สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 1
ขอรบกวนสอบถาม พี่ เพื่อนๆ เกี่ยวกับ
1. รายการหนี้สิน คิดเฉพาะรายการที่มีดอกเบี้ย ในงบดุล จะประกอบด้วย
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืม, หนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดจ่ายใน 1 ปี, หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ...ถูกต้องไหมครับ มีรายการอื่นเพิ่มอีกไหมครับ
สมมุติ หนี้สิน คิดเฉพาะที่มีดอกเบี้ย ของ AP : บริษัท เอพี งบไตรมาส 1/2557
http://www.set.or.th/set/companyfinance ... country=TH
เท่ากับ
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 3,894 +
ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 2,800 +
หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 10,255
หนี้สิน คิดเฉพาะที่มีดอกเบี้ย ของ AP = 16,949 ลบ ......ผมคิดถูกไหมครับ ถ้าผิดช่วยแนะนำที่ถูกด้วยครับ
2.สูตรหาหุ้น net cash คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด (ทั้งหนี้สั้นและหนี้ยาว) มีเงินเหลือ
สมมุติ คิด AP : บริษัท เอพี http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH
3M/2557
สินทรัพย์หมุนเวียน 34,520 - รวมหนี้สิน 21,583 = มีเงินเหลือ 12,937 ลบ....อย่างนี้เราถือว่าหุ้นตัวนี้มี net cash
ถ้าเอาไปหารจำนวนหุ้นปัจจุบัน มี 2,859 ล้านหุ้น เท่ากับ AP เหลือ 4.5 บาทต่อหุ้น
3. เคยฟังคุณฮง มาว่า หุ้น net cash ตามทัศนคติของคุณฮง
ใช้สูตรว่า เอาเงินสดของบริษัท - หนี้ธนาคาร แล้วเหลือ เงินสด เรียกว่า บริษัทมีเงินสดสุทธิ
การคิดแบบนี้ จะเหมือนข้อ 2. คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด แต่ Conservative กว่า เพราะเอาแค่ เงินสดรายการเดียว
ดังนั้น ถ้า บริษัทผ่านกฎนี้ได้ ยิ่งเข้มแข็ง มากกว่า การใช้สุตร net cash เดิม ใน ข้อ 2 ......ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบพระคุณมากครับ
1. รายการหนี้สิน คิดเฉพาะรายการที่มีดอกเบี้ย ในงบดุล จะประกอบด้วย
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืม, หนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดจ่ายใน 1 ปี, หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ...ถูกต้องไหมครับ มีรายการอื่นเพิ่มอีกไหมครับ
สมมุติ หนี้สิน คิดเฉพาะที่มีดอกเบี้ย ของ AP : บริษัท เอพี งบไตรมาส 1/2557
http://www.set.or.th/set/companyfinance ... country=TH
เท่ากับ
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 3,894 +
ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 2,800 +
หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 10,255
หนี้สิน คิดเฉพาะที่มีดอกเบี้ย ของ AP = 16,949 ลบ ......ผมคิดถูกไหมครับ ถ้าผิดช่วยแนะนำที่ถูกด้วยครับ
2.สูตรหาหุ้น net cash คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด (ทั้งหนี้สั้นและหนี้ยาว) มีเงินเหลือ
สมมุติ คิด AP : บริษัท เอพี http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH
3M/2557
สินทรัพย์หมุนเวียน 34,520 - รวมหนี้สิน 21,583 = มีเงินเหลือ 12,937 ลบ....อย่างนี้เราถือว่าหุ้นตัวนี้มี net cash
ถ้าเอาไปหารจำนวนหุ้นปัจจุบัน มี 2,859 ล้านหุ้น เท่ากับ AP เหลือ 4.5 บาทต่อหุ้น
3. เคยฟังคุณฮง มาว่า หุ้น net cash ตามทัศนคติของคุณฮง
ใช้สูตรว่า เอาเงินสดของบริษัท - หนี้ธนาคาร แล้วเหลือ เงินสด เรียกว่า บริษัทมีเงินสดสุทธิ
การคิดแบบนี้ จะเหมือนข้อ 2. คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด แต่ Conservative กว่า เพราะเอาแค่ เงินสดรายการเดียว
ดังนั้น ถ้า บริษัทผ่านกฎนี้ได้ ยิ่งเข้มแข็ง มากกว่า การใช้สุตร net cash เดิม ใน ข้อ 2 ......ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบพระคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 2
ขออนุญาต สอบถามเพิ่มเติม
เรื่อง EV/EBITDA = ((market cap + หนี้สินรวม) -เงินสด )/EBITDA
ถ้าผมคิดจากตัวอย่าง ของ AP : บริษัท เอพี งบไตรมาส 1/2557
http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH
EV AP =(14,585.59 + 21,583.59)-935.34 = 35,233.84
EBITDA AP= 439.44
EV/EBITDA AP = 35,233.84/439.44 = 80.17
ซึ่งหลักคิดของ EV/EBITDA เหมือน PE คือยิ่งต่ำยิ่งดี
ดังนั้น หลักการคิด ต้องคิด EBITDA จากทั้งปี คิดแค่ไตรมาสใดไตรมาสหนึ้งไม่ได้ เพราะมันจะดูสูงเกินไป
ดังนั้นควรประมาณการ EBITDA ทั้งปี สมมุติว่า 439.44*4 = 1757.76
EV/EBITDA AP = 35,233.84/1757.76 = 20.04 เท่า
ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบพระคุณมากครับ
เรื่อง EV/EBITDA = ((market cap + หนี้สินรวม) -เงินสด )/EBITDA
ถ้าผมคิดจากตัวอย่าง ของ AP : บริษัท เอพี งบไตรมาส 1/2557
http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH
EV AP =(14,585.59 + 21,583.59)-935.34 = 35,233.84
EBITDA AP= 439.44
EV/EBITDA AP = 35,233.84/439.44 = 80.17
ซึ่งหลักคิดของ EV/EBITDA เหมือน PE คือยิ่งต่ำยิ่งดี
ดังนั้น หลักการคิด ต้องคิด EBITDA จากทั้งปี คิดแค่ไตรมาสใดไตรมาสหนึ้งไม่ได้ เพราะมันจะดูสูงเกินไป
ดังนั้นควรประมาณการ EBITDA ทั้งปี สมมุติว่า 439.44*4 = 1757.76
EV/EBITDA AP = 35,233.84/1757.76 = 20.04 เท่า
ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบพระคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 3
ออกตัวก่อนว่าเรื่อง งบของบริษัทอสังหาฯ นี่ผมไม่ค่อยสันทัดนะครับ
แต่ผมพอจะอธิบายเรื่องของ net cash ในข้อ 2 กับ net cash เฉพาะเงินสดได้
เพราะถ้าเราคิดแบบข้อ 2 จะมี 2 สิ่งติดมาในสินทรัพย์หมุนเวียน คือ ลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ
ซึ่งเราจะต้องมาดูอีกว่า ลูกหนี้ ที่มีนั้นเป็นลูกหนี้ประเภทค้างชำระมานานแล้วหรือยัง
แล้วอนาคตจะมีโอกาสเก็บเงินไม่ได้หรือเปล่า(ตรงนี้เราไม่รู้ ยิ่งเป็นอสังหา ยิ่งคาดการณ์
ยากใหญ่) ต่อมา สินค้าคงเหลือ อันนี้ก็ยากเหมือนกัน เพราะต้องมองว่าเป็นสินค้าที่ค้าง
สต็อกมานานแล้ว หรือมีออร์เดอร์เข้ามามากสต็อกเลยเพิ่ม และมีเรื่องของการล้าสมัย
(อสังหาฯนี่ก็จะมีเรื่องโครงการที่ยังขายไม่หมด การมีโครงการอื่นที่ดูดีกว่า ทำให้โครงการ
ที่ยังขายไม่หมดดูล้าสมัยได้)
ดังนั้นผมจึงเลือกใช้ เงินสด-หนี้ จะได้เงินสดต่อหุ้นที่ชัวร์กว่าครับ...^^)
แต่ผมพอจะอธิบายเรื่องของ net cash ในข้อ 2 กับ net cash เฉพาะเงินสดได้
เข้าใจถูกต้องครับ ซึ่งปกติผมก็ใช้วิธีนี้คิดเวลาจะหามูลค่าของบริษัทครับkmitnb เขียน:3. เคยฟังคุณฮง มาว่า หุ้น net cash ตามทัศนคติของคุณฮง
ใช้สูตรว่า เอาเงินสดของบริษัท - หนี้ธนาคาร แล้วเหลือ เงินสด เรียกว่า บริษัทมีเงินสดสุทธิ
การคิดแบบนี้ จะเหมือนข้อ 2. คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด แต่ Conservative กว่า เพราะเอาแค่ เงินสดรายการเดียว
ดังนั้น ถ้า บริษัทผ่านกฎนี้ได้ ยิ่งเข้มแข็ง มากกว่า การใช้สุตร net cash เดิม ใน ข้อ 2 ......ผมเข้าใจถูกไหมครับ
เพราะถ้าเราคิดแบบข้อ 2 จะมี 2 สิ่งติดมาในสินทรัพย์หมุนเวียน คือ ลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ
ซึ่งเราจะต้องมาดูอีกว่า ลูกหนี้ ที่มีนั้นเป็นลูกหนี้ประเภทค้างชำระมานานแล้วหรือยัง
แล้วอนาคตจะมีโอกาสเก็บเงินไม่ได้หรือเปล่า(ตรงนี้เราไม่รู้ ยิ่งเป็นอสังหา ยิ่งคาดการณ์
ยากใหญ่) ต่อมา สินค้าคงเหลือ อันนี้ก็ยากเหมือนกัน เพราะต้องมองว่าเป็นสินค้าที่ค้าง
สต็อกมานานแล้ว หรือมีออร์เดอร์เข้ามามากสต็อกเลยเพิ่ม และมีเรื่องของการล้าสมัย
(อสังหาฯนี่ก็จะมีเรื่องโครงการที่ยังขายไม่หมด การมีโครงการอื่นที่ดูดีกว่า ทำให้โครงการ
ที่ยังขายไม่หมดดูล้าสมัยได้)
ดังนั้นผมจึงเลือกใช้ เงินสด-หนี้ จะได้เงินสดต่อหุ้นที่ชัวร์กว่าครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 4
เพิ่มเติมเรื่องของ EV/EBITDA ที่คุณคำนวน ที่ครั้งแรกได้ 80.17
และครั้งที่ 2 ได้ 20.04 มันคือค่าเดียวกันครับ เพียงแต่ครั้งแรก
เราให้ค่า EBITDA เป็นไตรมาส ผลลัพท์จึงออกมาเป็นไตรมาส
นั่นคือคืนทุนใน 80.17 ไตรมาส
ส่วนผลลัพท์ที่ 2 เราใช้ EBITDA เป็นปี ผลลัพท์จึงออกมาเป็นปี
นั่นคือ คืนทุนใน 20.04 ปี
ประเด็นสำคัญคือ EBITDA จะต้องได้ 439.44 เท่ากันตลอด 20.04 ปี
หรือ 80.17 ไตรมาสครับ...0.0)!!!!
.....^^)
และครั้งที่ 2 ได้ 20.04 มันคือค่าเดียวกันครับ เพียงแต่ครั้งแรก
เราให้ค่า EBITDA เป็นไตรมาส ผลลัพท์จึงออกมาเป็นไตรมาส
นั่นคือคืนทุนใน 80.17 ไตรมาส
ส่วนผลลัพท์ที่ 2 เราใช้ EBITDA เป็นปี ผลลัพท์จึงออกมาเป็นปี
นั่นคือ คืนทุนใน 20.04 ปี
ประเด็นสำคัญคือ EBITDA จะต้องได้ 439.44 เท่ากันตลอด 20.04 ปี
หรือ 80.17 ไตรมาสครับ...0.0)!!!!
.....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณ คุณ Plant เรื่อง หุ้น net cash ครับ
1. ถามอีกหนึ่งครับว่า คุณ Plant ยกกรณีศึกษาการหาหุ้น net cash ในอดีต ไม่ไหมครับ
2. สูตรหาหุ้น net cash แบบปกติ คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด (ทั้งหนี้สั้นและหนี้ยาว) มีเงินเหลือ
สมมุติ คิด AP : บริษัท เอพี http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH ของ 3M/2557
สินทรัพย์หมุนเวียน 34,520 - รวมหนี้สิน 21,583 = มีเงินเหลือ 12,937 ลบ....อย่างนี้เราถือว่าหุ้นตัวนี้มี net cash
ถ้าเอาไปหารจำนวนหุ้นปัจจุบัน มี 2,859 ล้านหุ้น เท่ากับ AP เหลือ 4.5 บาทต่อหุ้น ผมคิดถูกไหมครับ สงสัย
1. ถามอีกหนึ่งครับว่า คุณ Plant ยกกรณีศึกษาการหาหุ้น net cash ในอดีต ไม่ไหมครับ
2. สูตรหาหุ้น net cash แบบปกติ คือ สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้รวมทั้งหมด (ทั้งหนี้สั้นและหนี้ยาว) มีเงินเหลือ
สมมุติ คิด AP : บริษัท เอพี http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH ของ 3M/2557
สินทรัพย์หมุนเวียน 34,520 - รวมหนี้สิน 21,583 = มีเงินเหลือ 12,937 ลบ....อย่างนี้เราถือว่าหุ้นตัวนี้มี net cash
ถ้าเอาไปหารจำนวนหุ้นปัจจุบัน มี 2,859 ล้านหุ้น เท่ากับ AP เหลือ 4.5 บาทต่อหุ้น ผมคิดถูกไหมครับ สงสัย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 6
ถ้าพูดถึง Net Cash แล้ว
ผมมักจะใช้ เงินสด + เงินลงทุนระยะสั้น (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินฝากธนาคาร พันธบัตร เงินลงทุนในกองทุนตราสารหนี้) - ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย
ถ้าใครสนใจหุ้นประเภทนี้ ลองดูงบการเงินของ TTL ครับ
ผมมักจะใช้ เงินสด + เงินลงทุนระยะสั้น (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินฝากธนาคาร พันธบัตร เงินลงทุนในกองทุนตราสารหนี้) - ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย
ถ้าใครสนใจหุ้นประเภทนี้ ลองดูงบการเงินของ TTL ครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณ คุณ "chatchai" มากๆครับ
ผมมักจะใช้ เงินสด+เงินฝาก ที่อยู่ในงบดุลมาคำนวน แต่ยังไม่เคยมองเรื่อง
เงินลงทุนระยะสั้น ขอบคุณที่ชี้แนะครับ...^^)
เรื่องยกตัวอย่างการคำนวน ของคุณ "kmitnb" ไว้ตอนดึกๆผมจะมายกตัวอย่าง
วิธีที่ผมใช้นะครับ ตอนนี้อยู่บนรถพิมพ์ผิดๆถูกๆ 555+....^^)
ผมมักจะใช้ เงินสด+เงินฝาก ที่อยู่ในงบดุลมาคำนวน แต่ยังไม่เคยมองเรื่อง
เงินลงทุนระยะสั้น ขอบคุณที่ชี้แนะครับ...^^)
เรื่องยกตัวอย่างการคำนวน ของคุณ "kmitnb" ไว้ตอนดึกๆผมจะมายกตัวอย่าง
วิธีที่ผมใช้นะครับ ตอนนี้อยู่บนรถพิมพ์ผิดๆถูกๆ 555+....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 8
จากที่พยายามรวบรวมวิธีคิดและวิธีอธิบายให้เข้าใจ หวังว่าจะเข้าใจนะครับ...^^)
ผมขอเริ่มจากก่อนที่ผมจะใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธีแบบนี้ก่อนนะครับ
จริงๆแล้วผมไม่รู้จักวิธีหาหุ้น net cash นะครับ(คำศัพท์นี้ผมเพิ่งเคยเห็น...-.-??)
ผมเริ่มมาจาก ผมไปลงเรียนคอร์สการหามูลค่าหุ้นของที่นึงมา แล้วนำกลับมาใช้
แต่เกิดปัญหาที่ว่า ค่าตัวแปรต่างๆที่เราหามาใส่ในสูตรเป็นการประมาณการหรือเดา
ซะส่วนใหญ่ ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดได้มากมาย เช่น วิธี dcf fcff fcfe ค่า beta
หรือแม้กระทั่ง peg เพราะต้องคาดเดาไปอีก 5-10ปีข้างหน้า ซึ่งผมสงสัยว่าถ่าเราคาด
การณ์ไป 5 ปี แล้วเกิดปีหน้าน้ำท่วม แผ่นดินไหว บริษัทต้องมาซ่อมแซมโรงงาน เครื่องจักร
กำไรหดหายไป 2 ปี ผมก็ต้องมานั่งคำนวนใหม่หมดตั้งแต่ต้น ซึ่งก็ยังไม่รู้อีกว่าปีหน้าจะเป็น
ยังไงต่อ ผมจึงมาลงเอยกับวิธี pe ที่ง่ายที่สุดครับ
โดย pe เกริ่นเล็กน้อย สำหรับตัวผมมันคือค่าที่บอกว่า เราจะได้เงินคืนมาจากการลงทุนภายในกี่ปี
เช่น pe 10 ก็ได้เงินลงทุนคืนภายใน 10 ปี แต่ผมมาสงสัยว่า อ้าวแล้วหลังปีที่ 10 หละ ถ้าเราไม่ขาย
หุ้น แปลว่าที่เหลือคือกำไรเหรอ งั้นแปลว่าหุ้นตัวนั้นมันต้องมีค่าอยู่ด้วยหลังจากเราได้เงินคืนมาทั้งหมด
แล้ว เช่น เราซื้อหุ้น A มา 10 บาท หุ้น A ทำกำไรได้ปีละ 1 บาท เราถือครบ 10 ปีก็ได้กำไรคืนมา 10 บาท
+ กับหุ้น A ที่ยังเหลืออยู่ในมือ แปลว่าหุ้น A ก็ถือเป็นกำไรของเราด้วย ตรงจุดนี้ตามทันหรือไม่ครับ...^^)
เมื่อผมคิดว่าหุ้น A มันมีค่าอยู่ในปีที่ 10 แล้วไอตอนที่เราซื้อมาครั้งแรกหละมันมีค่าเท่าไร หรือก็คือวันที่
ผมซื้อ ณ วันนั้นหุ้น A มีค่าท่าไร??? ผมก็ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าสมมติหุ้น A ไม่ได้อยู่ในตลาดหละมัน
ควรมีค่าเท่าไร ผมก็เข้าคอนเซ็บสมการบัญชีเลยครับ สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน
ธุรกิจเริ่มก่อตั้งก็มี เงินทั้งหมดของผู้ร่วมก่อตั้ง(ทุน) + เงินกู้ยืม(หนี้สิน) แล้วก็มาตั้งเป็นบริษัท(สินทรัพย์)
พอดำเนินธุรกิจไปสมการมันก็แตกออกมาเป็น
สินทรัพย์ = (หนี้สิน) + (ทุน) ----> กลายเป็น
(สินทรัพย์หมุนเวียน+ไม่หมุนเวียน) =(หนี้สินหมุนเวียน+ไม่หมุนเวียน) + (เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม)
วิธีคิดของผม คือ หาราคาหุ้นของบริษัทในวันที่บริษัทเลิกกิจการ หรือที่เขามักเรียกกันว่ามูลค่าซาก
แต่มูลค่าซากส่วนใหญ่จะคิดโดยประเมินราคาที่ดินของบริษัทใหม่ แต่ผมไม่เก่งขนาดนั้นจึงคิดง่ายๆว่า
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมีค่า = หนี้สินไม่หมุนเวียน เพราะเวลาจะกู้ระยะยาวก็ต้องมากู้เพื่อซื้อเครื่องจักร
หรือสร้างอาคาร ดังนั้นเวลาขายมันจึงควรจ่ายหนี้ตัวมันเองให้หมดไป ดังนั้นสมการจะเหลือ
สินทรัพย์หมุนเวียน = หนี้สินหมุนเวียน + (เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม)
แล้วเรานำมาย้ายข้างสมการ จะได้
สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน = เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากผมเป็นเจ้าของหุ้นตัวนี้ผมก็ต้องขายโดยไม่ให้ตัวเองขาดทุน นั่นคือ
ราคาหุ้นที่จะขาย = เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสมทั้งหมด
ซึ่งก็เทียบมาเป็น
ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ที่จะขาย = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน ครับ
แล้วเราก็นำค่าที่ได้มาหารจำนวนหุ้น ก็จะได้ราคาต่อหุ้นมาแล้ว แต่บางครั้ง
ค่าที่ได้จะออกมามีราคาสูงกว่าราคาที่ขายกันอยู่ในปัจจุบันมาก แปลว่าหุ้นตัวนั้นถูกเหรอ??
เปล่าครับมันมี 2 ตัวที่ซ่อนอยู่ในทรัพย์สินหมุนเวียน คือ ลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ
หากได้ค่าที่สูงมากๆผมจะให้ 2 ตัวนี้มีค่าเป็น 0 แล้วมาหาค่าใหม่ครับ คือ ให้เก็บลูกหนี้ที่เหลือ
ไม่ได้เลย กับสินค้าคงเหลือที่มีขายไม่ได้เลย ก็จะได้เป็น
ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ที่จะขาย = (เงินสด+เงินฝาก) - หนี้สินหมุนเวียน นั่นหละครับ...^^)
วันนี้เท่านี้ก่อนครับ ดึกแล้ว ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาต่อเรื่องที่ผมใช้วิธีคิดแบบนี้
ร่วมกับก่รคิด pe ครับ หวังว่าคุณ "kmitnb" จะไม่งงนะครับ หุหุ...^^)
ผมขอเริ่มจากก่อนที่ผมจะใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธีแบบนี้ก่อนนะครับ
จริงๆแล้วผมไม่รู้จักวิธีหาหุ้น net cash นะครับ(คำศัพท์นี้ผมเพิ่งเคยเห็น...-.-??)
ผมเริ่มมาจาก ผมไปลงเรียนคอร์สการหามูลค่าหุ้นของที่นึงมา แล้วนำกลับมาใช้
แต่เกิดปัญหาที่ว่า ค่าตัวแปรต่างๆที่เราหามาใส่ในสูตรเป็นการประมาณการหรือเดา
ซะส่วนใหญ่ ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดได้มากมาย เช่น วิธี dcf fcff fcfe ค่า beta
หรือแม้กระทั่ง peg เพราะต้องคาดเดาไปอีก 5-10ปีข้างหน้า ซึ่งผมสงสัยว่าถ่าเราคาด
การณ์ไป 5 ปี แล้วเกิดปีหน้าน้ำท่วม แผ่นดินไหว บริษัทต้องมาซ่อมแซมโรงงาน เครื่องจักร
กำไรหดหายไป 2 ปี ผมก็ต้องมานั่งคำนวนใหม่หมดตั้งแต่ต้น ซึ่งก็ยังไม่รู้อีกว่าปีหน้าจะเป็น
ยังไงต่อ ผมจึงมาลงเอยกับวิธี pe ที่ง่ายที่สุดครับ
โดย pe เกริ่นเล็กน้อย สำหรับตัวผมมันคือค่าที่บอกว่า เราจะได้เงินคืนมาจากการลงทุนภายในกี่ปี
เช่น pe 10 ก็ได้เงินลงทุนคืนภายใน 10 ปี แต่ผมมาสงสัยว่า อ้าวแล้วหลังปีที่ 10 หละ ถ้าเราไม่ขาย
หุ้น แปลว่าที่เหลือคือกำไรเหรอ งั้นแปลว่าหุ้นตัวนั้นมันต้องมีค่าอยู่ด้วยหลังจากเราได้เงินคืนมาทั้งหมด
แล้ว เช่น เราซื้อหุ้น A มา 10 บาท หุ้น A ทำกำไรได้ปีละ 1 บาท เราถือครบ 10 ปีก็ได้กำไรคืนมา 10 บาท
+ กับหุ้น A ที่ยังเหลืออยู่ในมือ แปลว่าหุ้น A ก็ถือเป็นกำไรของเราด้วย ตรงจุดนี้ตามทันหรือไม่ครับ...^^)
เมื่อผมคิดว่าหุ้น A มันมีค่าอยู่ในปีที่ 10 แล้วไอตอนที่เราซื้อมาครั้งแรกหละมันมีค่าเท่าไร หรือก็คือวันที่
ผมซื้อ ณ วันนั้นหุ้น A มีค่าท่าไร??? ผมก็ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าสมมติหุ้น A ไม่ได้อยู่ในตลาดหละมัน
ควรมีค่าเท่าไร ผมก็เข้าคอนเซ็บสมการบัญชีเลยครับ สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน
ธุรกิจเริ่มก่อตั้งก็มี เงินทั้งหมดของผู้ร่วมก่อตั้ง(ทุน) + เงินกู้ยืม(หนี้สิน) แล้วก็มาตั้งเป็นบริษัท(สินทรัพย์)
พอดำเนินธุรกิจไปสมการมันก็แตกออกมาเป็น
สินทรัพย์ = (หนี้สิน) + (ทุน) ----> กลายเป็น
(สินทรัพย์หมุนเวียน+ไม่หมุนเวียน) =(หนี้สินหมุนเวียน+ไม่หมุนเวียน) + (เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม)
วิธีคิดของผม คือ หาราคาหุ้นของบริษัทในวันที่บริษัทเลิกกิจการ หรือที่เขามักเรียกกันว่ามูลค่าซาก
แต่มูลค่าซากส่วนใหญ่จะคิดโดยประเมินราคาที่ดินของบริษัทใหม่ แต่ผมไม่เก่งขนาดนั้นจึงคิดง่ายๆว่า
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมีค่า = หนี้สินไม่หมุนเวียน เพราะเวลาจะกู้ระยะยาวก็ต้องมากู้เพื่อซื้อเครื่องจักร
หรือสร้างอาคาร ดังนั้นเวลาขายมันจึงควรจ่ายหนี้ตัวมันเองให้หมดไป ดังนั้นสมการจะเหลือ
สินทรัพย์หมุนเวียน = หนี้สินหมุนเวียน + (เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม)
แล้วเรานำมาย้ายข้างสมการ จะได้
สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน = เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสม
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากผมเป็นเจ้าของหุ้นตัวนี้ผมก็ต้องขายโดยไม่ให้ตัวเองขาดทุน นั่นคือ
ราคาหุ้นที่จะขาย = เงินทั้งหมดของผู้ก่อตั้ง+กำไรสะสมทั้งหมด
ซึ่งก็เทียบมาเป็น
ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ที่จะขาย = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน ครับ
แล้วเราก็นำค่าที่ได้มาหารจำนวนหุ้น ก็จะได้ราคาต่อหุ้นมาแล้ว แต่บางครั้ง
ค่าที่ได้จะออกมามีราคาสูงกว่าราคาที่ขายกันอยู่ในปัจจุบันมาก แปลว่าหุ้นตัวนั้นถูกเหรอ??
เปล่าครับมันมี 2 ตัวที่ซ่อนอยู่ในทรัพย์สินหมุนเวียน คือ ลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ
หากได้ค่าที่สูงมากๆผมจะให้ 2 ตัวนี้มีค่าเป็น 0 แล้วมาหาค่าใหม่ครับ คือ ให้เก็บลูกหนี้ที่เหลือ
ไม่ได้เลย กับสินค้าคงเหลือที่มีขายไม่ได้เลย ก็จะได้เป็น
ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ที่จะขาย = (เงินสด+เงินฝาก) - หนี้สินหมุนเวียน นั่นหละครับ...^^)
วันนี้เท่านี้ก่อนครับ ดึกแล้ว ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาต่อเรื่องที่ผมใช้วิธีคิดแบบนี้
ร่วมกับก่รคิด pe ครับ หวังว่าคุณ "kmitnb" จะไม่งงนะครับ หุหุ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 9
ต่อจากเมื่อวานครับ...^^)
ผมขอยกตัวอย่างวิธีคิดหุ้นตัวนึงที่ทำให้เห็นภาพทั้งหมดนะครับ แต่ไม่เอ่ยชื่อหุ้นดีกว่า
ยกตัวอย่างหุ้น B มีสินทรัพย์หมุนเวียน = 3,108 หมื่นล้านบาท
มีหนี้สินหมุนเวียน = 675 หมื่นล้านบาท มีจำนวนหุ้นทั้งหมด = 120 หมื่นล้านหุ้น
นำมาเข้าสูตรคำนวน สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน = 3,108 - 675 = 2,433
นำมาหารจำนวนหุ้น ได้มูลค่าหุ้นละ = 2,433/120 = 20.275 บาท/หุ้น
ซึ่งค่าที่ได้ดูสูงมาก ผมจึงนำมาหัก ลูกหนี้ กับ สินค้าคงเหลือ
ลูกหนี้ = 636 หมื่นล้านบาท สินค้าคงเหลือ = 995 หมื่นล้านบาท
นำสูตรที่คำนวนได้มาหักออก จะได้ 2,433 - (636+995) = 802
นำมาหารจำนวนหุ้น ได้มูลค่าหุ้นละ = 802/120 = 6.683 บาท/หุ้น
ดังนั้น หุ้นที่ผมซื้อมาในวันนั้นมีมูลค่าตัวมันเองอยู่ 6.68 บาท
เมื่อผมนำมาใช้กับวิธีคิดแบบ PE ผมจะกำหนดค่า PE ที่ต้องการเช่น ให้ PE = 15
กำไรต่อหุ้นประมานการได้ปีละ 0.90 มูลค่าหุ้น B ที่คำนวนตามปกติ
เป็น 15*0.90 = 13.50 บาท แต่เมื่อผมซื้อหุ้น B ผมจะได้มูลค่าของหุ้น
ในวันนั้นเพิ่มมาอีก 6.68 บาท
ดังนั้นที่ PE 15 ผมจะตั้งราคาซื้อหุ้น B ได้ที่ 13.50 + 6.68 = 20.18 บาท
ครับ...^^)
พอจะเข้าใจวิธีคำนวนไหมครับ จากราคานี้ผมอาจมีเผื่อ MOS อีก 20-30%
ก็ได้ครับ จะได้เสี่ยงน้อยลงไปอีก
ปล. ต้องบอกก่อนว่าวิธีนี้ ผมลองใช้แล้วได้ผลตามที่ผมต้องการ แต่คนอื่นใช้แล้ว
จะดีหรือเปล่าผมไม่รู้ ผมอยากให้ดูเป็นแนวคิดครับ แล้วก็ก่อนที่จะมาวิเคราะราคานี่
หุ้นตัวนั้นต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆที่ผมตั้งไว้ก่อนนะครับ เช่น ROE กระแสเงินสด
จำนวนหนี้สินต่อทุน ความสม่ำเสมอของกำไรย้อนหลัง 5 ปีดูเป็นรายไตรมาส
อนาคตการเติบโตของบริษัท เป็นต้น ผมจึงอยากให้คุณ "kmitnb" ดูวิธีคิด
มากกว่าดูสูตรการคำนวนครับ...^^)
ผมขอยกตัวอย่างวิธีคิดหุ้นตัวนึงที่ทำให้เห็นภาพทั้งหมดนะครับ แต่ไม่เอ่ยชื่อหุ้นดีกว่า
ยกตัวอย่างหุ้น B มีสินทรัพย์หมุนเวียน = 3,108 หมื่นล้านบาท
มีหนี้สินหมุนเวียน = 675 หมื่นล้านบาท มีจำนวนหุ้นทั้งหมด = 120 หมื่นล้านหุ้น
นำมาเข้าสูตรคำนวน สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน = 3,108 - 675 = 2,433
นำมาหารจำนวนหุ้น ได้มูลค่าหุ้นละ = 2,433/120 = 20.275 บาท/หุ้น
ซึ่งค่าที่ได้ดูสูงมาก ผมจึงนำมาหัก ลูกหนี้ กับ สินค้าคงเหลือ
ลูกหนี้ = 636 หมื่นล้านบาท สินค้าคงเหลือ = 995 หมื่นล้านบาท
นำสูตรที่คำนวนได้มาหักออก จะได้ 2,433 - (636+995) = 802
นำมาหารจำนวนหุ้น ได้มูลค่าหุ้นละ = 802/120 = 6.683 บาท/หุ้น
ดังนั้น หุ้นที่ผมซื้อมาในวันนั้นมีมูลค่าตัวมันเองอยู่ 6.68 บาท
เมื่อผมนำมาใช้กับวิธีคิดแบบ PE ผมจะกำหนดค่า PE ที่ต้องการเช่น ให้ PE = 15
กำไรต่อหุ้นประมานการได้ปีละ 0.90 มูลค่าหุ้น B ที่คำนวนตามปกติ
เป็น 15*0.90 = 13.50 บาท แต่เมื่อผมซื้อหุ้น B ผมจะได้มูลค่าของหุ้น
ในวันนั้นเพิ่มมาอีก 6.68 บาท
ดังนั้นที่ PE 15 ผมจะตั้งราคาซื้อหุ้น B ได้ที่ 13.50 + 6.68 = 20.18 บาท
ครับ...^^)
พอจะเข้าใจวิธีคำนวนไหมครับ จากราคานี้ผมอาจมีเผื่อ MOS อีก 20-30%
ก็ได้ครับ จะได้เสี่ยงน้อยลงไปอีก
ปล. ต้องบอกก่อนว่าวิธีนี้ ผมลองใช้แล้วได้ผลตามที่ผมต้องการ แต่คนอื่นใช้แล้ว
จะดีหรือเปล่าผมไม่รู้ ผมอยากให้ดูเป็นแนวคิดครับ แล้วก็ก่อนที่จะมาวิเคราะราคานี่
หุ้นตัวนั้นต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆที่ผมตั้งไว้ก่อนนะครับ เช่น ROE กระแสเงินสด
จำนวนหนี้สินต่อทุน ความสม่ำเสมอของกำไรย้อนหลัง 5 ปีดูเป็นรายไตรมาส
อนาคตการเติบโตของบริษัท เป็นต้น ผมจึงอยากให้คุณ "kmitnb" ดูวิธีคิด
มากกว่าดูสูตรการคำนวนครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการคิดหุ้น net cash
โพสต์ที่ 10
ขอบพระคุณ คุณ Plant และ พี่ chatchai มากครับ
เดี่ยวค่อยอ่านทำความเข้าใจ....
เรียนถามเพิ่มครับ
ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย ....ในงบดุล โดยทั่วไปจะประกอบด้วย
1. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืม, 2. หนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดจ่ายใน 1 ปี, 3. หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ...ถูกต้องไหมครับ
มีรายการอื่นเพิ่มอีกไหมครับ ผม งงๆ
เดี่ยวค่อยอ่านทำความเข้าใจ....
เรียนถามเพิ่มครับ
ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย ....ในงบดุล โดยทั่วไปจะประกอบด้วย
1. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืม, 2. หนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดจ่ายใน 1 ปี, 3. หนี้สินระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ...ถูกต้องไหมครับ
มีรายการอื่นเพิ่มอีกไหมครับ ผม งงๆ