอบการปกครอง หรือว่าเพราะความยากจนกันแน่
ที่ทำให้ผมแทบจะไม่เห็นรถอยู่บนท้องถนน

เอ...หรืออาจเป็นไปได้ว่า วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ :rofl:

ประเทศนั้นคือ เกาหลีเหนือครับ


ทีนี้เลยอยากจะถามท่าน ๆ หน่อยครับว่า
ประเทศที่ลี้ลับที่สุดในความคิดของท่าคือประเทศอะไรครับ
และเพราะสาเหตุใดท่านจึงคิดเช่นนั้นครับ

มาร่วมกันแบ่งปัน
เพื่อเปิดหูเปิดตาซึ่งกันและกันด้วยครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ประเทศที่มีโป๊บอยู่ เค๊าเรียกอะไรอะ ที่ MI3 ไปจารกรรม

น่าจะลี้ลับสุด
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ลี้ลับในเชิงการเมืองหรือเปล่าครับพี่เจ๋ง
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 4

โพสต์

bermuda?
TanTai
Verified User
โพสต์: 123
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Jeng เขียน:ประเทศที่มีโป๊บอยู่ เค๊าเรียกอะไรอะ ที่ MI3 ไปจารกรรม

น่าจะลี้ลับสุด
สำนักวาติกัน
ใช่ไหมครับพี่?
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สิกขิม

มั้งคับ

เพราะอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ แต่เคยได้ยินว่าแถวเทือกเขาหิมาลัย
:roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
chaiyos
Verified User
โพสต์: 177
ผู้ติดตาม: 0

Pope

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Pope lives in Vatican. It is independent country inside Rome, Italy.
^.^
Tick...Tick...Tick...Tick...Tick
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 8

โพสต์

:idea: ช่วงนี้ตลาดไม่ดี อยากจะหาที่เที่ยวผจญภัยใหม่ๆ
:roll: เลยลอง search ดู Nepal ประเทศที่ทั้งฝันและใฝ่จะไปปีน
:la: Mt. Everest ให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต.....เอ๊! นี่อะไรนะ
:shock: Kingdom of Mustang, Nepalพึ่งเคยได้ยินเลย  
:shock: อาณาจักรลึกลับซ่อนตัวอยู่หลังเขาทอราคีรี ยอดเขาสูงถ้านับก็เป็นที่ 7
:shock: เป็นอาณาจักรในการปกครองของเนปาล..............มีกษัตริย์อีกต่างหาก!
:ohno: โห! น่าสนใจมาก. มีกำแพงใหญ่ล้อมรอบเมืองอีกด้วย!  ดึงเรตติ้งน่าดู!
:ep: เสาร์-อาทิตย์นื จะเจาะทะลุทะลวง  Forbidden City ให้เป็นโอวัลตินผง
:roll: ตอนนี้ส่งรูปมาให้เพื่อนๆ ดูเป็นของหวานก่อน เดี๋ยวเสริฟของคาวที่หลัง
:wink: ปล. น้องกาโปเหินหาวเจาะกลางอากาศเก่ง......ส่งให้ดูมั่งแดะอยากเห็นจังเลย :pray:





  รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอเก็บเงินก่อนครับ ดร.โหน่ง แล้วจาไปด้วย

เป็นประเทศที่ 21 เนปาล

วันนี้ไปลาวก่อนนะครับ
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ส่งพี่เจ๋งของผมตรงนี้นะ ขอให้พี่เจ๋งเดินทางโดยสวัดิภาพขอรับ
ประเทศที่ 21 กระผมไม่อยากเชื่อ.!............................
โห! ของกระผมที่อันดับ 1 เลยนะ.......
พี่เจ๋งมีอีก 20 อันดับที่น่าสนใจกว่านี้อีก
อยากรู้จังเลย........นิดหนึ่งนะพี่ แง้มนิดดด..ด  :lol:  :pray:
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เห็น ดร.โหน่ง กล่าวถึงประเทศหรืออาณาจักรนี้ นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อวานอ่านเจอในน.ส.พ.ฉบับหนึ่ง จำไม่ได้แล้ว(ชักเบลอบอลโลก)

อย่ากระนั้นเลย ระหว่างที่รอโอวัลติลผง ผมร่วมสมทบทุนด้วยคนคับ

รายละเอียดเยอะเหมือนกัน ..ค่อยๆละเลียดไปคับ...

*************************************************

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลของคุณ COCOON
ให้ข้อมูลเมื่อเมษายน 2 ปีที่แล้วคับ  ขอขอบคุณอย่างสูงเสียดเมฆ

ความนั้นว่า...

การเดินทางไป Mustang ต้องใช้ trekking permit พิเศษ 700 USD ต่อคน ไม่เหมือนกับ trek ทั่ว ๆ ไป ที่จะอยู่ประมาณ 30 - 50 USD ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เช่น Annapurna ก็จะตกที่ 30 USD แต่ว่าจะไปได้สุดแค่ Kagbeni การไป Mustang ตามระเบียบแล้วต้องใช้บริการของ organized tour เท่านั้นครับ ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปโดยลำพัง เพราะว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นที่พัก อาหารการกินไม่ได้มีเตรียมไว้ให้ และยังต้องการรักษาความดั้งเดิมของวัฒนธรรมไว้โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปี

ถ้าเคยไปเดิน trek อื่นในเนปาล ต้องบอกว่า Mustang ต้องการความสมบุกสมบันมากกว่าครับ กับความสูงเกิน 3000 เมตรทุกวัน บางวันขึ้นไปถึง 4200 เมตรที่ซึ่งมีออกซิเจนให้เราเพียง 60% เท่านั้น ยังไม่รวมถึง แดด ลมและฝุ่น โดยเฉพาะในตอนบ่ายจะมีลมกรรโชกแรงเป็นระยะ ๆ ตลอดการเดินทาง

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับ Mustang ครับ อากาศไม่หนาวไม่ร้อนไป ขากลับนี่ต้นไม้ ดอกไม้เริ่มผลิดอก ผลิใบแล้วครับในบางหมู่บ้าน ถ้าไปใน Annapurna trek จะได้เห็น Rhododhendron ออกดอกเต็มต้นทั่วทั้งเนินเขา สวยงามมากครับ



รูปภาพ

OM MANI PADME HUM

รูปภาพ

รูปภาพ

ถ้าเราสามารถมองเห็นโลกผ่านดวงตาที่สาม เราคงจะได้เห็นอักขระมนตราหกพยางค์นี้เดินทางลอยละล่องเคว้งคว้างทั่วหุบเขาและเนินผาในเทือกเขาหิมาลัย

รอยจารึกที่อยู่บนก้อนหินและธงมนตร์ที่ปลิวไสวอยู่ตามคาคบและสถูปเจดีย์คือมณฑลที่ก่อให้เกิดสีสรรขึ้นในสายลม

ความหมายของมนตรามีความเกี่ยวเนื่องกับหลักธรรมทางศาสนาพุทธแบบวัชรยานอย่างลึกซึ้ง ในนัยประวัติที่สื่อถึงความกลมกลืนและสมดุลกันของหลักธรรมอันเน้นย้ำที่ ปัญญา (wisdom) และความเมตตา ( compassion) OM, HUM มีความหมายถึงความบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ Mani หมายถึง มณี ดวงแก้ว หรือ วัชระ เพศชาย และความเมตตา Padme หมายถึง ดอกบัว เพศหญิง และ สติปัญญา รวมแล้วคือลักษณะของทวิภาคึที่ต้องพึ่งพาและมีความกลมกลืนกันอย่างแยกไม่ออก เมตตาต้องประกอบด้วยปัญญา และปัญญาต้องประกอบด้วยความเมตตา

นี่น่าจะเป็นอารัมภบทที่ดีสำหรับการเดินทางไกลสู่ดินแดนที่น้อยคนนักยากจะเข้าถึง
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 12

โพสต์

NAMASTE

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

กาฐมาณฑุในคืนวันที่ถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกจากควันพิษ มลภาวะ ละอองฝน และความร้อนแรงทางการเมืองของกลุ่มเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วที่ขนานนามตัวเองว่า Maoist (กลุ่มนิยมประธานเหมา) ก็ยังคงไม่เสื่อมคลายในความยึดมั่นและแรงศรัทธาของผู้คนที่มีต่อเทพเจ้าต่าง ๆ ในศาสนาฮินดู ถ้าจะใช้เวลาในการนับจำนวนเทพเจ้าในเมืองแห่งนี้คงต้องใช้เวลาอันประเมินมิได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นในวิหาร ศาสนสถาน รูปเคารพตามถนนหนทาง ภูเขา แม่น้ำ ผืนดิน หรือแม้กระทั่งในจิตใจของผู้คน เราจะพบกับเทพเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่ในทุกแห่งหน ดั่งสมญานามของเมืองที่เคยมีผู้รจนาไว้ว่า "เมืองแห่งเทพเจ้าพันองค์"

การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่

ในใจกลางย่าน Thamel ซึ่งเปรียบเสมือนถนนข้าวสารของเมืองไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินขวักไขว่อยู่บางตาผิดกับที่เคยพบเมื่อสองสามครั้งที่ผ่านมา การะประท้วงและนัดหยุดงานรวมถึงความรุนแรงของกลุ่มเหมาที่ทวีคูณขึ้นเรีอย ๆ ในช่วงสองปีมานี้ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งหลีกหายไป ถึงแม้ว่าเป้าหมายส่วนใหญ่ของความรุนแรงจะเน้นไปที่ทรัพย์สินและบุคคลากรของทางราชการไม่ใช่นักท่องเที่ยวก็ตามที

Thamel ในวันนี้ดูแปลกตาไปจากเดิมตามสภาพของวัฎจักรชีวิต ร้านรวงเพิ่มขึ้นหนาตา รวมถึงบริการเสริมต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับตัวฤทธิ์นั่นก็คือ internet ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าเห็นจะเป็นระบบโทรศัพท์มือถือที่เริ่มแพร่กระจายในกลุ่มคนบางชนชั้นภายในระยะเวลาเปิดให้บริการไม่นานนัก ในสิ่งที่เห็นและเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ การติดต่อสื่อสารระหว่างกันเป็นสิ่งที่ช่วยชโลมใจให้แต่ละคนยังสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตต่อไปได้ โดยเฉพาะในดินแดนที่ห่างจากแผ่นดินแม่ ห่างจากความคุ้นชิน ในซอกหลืบของโมงยามแห่ง Lost in translation การประชันกันของ Live band ตามร้านอาหารหลายร้านทำให้ค่ำคืนในนครแห่งนี้ดูยาวนานและมีสีสรรมากขึ้นราวกับว่าเสียงเหล่านั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะสามารถปลุกเร้าและปลอบประโลมจิตวิญญาณให้ห่างหายจากความหม่นเหงาในราตรีที่ไร้แสงดาว
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 13

โพสต์

รูปภาพ
Pokhara

เมืองท่องเที่ยวลำดับสองรองจากกาฐมาณฑุ บรรยากาศสวยซึ้งเหมือนอยู่ในความฝัน ล้อมรอบด้วยแนวเขา Annapurna, Macchapuchare หรือ Fishtail และทะเลสาบ Phewa ดูเผิน ๆ คล้าย ๆ สวิสเซอร์แลนด์หรือนิวซีแลนด์ แต่ที่ต่างอย่างชัดเจนคือความสูงของยอดเขาที่ต้องแหงนคอมองที่ระดับความสูงประมาณ 7000 เมตร น้ำในทะเลสาบใสเย็นเพราะเป็นหิมะละลายลงมาจากยอดเขามีปลาชุกชุม

เป็นเมืองที่สงบงามชีวิตไม่เร่งรีบเหมาะสำหรับพักฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจภายหลังการ trekking อันยาวนาน รวมถึงการเตรียมตัวจิตใจให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น กิจกรรมยามว่างมีทั้งพายเรือเล่นในทะเลสาบ ขี่จักรยานไปชมน้ำตก กอล์ฟ Paragliding และการเดินระยะสั้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา Sarangkhot


รูปภาพ

เส้นทางเดินภูเขาหลายเส้นเริ่มต้นขึ้นที่นี่และจบลงที่นี่ สำหรับ Mustang เรายังมีเป้าหมายต่อไปที่เมือง Jomosom ซึ่งสามารถเลือกเดินทางด้วยทางเท้าประมาณ4-5 วันหรือเครื่องบินประมาณ 20 นาที ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนเสมอสำหรับการเดินทางในประเทศที่ระบบ ระเบียบและปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้ออำนวยมากนักเช่น เนปาล ชะตากรรมของเที่ยวบินสายเลียบภูเขาซึ่งเป็นเครื่องบินเล็กขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก การอดทนและรอคอยเป็นแบบฝึกหัดที่ต้องเผชิญในทุกเมื่อเชื่อวันเพื่อเฝ้ารอท้องฟ้าที่เปิดกว้างให้นักบินนำพาชีวิตของผู้โดยสารถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
บางวันมีโอกาสแค่เสี้ยวเพียงไปและกลับเที่ยวเดียวเท่านั้น

นอกเหนือจากอากาศแล้วสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจจนสามารถทำให้หัวใจแทบจะออกมาเต้นนอกกายก็คือการ landing ลงบนสนามบินเล็กแคบเชิงหน้าผาที่ Jomosom แม้นว่าไม่ใช่ครั้งแรกแต่แรงเหวี่ยงจากการตีวงอย่างรวดเร็วและแรงปะทะผืนสนามก็แรงพอที่จะขับเหงื่อให้ซึมออกมาตามมือตามเท้าในสภาพอากาศที่ลมพัดแรงและหนาวเย็นได้


รูปภาพ

รูปภาพ

ความปิติหลั่งไหลเข้ามาท่วมท้นจิตใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากเครื่องบิน การได้กลับมาเห็นภาพภูเขาสีขาว ท้องฟ้าสีฟ้าใส ที่ยังเห็นอยู่เสมอในภาพฝันก่อให้เกิดพลังขึ้นอย่างน่าประหลาด ใครที่เคยได้มาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของหิมาลัยคงจะพอเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ได้ และนี่น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้นักเดินทางหวนกลับมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า


รูปภาพ

มุมมองจากห้องพัก (ห้องน้ำ) ใน Jomosom ที่สามารถมองเห็นสนามบิน ภูเขาและท้องฟ้าที่เกลื่อนไปด้วยหมู่ดาวในยามราตรี
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[img]http://www.books4brains.org/upload/memb ... ust[1].jpg[/img]

ก่อนออกเดินทาง ศึกษาแผนที่และเส้นทางก่อนคับ

แล้ววันหลังคงจะมีโอกาสเดินทางไปผจญภัยกัน...

ขอแค่นี้ก่อนคับ... :wink:
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 15

โพสต์

:pray: ขอบคุณมากพี่บีมหาชน อุตสาห์หิ้วของโปรดมาฝาก
โอวัลตินที่บ้านตอนนี้ยังเป็นก้อนเทือกอยู่เหมือนเดิม
สีเหมือนโอวัลตินจริงๆเลยนะครับ
นี่พี่บี....อ่านแล้วตื่นเต้นมาก ด้วยเฉพาะช่วงปีนขึ้นไป Mustang
ปีหนึ่งนี่เขารับกี่คนก็ไม่รู้นะ พี่บีรู้ไหมภูฐานนี่ 8000 คนต่อปีนะ
แหม! นึกภาพตอนเราไต่ขึ้นไปจริงๆ....โอย! พี่บีนี่ไม่น่าเอามาให้ดูเลย
อยากไปอ่ะ........ย้อย ยืด ไหล ไปหมดแล้ว.
พี่บีเดี๋ยวขอแป๊ปหนึ่ง..........ไปชงโอวัลตินกินก่อน



มาแล้วพี่....เออ! คำนี้สะดุดตามาก OM MANI PADME HUM
เห็นปู๊ป น้องอ๋อมา ฟังทุกเช้านะ แต่ไม่รู้ความหมาย
พี่บีส่งดิกมาให้ได้ถอดคำแปล

Om      = ความเมตตา
Mani   =  ดวงแก้ว
Padme =   เพศหญิง
Hum    =   บริสุทธิ์

        บิงโก! แปลว่า พระแม่กวนอิมขอรับ
ตรงกับข้อมูลที่ผมฟังทุกเช้าเป็น cd พระแม่กวนอิม
ไม่รู้ว่าที่ Mustang นับถือพระแม่กวนอิมด้วย
โอโห.........ความรู้นี่ต่อยอดให้ค้นหา ยิ่งรู้มากยิ่งรู้สึกตัวเองรู้น้อย
ไปก่อนละครับพี่บี ไว้เจอกันใหม่ ผมจะคิดถึงนะ...... :B สวัสดีครับ  :pray:
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 16

โพสต์

มาดูกันต่อคับดร.โหน่งและท่านที่สนใจ...

ข้อมูลจากคุณcocoon บอกต่ออีกว่า...
รูปภาพ

"ตรงเส้นขอบฟ้า รุ่งเรือง เมืองที่เราใฝ่ฝัน
เก็บความสั่งสม นมนาน เป็นสายธารสดใส
จะไปให้ถึงเมืองงาม ถามเส้นทางหมื่นสาย
เอาซากความหลังยันกาย อนาคตเป็นสะพาน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าไกลจะไปแม้ไกลกว่านั้น
กี่เดือน กี่ปี กี่วัน คืบคลานทนทานเพื่อเธอ
เพื่อวันที่หวัง ยังรอ ต่อไป ด้วยใจมั่นคง
หลงคอยแล แม้นคืนวันไกลห่าง
ไม่จืดจาง ร้างรา แม้เวลาล่วงเลย
อยู่เป็นนิรันดร์"

รูปภาพ

ท่ามกลางความงามสงบของเมืองในหุบเขา มีเพียงแต่เสียงหวีดหวิวของสายลมกรรโชกและกระดึงที่ระรัวตามจังหวะก้าวเดินของหมู่ม้าและลาตามเส้นทางเดินอันเก่าแก่เท่านั้นที่ช่วยขับกล่อมให้ความเงียบเหงาดูเหมือนจะเบาบางลงในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

หากมีมนตร์วิเศษที่สามารถเสกเป่าให้บรรดาก้อนหินตามเส้นทางเดินเหล่านี้สามารถพูดคุยได้ เราคงจะได้ยินได้ฟังเรื่องราวตำนานมากมายของผู้คนที่เคยรอนแรมผ่านเส้นทางนี้อย่างมิรู้จักจบสิ้น

หินหลายก้อนมีอายุย้อนหลังไปราวนับล้านปีสมัยที่แผ่นโลกของทวีปเอเซียเชื่อมชนกันแผ่นทวีปที่เป็นประเทศอินเดียและอีกหลายประเทศดันตัวขึ้นมาผ่านกาลเวลาเกิดเป็นเทือกเขาหิมาลัยที่ทอดยาวและมีความสูงที่สุดในโลก ณ ยอด Everest รวมถึงแนวบริเวณที่ราบสูงทิเบตที่เผยตัวทอดยาวเป็นระยะทางเกือบครึ่งหนึ่งของความกว้างของทวีปเอเซีย

เส้นทางเก่าแก่นี้เรียกได้ว่าเป็นอีกเส้นทางการค้าขายที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่งนอกเหนือจากเส้นทางสายไหม จากจีน ทิเบต เนปาล ลงไปถึงอินเดีย สายลมที่เหน็บหนาว ความสูงชันของภูเขา ความเชี่ยวกรากของกระแสน้ำ ย่อมเป็นบทพิสูจน์ถึงจิตวิญญาณที่กล้าแกร่งและแสวงหาของนักเดินทางเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

การเดินทางทางกายภาพนั้นมีความท้าทายในตัวมันเองอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ทว่าการเดินทางภายในจิตใจของเราเองนั้นเล่า เราได้ค้นพบ ได้แสงหาอะไรบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ในเบื้องลึกของจิตวิญญาณของเรามากน้อยแค่ไหน กองซากแห่งความหลัง ความฝันที่สวยงามถึงวันที่แสนดีในอนาคต ความโศกเศร้า ความเหงา ความเหนื่อยล้า ความปิติยินดี ความโลภ ความหลง อะไรคือความเป็นจริง อะไรคือมายา
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 17

โพสต์

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนและเป็นสัจธรรม หลายคราที่คนเดินทางได้ถูกท้าทายและพิสูจน์ธาตุทรหดของจิตใจจากสภาพความแปรปรวนของธรรมชาติ สภาพอากาศบนหุบเขาสามารถแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลาด้วยความรวดเร็ว เครื่องบินที่คาดว่าจะตามมาพร้อมกับชุดแรกไม่สามารถขึ้นบินได้อีกเนื่องจากสภาพอากาศปิด สมรรถนะและความปลอดภัยของเครื่องบินเล็กขึ้นอยู่กับฝีมือของนักบินเป็นหลักเพราะไม่มีอุปกรณ์นำร่องที่ทันสมัยบนตัวเครื่องและที่สนามบิน Jomosom เราต้องใช้เวลาอีกหนึ่งวันเฝ้ารอคอยชุดที่เหลือซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าเครื่องจะสามารถขึ้นจากสนามบิน Pokhara ได้ในวันไหน แต่แล้วธรรมชาติก็ไม่โหดร้ายเกินไปนัก หลังจากรอคอยมาหนึ่งวันเต็มทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการเดินทาง

จุดหมายต่อไปจาก Jomosom คือ เมือง Kagbeni ที่ซึ่งเป็นพรมแดนสุดท้ายก่อนจะล่วงเข้าสู่อาณาจักรของ Lo Manthang ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ที่ระดับความสูงเกิน 2500 เมตร จะเริ่มพบเห็นพันธุ์พืชต่าง ๆได้น้อยลง เส้นทางสายนี้คือเส้นทางธรรมชาติของแม่น้ำ Kali Kandhaki ที่ไหลทอดยาวลงไปถึงตอนกลางของเนปาล ในช่วงหน้าแล้งถึงใบไม้ผลิสามารถใช้เส้นทางเดินบนท้องแม่น้ำได้โดยไม่ต้องไต่เลาะไปตามตะเข็บของหุบเขาสองข้างทาง ทุกย่างก้าวที่เหยียบลงไปคือหินแม่น้ำกลมมนสีเทาสวย บางก้อนมีลวดลายแปลกตาแซมด้วยสีสรรต่าง ๆ รวมถึงซากฟอสซิลหอยทะเลที่ถูกกลบซ่อนอยู่ในก้อนหินสีดำซึ่งชาวบ้านได้คัดเลือกและนำไปขายตามเมืองท่องเที่ยวทั้ง Pokhara และ Kathmandu

ตลอดเส้นทางยังสามารถพบเจอนักท่องเที่ยวที่เดินทางรอบ Annapurna Circuit รวมถึงบรรดาผู้แสวงบุญที่จะเดินทางไปยัง Muktinath ที่ระดับความสูงประมาณ 4000 เมตรที่ซึ่งมีศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูและชาวพุทธอันเป็นที่เคารพบูชามาเนิ่นนาน

ลมที่พัดกรรโชกแรงมาจากทิศใต้ในช่วงบ่ายทำให้ฝุ่นทรายเม็ดเขื่องและเม็ดละเอียดปลิวว่อนล่องลอยแล้วแต่สายลมจะพาไป คราใดที่มากระทบผิวกายก็เสมือนหนึ่งถูกซัดด้วยเข็มเล็ก ๆ เป็นร้อยๆ เล่ม หยาดน้ำตาที่เอ่อท่วมก็ทำให้พอจะคาดคะเนได้ว่าจำนวนเม็ดทรายที่เข้าไปเริงระบำอยู่ในเบ้าตานั้นมีปริมาณมากน้อยเพียงใด บททดสอบบทนี้ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดในตอนที่ต้องเดินข้ามสะพานแขวนยาวเกือบ 200 เมตร สะพานที่แกว่งไกวจากกระแสลม ภาพของผืนดินและสายน้ำที่เชี่ยวกรากเบื้องล่าง ฝุ่นทรายที่โบกระบัดเข้าปะทะร่างกายและสายตา เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจว่านี่คือด่านแรกของการรอนแรมเข้าสู่บริบทของ Lo Manthang - the land of aspiration.

ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 18

โพสต์

รูปภาพ
ยามเช้าใน Kagbeni ตามหมู่บ้านระหว่างทางจะเห็นลำธารเล็ก ๆ หลายเส้นที่ถูกขุดขึ้นเพื่อนำน้ำจากแม่น้ำหรือภูเขามาใช้สอยสำหรับกิจวัตรประจำวันรวมถึงการรดน้ำพืชผักสวนครัวต่าง ๆ

รูปภาพ
ภาพชินตาของชาว Lo ที่นำฝูงสัตว์ออกหาอาหารตามเนินเขาและริมน้ำ


รูปภาพ
เส้นทางเดินธรรมชาติเลียบเลาะไปตามไหล่เขา บางช่วงเส้นทางแคบริมหน้าผาสูงชัน บางช่วงขาลงก็ไหลลื่นด้วยกรวดทรายหยาบปนละเอียด วัยรุ่นที่ชื่นชอบกีฬา X-treme คงจะมันส์ถ้ามี board สักอัน

รูปภาพ
ภาพชวนฝันของเมืองในหุบเขาริมแม่น้ำกว้าง
ยังมีต่ออีกคับ ทั้งภาพสวยๆและเรื่องราวที่น่าประทับใจ


รายละเอียดอื่นๆผมก็ไม่ทราบเหมือนกันคับ

สนับสนุนให้ดร.โหน่งเป็นชาวทีวีไอคนแรกของประเทศไทยไปลุยผจญภัยและนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันอ่านคับ
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 19

โพสต์

:ohno: พี่บีทิ้งรอยไว้ยาวเหยียดอีกแล้วนะ
มาอ่านอีกที  พี่บีก็เริ่มพลิกฟื้น หาทีมงานดีกว่าพี่บี
ไปคนเดียวไม่สนุกหรอกนะทริปโหดๆอย่างนี้
ไปสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน....... :welcome:
ตอน20ต้นๆ ผมเดินทางคนเดียวทั่วอเมริกาแล้วต่อไปอลาสกา
ข้ามแอตแลนติคไป อังกฤษ ข้ามช่องแคบโดเวอร์ไป France....พอ พอ
ขี้โม้จริงๆ โหน่งนี่............ขอโทษครับ

หาทีมงานนะ ไปกันสัก 4 คนกำลังมันส์ ไปตั้งต้นไขปริศนาของ Mustang  
ผมคิดว่า Jomosom น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น
แต่ผมว่าต้องหาคนที่ไม่กลัวความสูง เครื่องบินเล็กนี่
ถ้าร่างกายไม่พร้อม ไม่ไหวนะ รู้เพราะผมหัดบินก็เจ้าเครื่อง Cessna นี่แหละ
ตอนนั้นวิ่งวันละ 5 กิโลทุกวัน ถึงหายใจออก ข้างบนอากาศน้อยจ๊ะ
ต้องแข็งแรงมากๆ ประเภท ดูดบุหรี่กินเหล้า ไม่ฟิต
รับรอง เสียดายเงิน ไม่ต้องไปให้เสียเวลา.........ขี้โม้อีกแหละ!....ฮ่า ฮ่า
รอชวนพี่เจ๋งดีกว่า คนนี้ไป sure.555
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ผมขาดคุณสมบัติที่ดีหลายๆข้อของนักผจญภัยเลยคับ

ค่อนข้างกลัวความสูง  ขี้เมา ไม่ออกกำลังกาย ไม่ฟิต

ถึงได้เชียร์ดร.โหน่งและท่านอื่นๆงัยคับ..

น่าดีใจที่ได้มีโอกาสดีๆในชีวิตเช่นนี้

ขอเป็นบุรุษไปรษณีย์ส่งผ่านเรื่องราวให้ทุกท่านก็แล้วกันคับ

ยังมีเรื่องของ Jomosom และ Poonhill พร้อมภาพอันยิ่งใหญ่

จะได้นำมาให้อ่านในโอกาสที่ดีต่อไปคับ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 21

โพสต์

มาต่อกันเลยคับ ก่อนที่ข้อมูลจะเลือนหายกลายเป็นข้อมึน
พักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ระหว่างการเดินทาง

รูปภาพ
ภูผาหินสีแดงดูน่าเกรงขาม

รูปภาพ
นึกถึงเรื่อง Lord of the Ring

รูปภาพ
การแปรเปลี่ยนของแสงและเงาที่ตกกระทบพื้นผิวที่มีความชัดลึกต่างกัน ดูเหมือนงานศิลป์

รูปภาพ
เมือง Samar ครึ่งทางสู่ Lo Manthang จากมุมกล้องจะเห็นว่าปีนขึ้นมาที่ความสูงเกือบเท่าแนวเขาที่อยู่ด้านหน้า ประมาณเกือบ 3800 เมตร

รูปภาพ
ขุนเขาเบื้องหน้าคือเป้าหมายต่อไป

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
Mani wall ที่ยาวที่สุดในเนปาลที่เมือง Ghami คนพื้นเมืองจะเรียกก้อนหิน
ที่สลักมนตรา "ohm mani padme hum" ว่า หิน Mani


รูปภาพ
Chorten (Stupa) แบบทิเบตพบเห็นได้ตลอดการเดินทางโดยเฉพาะช่วงช่องเขาสูงที่เป็นทางผ่านสำคัญ โดยปกติจะสร้างเพื่อบรรจุอัฐิของลามะชั้นสูง แต่ก็นิยมสร้างไว้ตามทางเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งขุนเขาและสายน้ำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 22

โพสต์

รูปภาพ
Gompa ในตัวเมือง Tsarang หน้าด่านสุดท้ายก่อนถึง Lo Manthang


รูปภาพ
พระราชวังเก่าของกษัตริย์ในเมือง Tsarang


รูปภาพ
Gompa (Monastery) ในเมือง Tsarang ที่ยังมีลามะจำพรรษาอยู่


รูปภาพ
Gompa เก่าแก่อายุหลายร้อยปีระหว่างทางก่อนถึง Lo Manthang ภาพจิตรกรรมฝาผนังและพระพุทธรูปข้างในสวยงามมาก แต่ห้ามถ่ายรูป ภาพวาดบนผนังเป็นแบบ Fresco มีการบูรณะครั้งใหญ่โดยช่างวาดจากอิตาลี


รูปภาพ
King of Lo Manthang

การได้เข้าเฝ้า King ของ Lo ถือว่าเป็นที่สุดแล้วของการเดินทางครั้งนี้ เพราะถึงแม้ว่าจะได้เดินทางไปถึงเมือง Lo แล้วแต่ก็ไม่แน่ว่าจะได้เข้าเฝ้า เป็นความโชคดีอย่างมากขณะที่นั่งพักผ่อนอยู่ที่ guest house หนึ่งในเมือง Tsarang ซึ่งเจ้าของก็เป็นเชื้อพระวงศ์ Guide ของคณะก็มาตามแล้วบอกว่า King ประทับอยู่ห้องข้าง ๆ และอนุญาติให้คณะเราเข้าเฝ้าได้ ท่านกำลังทรงม้าเดินทางเข้าไปยังเมือง Pokhara และแวะพักที่ Tsarang หนึ่งคืน

ตามธรรมเนียมทิเบต การถวายผ้า Kata (ผ้าไหมสีขาวปักลวดลายของมงคล 8 อย่างของทิเบต) เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและความเคารพของผู้ให้ต่อผู้รับซึ่งเป็นวัตรปฏิบัติปกติเมื่อได้เข้าเฝ้าดะไลลามะ พระลามะชั้นสูง หรือ ผู้สูงศักดิ์ ผู้รับก็จะมอบ Kata คล้องคอกลับคืนมายังผู้ให้ เป็นการแสดงความยอมรับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 23

โพสต์

รูปภาพ
ทางเดินจาก Tsarang ต้องผ่านอีกหลาย Pass กว่าจะถึง


รูปภาพ
ช่วงพักการเดินทาง ท้องฟ้าฟ้าใส เมฆลอยตัวเป็น form สวยงามแปลกตา


รูปภาพ
Pass สุดท้าย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เห็น Walled city of Lo Manthag อยู่แค่เอื้อม

Lo Manthang, the last forbidden Kingdom เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ระยะใกล้เคียงกับการก่อตัวของอาณาจักรสุโขทัย ระยะของเมืองพระนครที่ศิลปะเขมรรุ่งเรืองจากอิทธิพลของศาสนาพุทธ ระยะที่ยุโรปยังอยู่ในยุคมืดจากสงคราม Crusade

ในทางการเมือง เป็นอาณาจักรที่ถูกขนาบด้วยดินแดนกว้างใหญ่ของทิเบตและด้านล่างเป็นเนปาล แต่วิถีชีวิตและวัฒนธรรมก็รับจากทิเบตมาเป็นหลัก ท้ายที่สุดก็ถูกรวมมาอยู่กับราชอาณาจักรเนปาลในช่วงศตวรรษ 18-19 หลังจากที่ทิเบตถูกยึดครองโดยจีนในปี 1952 พื้นที่ของ Lo Manthang ได้ถูกใช้เป็นแหล่งรวมพลของกลุ่มต่อต้านการยึดครองโดยได้รับการสนับสนุนจาก CIA ในระยะเวลาต่อมาเมื่อ CIA ได้ถอนตัวไปแล้วก็ยังมีชนกลุ่มน้อยเรียกว่า Khampa ยังยึดครองพื้นที่อยู่ โดยที่รัฐบาลเนปาลก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยประกาศเป็นเขตหวงห้ามแต่ยังคงสถานภาพของกษัตริย์ไว้อยู่ เริ่มอนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้ตั้งแต่ปี 1991
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 24

โพสต์

รูปภาพ
จาก Monastery เก่าแก่กลางเมืองมองเห็นพระราชวังอยู่เบื้องหน้า


รูปภาพ
เมืองที่ถูกหลบซ่อนจากโลกภายนอกเป็นเวลาหลายสิบปี


รูปภาพ
เด็ก ๆ

รูปภาพ
และสาวน้อยชาว Lo


รูปภาพ
สถาปัตยกรรมและการใช้สี
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

ประเทศที่ลี้ลับที่สุด........

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ Cocoon ..ขอบคุณมากๆคับ
ถ้าไปช่วงนี้(หมายเหตุ:เดือนเมษา)ต้นไม้จะเขียวหมดแล้วครับ เพราะตอนขากลับเนี่ยก็ใบก็เริ่มผลิออกมาแล้ว เค้าใช้ชีวิตกันง่าย ๆ มาก เท่าที่เห็นก็ปลูกพวก buckwheat ไม่แน่ใจภาษาไทยใช้คำว่าอะไร แต่ดูด้วยตารวงมันคล้าย ๆ ข้าวบาเลย์ นอกนั้นก็มีพวกกะหล่ำ (หัวใหญ่มาก) และผักอีกสองสามอย่าง ระบบชลประทานค่อนข้างใช้ได้ครับ มีการชักน้ำจากธรรมชาติเข้ามาใช้ภายในหมู่บ้านได้ดี เพียงพอสำหรับดื่มกินและปลูกพืชผัก

design ของบ้านจะเอนกประสงค์มาก ชั้นล่างไว้เลี้ยงสัตว์ ชั้นสองนอน ห้องครัว บ้านที่มีดาดฟ้าจะเอาไว้ตากพวกกิ่งไม้แห้ง ๆ ไว้เป็นเชื้อไฟ บางวันจะเห็นคนออกมาเดินตามทางคอยเก็บพวกมูลม้า ลา แพะ เอาไปตากแห้งให้แข็งเก็บไว้เป็นเชื้อไฟได้อีก เศรษฐกิจพอเพียงดีจริง เวลาหนาว ๆ หรือหิวน้ำก็ต้มชา ผสมด้วยเนยทำจากไขจามรี เค็ม ๆมัน ๆ ดีแท้

การ trekking ในเนปาลจริง ๆ แล้วมีหลายเส้นทางให้เลือกแล้วแต่ความชอบและระดับความท้าทาย แต่สำหรับคนรักธรรมชาติ ภูเขา สายน้ำ รับรองได้ว่าน่าจะหลงรักไม่มากก็น้อย บางเส้นทางแล้วแต่เราว่าเราอยากไปแค่ไหนในแต่ละวัน จะมีโรงเตี๊ยมพักแรมตลอดทาง วันไหนเหนื่อยหน่อยก็พักเร็ว ไปเรื่อย ๆ อาหารการกินก็มีเมนูให้สั่ง น้ำอัดลม เบียร์มีสำหรับคอเมรัย

ถ้าเป็น Mustang หรือ Lo Manthang จะจำกัดนักท่องเที่ยวในแต่ละปีด้วย quota และราคาของ permit ไม่ทราบว่าจำกัดจำนวนเท่าไหร่เพราะถามแล้วก็ไม่มีใครรู้ ทำเหมือนของภูฏานที่จำกัดจำนวนเหมือนกัน เส้นทางอื่นไม่อั้นครับ
อ่านแล้วเหมือนการเดินทางในฝัน-จินตนาการสุดขอบฟ้า..

ขอบคุณมากๆคับ :)
โพสต์โพสต์