VI บ้าน ๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 752
“เอาเกรดรอง”_ไม่ต้องจ่ายแพง! (Team money Talk 4)
.................
“ค่าความนิยม” ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น...
ดังนั้น “ค่าความไม่นิยม” (คิดคำเองค่ะ) ก็ตรงข้าม
คือ การคิดแบบ “เอาเกรดรอง” จะได้จ่ายถูกลง
พบว่าช่วยประหยัดและทำให้ชีวิตสบายๆ ด้วย มาดูตัวอย่างกันค่ะ
.................
ตลาด อตก. ที่ขายกุ้ง มีร้านอาหารด้วย “กุ้งใหญ่ ยิ่งแพง”
เลือก size เล็กก็ถูกลง คิดอย่างมีเหตุผล “น้ำหนัก 1 กก.” เท่ากัน
เล็กลงก็ได้มากตัว...จะถูกลงไปอีกถ้าเลือก “กุ้งตาย” (เพิ่งตายเมื่อกี๊) ที่เผาไว้แล้ว
พอสั่งเค้าจะอุ่นให้...ไม่ต้องชี้ชะตากุ้งเองด้วย
.
ปลาหมึกย่าง ตรงหนวดถูกสุด ตรงตัวจะแพงขึ้น "ยิ่งใหญ่ยิ่งแพง" (อีกแล้ว) ที่
จริงรสชาติเหมือนกัน (ทั้งตัว)..ไว้ไปเที่ยวทะเลค่อยสั่งใหญ่ๆ จะสดและถูกกว่า
.
ต้มยำหม้อไฟ บางที..หลอกตา
ปริมาณเพิ่มขึ้นไม่ถึง 2 เท่าของแบบชาม แต่ราคาเพิ่มกว่า 3 เท่า
จริงๆ แล้วพอหม้อไฟมาเราทำอะไรกัน..ตักแจกกันอย่างไว (55+) เ
พราะมันร้อน แสบตา และเกะกะโต๊ะ...แล้วจะสั่งหม้อไฟให้แพงเล่นทำไม?
.
ผลไม้...ลองกอง เงาะ หรืออื่นๆ ที่ร่วงจากก้าน จับเป็นพวงไม่ได้
ราคาถูกลงทันใด แถมไม่มีก้านให้หนักตราชั่ง
เคยเห็นคนเลือกจับพวงมาหมุนๆ ดู..ร่วงให้เห็นต่อหน้าต่อตา
แม่ค้าก็หยิบไปรวมกับแบบร่วงๆ ถูกๆ ข้างๆ กัน (เมื่อครู่..ยังแพงอยู่เลย)
.
“cake วันเกิด”...ที่เกี่ยงกันทานเพราะกลัวอ้วน (ปาดครีมทิ้งอีก)
ครีมสวยๆ + ค่าความนิยม ที่ทำให้แพง แล้วปาดเงิน เอ๊ย! ครีม ทิ้งเนี่ยนะ
ถ้าไม่มี "cake วันเกิด" "ดอกไม้" หรือ "ของขวัญวันเกิด"
อายุจะไม่เพิ่มอีกปีหรืออย่างไร?..ดีเหมือนกัน..อยู่เป็นอมตะเลย ^__^
.
ลองซื้อเสื้อผ้า reject บางทีแค่เย็บตะเข็บย่นนิดเดียวก็ไม่ผ่าน QC
ใส่อยู่กับตัวดูไม่ออกหรอกค่ะ คล้ายที่เคยบอกไปเรื่องรีดผ้า รีดด้านหน้าเรียบๆ
ด้านหลังไม่ต้องเรียบมาก..นั่งรถไป..ยังไม่ถึงที่ทำงานก็ยับแล้ว
ถ้าพิถึพิถันมากจะเปลืองทั้งไฟ ทั้งเวลา
.
Smart Phone / notebook รุ่นใหม่
นาย ก. ยอมจ่ายแพงซื้อวันที่ออกใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
วันนี้เรากำลังจะซื้อในราคาถูกกว่ามากๆ เพราะเรารอซื้อของตกรุ่น
แต่ นาย ก. กำลังใช้ของตกรุ่นอยู่ แถมซื้อแพงกว่าเรามาก (จริงๆ นะ)
...............
ทั้งนี้ คนที่มีเงินมากๆ แล้วอยากได้ของเกรดพรีเมี่ยม
ก็เป็นเรื่องของเค้าค่ะเพราะเค้าหาได้มากจะใช้มากก็ (คง) ไม่เป็นไร
แต่ใครที่ยังมุ่งมั่นสร้างฐานะแล้วชอบบ่นว่าเงินไม่เหลือ
ลองสำรวจดูรอบๆ ตัวเรา...มีอะไรที่ “เอาเกรดรอง” ได้บ้างหรือไม่?
.
บางคนชอบ “(ดู) กินดี..(ดู) อยู่ดี” ตอนต้นเดือน
แล้วมาใกล้สิ้นใจ ตอนสิ้นเดือน...จะดีหรือ?
บางทีมายืมเงินอีก (ไม่เคยให้หรอกค่ะ..บ่นไปงั้น!)
.................
“ค่าความนิยม” ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น...
ดังนั้น “ค่าความไม่นิยม” (คิดคำเองค่ะ) ก็ตรงข้าม
คือ การคิดแบบ “เอาเกรดรอง” จะได้จ่ายถูกลง
พบว่าช่วยประหยัดและทำให้ชีวิตสบายๆ ด้วย มาดูตัวอย่างกันค่ะ
.................
ตลาด อตก. ที่ขายกุ้ง มีร้านอาหารด้วย “กุ้งใหญ่ ยิ่งแพง”
เลือก size เล็กก็ถูกลง คิดอย่างมีเหตุผล “น้ำหนัก 1 กก.” เท่ากัน
เล็กลงก็ได้มากตัว...จะถูกลงไปอีกถ้าเลือก “กุ้งตาย” (เพิ่งตายเมื่อกี๊) ที่เผาไว้แล้ว
พอสั่งเค้าจะอุ่นให้...ไม่ต้องชี้ชะตากุ้งเองด้วย
.
ปลาหมึกย่าง ตรงหนวดถูกสุด ตรงตัวจะแพงขึ้น "ยิ่งใหญ่ยิ่งแพง" (อีกแล้ว) ที่
จริงรสชาติเหมือนกัน (ทั้งตัว)..ไว้ไปเที่ยวทะเลค่อยสั่งใหญ่ๆ จะสดและถูกกว่า
.
ต้มยำหม้อไฟ บางที..หลอกตา
ปริมาณเพิ่มขึ้นไม่ถึง 2 เท่าของแบบชาม แต่ราคาเพิ่มกว่า 3 เท่า
จริงๆ แล้วพอหม้อไฟมาเราทำอะไรกัน..ตักแจกกันอย่างไว (55+) เ
พราะมันร้อน แสบตา และเกะกะโต๊ะ...แล้วจะสั่งหม้อไฟให้แพงเล่นทำไม?
.
ผลไม้...ลองกอง เงาะ หรืออื่นๆ ที่ร่วงจากก้าน จับเป็นพวงไม่ได้
ราคาถูกลงทันใด แถมไม่มีก้านให้หนักตราชั่ง
เคยเห็นคนเลือกจับพวงมาหมุนๆ ดู..ร่วงให้เห็นต่อหน้าต่อตา
แม่ค้าก็หยิบไปรวมกับแบบร่วงๆ ถูกๆ ข้างๆ กัน (เมื่อครู่..ยังแพงอยู่เลย)
.
“cake วันเกิด”...ที่เกี่ยงกันทานเพราะกลัวอ้วน (ปาดครีมทิ้งอีก)
ครีมสวยๆ + ค่าความนิยม ที่ทำให้แพง แล้วปาดเงิน เอ๊ย! ครีม ทิ้งเนี่ยนะ
ถ้าไม่มี "cake วันเกิด" "ดอกไม้" หรือ "ของขวัญวันเกิด"
อายุจะไม่เพิ่มอีกปีหรืออย่างไร?..ดีเหมือนกัน..อยู่เป็นอมตะเลย ^__^
.
ลองซื้อเสื้อผ้า reject บางทีแค่เย็บตะเข็บย่นนิดเดียวก็ไม่ผ่าน QC
ใส่อยู่กับตัวดูไม่ออกหรอกค่ะ คล้ายที่เคยบอกไปเรื่องรีดผ้า รีดด้านหน้าเรียบๆ
ด้านหลังไม่ต้องเรียบมาก..นั่งรถไป..ยังไม่ถึงที่ทำงานก็ยับแล้ว
ถ้าพิถึพิถันมากจะเปลืองทั้งไฟ ทั้งเวลา
.
Smart Phone / notebook รุ่นใหม่
นาย ก. ยอมจ่ายแพงซื้อวันที่ออกใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
วันนี้เรากำลังจะซื้อในราคาถูกกว่ามากๆ เพราะเรารอซื้อของตกรุ่น
แต่ นาย ก. กำลังใช้ของตกรุ่นอยู่ แถมซื้อแพงกว่าเรามาก (จริงๆ นะ)
...............
ทั้งนี้ คนที่มีเงินมากๆ แล้วอยากได้ของเกรดพรีเมี่ยม
ก็เป็นเรื่องของเค้าค่ะเพราะเค้าหาได้มากจะใช้มากก็ (คง) ไม่เป็นไร
แต่ใครที่ยังมุ่งมั่นสร้างฐานะแล้วชอบบ่นว่าเงินไม่เหลือ
ลองสำรวจดูรอบๆ ตัวเรา...มีอะไรที่ “เอาเกรดรอง” ได้บ้างหรือไม่?
.
บางคนชอบ “(ดู) กินดี..(ดู) อยู่ดี” ตอนต้นเดือน
แล้วมาใกล้สิ้นใจ ตอนสิ้นเดือน...จะดีหรือ?
บางทีมายืมเงินอีก (ไม่เคยให้หรอกค่ะ..บ่นไปงั้น!)
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1959
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 755
แต่ก็ต้องระวังด้วยนะครับ อย่าเอามาปนกับการลงทุน เพราะในชีวิตผมใช้ประจำ พอลงทุนจริง ดันเลือกแต่ตัวรองๆ คิดว่า, คิดว่า และคิดว่า...มันน่าจะดีเหมือนกับตัวหลัก สุดท้ายพอร์ตเลยไม่ได้ไปใหน พอผ่านไป 4-5 ปี ถึงคิดได้ แต่ก็สายไปแล้วเพราะตกรถไฟความเร็วสูงแทบจะทุกสายที่ต้องการจะขึ้น หรือแต่แบบรฟท. 555theenuch เขียน:“เอาเกรดรอง”_ไม่ต้องจ่ายแพง! (Team money Talk 4)
.................
“ค่าความนิยม” ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น...
ดังนั้น “ค่าความไม่นิยม” (คิดคำเองค่ะ) ก็ตรงข้าม
คือ การคิดแบบ “เอาเกรดรอง” จะได้จ่ายถูกลง
พบว่าช่วยประหยัดและทำให้ชีวิตสบายๆ ด้วย มาดูตัวอย่างกันค่ะ
.................
[/attachment]
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 756
จริงด้วยเนอะ..ถ้าลงทุนแบบนี้...ไม่วายจะเป็นแบบ น้อง jverakul บอกจริงๆjverakul เขียน:แต่ก็ต้องระวังด้วยนะครับ อย่าเอามาปนกับการลงทุน เพราะในชีวิตผมใช้ประจำ พอลงทุนจริง ดันเลือกแต่ตัวรองๆ คิดว่า, คิดว่า และคิดว่า...มันน่าจะดีเหมือนกับตัวหลัก สุดท้ายพอร์ตเลยไม่ได้ไปใหน พอผ่านไป 4-5 ปี ถึงคิดได้ แต่ก็สายไปแล้วเพราะตกรถไฟความเร็วสูงแทบจะทุกสายที่ต้องการจะขึ้น หรือแต่แบบรฟท. 555theenuch เขียน:“เอาเกรดรอง”_ไม่ต้องจ่ายแพง! (Team money Talk 4)
.................
“ค่าความนิยม” ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น...
ดังนั้น “ค่าความไม่นิยม” (คิดคำเองค่ะ) ก็ตรงข้าม
คือ การคิดแบบ “เอาเกรดรอง” จะได้จ่ายถูกลง
พบว่าช่วยประหยัดและทำให้ชีวิตสบายๆ ด้วย มาดูตัวอย่างกันค่ะ
.................
[/attachment]
เอาใหม่ เอาใหม่....ถ้าเป็นเรื่องการลงทุน "เอาเกรดพรีเมียม_ที่ราคารองๆ" กันนะคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 758
บายจ้า..."ชีวิตมนุษย์เงินเดือน”
(Team Money Talk 4)
...............
Post เรื่องนี้ไว้ใน fb ส่วนตัว แล้วอาจารย์ ดร.ไพบูลย์ ท่านบอกว่าให้นำมาลง
ใน fb money talk ด้วย...เพราะอาจเป็นประโยชน์แก่แฟนๆ Money Talk ด้วยค่ะ
................
ปกติไม่ค่อยชอบ post เรื่องส่วนตัว (ใน fb) บ่อยๆ จะเลือกครั้งสำคัญๆ
และเห็นว่าการลาออกจากราชการ ที่มีผล 1 สิงหาคม 2557 (วันนี้)
เป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต...หารูปทั้งบ้านพบว่าเรามีรูปแค่นี้
เรื่องการลาออกได้เร็วอาจเป็นกำลังใจให้ใครหลายคนที่ขยัน
1.หาเงิน 2.ออมเงิน และ 3.นำไปลงทุนให้งอกเงย ได้บ้างค่ะ
..............
- ตอนจบพยาบาลจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีศรีธัญญา
ก็มีไม่กี่รูป เป็นรูปหมู่ที่ตัวเราเองเล็กๆ อยู่ในรูปเท่าที่เห็น ^__^
..............
- ตอนจบ ป.ตรีรามคำแหง เรียนแบบอ่านหนังสือสอบเองจึงไม่มีเพื่อน
ตอนรับปริญญาเตี่ยขับรถมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดพามาปล่อยลงที่สวนอัมพร
แล้วเข้าหอประชุมเลย...รับเสร็จเดินกลับบ้านญาติที่อยู่แถวเทเวศร์เอง
(เดินถอดชุดครุยไปเรื่อย 55+)
...............
- ป.โท เรียนไปเลี้ยงลูกไปจบช้ากว่าเพื่อน 1 ปี
ตอนรับปริญญาเลยไม่มีเพื่อนอีก เหมือนเดิมไม่ต้องนัดใคร
ให้คุณพ่อของลูกไปส่ง ที่ มศว.องครักษ์
รับเสร็จเดินออกมาที่จุดนัด...ไม่มีรูปอีก
................
ชอบตัวเองที่ไม่เคยต้องแต่งหน้าทำผมสำหรับงานรับปริญญาเลย
(ครั้งแรกพี่ๆ ลูกน้าแต่งให้เล็กน้อย) ครั้งอื่นๆ ไม่ต้องเลย (ทาปากเล็กน้อย)
ใช้ชีวิตแบบเรียบๆ มาแต่ไหนแต่ไร...รูปก็ไม่ค่อยมี...สมัยก่อนกล้องฟิล์ม
ไหนจะค่าฟิล์ม ค่าล้างอัด และที่สำคัญต้องมีคนไปถ่ายให้อีกเกรงจะยุ่งยาก
ทุกๆ อย่างเก็บในความทรงจำก็พอ ^__^
...............
ใน fb มีเพื่อนมาถามว่าวางแผนจะทำอะไรต่อ
ที่จริงการเกษียณเร็วนี้อยู่ในแผนมาตลอด วันนี้ถือว่าเป็นไปตามแผน
หากใครเคยชม clip “VI แม่บ้าน" จะทราบว่าหาเงินเพิ่ม
โดยรับอยู่เวรห้องพยาบาลโรงงาน นำไข่จากอ่างทอง
มาส่งให้ร้านผัดไทย ราดหน้า ประหยัดและออม มาทั้งชีวิตเ
พื่อนำมาลงทุนให้งอกเงยเพราะอยากมีวันนี้ค่ะ
"VI แม่บ้าน"
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/ph ... =1&theater
...............
จากวันนี้จะเขียนบทความเล็กๆ สื่อสารกับผู้อ่าน fb money talk (และ Thaivi ด้วย)
และจะใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม..ที่จริงอยากเป็นครู
การเขียนสามารถถ่ายทอดแนวคิดเป็นวงกว้างคล้ายๆ ครู
ถือว่าตอบโจทย์ และงานนี้คืองานที่รักค่ะ...ขอบคุณทุกท่าน
ที่ติดตาม fb money talk และบทความเล็กๆ ที่เราตั้งใจเขียนค่ะ ^__^
................
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
และสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) อย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
(Team Money Talk 4)
...............
Post เรื่องนี้ไว้ใน fb ส่วนตัว แล้วอาจารย์ ดร.ไพบูลย์ ท่านบอกว่าให้นำมาลง
ใน fb money talk ด้วย...เพราะอาจเป็นประโยชน์แก่แฟนๆ Money Talk ด้วยค่ะ
................
ปกติไม่ค่อยชอบ post เรื่องส่วนตัว (ใน fb) บ่อยๆ จะเลือกครั้งสำคัญๆ
และเห็นว่าการลาออกจากราชการ ที่มีผล 1 สิงหาคม 2557 (วันนี้)
เป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต...หารูปทั้งบ้านพบว่าเรามีรูปแค่นี้
เรื่องการลาออกได้เร็วอาจเป็นกำลังใจให้ใครหลายคนที่ขยัน
1.หาเงิน 2.ออมเงิน และ 3.นำไปลงทุนให้งอกเงย ได้บ้างค่ะ
..............
- ตอนจบพยาบาลจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีศรีธัญญา
ก็มีไม่กี่รูป เป็นรูปหมู่ที่ตัวเราเองเล็กๆ อยู่ในรูปเท่าที่เห็น ^__^
..............
- ตอนจบ ป.ตรีรามคำแหง เรียนแบบอ่านหนังสือสอบเองจึงไม่มีเพื่อน
ตอนรับปริญญาเตี่ยขับรถมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดพามาปล่อยลงที่สวนอัมพร
แล้วเข้าหอประชุมเลย...รับเสร็จเดินกลับบ้านญาติที่อยู่แถวเทเวศร์เอง
(เดินถอดชุดครุยไปเรื่อย 55+)
...............
- ป.โท เรียนไปเลี้ยงลูกไปจบช้ากว่าเพื่อน 1 ปี
ตอนรับปริญญาเลยไม่มีเพื่อนอีก เหมือนเดิมไม่ต้องนัดใคร
ให้คุณพ่อของลูกไปส่ง ที่ มศว.องครักษ์
รับเสร็จเดินออกมาที่จุดนัด...ไม่มีรูปอีก
................
ชอบตัวเองที่ไม่เคยต้องแต่งหน้าทำผมสำหรับงานรับปริญญาเลย
(ครั้งแรกพี่ๆ ลูกน้าแต่งให้เล็กน้อย) ครั้งอื่นๆ ไม่ต้องเลย (ทาปากเล็กน้อย)
ใช้ชีวิตแบบเรียบๆ มาแต่ไหนแต่ไร...รูปก็ไม่ค่อยมี...สมัยก่อนกล้องฟิล์ม
ไหนจะค่าฟิล์ม ค่าล้างอัด และที่สำคัญต้องมีคนไปถ่ายให้อีกเกรงจะยุ่งยาก
ทุกๆ อย่างเก็บในความทรงจำก็พอ ^__^
...............
ใน fb มีเพื่อนมาถามว่าวางแผนจะทำอะไรต่อ
ที่จริงการเกษียณเร็วนี้อยู่ในแผนมาตลอด วันนี้ถือว่าเป็นไปตามแผน
หากใครเคยชม clip “VI แม่บ้าน" จะทราบว่าหาเงินเพิ่ม
โดยรับอยู่เวรห้องพยาบาลโรงงาน นำไข่จากอ่างทอง
มาส่งให้ร้านผัดไทย ราดหน้า ประหยัดและออม มาทั้งชีวิตเ
พื่อนำมาลงทุนให้งอกเงยเพราะอยากมีวันนี้ค่ะ
"VI แม่บ้าน"
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/ph ... =1&theater
...............
จากวันนี้จะเขียนบทความเล็กๆ สื่อสารกับผู้อ่าน fb money talk (และ Thaivi ด้วย)
และจะใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม..ที่จริงอยากเป็นครู
การเขียนสามารถถ่ายทอดแนวคิดเป็นวงกว้างคล้ายๆ ครู
ถือว่าตอบโจทย์ และงานนี้คืองานที่รักค่ะ...ขอบคุณทุกท่าน
ที่ติดตาม fb money talk และบทความเล็กๆ ที่เราตั้งใจเขียนค่ะ ^__^
................
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
และสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) อย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 760
ยินดีด้วยครับพี่นุช
และขอบคุณที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคมใกล้และสังคมไกล รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับทุกคนครับ
และขอบคุณที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคมใกล้และสังคมไกล รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับทุกคนครับ
ปลูกหุ้นกินผล
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 763
ผมเดาเอาหน่ะครับtheenuch เขียน:ขอบคุณมากเลยน้องสายชล..ข้างบนตอบคำถามน้องสายชลเลยsaichon เขียน:อยากฟังชีวิตตอนเกษียณราชการของพี่นุชจัง
ปล.ยินดีด้วยน๊ะครับ
รู้ได้ยังไงนะว่าพี่จะเขียนถึงเรื่องนี้...ถามตรงเลย
ผมว่าการมีอิสรภาพทางการเงินและการเกษียณจากงานประจำ
เพื่อจะได้ทำส่งที่ตนเองรักนี่ เป็นความฝันของใครหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย
ผมจึงคิดว่าเมื่อพี่นุชไปถึงเป้าหมายนั้น พี่ก็คงมีแผนสำหรับสิ่งที่พี่ชอบและอยากจะทำ
ในช่วงวัยที่เหลือของชีวิตไว้แล้วครับ
ถ้าผมมีวันนั้นบ้าง...
กิจกรรมหลังเกษียณของผมก็น่าจะเป็น...
นอน,ออกกำลังกายหรือพาลูกๆเดินสายไปแข่งเทนนิสเชิงท่องเที่ยว
หรือพาครอบครัวไปท่องเที่ยวเชิงไปปฏิบัติธรรม แนวๆนั้นหน่ะครับ
แฮ่...แต่ของผมคงต้องรอเวลาอีกหลายปี
วันนี้เลยถามผู้มีประสบการณ์อย่างพี่ไว้ก่อน เผื่อจะได้เอาไปประยุกต์ใช้กับของตนเองบ้างหน่ะครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 767
ขอบคุณค่ะน้อง jverakuljverakul เขียน:ยินดีด้วยครับพี่นุช
ขอบคุณนะคะคุณลูกหินลูกหิน เขียน:ยินดีด้วยครับ ขอให้คุณนุชมีความสุขมากๆครับ
ขอบคุณมากเลยค่ะพี่หมอมุขPaul VI เขียน:ไม่ได้เข้ามาซักพักนึงเลยเพิ่งทราบว่าคุณนุชเกษียณจากงานประจำแล้วเหรอครับ
ยินดีด้วยครับ ทำตามใจปรารถนา ตอบความฝันและเป้าหมายของตัวเอง
รับผิดชอบต่อความฝันและเป้าหมายของตัวเอง
ยินดีกับคุณนุชอีกครั้งจากใจจริงครับ
............
แอบเขินๆ อยู่เหมือนกันนะ...เกรงจะเข้าใจผิดว่าสำเร็จมาก
ถ้าเทียบกับนักลงทุนที่เก่งๆ ท่านอื่นๆ อาจจะน้อย
แต่ประเมินจากครอบครัวตัวเอง เช่น รายจ่าย
ลักษณะการใช้จ่ายของครอบครัวในปัจจุบัน
ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตก็คิดว่าเราออกได้แล้ว
- ครบ 25 ปี ได้บำนาญ และค่ารักษาตลอดชีวิต
และซื้อประกันสุขภาพเพิ่มไว้ด้วยค่ะ..คงเอาอยู่
ตั้งใจว่าถ้าเจ็บป่วยจะไป รพ.รัฐบาล ไว้ก่อนตามสิทธิ
แม้เอกชนจะสบายกว่าก็จริงแต่ไม่อยากจ่ายเปลืองโดยใช่เหตุ
อาจเพราะเราอยู่ใกล้ รพ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีมาตรฐานดี
เท่าที่ใช้บริการอยู่ทั้งครอบครัว...ก็ถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
..........
ภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน
- ไม่ต้องผ่อนรถ และรถสภาพยังดีมาก 1 ปี และ 2 ปี
ดังนั้นน่าจะใช้ได้อีกนานมากๆๆๆ ไม่มีภาระเรื่องนี้ในระยะใกล้
- บ้านยังผ่อนธนาคารอยู่เหลือแค่ 2 แสน เพราะ refinance มา
ยังไม่ครบกำหนดถ้าปิดก่อน กพ. 2558 จะถูกปรับมาก
(ยอดเหลือน้อยกว่าวงเงินประกันคุ้มครองผู้ส่งเบี้ยแล้วด้วย)
ที่จ่ายอยู่ พอถึงกำหนดจะหมดพอดี (คุณพ่อของลูกยังทำงานอยู่
ยังมีกระแสเงินสดเข้าตลอดแต่หากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น
ต้องออกจากงาน (% น้อยมาก) หรือแม้แต่จากไปแบบไม่คาดคิด
ก็เลิกผ่อนได้เลยประกันจ่าย...หรือถ้าไม่เสียชีวิตแต่ตกงาน
ก็เตรียมเงินไว้เผื่อแล้วโดยที่ไม่ต้องขายหุ้นออกมาค่ะ
ชอบคิดลบกับเรื่องแบบนี้...และชอบคิดแบบ "มรณานุสติ"
ช่วยทำให้เรา...วางแผนเพื่อปิดความเสี่ยงไว้ครอบคลุมดี)
-ภาระอื่นๆ ไม่ค่อยมี เตี่ยกับแม่เป็นข้าราชการบำนาญ
น้องชายแฟน เป็นข้าราชการ พ่อแม่เค้าก็มีสิทธิค่ารักษา
ดังนั้นผู้สูงอายุในความดูแลทั้งหมด เบิกค่ารักษาพยาบาลได้
แต่ก็ไม่ประมาท เตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้แล้วจำนวนหนึ่ง
เก็บไว้ต่างหากไม่ไปยุ่งเลย..สะสมในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ
คิดว่าต้องใช้มากไว้ก่อน ถ้าในความเป็นจริงใช้น้อย ก็ถือว่าดีไป
............
- ตอนยังไม่ลงทุน เคยกังวลเรื่องถ้าแฟนตกงาน หรือเสียชีวิต
แม่ลูกจะลำบากเพราะเค้าเป็นรายได้หลัก จึงเน้นทำประกันชีวิต
ให้คนที่เป็นรายได้หลัก เพราะถ้าตัวเราเป็นอะไรไปก่อน
เค้ามีรายรับเยอะสบายอยู่แล้ว ถ้าเค้าไปก่อนเราก็ได้เงินประกัน
แต่ก็กังวลว่าเงินประกันคงอยู่ได้ไม่นาน...จะทำอย่างไร
ก็คิดเผื่อไว้หลายทางมาก จึงพยายามจะลงทุนพวกคอนโด
และที่ดินกะไว้สร้างอพาร์ทเมนต์ (ถ้าสร้างจริงคงต้องกู้
และตั้งใจว่าผ่อนมากๆ แล้วค่อยเก็บกินในบั้นปลาย)
แต่พอมาลงทุนในหุ้นเลยขายทั้งคอนโดทั้งที่ดิน
มาลงทุนหมดเลย ที่เคยได้เล่าไว้ในกระทู้แรก
(ที่ดินที่เป็นเตี่ยให้ยังอยู่...ตั้งใจจะไม่ขายค่ะ)
...............
ตอนนี้มีรายรับจากปันผลที่พอค่าเล่าเรียนลูก
(ลูกเรียนแพงหน่อย..ส่วนนี้จึงมากที่สุด) ปันผลที่เหลือ
ก็ลงทุนเพิ่ม และเงินเดือนคุณพ่อที่เหลือยังลงทุนเพิ่มไปเรื่อยๆ
และหุ้นบางตัวที่จ่ายปันผลเป็นหุ้นก็ไม่เป็นไรสะสมไปเรื่อยๆ
(ไม่ได้ชี้นำค่ะ..เพราะหุ้นแบบบี้ก็มีหลายตัว แต่ขอบอกว่า
จะไม่บอกชื่อหุ้นและกลุ่มธุรกิจเด็ดขาดทั้งหน้าและหลังไมล์ค่ะ)
วันใดที่เค้าจ่ายปันผลเป็นเงินสดขึ้นมา...ก็จะมีปันผลเพิ่มอีก
จากวันนี้ไปปันผลจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ
................
เมื่อลูกเรียนจบ ป.ตรี คุณพ่อจะเกษียณพอดี ปันผลที่เคยส่งลูกเรียน
ก็จะเป็นค่าดูแลพวกเราพอดี กินอยู่แบบทุกวันนี้ คิดว่าพอแน่นอนค่ะ
...................
ลาออกก็ได้บำนาญ แม้ลดลงจากเงินเดือนเกินครึ่ง
แต่เราก็ประหยัด ค่าน้ำมันรถไปได้ 1 คัน...ภาษีสังคมตัดทิ้ง
ที่บ้านไม่มีพี่เลี้ยงเด็กหรือคนทำงานบ้านค่ะ...งานบ้านนั้นอยู่ตัวแล้ว
แต่ลูก...ที่ผ่านมาเวลาปิดเทอมต้องตามไปที่โรงพยาบาลด้วย
รพ.ย่อมมีเชื้อโรคเป็นธรรมดา...เด็กๆ หรือผู้ที่ไม่ป่วยไม่ควรไปค่ะ
ต่อไปนี้เวลาลูกปิดเทอมจะได้อยู่ด้วยกัน เค้าก็ติดพ่อแม่
เวลาไปไหนก็ไม่เคยขอแยกไป เวลาเค้าไปทำกิจกรรมกลุ่ม
เค้าก็ชอบให้เราไปด้วย ขาดเหลืออะไรเราก็หาให้ได้ทัน
เคยไปนั่งรอเด็กๆ ดูหนังกัน ราก็เอาหนังสือไปอ่าน
นั่งคิดโครงบทความในหัวบ้างก็มี พอเด็กๆ ดูหนังเสร็จ
ก็ทานข้าวด้วยกัน บางทีก็ไปส่ง แวะส่งบ้านโน้น บ้านนี้
เลยได้รู้จักเพื่อนๆ ลูกทั้งหมด เด็กๆ ก็ไว้ใจ ตอนอยู่กับวัยรุ่น
ก็คุยภาษาวัยรุ่น อันไหนที่คุยไม่รู้เรื่อง..ก็ฟัง (ส่วนใหญ่ก็รู้เรื่อง)
สบายใจ...ลูกวัยรุ่นอยู่ในสายตาดีด้วยค่ะ
(ไม่ได้อยากควบคุมแต่บังเอิญเรายินดีบริการและเด็กๆ ก็ไว้ใจ
เลยได้ควบคุมแบบอ้อมๆ ไปในตัว...แต่เค้าก็ไม่ได้นัดกันบ่อย)
..............
คิดว่าคำตอบอาจมีประโยชน์แก่ผู้อื่นในเรื่อง
การมองภาพใหญ่ และมองการณ์ไกลได้บ้างค่ะ
(แซวตัวเอง...ตอบยาวประจำ... )
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 768
ด้านบนนี้คงมีประโยชน์กับน้อง E-man บ้างนะคะE-man เขียน:น่าอิจฉาจัง
ผมเหลืออีก 4 ปี อายุราชการจึงจะครบ 25 ปี วางแผนเตรียมเกษียณ ไว้เช่นกันครับ
สู้ สู้ จะบอกว่าปีสุดท้ายนะ..รู้สึกว่าเวลาผ่านเร็วสุดๆ เลยหละ
วันแรกที่ลาออกมา...ได้ไปรอคิวโออิชิ 50 %
กะเขาบ้างเหมือนกัน ขนาดไปเร็วยังได้รอบสองเลย
รู้สึกว่า...เรามีวันธรรมดาที่รู้สึกโล่งๆ สบายๆ ขนาดนี้ด้วยหรือนี่
ที่ผ่านมา แม้วันที่ลาพักผ่อนหรือวันหยุดอะไรก็ตาม
แม้แต่วันหยุดยาวติดต่อกัน...ก็ไม่ได้ความรู้สึกโล่งสบายขนาดนี้เลยค่ะ
เล่าให้ฟังจะได้รีบลงทุนให้ดีๆ แล้วตามมานะคะ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 771
ยินดีด้วยครับ ขอให้คุณนุชประสบความสำเร็จมาก ๆ ครับ ทั้งจากชีวิตส่วนตัวและงาน (ไม่) ประจำ
สไตล์คุณนุช คงอยู่นิ่งไม่ได้หรอกครับ คงต้องหาโน่นนี่นั่นที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคมมาทำแน่ ๆ
รอฟังต่อนะครับ เส้นทางหลังจากนี้
สไตล์คุณนุช คงอยู่นิ่งไม่ได้หรอกครับ คงต้องหาโน่นนี่นั่นที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคมมาทำแน่ ๆ
รอฟังต่อนะครับ เส้นทางหลังจากนี้
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 772
ยินดีด้วยนะฮะ
ที่ได้เป็นวีไอ"บ้านๆ"(ที่ไม่ต้องไปที่ทำงาน)เต็มตัว
เขียนอะไรมาเรื่อยๆคล้ายๆนี้ก็ได้นะฮะ
http://retireby40.org/hows-life-2-years ... etirement/
คุณโจ(คนละโจกะอ.ผม)เค้าเป็นคนไทยไปอยู่เมกา
ทำงานบ.ไฮเทคแล้วเกษียณตัวเองตั้งแต่อายุน้อย ลงทุนหุ้น อสังหา เวปไซด์ ๆลๆ
ยังรู้สึกลึกๆว่าท่านtheenuch คงกลับมาทำอพาร์ทเม้นท์แบบuniversal design
กึ่งๆnursing homeน่ะฮะ
ที่ได้เป็นวีไอ"บ้านๆ"(ที่ไม่ต้องไปที่ทำงาน)เต็มตัว
เขียนอะไรมาเรื่อยๆคล้ายๆนี้ก็ได้นะฮะ
http://retireby40.org/hows-life-2-years ... etirement/
คุณโจ(คนละโจกะอ.ผม)เค้าเป็นคนไทยไปอยู่เมกา
ทำงานบ.ไฮเทคแล้วเกษียณตัวเองตั้งแต่อายุน้อย ลงทุนหุ้น อสังหา เวปไซด์ ๆลๆ
ยังรู้สึกลึกๆว่าท่านtheenuch คงกลับมาทำอพาร์ทเม้นท์แบบuniversal design
กึ่งๆnursing homeน่ะฮะ
samatah
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 775
รุ้สึกขอบคุณทุกๆ คนมากเลยค่ะ
น่ารักกันจริงๆ "บ้านๆ" ของพวกเรา
คาดว่าอีก สองปีหลังจากนี้...จะมาเขียนอีกที
(เลียนแบบที่คุณหมอหนึ่งให้ link มา 55+ )
How’s Life 2 Years After Early Retirement?
http://retireby40.org/hows-life-2-years ... etirement/
...........
เดี่ยวว่างๆ ค่อยมาตอบยาวตาม style นะคะ
น่ารักกันจริงๆ "บ้านๆ" ของพวกเรา
คาดว่าอีก สองปีหลังจากนี้...จะมาเขียนอีกที
(เลียนแบบที่คุณหมอหนึ่งให้ link มา 55+ )
How’s Life 2 Years After Early Retirement?
http://retireby40.org/hows-life-2-years ... etirement/
...........
เดี่ยวว่างๆ ค่อยมาตอบยาวตาม style นะคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 776
(แจก file) "Refinance" หรือ "ผ่อนบ้านเพิ่ม" กันเถอะ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...............
วันนี้ทำตาราง refinance บ้านมาฝากแฟนๆ Money Talk (ควร re ทุก 3 ปีค่ะ)
หรือใช้กับการผ่อนปกติเพื่อจะวางแผนจ่ายเพิ่มให้หมดเร็วก็ได้ค่ะ
(เพื่อให้ตารางเล็กลงจึงซ่อน row ไว้บ้าง สังเกต 2 คอลัมภ์ ท้ายจะทราบค่ะ)
...……..... อธิบายตาราง
.
แบบ A คือ ผ่อนมา 3 ปี แล้วหมดโปรดอกเบี้ยถูก
ต้องเปลี่ยนมาใช้ดอกเบี้ยลอยตัว สมมติ 7.15 - 7.25 %
เพิ่ม/ลด ตามดอกเบี้ยนโยบายบ้างเล็กน้อย
.
แบบ B ถ้า re ไปใช้ดอกเบี้ยคงที่ ขั้นบันได
สมมติ ร้อยละ 3 , 3.5 และ 4 % ต่อปี
.
เป็นการฉายภาพให้เราเห็นเป็นรูปธรรมค่ะ อยากให้สังเกตสองจุดค่ะ
1. ดอกเบี้ยรวมที่ลดลงและส่วนต่าง (สีชมพู)
2. ยอดเงินต้น ที่ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อครบ 3 ปี (สีน้ำเงิน)
.
เวลาไปถามอัตราดอกเบี้ย อย่าลืมดูว่าอัตราที่แบงค์บอกอิงกับ
MLR หรือ MRR แต่ละแบงค์ใช้ไม่เหมือนกันค่ะ ^__^
...............
อีกตารางคือประมาณค่าธรรมเนียมที่ต้องเสีย
.
เราไม่ควร re จากที่เดิมก่อนครบ 3 ปี (จะเสียค่าปรับ)
ค่าประกันคุ้มครองผู้ส่งเบี้ยนั้น ประมาณให้
(ที่จริงต้องเป็นประกันคุ้มครองสินเชื่อ หรือ
ประกันคุ้มครองผู้ชำระสินเชื่อ...ติดคำมากจากประกันชีวิตค่ะ)
ซึ่งจะแปรผันตาม อายุ เพศ และวงเงินคุ้มครอง
ประกันอัคคีภัยก็เป็นค่าประมาณที่ใกล้เคียงค่ะ
ถ้า re เพื่อดอกเบี้ยถูกลงแต่อยู่แบงค์เดิม
ไม่ต้องประเมินใหม่ และใช้ประกันเดิมต่อได้เลย
ถ้าย้ายแบงค์ต้องมีค่าประเมิน และต้องซื้อประกันใหม่
(บางแบงค์ไม่ต้อง)...แต่ประกันเก่าขอเวนคืนได้ค่ะ
…….......
มีตาราง excel ให้ download ได้ click ที่นี่เลยค่ะ
https://theenuch.opendrive.com/files?NF ... OV9HU1NtSQ
.................
ใน excel ทำเป็นตุ๊กตามาให้อีกหลาย sheet เปลี่ยนเงินต้น
และอัตราดอกเบี้ยต่อปี ที่ได้จากหลายๆ แบงค์เทียบกันนะคะ
มีช่องจ่ายเพิ่มให้ด้วย กรณีมีเงินต่อเดือนเหลือมาก มีโบนัส
หรือปันผลจากหุ้นเข้ามาจำนวนมาก ก็ใส่ตัวเลขลงไปเลยค่ะ
.
เราจะได้เห็นว่า "เมื่อดอกเบี้ยลด" เงินที่เราจ่ายไปจะกลายเป็น
"เงินต้นต่อเดือน" เพิ่มขึ้น และเงินต้นคงเหลือจะลดลงเร็วกว่า
มีผลทางจิตวิทยา จะช่วยให้เราอยากจ่ายให้หมดเร็วขึ้นค่ะ
................
ขอให้มีความสุขกับการผ่อนบ้านนะคะ ^__^
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...............
วันนี้ทำตาราง refinance บ้านมาฝากแฟนๆ Money Talk (ควร re ทุก 3 ปีค่ะ)
หรือใช้กับการผ่อนปกติเพื่อจะวางแผนจ่ายเพิ่มให้หมดเร็วก็ได้ค่ะ
(เพื่อให้ตารางเล็กลงจึงซ่อน row ไว้บ้าง สังเกต 2 คอลัมภ์ ท้ายจะทราบค่ะ)
...……..... อธิบายตาราง
.
แบบ A คือ ผ่อนมา 3 ปี แล้วหมดโปรดอกเบี้ยถูก
ต้องเปลี่ยนมาใช้ดอกเบี้ยลอยตัว สมมติ 7.15 - 7.25 %
เพิ่ม/ลด ตามดอกเบี้ยนโยบายบ้างเล็กน้อย
.
แบบ B ถ้า re ไปใช้ดอกเบี้ยคงที่ ขั้นบันได
สมมติ ร้อยละ 3 , 3.5 และ 4 % ต่อปี
.
เป็นการฉายภาพให้เราเห็นเป็นรูปธรรมค่ะ อยากให้สังเกตสองจุดค่ะ
1. ดอกเบี้ยรวมที่ลดลงและส่วนต่าง (สีชมพู)
2. ยอดเงินต้น ที่ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อครบ 3 ปี (สีน้ำเงิน)
.
เวลาไปถามอัตราดอกเบี้ย อย่าลืมดูว่าอัตราที่แบงค์บอกอิงกับ
MLR หรือ MRR แต่ละแบงค์ใช้ไม่เหมือนกันค่ะ ^__^
...............
อีกตารางคือประมาณค่าธรรมเนียมที่ต้องเสีย
.
เราไม่ควร re จากที่เดิมก่อนครบ 3 ปี (จะเสียค่าปรับ)
ค่าประกันคุ้มครองผู้ส่งเบี้ยนั้น ประมาณให้
(ที่จริงต้องเป็นประกันคุ้มครองสินเชื่อ หรือ
ประกันคุ้มครองผู้ชำระสินเชื่อ...ติดคำมากจากประกันชีวิตค่ะ)
ซึ่งจะแปรผันตาม อายุ เพศ และวงเงินคุ้มครอง
ประกันอัคคีภัยก็เป็นค่าประมาณที่ใกล้เคียงค่ะ
ถ้า re เพื่อดอกเบี้ยถูกลงแต่อยู่แบงค์เดิม
ไม่ต้องประเมินใหม่ และใช้ประกันเดิมต่อได้เลย
ถ้าย้ายแบงค์ต้องมีค่าประเมิน และต้องซื้อประกันใหม่
(บางแบงค์ไม่ต้อง)...แต่ประกันเก่าขอเวนคืนได้ค่ะ
…….......
มีตาราง excel ให้ download ได้ click ที่นี่เลยค่ะ
https://theenuch.opendrive.com/files?NF ... OV9HU1NtSQ
.................
ใน excel ทำเป็นตุ๊กตามาให้อีกหลาย sheet เปลี่ยนเงินต้น
และอัตราดอกเบี้ยต่อปี ที่ได้จากหลายๆ แบงค์เทียบกันนะคะ
มีช่องจ่ายเพิ่มให้ด้วย กรณีมีเงินต่อเดือนเหลือมาก มีโบนัส
หรือปันผลจากหุ้นเข้ามาจำนวนมาก ก็ใส่ตัวเลขลงไปเลยค่ะ
.
เราจะได้เห็นว่า "เมื่อดอกเบี้ยลด" เงินที่เราจ่ายไปจะกลายเป็น
"เงินต้นต่อเดือน" เพิ่มขึ้น และเงินต้นคงเหลือจะลดลงเร็วกว่า
มีผลทางจิตวิทยา จะช่วยให้เราอยากจ่ายให้หมดเร็วขึ้นค่ะ
................
ขอให้มีความสุขกับการผ่อนบ้านนะคะ ^__^
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1959
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 777
น่าสนใจดีครับ
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNew ... 0000091299
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ข้อคิด 16 ประการ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน จาก “บิลล์ เกตส์”
1. Life is not fair - get used to it!
ชีวิตนี้ไม่ยุติธรรมนักหรอก ทำความเคยชินกับมันซะเถอะ!
2. The world doesn't care about your self-esteem. The world will expect you to accomplish something before you feel good about yourself.
โลกไม่ได้สนใจหรอกว่าคุณมั่นใจในตัวเองแค่ไหน แต่โลกนี้คาดหวัง “ความสำเร็จ” ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณต่างหาก
3. You will NOT make $60,000 a year right out of high school. You won't be a vice-president with a car phone until you earn both.
ไม่มีทางที่คุณจะทำเงินได้ปีละ 60,000 เหรียญ หรือเกือบ 2 ล้านบาท ทันทีที่คุณเพิ่งจบมัธยม และก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นประธานบริษัทมีรถประจำตำแหน่งพร้อมโทรศัพท์ในรถส่วนตัวด้วย
4. If you think your teacher is tough, wait until you get a boss.
ถ้าคุณคิดว่า อาจารย์กำลังสอนบทเรียนอันน่าเบื่อ ก็ลองไปทำงานแล้วเจอกับเจ้านายดู แล้วคุณจะรู้ว่าอะไรน่าเหนื่อยอ่อนกว่ากัน
5. It's fine to celebrate success, but it is more important to heed the lessons of failure.
มันเป็นเรื่องดีที่จะฉลองให้กับความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการระมัดระวังบทเรียนของความล้มเหลว
6 . If you mess up, it's not your parents' fault, so don't whine about your mistakes, learn from them.
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ เลิกคร่ำครวญให้กับสิ่งที่ทำพลาดไปแล้ว แต่ “จงเรียนรู้จากมันซะ”
7. Before you were born, your parents weren't as boring as they are now. They got that way from paying your bills, cleaning your clothes and listening to you talk about how cool you thought you were. So before you save the rain forest from the parasites of your parent's generation, try delousing the closet in your own room.
ก่อนที่คุณจะเกิด พ่อแม่ไม่ได้น่าเบื่อเหมือนที่คุณรู้สึกตอนนี้ พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าบิลต่างๆ และต้องซักผ้าให้คุณ พวกเขาต้องอดทนฟังคุณคุยโอ้อวดในเรื่องไร้สาระ ดังนั้นถ้าคุณคิดจะทำเรื่องใหญ่ๆ หรืออะไรก็ตาม ช่วยเก็บตู้เสื้อผ้ารกๆ ของคุณให้สะอาดซะก่อน
8. Your school may have done away with winners and losers, but life HAS NOT. In some schools, they have abolished failing grades and they'll give you as MANY TIMES as you want to get the right answer. This doesn't bear the slightest resemblance to ANYTHING in real life.
ชีวิตในโรงเรียนอาจตัดสินคุณว่า เป็นผู้ชนะหรือแพ้ แต่ชีวิตจริง “ไม่ใช่” บางโรงเรียนสอนการเป็นผู้แพ้ด้วยซ้ำไป แถมยังให้โอกาสคุณมากมายในการทำสิ่งที่ถูกต้อง
9. "Life is not divided into semesters. You don't get summers off, and very few employers are interested in helping you. Find yourself.
ชีวิตไม่ได้แบ่งเป็นเทอมๆ เป็นภาคการเรียนๆ ไม่ได้มีช่วงซัมเมอร์ให้คุณค้นหาตัวตน!!
10. Television is not real life. In real life people actually have to leave the coffee shop and go to jobs.
สิ่งที่เกิดขึ้นในโทรทัศน์ ไม่ใช่ชีวิตจริง ผู้คนต้องรีบเช็คบิลจากร้านกาแฟ และตรงไปที่ทำงาน (เราจะเห็นว่าละครส่วนใหญ่คนมักจะออกจากที่ทำงานมาคุยกันที่ร้านกาแฟ)
11. Be nice to nerds. Chances are you'll end up working for one.
จงเป็นมิตรกับความ “เนิร์ด” แล้วชีวิตคุณจะไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครอีกคน
12. We always overestimate the change that will occur in the next two years and underestimate the change that will occur in the next ten. Don’t let yourself be lulled into inaction.
คนเรามักจะประเมินค่าไว้สูงในการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอีกสองปี และประมาทกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบปี จงอย่าไว้วางใจในความเกียจคร้านของตนเอง
13. Patience is a key element of success.
ความอดทนเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จ
14. If you can't make it good, at least make it look good.
ถ้าคุณไม่สามารถทำให้มันให้ดีได้ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้มันดูดี
15. Technology is just a tool. In terms of getting the kids working together and motivating them, the teacher is the most important.
เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น ส่วนการสร้างแรงจูงใจและให้พวกเขาทำงานร่วมกันได้ดีนั้น ครูถือเป็นอาชีพที่สำคัญที่สุด
16. Enjoy this while you can. Sure parents are a pain, school's a bother, and life is depressing. But someday you'll realize how wonderful it was to be a kid. Maybe you should start now. You're welcome.
จงสนุกสนานและเต็มที่กับทุกช่วงเวลาที่คุณสามารถทำได้ ถึงแม้การอยู่โรงเรียนจะน่าเบื่อและรู้สึกเหมือนโดนกดดัน แต่วันหนึ่งคุณจะรู้ว่าการเป็นเด็กนั้นมหัศจรรย์แค่ไหน บางทีคุณควรจะเริ่มสนุกกับชีวิตตั้งแต่ตอนนี้
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 779
นำ post นี้มาให้อ่านกันอีกครั้งค่ะ...เผื่อใครยังไม่เคยอ่าน
.
**เราทำได้_ทุกคนก็ทำได้**
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater
..................
ภาพชุดนอนเก่าๆ ใน post ไม่ได้จะสื่อแค่เรื่องการประหยัด
จริงๆ แล้วอยากชวนคุยเรื่องของการเห็นคุณค่ามากกว่าค่ะ
.................
วันก่อนไปเที่ยวรีสอร์ทที่กาญจนบุรี มีฐานผจญภัย โรยตัว 6 ฐาน
และ รถ ATV รวมๆ กิจกรรมทั้งหมดใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
1,100 บาท/คน ถ้าเล่นทั้งครอบครัว 1,100 x 3 = 3,300
.
จึงให้ลูกเล่นคนเดียว เพราะเขายังอยู่ในวัยสนุกและต้องเรียนรู้
มีเงินในกระเป๋าพร้อมจ่าย แต่เลือกที่จะไม่จ่ายค่ะ
.
เลือกนำไปบริจาคให้โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (มูลนิธิเด็ก)
อยู่จังหวัดเดียวกัน..ประหยัดได้จากการละความสุขวูบนึง
สามารถนำไปสร้างคุณค่าได้มากกว่าหลายเท่าเลยค่ะ
............
.
**เราทำได้_ทุกคนก็ทำได้**
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater
..................
ภาพชุดนอนเก่าๆ ใน post ไม่ได้จะสื่อแค่เรื่องการประหยัด
จริงๆ แล้วอยากชวนคุยเรื่องของการเห็นคุณค่ามากกว่าค่ะ
.................
วันก่อนไปเที่ยวรีสอร์ทที่กาญจนบุรี มีฐานผจญภัย โรยตัว 6 ฐาน
และ รถ ATV รวมๆ กิจกรรมทั้งหมดใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
1,100 บาท/คน ถ้าเล่นทั้งครอบครัว 1,100 x 3 = 3,300
.
จึงให้ลูกเล่นคนเดียว เพราะเขายังอยู่ในวัยสนุกและต้องเรียนรู้
มีเงินในกระเป๋าพร้อมจ่าย แต่เลือกที่จะไม่จ่ายค่ะ
.
เลือกนำไปบริจาคให้โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (มูลนิธิเด็ก)
อยู่จังหวัดเดียวกัน..ประหยัดได้จากการละความสุขวูบนึง
สามารถนำไปสร้างคุณค่าได้มากกว่าหลายเท่าเลยค่ะ
............
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 780
อยู่กับปัจจุบัน....กันจริงหรือ?
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
“การไม่มีเงิน” เป็นแค่ “ปัญหาชั่วคราว”
แต่การไม่มีเป้าหมายและความฝันเป็น “ปัญหาตลอดชีวิต”
.
เพราะการไม่มีเป้าหมายและความฝัน..จะส่งผลให้
“การไม่มีเงิน” กลายเป็น “ปัญหาตลอดชีวิต” ไปด้วย
.................
คุยเรื่องวางแผนการเงินกับหลายๆ คน พบว่าน่าเป็นห่วง
เจอบ่อยที่อ้างว่า “อยู่กับปัจจุบัน” ตามหลักพุทธศาสนา
แต่นำมาใช้เพียงมิติเดียว คือ "ขอมีความสุขในปัจจุบัน"
.
"จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รุู้ มีเงินก็ใช้หาความสุขให้ชีวิตไปเถอะ"
มักให้เหตุผลอย่างนี้. จบลงด้วย "หาเช้า กินค่ำ"/"หาเดือน กินเดือน"
.
แต่ดันมีหนี้สินระยะยาวนี่สิ!...ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือแม้แต่
“นำเงินในอนาคต” มาใช้ (บัตรเครดิต บัตรเงินสด..เยอะ!)
"อยู่กับปัจจุบัน" ก็ควรใช้เงินปัจจุบัน..นำเงินอนาคตมาใช้ทำไม?
("ที่ตอบ" กับ "ที่ทำ" ค้านๆ กันอยู่นะ!...ยิ้มเลย..เคยเจอใช่มั้ยคะ! )
..................
ถ้าเปรียบ..ชีวิตปัจจุบันของเราเสมือนการอยู่ในป่าลึก
.
สมมติว่าทางไปสู่ชีวิตที่ดีต้องมุ่งไปทาง "ทิศเหนือ"
.
สิ่งที่ควร คือ...
คิด_วางเป้าหมายและแผนการเดินทางให้เรียบร้อย
เตรียมเสบียงให้พร้อมแล้วออกเดินทาง
.
ระหว่างเดินทางนี่เองที่ต้อง "อยู่กับปัจจุบัน"
ตามหลักพุทธศาสนา คือ "มีสติ มีสมาธิ มีความเพียร"
.
ตา_ต้องดูดาวเหนือหรือเข็มทิศ
มือ_ถือมีดพร้า...ถากถางเส้นทาง
ขา_ต้องก้าวไปเรื่อย พักมาก สบายมาก ก็ย่อมถึงช้า
ถ้าขยันและมุ่งมั่นมาก...ก็ย่อมถึงเร็วกว่า เป็นธรรมดา
.
ถ้าไม่วางแผน..พอใจจะเดินสุ่มไป..ก็ย่อมได้
แต่ต้องไม่ลืม "เวลาเป็นของมีค่า" และ "ไม่อาจย้อนคืน"
.................
ลืมที่ว่า "ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ" ไปแล้วหรือ?
ถ้าอยากให้ผลในอนาคตดี..ก็ "ทำเหตุในปัจจุบันให้ดี"
จึงจะเรียกได้ว่า "อยู่กับปัจจุบัน" อย่างมีเหตุผลค่ะ
................
เราอยู่กับปัจจุบัน (ในบริบทที่ถูกต้อง)....กันจริงหรือ?
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
“การไม่มีเงิน” เป็นแค่ “ปัญหาชั่วคราว”
แต่การไม่มีเป้าหมายและความฝันเป็น “ปัญหาตลอดชีวิต”
.
เพราะการไม่มีเป้าหมายและความฝัน..จะส่งผลให้
“การไม่มีเงิน” กลายเป็น “ปัญหาตลอดชีวิต” ไปด้วย
.................
คุยเรื่องวางแผนการเงินกับหลายๆ คน พบว่าน่าเป็นห่วง
เจอบ่อยที่อ้างว่า “อยู่กับปัจจุบัน” ตามหลักพุทธศาสนา
แต่นำมาใช้เพียงมิติเดียว คือ "ขอมีความสุขในปัจจุบัน"
.
"จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รุู้ มีเงินก็ใช้หาความสุขให้ชีวิตไปเถอะ"
มักให้เหตุผลอย่างนี้. จบลงด้วย "หาเช้า กินค่ำ"/"หาเดือน กินเดือน"
.
แต่ดันมีหนี้สินระยะยาวนี่สิ!...ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือแม้แต่
“นำเงินในอนาคต” มาใช้ (บัตรเครดิต บัตรเงินสด..เยอะ!)
"อยู่กับปัจจุบัน" ก็ควรใช้เงินปัจจุบัน..นำเงินอนาคตมาใช้ทำไม?
("ที่ตอบ" กับ "ที่ทำ" ค้านๆ กันอยู่นะ!...ยิ้มเลย..เคยเจอใช่มั้ยคะ! )
..................
ถ้าเปรียบ..ชีวิตปัจจุบันของเราเสมือนการอยู่ในป่าลึก
.
สมมติว่าทางไปสู่ชีวิตที่ดีต้องมุ่งไปทาง "ทิศเหนือ"
.
สิ่งที่ควร คือ...
คิด_วางเป้าหมายและแผนการเดินทางให้เรียบร้อย
เตรียมเสบียงให้พร้อมแล้วออกเดินทาง
.
ระหว่างเดินทางนี่เองที่ต้อง "อยู่กับปัจจุบัน"
ตามหลักพุทธศาสนา คือ "มีสติ มีสมาธิ มีความเพียร"
.
ตา_ต้องดูดาวเหนือหรือเข็มทิศ
มือ_ถือมีดพร้า...ถากถางเส้นทาง
ขา_ต้องก้าวไปเรื่อย พักมาก สบายมาก ก็ย่อมถึงช้า
ถ้าขยันและมุ่งมั่นมาก...ก็ย่อมถึงเร็วกว่า เป็นธรรมดา
.
ถ้าไม่วางแผน..พอใจจะเดินสุ่มไป..ก็ย่อมได้
แต่ต้องไม่ลืม "เวลาเป็นของมีค่า" และ "ไม่อาจย้อนคืน"
.................
ลืมที่ว่า "ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ" ไปแล้วหรือ?
ถ้าอยากให้ผลในอนาคตดี..ก็ "ทำเหตุในปัจจุบันให้ดี"
จึงจะเรียกได้ว่า "อยู่กับปัจจุบัน" อย่างมีเหตุผลค่ะ
................
เราอยู่กับปัจจุบัน (ในบริบทที่ถูกต้อง)....กันจริงหรือ?
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้