หน้า 1 จากทั้งหมด 1

5 แรงแข็งขัน...

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 11:17 am
โดย tenkafubu
จากพลังผลักดันทั้ง 5 ของ เฮีย พอร์ทเตอ ซึ่งผมได้รู้จักคำนี้จาก Genie
1 การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
2 คู่แข่งใหม่
3 สินค้าทดแทน
4 supplier
5 ลูกค้า
พี่ๆ และเพื่อนๆ คิดว่าสิ่งไหนจะมีอิทธิพลสูงสุดครับ??
และหากบริษัทที่ชาว TVI ถือหุ้นอยู่นี้ เจอเต็มๆจังๆ เข้าสักตัว (จากทั้ง 5 แรง)จะเป็นอย่างไรครับ

5 แรงแข็งขัน...

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 12:33 pm
โดย Mon money
เท่าที่เห็นธุรกิจบ้านเรา ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องเหล่านี้เท่าไร เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงหน่อยก็โวยวายให้รัฐบาลช่วยจนนายกฯต้องออกมาว่าบ้าง ว่าให้รู้จักปรับตัวบ้าง ให้รู้จักสร้างความสามารถในการแข่งขันเองบ้าง ไม่ใช่รอให้รัฐบาลช่วยอย่างเดียว

ดูให้ดีๆ ผมว่ามีอีกหลายบริษัทที่พยายามความสามารถในการแข่งขัน โดยอาศัยพลังทั้งห้า

Re: 5 แรงแข็งขัน...

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 1:34 pm
โดย ปรัชญา
tenkafubu เขียน:จากพลังผลักดันทั้ง 5 ของ เฮีย พอร์ทเตอ ซึ่งผมได้รู้จักคำนี้จาก Genie
1 การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม

อะไรที่ทำแล้วได้กำไรส่วนต่าง เยอะๆ ก็มีการแข่งขันตัดราคาเพิ่มคุณภาพ

2 คู่แข่งใหม่

ทุกวันนี้เวลาผ่านไปสังคมเปลี่ยนแปรง ลูกน้องก็แยกตัวไปเป็นเฒ่าแก่
เซลรู้ตลาดที่รับซื้อ เขาก็ไปทำธุรกิจที่เขารู้จักคือการแย่งลูกค้า

3 สินค้าทดแทน

สินค้าที่ใกล้เคียง แต่ราคาถูกกว่า ยอมมาแทนที่เจ้าเดิม

4 supplier

...................

5 ลูกค้า

ต้องเพิ่มการตลาด สิทธิพิเศษ ดูแลใกล้ชิด แยกอุตสาหกรรม
ผมมองคำถามเป็นแบบนี้
แต่ในความเป็นจริงผมไม่ได้มองแต่หุ้นอย่างเดียว
มองธุรกิจ
มองราคา ว่าสมควรซื้อหรือหาหุ้นตัวใหม่
อาจจะดีไม่เท่าเหตุผลข้างบน ถ้าราคาสมควรผมก็ซื้อ
และถ้าจะซื้อ ก็ต้องมั่นใจในข้อมูลตัวเอง
หากรู้ไม่หมดรู้ไม่ครบ คือ เสี่ยง
แล้วถ้าใช้หูวิเคราะห์หุ้น ฟังโบรกเกอร์รับจ้างวิเคราะห์
จ.....กินเจ แน่นอน
เพราะเขาไม่ได้มารับผิดชอบเงินของเรา

มีไหมว่า...ขายซะธุรกิจนี้ไม่รอดแล้ว ยังไม่เคยเห็นเคยมี
ถ้ามีคงไม่เจ็บกันเกลื่อนตลาดหลักทรัพย์มาทุกยุคทุกสมัย
และจะดำรงคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

5 แรงแข็งขัน...

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 12:35 am
โดย ch_army
ผมว่าสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแค่ไหนขึ้นกับความรุนแรงครับ โดยเฉพาะเรื่องสินค้าทดแทนหากเกิดจากเทคโนโลยีที่เหนือชั้นก็นับว่าน่ากลัวที่สุดครับ เพราะเราคงตายแบบไร้ที่ฝังที่เดียวแต่ผมถือว่าเราเองก้วิจัยได้เหมือนกันครับ อาจเรียกว่าภัยซ่อนเร้นมากกว่า(เพราะมันไม่โผล่มาชัดๆ)

แต่ในยุ๕นี้เรื่องของ ลูกค้า คือ พระเจ้าเนี่ยก็น่ากลัวนะครับ เพราะตอนนี้แนวโน้มไปในทางเฉพาะด้านมากขึ้น

แต่เรื่อง supplier เนี่ยผทว่าการต่อรองอาจไม่ใช่ยากมากเพราะที่ว่าไปแล้วว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าเป็น พระเจ้าอยู่แล้วแต่สิ่งที่ยากคือ อุ๖ศาหกรรมที่ใช้เทคนิคซับซ้อน หรือมี supply chain ใหญ่เนี่ยเรื่องภัยจาก suppliers คงไม่น่ากลัวเท่ากับการจัดการ suplly chain ไม่ดีครับเพราะต้นทุนคงบานปลายแบบสุดๆ

ส่วนการแข่งขันภายใต้แบบเดิมๆในแง่ภัยข้อ1 และ 2 ผมว่ามันขึ้นกับฝีมือเด้วยแต่ 3 ข้อหลังเราคงคุมยากนิดนึงโดบเฉพาะสินค้าทดแทน เราต้องคิดทำลายตัวเองก่อนให้คนอื่นมาทำลายครับ
นี่แหละประเทศไทยตาสว่างกันได้แล้วมาทำ r&d กันซะที(แบบจริงๆจังๆ)