ลงทุนเดือนละ 10,000 บาท .. ก็มีสิบล้านได้
- เม่ากลับใจ
- Thai VI Partner
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเดือนละ 10,000 บาท .. ก็มีสิบล้านได้
โพสต์ที่ 1
ออมเงินเดือนละ 10,000 บาท
ระยะเวลา 153 เดือน
ก็มีเงิน 10,000,000 บาท ได้
===================
ความฝันของมนุษย์เงินเดือนหลายๆคน คือ การมีเงินเก็บ 10 ล้านบาทในสมุดบัญชี ก็น่าจะเพียงพอแล้วกับการที่เราจะมีชีวิตอยู่แบบสุขสบายและมีความสุขกับครอบครัวในบั้นปลายชีวิต
แต่ในชีวิตจริงกว่าจะไปถึงจุดหมายได้ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาก และ ต้องประหยัดอดออมเงินเป็นจำนวนมากหากจะตั้งเป้าหมายให้ถึง 10 ล้านบาท โดยต้องเป็นการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งอาจจะเป็นฝันที่ห่างไกลจากความเป็นจริง
พี่มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือ “เซียนมี่” นักลงทุนขวัญใจมหาชนเคยกล่าวไว้ 2 ประโยค และ เป็นประโยคที่มีความหมายกับนักลงทุนมาก คือ
1. เงินจะชอบคนเก่ง ถ้าคุณเก่ง เงินจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง
2. ผลตอบแทนทบต้นปีละ 26% จะทำให้พอร์ตโต 10 เท่า ใน 10 ปี
ซึ่งใน 2 ประโยคนี้ถ้ามนุษย์เงินเดือนที่เป็นนักลงทุนทำได้ การมีเงินในบัญชีธนาคาร หรือ พอร์ตการลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาทก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถจนเกินไป
หากลงทุนอย่างถูกต้อง และ ออมเงินอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยเริ่มจากการออมเงินเดือนละ 10,000 บาท อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และ ขยันหาโอกาสในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 2% (หรือ คิดเป็นผลตอบแทนทบต้น 12 เดือนที่ 26%) ก็จะสามารถมีเงิน 10 ล้านได้ภายในระยะเวลา 153 เดือน (หรือ 12 ปี 9 เดือน)
จะเห็นได้ว่าประโยคที่คลาสสิค "Magic Number ผลตอบแทน 26% ทบต้น" นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นด้วยเงิน 1,000,000 บาทในระยะเวลา 10 ปี เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 10 ล้านบาท ... แต่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงิน 10,000 บาท ในระยะเวลา 12 ปี 9 เดือน ก็สามารถถึงเป้าหมายที่ 10 ล้านบาทได้เช่นกัน
การเริ่มออมเงินให้ได้เดือนละ 10,000 บาทอาจจะไม่ง่าย หากเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพราะ เงินเดือนของการเริ่มงานวันแรกอาจจะไม่เหลือพอในการออม แต่สิ่งที่มีค่าในช่วงการเริ่มต้นทำงาน คือ เวลาว่างหลังเลิกงาน
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับนักลงทุน เพราะ เวลาที่นานพอจะทำให้ผลตอบแทนในการลงทุนนั้นงอกเงย ดังนั้นหากนักลงทุนเริ่มต้นด้วยเวลาว่างหลักเลิกงาน ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นต้นทุนเวลาที่ย่นระยะเวลาที่ทำให้นักลงทุนไปถึงเป้าหมายด้วยอายุที่น้อยลง
ปัจจุบันความรู้นั้นสามารถหาได้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก สมัยก่อนกว่าจะได้ความรู้ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว หรือ ต้องอ่าน 56-1 หรือ รายงานประจำปีเพื่อทำความเข้าใจในแต่ละบริษัทที่เราสนใจ แต่ปัจจุบันความรู้สามารถหาได้จากคลิปต่างๆใน youtube และ ยังมี website หรือ page ดีๆต่างๆมากมายเกี่ยวกับการลงทุนที่เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนสามารถหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
Facebook fan page ที่ให้ข้อมูลดีๆมากมาย เช่น Money Talk, Money Chat, Stock Vitamins - วิตามินหุ้น, ซั่มหุ้น, ลงทุนศาสตร์ - Investerest, นายแว่น ลงทุน - Naiwaen Investment, สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) , หุ้นพอร์ทระเบิด , นักลงทุน "VI มือใหม่" - By The Economist และ นักลงทุนหมายเลข6 เป็นต้น
หรือ website Thai VI ก็มีห้อง “ร้อยคนร้อยหุ้น” ที่มีนักลงทุนเก่งๆมากมาย ที่พร้อมที่จะแชร์ข้อดี และ ข้อเสีย ในหุ้นตัวนั้นๆ ซึ่งตอนนี้สามารถทดลองใช้บริการได้ฟรีที่
https://board.thaivi.org/viewforum.php?f=49
หรือ บทวิเคราะห์ก็สามารถหาอ่านได้ฟรีที่
https://www.settrade.com/C17_ResearchList.jsp
จะเห็นได้ว่าตัวช่วยในการลงทุนนั้นมีมากมาย การเริ่มต้นศึกษาในวันที่เงินเดือนไม่มากพอที่จะเริ่มออมเงินเพื่อการลงทุนจะทำให้ความรู้ที่เรามีนั้นพร้อมเมื่อรายได้ต่อเดือนนั้นมากขึ้น และข้อดีของการลงเงินน้อยๆในช่วงแรก คือ เมื่อยังมีเงินลงทุนและความรู้ยังไม่มาก หากการลงทุนนั้นเกิดความผิดพลาด ก็จะทำให้ไม่เจ็บมากเมื่อลงทุนผิดพลาด
ซึ่งหากวันหนึ่งเราสามารถเริ่มออมเงินได้แล้วประกอบกับการมีแนวทางในการลงทุนที่ถูกต้อง หากเราสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นที่ 2% ต่อเดือน (2% เฉลี่ยทบต้นต่อเดือน จะทำให้ได้ผลตอบแทนเมื่อครบ 12 เดือนที่ 26% ต่อปี)
ซึ่งในการลงทุนแน่นอนว่าจะมีเดือนที่ดี และ เดือนที่ไม่ดี แต่หากเราลงทุนเพื่อให้ผ่านวันที่ดี และ ไม่ดี เพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทที่เราลงทุนนั้นได้แสดงศักยภาพออกมา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ คือ การอดทนเพื่อที่จะฝ่าวันที่สถานการณ์ตลาดไม่ดีให้ได้ เพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทที่เราลงทุนนั้นได้แสดงศักยภาพการทำกำไร และ ผลิดอกออกผลออกมา
โดยการเริ่มต้นออมที่เดือนละ 10,000 บาท ต่อเดือนทุกเดือน และได้ผลตอบเทนเฉลี่ยทบต้นที่ 2% ต่อเดือน เป็นเวลาต่อเนื่องและยาวนานพอ จะทำให้เรามีเงินเก็บ 1,000,000 บาทแรกใน เดือนที่ 55 (หรือ 4 ปี 7 เดือน) ซึ่งหากคำณวนจากเงินตั้งต้นที่เดือนละ 10,000 บาท จำนวน 55 เดือน จะเห็นได้ว่าเงิน 1,000,000 บาทที่เราได้รับมานั้นมาจากเงินลงทุนเริ่มต้นที่เพียง 550,000 บาท
และ ในวิธีการเดียวกัน คือ ออมเงินให้เดือนละ 10,000 บาท โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2% ต่อเดือน เราจะมีเงิน 2 ล้านบาท ในระยะเวลา 81 เดือน (6 ปี 9 เดือน) ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากเงินออมเท่ากันทุกๆเดือน 1 ล้านบาทแรกใช้เวลา 55 เดือน แต่ 1 ล้านบาทที่สองใช้เวลาที่สั้นลงเพียง 26 เดือน หรือ ระยะเวลาที่ลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับเงินล้านบาทแรก และ ล้านบาทถัดๆไปก็จะใช้ระยะเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ
และ ในวิธีการเดียวกันนักลงทุนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีวินัยในการออม และ แสวงหาผลตอบแทนจะถึงเป้าหมายที่ 10,000,000 บาท ในระยะเวลา 153 เดือน (หรือ 12 ปี 9 เดือน) โดยมาจากเงินออมเริ่มต้นที่เดือนละ 10,000 บาท จำนวน 153 เดือน หรือคิดเป็นเงินออมเพียง 1,530,000 บาท
จะเห็นได้ว่าการมีเงิน 10 ล้านบาท จากเงินออมเพียงเดือนละ 10,000 บาทนั้นอาจจะไม่ได้มาได้โดยง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความเป็นจริง เพียงแต่ต้องมีวินัยในการออมที่สม่ำเสมอทุกเดือน, ขยันหาความรู้เพื่อแสวงหาผลตอบแทน และ ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นทบต้นไปเรื่อยๆ มนุษย์เงินเดือนที่เป็นนักลงทุนทุกคนก็สามารถมีเงิน 10 ล้านบาทได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพ้อฝันหรือ ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
ชอบกด like ใช่กด share
ฝากเพจการลงทุน “เม่ากลับใจ”
ไว้ในอ้อมใจนักลงทุนทุกท่านด้วยครับ
=========================
ระยะเวลา 153 เดือน
ก็มีเงิน 10,000,000 บาท ได้
===================
ความฝันของมนุษย์เงินเดือนหลายๆคน คือ การมีเงินเก็บ 10 ล้านบาทในสมุดบัญชี ก็น่าจะเพียงพอแล้วกับการที่เราจะมีชีวิตอยู่แบบสุขสบายและมีความสุขกับครอบครัวในบั้นปลายชีวิต
แต่ในชีวิตจริงกว่าจะไปถึงจุดหมายได้ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาก และ ต้องประหยัดอดออมเงินเป็นจำนวนมากหากจะตั้งเป้าหมายให้ถึง 10 ล้านบาท โดยต้องเป็นการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งอาจจะเป็นฝันที่ห่างไกลจากความเป็นจริง
พี่มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือ “เซียนมี่” นักลงทุนขวัญใจมหาชนเคยกล่าวไว้ 2 ประโยค และ เป็นประโยคที่มีความหมายกับนักลงทุนมาก คือ
1. เงินจะชอบคนเก่ง ถ้าคุณเก่ง เงินจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง
2. ผลตอบแทนทบต้นปีละ 26% จะทำให้พอร์ตโต 10 เท่า ใน 10 ปี
ซึ่งใน 2 ประโยคนี้ถ้ามนุษย์เงินเดือนที่เป็นนักลงทุนทำได้ การมีเงินในบัญชีธนาคาร หรือ พอร์ตการลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาทก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถจนเกินไป
หากลงทุนอย่างถูกต้อง และ ออมเงินอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยเริ่มจากการออมเงินเดือนละ 10,000 บาท อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และ ขยันหาโอกาสในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 2% (หรือ คิดเป็นผลตอบแทนทบต้น 12 เดือนที่ 26%) ก็จะสามารถมีเงิน 10 ล้านได้ภายในระยะเวลา 153 เดือน (หรือ 12 ปี 9 เดือน)
จะเห็นได้ว่าประโยคที่คลาสสิค "Magic Number ผลตอบแทน 26% ทบต้น" นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นด้วยเงิน 1,000,000 บาทในระยะเวลา 10 ปี เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 10 ล้านบาท ... แต่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงิน 10,000 บาท ในระยะเวลา 12 ปี 9 เดือน ก็สามารถถึงเป้าหมายที่ 10 ล้านบาทได้เช่นกัน
การเริ่มออมเงินให้ได้เดือนละ 10,000 บาทอาจจะไม่ง่าย หากเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพราะ เงินเดือนของการเริ่มงานวันแรกอาจจะไม่เหลือพอในการออม แต่สิ่งที่มีค่าในช่วงการเริ่มต้นทำงาน คือ เวลาว่างหลังเลิกงาน
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับนักลงทุน เพราะ เวลาที่นานพอจะทำให้ผลตอบแทนในการลงทุนนั้นงอกเงย ดังนั้นหากนักลงทุนเริ่มต้นด้วยเวลาว่างหลักเลิกงาน ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นต้นทุนเวลาที่ย่นระยะเวลาที่ทำให้นักลงทุนไปถึงเป้าหมายด้วยอายุที่น้อยลง
ปัจจุบันความรู้นั้นสามารถหาได้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก สมัยก่อนกว่าจะได้ความรู้ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว หรือ ต้องอ่าน 56-1 หรือ รายงานประจำปีเพื่อทำความเข้าใจในแต่ละบริษัทที่เราสนใจ แต่ปัจจุบันความรู้สามารถหาได้จากคลิปต่างๆใน youtube และ ยังมี website หรือ page ดีๆต่างๆมากมายเกี่ยวกับการลงทุนที่เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนสามารถหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
Facebook fan page ที่ให้ข้อมูลดีๆมากมาย เช่น Money Talk, Money Chat, Stock Vitamins - วิตามินหุ้น, ซั่มหุ้น, ลงทุนศาสตร์ - Investerest, นายแว่น ลงทุน - Naiwaen Investment, สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) , หุ้นพอร์ทระเบิด , นักลงทุน "VI มือใหม่" - By The Economist และ นักลงทุนหมายเลข6 เป็นต้น
หรือ website Thai VI ก็มีห้อง “ร้อยคนร้อยหุ้น” ที่มีนักลงทุนเก่งๆมากมาย ที่พร้อมที่จะแชร์ข้อดี และ ข้อเสีย ในหุ้นตัวนั้นๆ ซึ่งตอนนี้สามารถทดลองใช้บริการได้ฟรีที่
https://board.thaivi.org/viewforum.php?f=49
หรือ บทวิเคราะห์ก็สามารถหาอ่านได้ฟรีที่
https://www.settrade.com/C17_ResearchList.jsp
จะเห็นได้ว่าตัวช่วยในการลงทุนนั้นมีมากมาย การเริ่มต้นศึกษาในวันที่เงินเดือนไม่มากพอที่จะเริ่มออมเงินเพื่อการลงทุนจะทำให้ความรู้ที่เรามีนั้นพร้อมเมื่อรายได้ต่อเดือนนั้นมากขึ้น และข้อดีของการลงเงินน้อยๆในช่วงแรก คือ เมื่อยังมีเงินลงทุนและความรู้ยังไม่มาก หากการลงทุนนั้นเกิดความผิดพลาด ก็จะทำให้ไม่เจ็บมากเมื่อลงทุนผิดพลาด
ซึ่งหากวันหนึ่งเราสามารถเริ่มออมเงินได้แล้วประกอบกับการมีแนวทางในการลงทุนที่ถูกต้อง หากเราสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นที่ 2% ต่อเดือน (2% เฉลี่ยทบต้นต่อเดือน จะทำให้ได้ผลตอบแทนเมื่อครบ 12 เดือนที่ 26% ต่อปี)
ซึ่งในการลงทุนแน่นอนว่าจะมีเดือนที่ดี และ เดือนที่ไม่ดี แต่หากเราลงทุนเพื่อให้ผ่านวันที่ดี และ ไม่ดี เพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทที่เราลงทุนนั้นได้แสดงศักยภาพออกมา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ คือ การอดทนเพื่อที่จะฝ่าวันที่สถานการณ์ตลาดไม่ดีให้ได้ เพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทที่เราลงทุนนั้นได้แสดงศักยภาพการทำกำไร และ ผลิดอกออกผลออกมา
โดยการเริ่มต้นออมที่เดือนละ 10,000 บาท ต่อเดือนทุกเดือน และได้ผลตอบเทนเฉลี่ยทบต้นที่ 2% ต่อเดือน เป็นเวลาต่อเนื่องและยาวนานพอ จะทำให้เรามีเงินเก็บ 1,000,000 บาทแรกใน เดือนที่ 55 (หรือ 4 ปี 7 เดือน) ซึ่งหากคำณวนจากเงินตั้งต้นที่เดือนละ 10,000 บาท จำนวน 55 เดือน จะเห็นได้ว่าเงิน 1,000,000 บาทที่เราได้รับมานั้นมาจากเงินลงทุนเริ่มต้นที่เพียง 550,000 บาท
และ ในวิธีการเดียวกัน คือ ออมเงินให้เดือนละ 10,000 บาท โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2% ต่อเดือน เราจะมีเงิน 2 ล้านบาท ในระยะเวลา 81 เดือน (6 ปี 9 เดือน) ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากเงินออมเท่ากันทุกๆเดือน 1 ล้านบาทแรกใช้เวลา 55 เดือน แต่ 1 ล้านบาทที่สองใช้เวลาที่สั้นลงเพียง 26 เดือน หรือ ระยะเวลาที่ลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับเงินล้านบาทแรก และ ล้านบาทถัดๆไปก็จะใช้ระยะเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ
และ ในวิธีการเดียวกันนักลงทุนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีวินัยในการออม และ แสวงหาผลตอบแทนจะถึงเป้าหมายที่ 10,000,000 บาท ในระยะเวลา 153 เดือน (หรือ 12 ปี 9 เดือน) โดยมาจากเงินออมเริ่มต้นที่เดือนละ 10,000 บาท จำนวน 153 เดือน หรือคิดเป็นเงินออมเพียง 1,530,000 บาท
จะเห็นได้ว่าการมีเงิน 10 ล้านบาท จากเงินออมเพียงเดือนละ 10,000 บาทนั้นอาจจะไม่ได้มาได้โดยง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความเป็นจริง เพียงแต่ต้องมีวินัยในการออมที่สม่ำเสมอทุกเดือน, ขยันหาความรู้เพื่อแสวงหาผลตอบแทน และ ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นทบต้นไปเรื่อยๆ มนุษย์เงินเดือนที่เป็นนักลงทุนทุกคนก็สามารถมีเงิน 10 ล้านบาทได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพ้อฝันหรือ ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
ชอบกด like ใช่กด share
ฝากเพจการลงทุน “เม่ากลับใจ”
ไว้ในอ้อมใจนักลงทุนทุกท่านด้วยครับ
=========================
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเดือนละ 10,000 บาท .. ก็มีสิบล้านได้
โพสต์ที่ 4
ส่วนตัวไม่เคยออมได้เดือนละหมื่นเลย
มากที่สุดที่เคยทำคือ 5 พัน
แต่ก็ต้องเริ่ม
จุดเริ่มต้นของผมมาจากเงินออมเดือนละห้าร้อย
จากเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
มายึดหลักการวีไอจริงจัง
ก็สิบปีกว่าๆ
ผลตอบแทนแรกๆ ก็จดอยู่หรอก
จะได้มีอะไรไป benchmark
ทำไปได้สักพัก
เงินก็ไหลมาพอร์ตหุ้นหมด
เพราะเราทำได้ค่อนข้างดี
พอพอร์ตเริ่มโต
ก็เริ่มหยุดเติมเงิน
ชีวิตจะได้สบายขึ้น
ก็ทำมาเรื่อยๆ
สุดท้ายเป้าหมายมันก็มาเอง
ผมคิดว่า
สิ่งที่สำคัญกว่าการสร้างผลตอบแทน
คือการบริหารความเสี่ยง
มาช้าดีกว่าไม่มานะครับผม
มากที่สุดที่เคยทำคือ 5 พัน
แต่ก็ต้องเริ่ม
จุดเริ่มต้นของผมมาจากเงินออมเดือนละห้าร้อย
จากเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
มายึดหลักการวีไอจริงจัง
ก็สิบปีกว่าๆ
ผลตอบแทนแรกๆ ก็จดอยู่หรอก
จะได้มีอะไรไป benchmark
ทำไปได้สักพัก
เงินก็ไหลมาพอร์ตหุ้นหมด
เพราะเราทำได้ค่อนข้างดี
พอพอร์ตเริ่มโต
ก็เริ่มหยุดเติมเงิน
ชีวิตจะได้สบายขึ้น
ก็ทำมาเรื่อยๆ
สุดท้ายเป้าหมายมันก็มาเอง
ผมคิดว่า
สิ่งที่สำคัญกว่าการสร้างผลตอบแทน
คือการบริหารความเสี่ยง
มาช้าดีกว่าไม่มานะครับผม
- odin
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเดือนละ 10,000 บาท .. ก็มีสิบล้านได้
โพสต์ที่ 5
10ปี เป็นระยะเวลาค่อนข้างรีบไปหน่อย ถ้าเป็น30ปี จะได้สบายๆ ครบก็เกษียณอายุพอดี
26%ทบต้น ออกจะยากไปหน่อย ขอสัก8%ทบต้น ยังสมเหตุสมผล ไม่ยากไป สบายๆ
เคยอ่านในหนังสือRandomwalk down wallstreet บอกไว้ว่า หากเก็บเงินเดือนละ3,000 และนำไปลงทุนกองทุนรวมอิงดัชนี ที่ได้ผลตอบแทนรวมปันผลเท่ากับ 8% ผ่านไป30ปีจะมีเงินประมาณ3-4ล้าน
ถ้าอยากใกล้เคียงกับหัวเรื่องนี้ ก็เอาเป็นเดือนละ 9,000 ลงทุนเองหรือกองทุนรวมก็ได้ ผลตอบแทนทบต้น ไม่ยากเกินไป 8%ทบต้น แต่จะนานหน่อย 30ปี จะได้เงินประมาณ9-12ล้าน พอไหวมั้ย สบายๆไม่เครียด
แต่ถ้ามันใช้เวลาลงทุนนานไป คงต้องทุ่มเทให้มากๆ ทั้งกายและใจ เอาให้ ผลตอบแทนทบต้น10% ก็น่าจะใช้เวลาไม่ถึง30ปี
สรุป อยากรวยเร็ว ทำได้ยาก อยากทำไม่ยาก ก็ต้องรวยช้าหน่อย พูดไปก็เพิ่งอ่านบทความล่าสุดของ อ.นิเวศน์ ได้แนวคิดที่ดีเลยครับ
26%ทบต้น ออกจะยากไปหน่อย ขอสัก8%ทบต้น ยังสมเหตุสมผล ไม่ยากไป สบายๆ
เคยอ่านในหนังสือRandomwalk down wallstreet บอกไว้ว่า หากเก็บเงินเดือนละ3,000 และนำไปลงทุนกองทุนรวมอิงดัชนี ที่ได้ผลตอบแทนรวมปันผลเท่ากับ 8% ผ่านไป30ปีจะมีเงินประมาณ3-4ล้าน
ถ้าอยากใกล้เคียงกับหัวเรื่องนี้ ก็เอาเป็นเดือนละ 9,000 ลงทุนเองหรือกองทุนรวมก็ได้ ผลตอบแทนทบต้น ไม่ยากเกินไป 8%ทบต้น แต่จะนานหน่อย 30ปี จะได้เงินประมาณ9-12ล้าน พอไหวมั้ย สบายๆไม่เครียด
แต่ถ้ามันใช้เวลาลงทุนนานไป คงต้องทุ่มเทให้มากๆ ทั้งกายและใจ เอาให้ ผลตอบแทนทบต้น10% ก็น่าจะใช้เวลาไม่ถึง30ปี
สรุป อยากรวยเร็ว ทำได้ยาก อยากทำไม่ยาก ก็ต้องรวยช้าหน่อย พูดไปก็เพิ่งอ่านบทความล่าสุดของ อ.นิเวศน์ ได้แนวคิดที่ดีเลยครับ
“Compound interest is the eighth wonder of the world. He who understands it, earn it ; he who doesn’t, pays it.”
-
- Verified User
- โพสต์: 1255
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเดือนละ 10,000 บาท .. ก็มีสิบล้านได้
โพสต์ที่ 7
ผมว่า26% ในวันนี้ ในวันที่ประเทศไทยเป็นแบบนี้ยากแล้วนะครับ
ผมเริ่มลงทุนเมื่อปี2547ทำได้ครับทั้งผลตอบแทน26%และเงินหลัก10ล้าน และหลายคนในนี้ทำได้ แต่ช่วงแรกๆของชีวิตจะเอาเงินไหนมาลง อันนี้เรื่องใหญ่ ผมเองก็เด็กบ้านนอกพ่อแม่ไม่มีเงินให้และมีภาระดูแลพ่อแม่ แต่โชคดีมากที่มีโอกาสลงทุนตั้งแต่อายุ 27ปี และได้ซื้อหุ้นไม่แพง
และสมมติว่าพอมี 10 ล้านวันนี้และได้ปันผล 4% มันใช้ลำบากนะครับ และปีไหนตลาดลงแรงถ้าไม่มีเงินสดสำรองซื้อหุ้น ลำบากแน่ครับ
ถ้าเป็นภาวะปัจจุบันน่าจะใช้ 8-10% ต่อปีและให้เวลามันซัก 25ปี คงเหมาะสมครับ คนวัยทำงานควรวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานจะดีมากๆ
ผมเริ่มลงทุนเมื่อปี2547ทำได้ครับทั้งผลตอบแทน26%และเงินหลัก10ล้าน และหลายคนในนี้ทำได้ แต่ช่วงแรกๆของชีวิตจะเอาเงินไหนมาลง อันนี้เรื่องใหญ่ ผมเองก็เด็กบ้านนอกพ่อแม่ไม่มีเงินให้และมีภาระดูแลพ่อแม่ แต่โชคดีมากที่มีโอกาสลงทุนตั้งแต่อายุ 27ปี และได้ซื้อหุ้นไม่แพง
และสมมติว่าพอมี 10 ล้านวันนี้และได้ปันผล 4% มันใช้ลำบากนะครับ และปีไหนตลาดลงแรงถ้าไม่มีเงินสดสำรองซื้อหุ้น ลำบากแน่ครับ
ถ้าเป็นภาวะปัจจุบันน่าจะใช้ 8-10% ต่อปีและให้เวลามันซัก 25ปี คงเหมาะสมครับ คนวัยทำงานควรวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานจะดีมากๆ