การเสวนาในหัวข้อเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้า”
ที่มหาวิทยาลัยรังสิต วานนี้ (5ก.ย.นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์
และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรังสิต ได้กล่าวช่วงหนึ่งในการอภิปราย
เสนอให้ภาครัฐเรียกเก็บภาษีคนโสด ภาษีคนไม่มีลูก เพื่อกระตุ้นประชาชนให้มีครอบครัว
![รูปภาพ](http://www.posttoday.com/media/content/2013/09/06/338207DFFABD4D09B0E0E4246E333ACA.jpg)
หวังจะลดภาระงบประมาณการใช้สวัสดิการ และแก้ปัญหาการคาดแคลนแรงงานในประเทศได้อนาคต
หลังพบว่าปัจจุบันอัตราการเจริญพันธุ์ของไทยนั้นต่ำมาก เพียง 1.6 ต่อครอบครัว หรือ 1 คู่สมรส
มีลูกเพียง 1 คนกว่าเท่านั้น
ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้คนมีลูกน้อย หรือไม่ต้องการมีครอบครัว น่าจะมาจากแนวโน้มสังคมเมืองและเศรษฐกิจ
ที่เติบโตรวดเร็ว เพราะเมื่อเศรษฐกิจดีหนุ่มสาวจะเลือกทำงานเพื่อสร้างฐานะ ความมั่นคงในชีวิตมากกว่า
การหาคู่แต่งงานสร้างครอบครัว
ประกอบกับปัจจุบันค่าครองชีพ และต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตรสูงขึ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล
สินค้าข้าวของแพงขึ้น ครอบครัวส่วนใหญ่จึงเลือกมีลูกน้อย เพราะกลัวจะดูแลได้ไม่ดี
ดังนั้นจึงได้เสนอให้ภาครัฐมีมาตราการดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้คนมีครอบครัว
มีบุตร จะได้ป้องกันปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในอนาคตและนอกจากนี้ภาครัฐควรออกนโยบาย
โครงการลูกคนแรก โดยรัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย การเลี้ยงดูให้กับครอบครัวที่มีลูกคนแรก
รวมถึงให้เงินอุดหนุน หรือลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีลูกคน 2 และ 3 เพื่อสร้างแรงจูงใจกระตุ้นให้คนอยากมีลูก
มีครอบครัวเพิ่มขึ้น