BOUTIQ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
BOUTIQ
โพสต์ที่ 1
*"บูทิค คอร์ปอเรชั่น"ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นเพิ่มทุน 167 ล้านหุ้นใช้พัฒนาโครงการ-เป็นทุนหมุนเวียน
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)
Thursday, June 16, 2016 11:08
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 59)--บมจ. บูทิค คอร์ปอเรชั่น ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) version แรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 167 ล้านหุ้น และมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย (Build-Operate-Sell : BOS) ประเภทโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่น วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการ โดยคาดว่าจะใช้เงินในช่วงปี 60-62 และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ โครงการในอนาคตของบริษัท ได้แก่ โครงการป่าตอง สาย 3 เป็นการร่วมทุน ซึ่งบริษัทถือหุ้นในโครงการ 35.1% ต้นทุนโครงการรวม 470 ล้านบาท เป็นเงินกู้ยืมธนาคาร 320 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการการก่อสร้าง คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 2/60 หรือไตรมาส 3/60
โครงการพัทยา เบย์ รีสอร์ท เป็นการร่วมทุน โดยบริษัทถือหุ้นในโครงการ 51% ต้นทุนการดัดแปลงประมาณ 100 ล้านบาท (เฉพาะค่าดัดแปลง) ความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างดัดแปลงและเปลี่ยนแปลงการใช้งาน คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 2/60 หรือไตรมาส 3/60
วิลล่าในบริษัท บูทิค ภูเก็ต ทู จำกัด และวิลล่าในบริษัท บูทิค ภูเก็ต ทรี จำกัด เป็นการร่วมทุน โดยบริษัทถือหุ้นในโครงการวิลล่าทั้ง 2 โครงการในสัดส่วน 26.42% มูลค่าโครงการรวมอยู่ระหว่างการประมาณการค่าปรับปรุง ความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างตกแต่งซ่อมแซมเพื่อจำหน่าย และคาดว่าโครงการจะปรับปรุงแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 59
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในปี 56 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 73.12 ล้านบาท, ปี 57 กำไรสุทธิ 162.40 ล้านบาท และปี 58 กำไรสุทธิ 141.76 ล้านบาท ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ผลประกอบการเท่ากับขาดทนสุทธิ 23.91 ล้านบาท กำไรสุทธิ 113.00 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 114.69 ล้านบาทตามลำดับ
โดยในปี 57 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 56 เนื่องจากกลุ่มบริษัท รับรู้กำไรจากการขายโครงการในรูปแบบของการขายสินทรัพย์จำนวน 347.57 ล้านบาท ขณะที่ในปี 58 กล่มบริษัทรับรู้กำไรจากการขายโครงการในรูปแบบของการขายเงินลงทนในบริษัทย่อยจำนวน 233.90 ล้านบาท เป็นผลให้กำไรสุทธิลดลง 12.71%
ส่วนงวด 3 เดือนแรกของปีนี้สิ้นสุด 31 มี.ค.59 มีรายได้รวม 58.96 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 33.62 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวม 1,583.14 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,748.96 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 165.82 ล้านบาท สาเหตุมาจากกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสะสม และมีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมเป็นจำนวนติดลบ เนื่องจากช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการจำเป็นต้องใช้เงินกู้จำนวนมากจากสถาบันการเงิน จากผู้ร่วมลงทุนและจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีต้นทุนทางการเงินสูง ขณะที่ยังไม่สามารถขายสินทรัพย์ได้ในช่วงแรก แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
ณ วันที่ 1 พ.ค.59 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 340 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 340 ล้านบาท แบ่งเป็น 3.4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท จากนั้นวันที่ 17 พ.ค.59 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาท ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 340 ล้านหุ้น และอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 167 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป และภายหลังจากนั้นจะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วทั้งสิ้น 507 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 507 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ครอบครัวนายปรับชะรันซิงห์ ทักราล โดยถือหุ้นในนาม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 129.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 38% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 25.48%, บริษัท อีลีเม้นท์ แคปปิตอล มอริเชียส จำกัด ถือหุ้น 81.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 24% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 16.09%, นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ถือหุ้น 37.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 11% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 7.38%
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 25% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)
Thursday, June 16, 2016 11:08
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 59)--บมจ. บูทิค คอร์ปอเรชั่น ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) version แรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 167 ล้านหุ้น และมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย (Build-Operate-Sell : BOS) ประเภทโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่น วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการ โดยคาดว่าจะใช้เงินในช่วงปี 60-62 และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ โครงการในอนาคตของบริษัท ได้แก่ โครงการป่าตอง สาย 3 เป็นการร่วมทุน ซึ่งบริษัทถือหุ้นในโครงการ 35.1% ต้นทุนโครงการรวม 470 ล้านบาท เป็นเงินกู้ยืมธนาคาร 320 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการการก่อสร้าง คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 2/60 หรือไตรมาส 3/60
โครงการพัทยา เบย์ รีสอร์ท เป็นการร่วมทุน โดยบริษัทถือหุ้นในโครงการ 51% ต้นทุนการดัดแปลงประมาณ 100 ล้านบาท (เฉพาะค่าดัดแปลง) ความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างดัดแปลงและเปลี่ยนแปลงการใช้งาน คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 2/60 หรือไตรมาส 3/60
วิลล่าในบริษัท บูทิค ภูเก็ต ทู จำกัด และวิลล่าในบริษัท บูทิค ภูเก็ต ทรี จำกัด เป็นการร่วมทุน โดยบริษัทถือหุ้นในโครงการวิลล่าทั้ง 2 โครงการในสัดส่วน 26.42% มูลค่าโครงการรวมอยู่ระหว่างการประมาณการค่าปรับปรุง ความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างตกแต่งซ่อมแซมเพื่อจำหน่าย และคาดว่าโครงการจะปรับปรุงแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 59
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในปี 56 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 73.12 ล้านบาท, ปี 57 กำไรสุทธิ 162.40 ล้านบาท และปี 58 กำไรสุทธิ 141.76 ล้านบาท ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ผลประกอบการเท่ากับขาดทนสุทธิ 23.91 ล้านบาท กำไรสุทธิ 113.00 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 114.69 ล้านบาทตามลำดับ
โดยในปี 57 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 56 เนื่องจากกลุ่มบริษัท รับรู้กำไรจากการขายโครงการในรูปแบบของการขายสินทรัพย์จำนวน 347.57 ล้านบาท ขณะที่ในปี 58 กล่มบริษัทรับรู้กำไรจากการขายโครงการในรูปแบบของการขายเงินลงทนในบริษัทย่อยจำนวน 233.90 ล้านบาท เป็นผลให้กำไรสุทธิลดลง 12.71%
ส่วนงวด 3 เดือนแรกของปีนี้สิ้นสุด 31 มี.ค.59 มีรายได้รวม 58.96 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 33.62 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวม 1,583.14 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,748.96 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 165.82 ล้านบาท สาเหตุมาจากกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสะสม และมีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมเป็นจำนวนติดลบ เนื่องจากช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการจำเป็นต้องใช้เงินกู้จำนวนมากจากสถาบันการเงิน จากผู้ร่วมลงทุนและจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีต้นทุนทางการเงินสูง ขณะที่ยังไม่สามารถขายสินทรัพย์ได้ในช่วงแรก แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
ณ วันที่ 1 พ.ค.59 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 340 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 340 ล้านบาท แบ่งเป็น 3.4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท จากนั้นวันที่ 17 พ.ค.59 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาท ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 340 ล้านหุ้น และอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 167 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป และภายหลังจากนั้นจะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วทั้งสิ้น 507 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 507 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ครอบครัวนายปรับชะรันซิงห์ ทักราล โดยถือหุ้นในนาม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 129.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 38% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 25.48%, บริษัท อีลีเม้นท์ แคปปิตอล มอริเชียส จำกัด ถือหุ้น 81.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 24% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 16.09%, นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ถือหุ้น 37.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 11% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 7.38%
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 25% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BC
โพสต์ที่ 3
ออกหลักทรัพย์ :
บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ :
บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท
วันที่ยื่น Filing version แรก :
14 มิถุนายน 2559
วันที่แก้ไขข้อมูล Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) :
N/A
วันที่ Filing มีผลใช้บังคับ :
N/A
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย :
N/A
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย :
N/A
ประเภทหลักทรัพย์ :
หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย :
IPO
บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน / ผู้ควบคุม :
บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ :
บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท
วันที่ยื่น Filing version แรก :
14 มิถุนายน 2559
วันที่แก้ไขข้อมูล Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) :
N/A
วันที่ Filing มีผลใช้บังคับ :
N/A
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย :
N/A
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย :
N/A
ประเภทหลักทรัพย์ :
หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย :
IPO
บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน / ผู้ควบคุม :
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BC
โพสต์ที่ 5
BOUTIQ : บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย (Build-Operate-Sell: BOS) ประเภทโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่น
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO 167,000,000 หุ้น
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น n/a
ราคา IPO n/a
ราคา PAR 1.00 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
ข้อมูล Filing www.boutiquecorporation.com
ประเภทธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย (Build-Operate-Sell: BOS) ประเภทโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่น
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO 167,000,000 หุ้น
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น n/a
ราคา IPO n/a
ราคา PAR 1.00 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
ข้อมูล Filing www.boutiquecorporation.com
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BOUTIQ
โพสต์ที่ 6
หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 30/12/2559
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด / นาย กำพล ทรวงบูรณกุล
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 30/12/2559
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด / นาย กำพล ทรวงบูรณกุล
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BOUTIQ
โพสต์ที่ 9
“บูทิค” ยึดแนวบีทีเอสผุดมอลล์ สยายปีกโรงแรมตลาดท่องเที่ยว
โดย MGR Online
20 กรกฎาคม 2560 14:29 น. (แก้ไขล่าสุด 20 กรกฎาคม 2560 22:29 น.)
ผู้จัดการรายวัน 360 - “กลุ่มบูทิค” ยึดทำเลตามแนวบีทีเอสผุดไลฟ์สไตล์มอลล์ต่อเนื่อง ล่าสุดทุ่มอีก 550 ล้านบาทผุดซัมเมอร์ฮิลล์ พระโขนง พร้อมสยายปีกธุรกิจโรงแรมขยายสู่ตลาดท่องเที่ยวต่างจังหวัดมากขึ้น ปลายปีนี้เปิดที่ภูเก็ต ส่วนปีหน้าเปิดที่เชียงใหม่อีก
นายปรับ ทักราล ประธานและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ทั้งโรงแรม และรีเทลไลฟ์สไตล์มอลล์ โดยในปี 2560 นี้ได้เปิดตัวโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ ไลฟ์สไตล์มอลล์เป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ย่านพระโขนง ถนนสุขุมวิท เปิดบริการกันยายนนี้
อีกโครงการคือโรงแรม ที่ป่าตองสาย 3 ภูเก็ต ปลายปีนี้ เป็นโรงแรม 3 ดาว จำนวน 200 ห้อง ขณะที่ปีหน้าจะเปิดตัวอีก 2 โครงการเช่นกัน คือ อาคารสำนักงานซึ่งเป็นเฟสที่สองของซัมเมอร์ฮิลล์ และโรงแรมที่ถนนนิมมานเหมินทร์ เชียงใหม่ 4 ดาว สูง 4 ชั้น จำนวน 202 ห้อง
“บูทิค” ยึดแนวบีทีเอสผุดมอลล์ สยายปีกโรงแรมตลาดท่องเที่ยว
โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ที่พระโขนง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะขยายมาทำรีเทลมอลล์เพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสเรสซิเดนซ์ภายใต้แบรด์ซิทาดีนส์เป็นหลักกว่า 80-90% ที่เหลืออื่นๆ เช่น ออฟฟิศบิลดิ้ง รีเทลค้าปลีก ซึ่งที่ผ่านมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วมากกว่า 10 โครงการ รวมกว่า 800 ห้อง เช่น ซิทาดีนส์สุขุมวิท 8 บางกอก, สุขุมวิท 11 บางกอก, สุขุมวิท 16 บางกอก, สุขุมวิท 23 บางกอก, โอ๊ควู้ดเรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 และไฮแอทเพลสภูเก็ต ป่าตอง
ขณะที่ปัจจุบันมีอีก 5 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และทางกลุ่มกำลังขยายแพลตฟอร์มการพัฒนาโรงแรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ที่ปัจจุบันมีแผนการพัฒนาแล้วอีกกว่า 500 ห้อง
สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดปีนี้คือ ซัมเมอร์ฮิลล์ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ถนนสุขุมวิทตัดกับถนนพระรามสี่ ที่ตั้งโครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง ลงทุน 250 ล้านบาท พื้นที่ 5 ไร่ เป็นที่เช่ายาว 30 ปี พื้นที่ค้าปลีก 6,000 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น พื้นที่ร้านค้า 40 กว่ายูนิต มีผู้จองแล้วกว่า 60% ค่าเช่า ชั้นจี 2,200 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน, ชั้นสองค่าเช่า 1,300 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และชั้น 3 ค่าเช่า 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดว่าจะคืนทุนประมาณ 8 ปี ส่วนเฟสที่สอง ลงทุน 300 ล้านบาท เป็นอาคารสำนักงาน สูง 6 ชั้น พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดบริการได้ปีหน้า
ทั้งนี้ ย่านพระโขนงเป็นทำเลดี มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น มีพื้นที่อาคารสำนักงานรวมกว่า 160,000 ตารางเมตร มีสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลจำนวนมาก แต่ยังไม่มีไลฟ์สไตล์มอลล์เปิดบริการมากเท่าใด โดยมีคนที่ใช้บีทีเอสผ่านพระโขนงประมาณ 21,000 คนต่อวัน อีกทั้งในย่านนี้ยังมีคอนโดมิเนียมที่มีห้องพักรวมกันกว่า 9,500 ยูนิต ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 7,200 ยูนิต และที่สร้างอยู่อีก 2,300 ยูนิต ซึ่งโครงการซัมเมอร์ฮิลล์นี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สองต่อจากเรนฮิลล์ที่สุขุมวิท 47 เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2555
โดย MGR Online
20 กรกฎาคม 2560 14:29 น. (แก้ไขล่าสุด 20 กรกฎาคม 2560 22:29 น.)
ผู้จัดการรายวัน 360 - “กลุ่มบูทิค” ยึดทำเลตามแนวบีทีเอสผุดไลฟ์สไตล์มอลล์ต่อเนื่อง ล่าสุดทุ่มอีก 550 ล้านบาทผุดซัมเมอร์ฮิลล์ พระโขนง พร้อมสยายปีกธุรกิจโรงแรมขยายสู่ตลาดท่องเที่ยวต่างจังหวัดมากขึ้น ปลายปีนี้เปิดที่ภูเก็ต ส่วนปีหน้าเปิดที่เชียงใหม่อีก
นายปรับ ทักราล ประธานและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ทั้งโรงแรม และรีเทลไลฟ์สไตล์มอลล์ โดยในปี 2560 นี้ได้เปิดตัวโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ ไลฟ์สไตล์มอลล์เป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ย่านพระโขนง ถนนสุขุมวิท เปิดบริการกันยายนนี้
อีกโครงการคือโรงแรม ที่ป่าตองสาย 3 ภูเก็ต ปลายปีนี้ เป็นโรงแรม 3 ดาว จำนวน 200 ห้อง ขณะที่ปีหน้าจะเปิดตัวอีก 2 โครงการเช่นกัน คือ อาคารสำนักงานซึ่งเป็นเฟสที่สองของซัมเมอร์ฮิลล์ และโรงแรมที่ถนนนิมมานเหมินทร์ เชียงใหม่ 4 ดาว สูง 4 ชั้น จำนวน 202 ห้อง
“บูทิค” ยึดแนวบีทีเอสผุดมอลล์ สยายปีกโรงแรมตลาดท่องเที่ยว
โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ที่พระโขนง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะขยายมาทำรีเทลมอลล์เพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสเรสซิเดนซ์ภายใต้แบรด์ซิทาดีนส์เป็นหลักกว่า 80-90% ที่เหลืออื่นๆ เช่น ออฟฟิศบิลดิ้ง รีเทลค้าปลีก ซึ่งที่ผ่านมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วมากกว่า 10 โครงการ รวมกว่า 800 ห้อง เช่น ซิทาดีนส์สุขุมวิท 8 บางกอก, สุขุมวิท 11 บางกอก, สุขุมวิท 16 บางกอก, สุขุมวิท 23 บางกอก, โอ๊ควู้ดเรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 และไฮแอทเพลสภูเก็ต ป่าตอง
ขณะที่ปัจจุบันมีอีก 5 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และทางกลุ่มกำลังขยายแพลตฟอร์มการพัฒนาโรงแรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ที่ปัจจุบันมีแผนการพัฒนาแล้วอีกกว่า 500 ห้อง
สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดปีนี้คือ ซัมเมอร์ฮิลล์ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ถนนสุขุมวิทตัดกับถนนพระรามสี่ ที่ตั้งโครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง ลงทุน 250 ล้านบาท พื้นที่ 5 ไร่ เป็นที่เช่ายาว 30 ปี พื้นที่ค้าปลีก 6,000 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น พื้นที่ร้านค้า 40 กว่ายูนิต มีผู้จองแล้วกว่า 60% ค่าเช่า ชั้นจี 2,200 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน, ชั้นสองค่าเช่า 1,300 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และชั้น 3 ค่าเช่า 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดว่าจะคืนทุนประมาณ 8 ปี ส่วนเฟสที่สอง ลงทุน 300 ล้านบาท เป็นอาคารสำนักงาน สูง 6 ชั้น พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดบริการได้ปีหน้า
ทั้งนี้ ย่านพระโขนงเป็นทำเลดี มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น มีพื้นที่อาคารสำนักงานรวมกว่า 160,000 ตารางเมตร มีสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลจำนวนมาก แต่ยังไม่มีไลฟ์สไตล์มอลล์เปิดบริการมากเท่าใด โดยมีคนที่ใช้บีทีเอสผ่านพระโขนงประมาณ 21,000 คนต่อวัน อีกทั้งในย่านนี้ยังมีคอนโดมิเนียมที่มีห้องพักรวมกันกว่า 9,500 ยูนิต ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 7,200 ยูนิต และที่สร้างอยู่อีก 2,300 ยูนิต ซึ่งโครงการซัมเมอร์ฮิลล์นี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สองต่อจากเรนฮิลล์ที่สุขุมวิท 47 เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2555
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BOUTIQ
โพสต์ที่ 10
'มิกซ์ยูส'บูมสุขุมวิทรอบนอก 'ซัมเมอร์ฮิลล์'ปักธงทำเลทอง
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Friday, July 21, 2017 06:35
ทำเล "สุขุมวิทรอบนอก" กำลังเป็น จุดหมายดาวรุ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทจาก "ดีมานด์" ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ "ซัพพลาย" ยังน้อย
ปรับ ทักราล ประธานและกรรมการ ผู้จัดการกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ย่านพระโขนงลงไป ถึงสุขุมวิทรอบนอก เป็นทำเลที่ได้รับการพัฒนาน้อยมากในเชิงโครงการ
"มิกซ์ยูส" ทั้งที่ แนวโน้มความต้องการของตลาดถีบตัวสูง จาก 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ที่พักอาศัย จำนวนกว่า 9,500 ยูนิต มีอยู่แล้ว 7,200 ยูนิต กำลังเปิดใหม่อีก 2,300 ยูนิต อาคารสำนักงาน รวมกว่า 1.6 แสนตร.ม. โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในรอบรัศมี 9 แห่ง โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์อีก 5 แห่ง ตลอดแนวถนนสุขุมวิทและพระราม 4
เป็นโอกาสในการลงทุนและเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย ศูนย์รวมร้านค้าเชิงไลฟ์สไตล์และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 5 ไร่ หัวมุมถนนสุขุมวิทตัดพระราม 4 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พระโขนง ภายใต้ การลงทุนของ บริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด มูลค่า 550 ล้านบาท โดยงบ 250 ล้านบาทสำหรับการลงทุนพื้นที่ค้าปลีก และ 300 ล้านบาท สำหรับอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกส่วนเพิ่มเติม โดยเดือน ก.ย.นี้ จะเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ คาดอัตราการใช้พื้นที่ 70% คาดลูกค้าหมุนเวียน 1-1.2 หมื่นคนต่อวัน "วางตำแหน่งทางการตลดของโครงการเป็นศูนย์รวมด้านไลฟ์สไตล์ รองรับการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นจุดแข็งของการพัฒนาโครงการเน้นการ เป็นแหล่งสังสรรค์พักผ่อนหย่อนใจมากกว่าพื้นที่ค้าขายสินค้าเหมือนศูนย์ค้าปลีกอื่นๆ" ส่วนเฟส 2 เป็นอาคารสูง 5 ชั้น พื้นที่รวม 1 หมื่นตร.ม. ด้านบนเป็นอาคารสำนักงาน 5,000 ตร.ม. จะทำให้ซัมเมอร์ฮิลล์ มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเปิดบริการปี 2561
การเกิดขึ้นของโครงการมิกซ์ยูสในโซนสุขุมวิทตอนกลางเป็นต้นไป ยังไม่อยู่ในภาวะ "ล้นตลาด" เหมือนพื้นที่อื่นๆ โดยความต้องการพื้นที่สำนักงานยังมีอยู่มาก
"ประเมินว่าภาวะโอเวอร์ซัพพลาย อาจเริ่มเห็นภาพหลังจาก 3 ปีจากนี้มากกว่า ในการเปิดตัวออฟฟิศให้เช่า เชื่อว่าจะทำราคาใกล้เคียงกับอัตราประเมินของโซนนอกทำเลหลักที่ 800-1,000 บาทต่อตร.ม." ทั้งน ในทำเลสุขุมวิทรอบนอก ยังมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 2 แห่งเตรียมเปิดตัวในอนาคต ได้แก่ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท 81 (สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อ่อนนุช) ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรม ด้วยมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ภายใต้การลงทุนของแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ที่จะมีพื้นที่ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์กว่า 4 หมื่นตร.ม. บนทำเลใกล้สถานีบีทีเอส ปุณณวิถี และอยู่ในโซนเดียวกับคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานที่กำลังพัฒนาควบคู่กัน เชื่อว่าปริมาณความต้องการของตลาดในย่านนี้ ยังมีสูงมาก ทำให้ซัพพลายที่จะเพิ่มเข้ามาสามารถดูดซับไว้ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากคอนโดมิเนียมตลอดแนวรถไฟฟ้า ที่ทยอยเกิดใหม่แล้ว ยังมีผู้พักอาศัยหมู่บ้านทั้งเก่าและใหม่ตามซอยใหญ่ตลอดเส้นสุขุมวิท และหากมีสำนักงานให้เช่าเกิดใหม่ขึ้น โอกาสที่ประชากรจะย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในย่านนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามมา
"ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำเลเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ในระยะยาว ซึ่งซัมเมอร์ฮิลล์มีสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงนี้ ด้วยการยึดทำเลที่ดีที่สุดไว้แล้ว คนที่มาทำงานตอนเช้าหรือเลิกงานกลับบ้าน สิ่งแรกที่ต้องเห็นโดดเด่นคือโครงการนี้ ประกอบกับ ที่ผ่านมาย่านพระโขนงมีการพัฒนาโครงการใหม่ต่ำมาก ทำให้เกิดการตอบรับที่ดี"
ทั้งนี้ ภาพรวมในการลงทุนของบริษัทเตรียมงบประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี โดยโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ สร้างรายได้เป็นสัดส่วน5% เทียบรายได้ทั้งหมด แม้ว่าจะมีโครงการ คอมมูนิตี้มอลล์แล้ว 2 แห่ง แต่ธุรกิจหลักที่ทำรายได้กว่า 80% มาจากโรงแรม ปัจจุบันมี 1,217 ห้องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สำหรับโรงแรมใหม่ที่จะเปิดตัวใน 2 ปีนี้ตั้งอยู่ใน 2 ทำเล ได้แก่ ป่าตอง ภูเก็ต ขนาด 200 ห้อง ใช้งบลงทุน 500 ล้านบาทและปักธงสร้างโรงแรมที่เชียงใหม่แห่งแรก ย่านนิมมานเหมินทร์ ใช้งบราว 600 ล้านบาท ซึ่งสองแห่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกแบรนด์เข้ามาบริหาร
"ยังคงมองการลงทุนโรงแรมเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว"
ในกรุงเทพฯ มีโรงแรมกว่า 6 แห่ง ยังเป็นจุดหมายที่ให้ความสำคัญ ทั้งในรูปแบบ โรงแรมหรือที่พักสำหรับระยะยาว แต่สำหรับภูเก็ตหรือเชียงใหม่ อาจจะมุ่งเป้าไปที่โรงแรมเพื่อรับนักท่องเที่ยวมากกว่า--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Friday, July 21, 2017 06:35
ทำเล "สุขุมวิทรอบนอก" กำลังเป็น จุดหมายดาวรุ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทจาก "ดีมานด์" ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ "ซัพพลาย" ยังน้อย
ปรับ ทักราล ประธานและกรรมการ ผู้จัดการกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ย่านพระโขนงลงไป ถึงสุขุมวิทรอบนอก เป็นทำเลที่ได้รับการพัฒนาน้อยมากในเชิงโครงการ
"มิกซ์ยูส" ทั้งที่ แนวโน้มความต้องการของตลาดถีบตัวสูง จาก 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ที่พักอาศัย จำนวนกว่า 9,500 ยูนิต มีอยู่แล้ว 7,200 ยูนิต กำลังเปิดใหม่อีก 2,300 ยูนิต อาคารสำนักงาน รวมกว่า 1.6 แสนตร.ม. โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในรอบรัศมี 9 แห่ง โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์อีก 5 แห่ง ตลอดแนวถนนสุขุมวิทและพระราม 4
เป็นโอกาสในการลงทุนและเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย ศูนย์รวมร้านค้าเชิงไลฟ์สไตล์และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 5 ไร่ หัวมุมถนนสุขุมวิทตัดพระราม 4 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พระโขนง ภายใต้ การลงทุนของ บริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด มูลค่า 550 ล้านบาท โดยงบ 250 ล้านบาทสำหรับการลงทุนพื้นที่ค้าปลีก และ 300 ล้านบาท สำหรับอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกส่วนเพิ่มเติม โดยเดือน ก.ย.นี้ จะเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ คาดอัตราการใช้พื้นที่ 70% คาดลูกค้าหมุนเวียน 1-1.2 หมื่นคนต่อวัน "วางตำแหน่งทางการตลดของโครงการเป็นศูนย์รวมด้านไลฟ์สไตล์ รองรับการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นจุดแข็งของการพัฒนาโครงการเน้นการ เป็นแหล่งสังสรรค์พักผ่อนหย่อนใจมากกว่าพื้นที่ค้าขายสินค้าเหมือนศูนย์ค้าปลีกอื่นๆ" ส่วนเฟส 2 เป็นอาคารสูง 5 ชั้น พื้นที่รวม 1 หมื่นตร.ม. ด้านบนเป็นอาคารสำนักงาน 5,000 ตร.ม. จะทำให้ซัมเมอร์ฮิลล์ มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเปิดบริการปี 2561
การเกิดขึ้นของโครงการมิกซ์ยูสในโซนสุขุมวิทตอนกลางเป็นต้นไป ยังไม่อยู่ในภาวะ "ล้นตลาด" เหมือนพื้นที่อื่นๆ โดยความต้องการพื้นที่สำนักงานยังมีอยู่มาก
"ประเมินว่าภาวะโอเวอร์ซัพพลาย อาจเริ่มเห็นภาพหลังจาก 3 ปีจากนี้มากกว่า ในการเปิดตัวออฟฟิศให้เช่า เชื่อว่าจะทำราคาใกล้เคียงกับอัตราประเมินของโซนนอกทำเลหลักที่ 800-1,000 บาทต่อตร.ม." ทั้งน ในทำเลสุขุมวิทรอบนอก ยังมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 2 แห่งเตรียมเปิดตัวในอนาคต ได้แก่ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท 81 (สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อ่อนนุช) ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรม ด้วยมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ภายใต้การลงทุนของแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ที่จะมีพื้นที่ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์กว่า 4 หมื่นตร.ม. บนทำเลใกล้สถานีบีทีเอส ปุณณวิถี และอยู่ในโซนเดียวกับคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานที่กำลังพัฒนาควบคู่กัน เชื่อว่าปริมาณความต้องการของตลาดในย่านนี้ ยังมีสูงมาก ทำให้ซัพพลายที่จะเพิ่มเข้ามาสามารถดูดซับไว้ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากคอนโดมิเนียมตลอดแนวรถไฟฟ้า ที่ทยอยเกิดใหม่แล้ว ยังมีผู้พักอาศัยหมู่บ้านทั้งเก่าและใหม่ตามซอยใหญ่ตลอดเส้นสุขุมวิท และหากมีสำนักงานให้เช่าเกิดใหม่ขึ้น โอกาสที่ประชากรจะย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในย่านนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามมา
"ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำเลเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ในระยะยาว ซึ่งซัมเมอร์ฮิลล์มีสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงนี้ ด้วยการยึดทำเลที่ดีที่สุดไว้แล้ว คนที่มาทำงานตอนเช้าหรือเลิกงานกลับบ้าน สิ่งแรกที่ต้องเห็นโดดเด่นคือโครงการนี้ ประกอบกับ ที่ผ่านมาย่านพระโขนงมีการพัฒนาโครงการใหม่ต่ำมาก ทำให้เกิดการตอบรับที่ดี"
ทั้งนี้ ภาพรวมในการลงทุนของบริษัทเตรียมงบประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี โดยโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ สร้างรายได้เป็นสัดส่วน5% เทียบรายได้ทั้งหมด แม้ว่าจะมีโครงการ คอมมูนิตี้มอลล์แล้ว 2 แห่ง แต่ธุรกิจหลักที่ทำรายได้กว่า 80% มาจากโรงแรม ปัจจุบันมี 1,217 ห้องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สำหรับโรงแรมใหม่ที่จะเปิดตัวใน 2 ปีนี้ตั้งอยู่ใน 2 ทำเล ได้แก่ ป่าตอง ภูเก็ต ขนาด 200 ห้อง ใช้งบลงทุน 500 ล้านบาทและปักธงสร้างโรงแรมที่เชียงใหม่แห่งแรก ย่านนิมมานเหมินทร์ ใช้งบราว 600 ล้านบาท ซึ่งสองแห่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกแบรนด์เข้ามาบริหาร
"ยังคงมองการลงทุนโรงแรมเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว"
ในกรุงเทพฯ มีโรงแรมกว่า 6 แห่ง ยังเป็นจุดหมายที่ให้ความสำคัญ ทั้งในรูปแบบ โรงแรมหรือที่พักสำหรับระยะยาว แต่สำหรับภูเก็ตหรือเชียงใหม่ อาจจะมุ่งเป้าไปที่โรงแรมเพื่อรับนักท่องเที่ยวมากกว่า--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BOUTIQ
โพสต์ที่ 11
ยุคนี้ คอมมูนิตี้มอลล์ไม่พอ "ซัมเมอร์ฮิลล์" ต้องผสมมิกซ์ยูส
ตลาดรีเทลยังคงคึกคักตลอดทั้งปี ได้เห็นการลงทุนของทั้งยักษ์ใหญ่ในตลาด และรายย่อยที่มีโครงการเล็กๆ นอกจากจะเห็นการเปิดตัวของศูนย์การค้าแล้ว โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ก็ยังมีโอกาสในการเติบโตอยู่ ในขณะที่หลายคนมองว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ในปีนี้ บริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด ในเครือ บมจ.บูทิค คอร์เปอเรชั่น ฝ่าวงล้อมรีเทลบนถนนสุขุมวิทได้คลอดโครงการ "ซัมเมอร์ฮิลล์" คอมมูนิตี้ย่านพระโขนง ชูจุดแข็งด้วยทำเลที่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพระโขนง มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าที่ เป็นพื้นที่เช่าในระยะเวลา 30 ปี
เดิมทีบูทิคอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการโรงแรม เริ่มก่อตั้งปี 2547 ปัจจุบันมี 9 โครงการ รวม 1,217 ยูนิต และได้ก้าวสู่ธุรกิจรีเทลเมื่อปี 2555 ด้วยโครงการ "เรนฮิลล์" ทำเลสุขุมวิท 47 ติดถนนใกล้บีทีเอสทองหล่อ และพร้อมพงษ์ เพราะมองเห็นโอกาสของตลาดรีเทลที่ยังมีการเติบโตอยู่
5 ปีที่ผ่านมาบูทิคได้เรียนรู้ถึงตลาดรีเทล โดยเฉพาะคอมมูนิตี้มอลล์ยังมีความต้องการสูงอยู่ เพียงแต่ทำเลต้องดี เดินทางง่าย ติดถนนใหญ่ และร้านค้าต้องตอบโจทย์ผู้บริโภค หลายรายที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะทำเลที่ตั้งไม่ดี อีกทั้งร้านค้า ร้านอาหารไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ในครั้งนี้บูทิคจึงวางจุดยืนให้ซัมเมอร์ฮิลล์เป็น Lifestyle mix use hub ไม่ใช่แค่คอมมูนิตี้มอลล์อย่างเดียวแล้ว แต่มาในคอนเซ็ปต์มิกซ์ยูสมีรีเทลจับกลุ่มลูกค้าอาศัยอยู่ย่านพระโขนง ด้วยพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และโคเวิร์กกิ้งสเปซ รวมอาคารสำนักงาน 10,000 ตารางเมตร ที่จะเปิดให้บริการให้เฟส 2 หรือปี 2561
ปรับ ทักราล ประธาน และกรรมการผู้จัดการกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในประเทศไทยตลาดรีเทลยังมีดีมานด์สูงอยู่มาก เพียงแต่ต้องมีรูปแบบที่ดี ทำเลที่ดี ต้องศึกษาความต้องการของแต่ละพื้นที่ให้ดี อาคารแบบมิกซ์ยูสเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างความแตกต่าง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการสถานที่ครบวงจร ได้เพิ่มโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เป็นเทรนด์ของคนยุคนี้ด้วย ที่นิยมเป็นฟรีแลนซ์กันมากขึ้น"
ที่มาของชื่อที่ใช้ว่าซัมเมอร์ฮิลล์ เพราะต้องการให้เป็นรีเทลคอลเลกชั่นเดียวกันกับเรนฮิลล์ จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน เรนฮิลล์จะเน้นคนในพื้นที่ทองหล่อ และพร้อมพงษ์ที่จะมีชาวญี่ปุ่นอยู่เยอะ ร้านค้าจะตอบโจทย์ญี่ปุ่น ส่วนซัมเมอร์ฮิลล์จะเน้นไลฟ์สไตล์ และเทรนด์ใหม่ๆ จับกลุ่มคนอาศัยย่านพระโขนง และคนเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
ถึงแม้บูทิคเองก็มีรีเทลในเส้นถนนสุขุมวิทแล้ว 1 ที่ โดยที่ทำเลไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก แต่บูทิคก็ยังเลือกตั้งอีก 1 แห่งที่ย่านพระโขนง ซึ่งได้สำรวจตลาดแล้วว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเพียงพอ
เริ่มจากกลุ่มคนที่อาศัยในย่านพระโขนงมีที่พักอาศัยกว่า 9,500 ยูนิต รวมทั้งบ้าน คอนโด อพาร์ทเมนต์ต่างๆ แบ่งเป็นโครงการที่มีอยู่แล้ว 7,200 ยูนิต และโครงการในอนาคตอีก 2,300 ยูนิต มีอาคารสำนักงานรวม 160,000 ตารางเมตร รวมทั้งยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย
และในย่านตั้งแต่บีทีเอสพระโขนง ยาวไปจนถึงในซอยสุขุมวิท 71 นั้นยังไม่มีคอมมูนิตี้หรือไลฟ์สไตล์มอลล์เพื่อเป็นสถานที่ให้คนในชุมชนได้แฮงเอาต์
สำหรับกลุ่มลูกค้ารองกลุ่มผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะแวะทำธุระ หรือใช้บริการได้ โดยสถานีพระโขนงมีทราฟฟิกเฉลี่ย 21,000 คน/วัน หรือราว 7.3 ล้านคน/ปี
สำหรับซัมเมอร์ฮิลล์จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการเฉลี่ย 10,000-12,000 คน/วัน เป็นทราฟฟิกเดียวกันกับเรนฮิลล์
http://positioningmag.com/1133644
ตลาดรีเทลยังคงคึกคักตลอดทั้งปี ได้เห็นการลงทุนของทั้งยักษ์ใหญ่ในตลาด และรายย่อยที่มีโครงการเล็กๆ นอกจากจะเห็นการเปิดตัวของศูนย์การค้าแล้ว โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ก็ยังมีโอกาสในการเติบโตอยู่ ในขณะที่หลายคนมองว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ในปีนี้ บริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด ในเครือ บมจ.บูทิค คอร์เปอเรชั่น ฝ่าวงล้อมรีเทลบนถนนสุขุมวิทได้คลอดโครงการ "ซัมเมอร์ฮิลล์" คอมมูนิตี้ย่านพระโขนง ชูจุดแข็งด้วยทำเลที่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพระโขนง มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าที่ เป็นพื้นที่เช่าในระยะเวลา 30 ปี
เดิมทีบูทิคอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการโรงแรม เริ่มก่อตั้งปี 2547 ปัจจุบันมี 9 โครงการ รวม 1,217 ยูนิต และได้ก้าวสู่ธุรกิจรีเทลเมื่อปี 2555 ด้วยโครงการ "เรนฮิลล์" ทำเลสุขุมวิท 47 ติดถนนใกล้บีทีเอสทองหล่อ และพร้อมพงษ์ เพราะมองเห็นโอกาสของตลาดรีเทลที่ยังมีการเติบโตอยู่
5 ปีที่ผ่านมาบูทิคได้เรียนรู้ถึงตลาดรีเทล โดยเฉพาะคอมมูนิตี้มอลล์ยังมีความต้องการสูงอยู่ เพียงแต่ทำเลต้องดี เดินทางง่าย ติดถนนใหญ่ และร้านค้าต้องตอบโจทย์ผู้บริโภค หลายรายที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะทำเลที่ตั้งไม่ดี อีกทั้งร้านค้า ร้านอาหารไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ในครั้งนี้บูทิคจึงวางจุดยืนให้ซัมเมอร์ฮิลล์เป็น Lifestyle mix use hub ไม่ใช่แค่คอมมูนิตี้มอลล์อย่างเดียวแล้ว แต่มาในคอนเซ็ปต์มิกซ์ยูสมีรีเทลจับกลุ่มลูกค้าอาศัยอยู่ย่านพระโขนง ด้วยพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และโคเวิร์กกิ้งสเปซ รวมอาคารสำนักงาน 10,000 ตารางเมตร ที่จะเปิดให้บริการให้เฟส 2 หรือปี 2561
ปรับ ทักราล ประธาน และกรรมการผู้จัดการกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในประเทศไทยตลาดรีเทลยังมีดีมานด์สูงอยู่มาก เพียงแต่ต้องมีรูปแบบที่ดี ทำเลที่ดี ต้องศึกษาความต้องการของแต่ละพื้นที่ให้ดี อาคารแบบมิกซ์ยูสเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างความแตกต่าง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการสถานที่ครบวงจร ได้เพิ่มโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เป็นเทรนด์ของคนยุคนี้ด้วย ที่นิยมเป็นฟรีแลนซ์กันมากขึ้น"
ที่มาของชื่อที่ใช้ว่าซัมเมอร์ฮิลล์ เพราะต้องการให้เป็นรีเทลคอลเลกชั่นเดียวกันกับเรนฮิลล์ จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน เรนฮิลล์จะเน้นคนในพื้นที่ทองหล่อ และพร้อมพงษ์ที่จะมีชาวญี่ปุ่นอยู่เยอะ ร้านค้าจะตอบโจทย์ญี่ปุ่น ส่วนซัมเมอร์ฮิลล์จะเน้นไลฟ์สไตล์ และเทรนด์ใหม่ๆ จับกลุ่มคนอาศัยย่านพระโขนง และคนเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
ถึงแม้บูทิคเองก็มีรีเทลในเส้นถนนสุขุมวิทแล้ว 1 ที่ โดยที่ทำเลไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก แต่บูทิคก็ยังเลือกตั้งอีก 1 แห่งที่ย่านพระโขนง ซึ่งได้สำรวจตลาดแล้วว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเพียงพอ
เริ่มจากกลุ่มคนที่อาศัยในย่านพระโขนงมีที่พักอาศัยกว่า 9,500 ยูนิต รวมทั้งบ้าน คอนโด อพาร์ทเมนต์ต่างๆ แบ่งเป็นโครงการที่มีอยู่แล้ว 7,200 ยูนิต และโครงการในอนาคตอีก 2,300 ยูนิต มีอาคารสำนักงานรวม 160,000 ตารางเมตร รวมทั้งยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย
และในย่านตั้งแต่บีทีเอสพระโขนง ยาวไปจนถึงในซอยสุขุมวิท 71 นั้นยังไม่มีคอมมูนิตี้หรือไลฟ์สไตล์มอลล์เพื่อเป็นสถานที่ให้คนในชุมชนได้แฮงเอาต์
สำหรับกลุ่มลูกค้ารองกลุ่มผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะแวะทำธุระ หรือใช้บริการได้ โดยสถานีพระโขนงมีทราฟฟิกเฉลี่ย 21,000 คน/วัน หรือราว 7.3 ล้านคน/ปี
สำหรับซัมเมอร์ฮิลล์จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการเฉลี่ย 10,000-12,000 คน/วัน เป็นทราฟฟิกเดียวกันกับเรนฮิลล์
http://positioningmag.com/1133644
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BOUTIQ
โพสต์ที่ 12
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้