โค้ด: เลือกทั้งหมด
จากบทความที่แล้ว เรากล่าวถึงหลุมพราง VI สี่ข้อได้แก่ หนึ่ง ซื้อแล้วไม่ขาย สอง ลงทุนหุ้น 100% ตลอดเวลาโดยไม่ถือเงินสด สาม ซื้อหุ้นเพื่อให้มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และสี่ ซื้อขายหุ้นตามผู้บริหาร มาดูกันว่าหลุมพรางที่พบบ่อยมีอะไรอีกบ้าง
ข้อห้า เปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนกันผู้อื่น เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สังคมนักลงทุน VI ได้รับการยอมรับมากขึ้น มีการพบปะกันบ่อยขึ้น มีช่องทางติดต่อและแชร์ข้อมูลกันมากขึ้น เมื่อมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านผลตอบแทน นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการรับฟังข้อมูลและการนำมาเปรียบเทียบ เพราะข้อจำกัดและเงื่อนไขการลงทุนที่เกิดจากขนาดของพอร์ต ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและกิจการที่เลือกลงทุน กลยุทธ์ที่รับความเสี่ยงมากขึ้นทั้งการใช้มาร์จิ้นหรือชอร์ตเชล ล้วนเป็นตัวอย่างขององค์ประกอบที่ทำให้เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนต่อปีแตกต่างกันได้ นอกจากนี้ผลตอบแทนของแต่ละคนอาจเป็นการคำนวณอย่างหยาบและไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจในการนำเสนออีกด้วย
การเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนกับผู้อื่น อาจทำให้ไม่พอใจและไม่มีความสุขในการลงทุน ซึ่งเป็น “หลุมพราง” นำไปสู่การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ลงทุนที่ไม่เหมาะกับแนวทางการลงทุนของตน เช่น ยอมรับความเสี่ยงมากขึ้น เริ่มลงทุนนอกขอบข่ายความรู้ของตน ตัดสินใจซื้อขายหุ้นและเล่นรอบบ่อยครั้งขึ้น เป็นต้น ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่พอใจผลตอบแทนของตนที่ได้รับ คือ เพิ่มศักยภาพการลงทุนของตนด้วยการศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมเพราะนี่คือการเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนที่ยั่งยืนกว่า
ข้อหก มั่นใจมากจึงถือหุ้นน้อยตัวเกินไป หรือ ไม่มั่นใจจึงถือหุ้นมากเกินไป (Over/Under Confidence) แม้นักลงทุนที่ดีต้องมีความมั่นใจในการตัดสินใจลงทุน แต่การถือหุ้นเพียง 1-2 ตัวอาจเป็นการให้ความสำคัญกับความเสี่ยงน้อยเกินไป แม้ธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลยและยังอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ การถือหุ้นน้อยตัวเกินไปยังอาจทำให้เกิดความกังวล ไม่สบายใจและไม่มีความสุขกับการลงทุนอีกด้วย ส่วนนักลงทุนเลือกถือหุ้นกว่า 15-20 ตัวนั้น แม้จะเป็นการกระจายความเสี่ยงแต่ก็เป็นการบ่งบอกถึงความสามารถในการคัดเลือกหุ้น ความมั่นใจที่จะตัดหุ้นที่คุณภาพด้อยกว่าออก ข้อเสียของการถือหุ้นมากตัวเกินไปคือ ข้อจำกัดด้านเวลาในการติดตามข้อมูลของแต่ละกิจการเชิงลึกนั่นเอง
นักลงทุนควรกำหนดกรอบการลงทุน (check list) ที่เหมาะกับตนเอง อุตสาหกรรมและกิจการที่เข้าใจดีและเข้าข่ายการลงทุนของตน ขนาดกิจการทั้งด้านมูลค่ากิจการ ยอดขายหรือกำไร สัดส่วนลงทุนเช่น หากไม่กล้าตัดสินใจซื้อหุ้นนั้นอย่างน้อย 10% ของพอร์ตก็จะไม่เข้าลงทุนเป็นต้น นักลงทุนแต่ละคนจะรู้ดีว่า จำนวนหุ้นและสัดส่วนการซื้อหุ้นแต่ละตัวที่เหมาะกับตนเป็นอย่างไร
ข้อเจ็ด ลืมตัวชั่วคราว สิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุนคือ การนำหลักการมา “ปฏิบัติ”ให้เกิดผลจริง เพราะนักลงทุนจะได้รับสิ่งเร้าจากภายนอกจนอาจทำให้เกิดสภาวะลืมตัวชั่วคราว เช่น เล่นรอบซื้อถูกขายแพงเพื่อทำกำไรระยะสั้นเช่นเดียวกับคนรอบข้าง กลัวตกรถจึงไล่ซื้อหุ้นโดยไม่รอราคาให้มี Margin of Safety เพียงพอ ซื้อขายหุ้นจากคำแนะนำการลงทุนจากงานสัมมนาหรือรายการวิทยุโทรทัศน์จนเกิดพฤติกรรมหมู่ (Herding) ตัดสินใจซื้อขายหุ้นเมื่อบริษัทประกาศผลประกอบการออกมาดีมากหรือแย่มากโดยไม่ศึกษารายละเอียด เป็นต้น นี่คือตัวอย่างที่ล้วนเป็นหลุมพรางทำให้นักลงทุน VI ไขว้เขวจากแนวทางการลงทุนของตน คำแนะนำก็คือ นักลงทุนจะต้องมี “สติ” และมี “วินัย” ในการลงทุนเสมอ การอยู่ห่างตลาดและสิ่งเร้าบ้างจะเป็นการช่วยให้ยึดมั่นในแนวทาง VI ของตนได้วิธีหนึ่ง
ข้อสุดท้าย ลืมเป้าหมายการลงทุน นักลงทุน VI ล้วนมีเป้าหมายในการลงทุนของตน เช่น การตั้งเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุน 12-15% ต่อปีเพื่อสร้างความมั่งคั่งควบคู่กับการทำงานประจำ เพื่ออิสรภาพทางการเงินโดยไม่ต้องพึ่งรายได้ประจำ นอกจากนี้เป้าหมายที่ควรมีคือ ความสงบ ความสุข สบายใจและความพอใจกับผลตอบแทนและความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
แม้มีนักลงทุนรอบข้างที่เก่ง ขยัน มุ่งมั่นและทุ่มเทเวลาให้กับการลงทุนอย่างมาก นักลงทุน VI ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบนักลงทุนอื่นทุกประการ แต่ควรเลือกนำจุดแข็งมาใช้เพื่อเลือกลงทุนเฉพาะ “เกมที่ตนถนัด” เท่านั้น นักลงทุนต้องไม่ตก “หลุมพรางความมั่งคั่ง” จนลืมความสำคัญของสุขภาพกาย สุขภาพใจ ความสุขในการลงทุน จัดสรรเวลาให้กับคนรักรอบข้าง และทำกิจกรรมที่ตนและครอบครัวชื่นชอบด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “หลุมพราง” ที่พบบ่อยบนถนนการลงทุน คำแนะนำสำหรับ Value Investor คือการมี “ไดอารี่การลงทุน” เพื่อบันทึกเรื่องราว หลุมพราง ข้อผิดพลาดที่เคยประสบเพื่อเป็นบทเรียนและป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก
ในโอกาส “วันมหาสงกรานต์” ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยปี 2557 นี้ ผมขอส่งความสุขและความปรารถนาดีมายังนักลงทุน VI ผู้อ่านและสมาชิกในครอบครัวทุกท่าน หากต้องเดินทางไกล ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และยังหวังว่าประเทศไทยจะผ่านพ้น “หลุมพรางทางการเมือง” และออกจากวิกฤติการเมืองเพื่อความรุ่งเรืองของประเทศและความสงบสุขของคนไทยทุกคนในเร็ววัน