ช่วงนี้หุ้นที่ทำธุรกิจโรงแรมและอาหารปรับตัวลงอย่างหนักหลังจากปีที่แล้วราคาขึ้นมากันอย่างคึกคัก
เราลองมาวิเคราะห์หุ้นทั้งสองตัวว่าแตกต่างกันอย่างไรแล้วเราควรจะเลือกลงทุนตัวไหนดีกว่ากัน
#ธุรกิจที่ทำ
MINT:
โรงแรม: มีทั้งหมด 158 โรงแรม 20,000 ห้องใน 25 ประเทศ เช่น โรงแรมในเครืออนันตรา อวานี โอ๊คส์ ทิโวลี
อาหาร: มีทั้งหมด 2,064 สาขา เช่น ร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ เบอร์เกอร์คิง เป็นต้น
รายได้ 71% มาจากต่างประเทศ อัตราทำกำไรสุทธิของโรงแรมดีกว่าร้านอาหารอยู่ที่ 62%:35% (3% ที่เหลือเป็นธุรกิจ Lifestyle)
CENTEL:
โรงแรม: มีทั้งหมด 58 แห่ง 11,891 ห้องใน 6 ประเทศภายใต้แบรนด์หลักเซ็นทารา
อาหาร: มี 889 สาขา เช่น เคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท อานตี้แอนส์ โอโตยะ เป็นต้น
รายได้ 91% มาจากในประเทศ อัตราทำกำไรสุทธิของโรงแรมดีกว่าร้านอาหารอยู่ที่ 66%:34%
#กลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
MINT เน้นโตธุรกิจแบบ Inorganic Growth คือโตปีละประมาณ 15% จากกลยุทธ์หลักเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการขยายสาขาของธุรกิจเดิม
CENTEL เน้นโตธุรกิจแบบมั่นคงด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 10% ต่อปี ขยายธุรกิจด้วยความระมัดระวัง จึงมีอัตราการเข้าซื้อกิจการและขยายสาขาที่ตำ่กว่า MINT
#งบการเงิน
กำไรสุทธิของ MINT เติบโตเฉลี่ยปีละ 9.7% เฉลี่ย 5 ย้อนหลังในขณะที่ CENTEL ทำได้ 5.7%
อัตรากำไรสุทธิของ CENTEL ดูโดดเด่นกว่าที่ 15.32% เทียบกับของ MINT ที่ 10.65%
อย่างไรก็ตาม CENTEL มีความเสี่ยงหนี้สินต่อทุน 1 เท่าน้อยกว่าของ MINT ที่ 1.37 เท่า
ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นของ (ROE) CENTEL ดีกว่าที่ 17.8% เทียบกับของ MINT 11.96%
#โดยสรุป
ทั้งสองบริษัทมีธุรกิจโรงแรมและอาหารเหมือนกัน แต่ผมชอบธุรกิจของ MINT มากกว่าเพราะนโยบายการขยายธุรกิจเชิงรุกและกระจายความเสี่ยงไปต่างประเทศมากกว่า แม้ว่าถ้าดูในแง่ของตัวเลขทางการเงินแล้ว CENTEL จะดูดีกว่า
นักลงทุนต้องลองศึกษากันดูนะครับ ดีทั้งคู่ครับ