ห้างกลางม็อบกัดฟันลดค่าเช่า50% ธุรกิจปรับแผนสู้!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
anomaly
Verified User
โพสต์: 1244
ผู้ติดตาม: 0

ห้างกลางม็อบกัดฟันลดค่าเช่า50% ธุรกิจปรับแผนสู้!

โพสต์ที่ 1

โพสต์


ห้างกลางม็อบกัดฟันลดค่าเช่า50% ธุรกิจปรับแผนสู้!เติม"แม็กเนต"พลิกฟื้นทราฟฟิก

updated: 18 ก.พ. 2557 เวลา 10:01:00 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


ห้างกลางม็อบเตรียมลดค่าเช่าพื้นที่ช่วยร้านค้า 10-50% เน้นสาขาวงล้อมม็อบ "ราชประสงค์-ปทุมวัน-แจ้งวัฒนะ" ส.ราชประสงค์เร่งฟื้นทราฟฟิก-ยอดขาย ส่งอีเวนต์ "สตรีท เฟสติวัล" กระทุ้งยาวถึง มิ.ย. ร้านค้าไม่ยอมจำนน ปรับตัวสู้ "สตาร์บัคส์" เข็นแคมเปญสะสมแต้มเพิ่มความถี่ ร้านอาหารอัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้า


ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ยังคงปักหลักต่อเนื่องก้าวข้าม 2 เดือนไปแล้ว และยังไม่มีสัญญาณที่จะยุติได้เมื่อไหร่นั้น แต่ธุรกิจยังคงต้องเดินหน้าซึ่งช่วง 1 เดือนแรกที่ต้องแบกรับต้นทุนและโอกาสทางธุรกิจที่หายไป โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองที่ยอดขายรวมหายไปเฉลี่ยกว่า 50% เมื่อย่างเข้าเดือนที่ 2 ผู้ประกอบการต้องลดภาระค่าใช้จ่าย และเห็นภาพการให้พนักงานพักงานจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ล่าสุดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าโดยรอบพื้นที่การชุมนุมใจกลางเมืองเซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ และเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ รวมถึงในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งคอมมิวนิตี้มอลล์ของกลุ่มสยามฟิวเจอร์เตรียมปรับลดค่าเช่าพื้นที่สำหรับช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่า

ศูนย์การค้าลดค่าเช่าช่วยร้านค้า

แหล่งข่าวระดับสูงในธุรกิจค้าปลีกเชนสโตร์รายใหญ่ต่างประเทศฉายภาพว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อและไม่มีสัญญาณว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจค่อนข้างมาก โดยตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาทราฟฟิกลูกค้าเข้าร้านค้า และการจับจ่ายในศูนย์การค้าลดลงมาก จึงได้เจรจากับเจ้าของพื้นที่เพื่อขอลดค่าเช่าในช่วงที่มีการชุมนุม โดยเฉพาะสาขาที่เปิดในเซ็นทรัลเวิลด์ได้ลดค่าเช่าพื้นที่ให้ 10-50% ขึ้นอยู่กับธุรกิจ แต่สำหรับค่าบริการ ค่าแสงสว่าง และค่ารักษาความปลอดภัย ฯลฯ ก็ยังต้องจ่ายตามปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับลดค่าเช่าพื้นที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถทดแทนกับยอดขายที่ลดลงได้ ขณะเดียวกันสาขาอื่นๆ รวมทั้งสาขาในต่างจังหวัดก็ได้รับผลกระทบจากมู้ดการจับจ่ายของลูกค้าลงด้วย

สอดคล้องกับนายศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังการประชุมทีมบริหารเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (10-14 กุมภาพันธ์) เอ็ม บี เคตัดสินใจปรับลดค่าเช่า10-20% ขึ้นอยู่กับร้านค้าเป็นราย ๆ ไปเป็นการดูแลและประคับประคองกันไปเนื่องจากไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์จะจบ

"แม้ว่าปริมาณทราฟฟิกและยอดขายจะไม่ได้ลดฮวบ80% เหมือนช่วงแรก แต่ก็ยังคงลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับปกติ ร้านค้าเปิดแต่ก็ต้องปรับสต๊อกสินค้า ซึ่งปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วว่าทุกแคทิกอรี่ได้รับผลกระทบทั้งยอดขายและกำไร"

เร่งทำแผนฟื้นฟูดึงทราฟฟิก

กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัทเอ็ม บี เค กล่าวว่า พร้อมกันนี้ก็ได้เตรียมปรับกลยุทธ์ใน 2 ส่วน เพื่อช่วยเหลือร้านค้าและการหามาตรการการกระตุ้นเพื่อดึงทราฟฟิกให้เข้ามาจับจ่าย โดยได้เตรียมงบฯการตลาดไว้เพื่อจัดโปรโมชั่นและอีเวนต์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หายไป เอ็ม บี เคได้ปรับรูปแบบการตลาดด้วยการส่งข้อมูลผ่านทางสื่อต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้รับรู้และตัดสินใจ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าทันทีที่การชุมนุมยุติ เศรษฐกิจและบรรยากาศการจับจ่ายจะกลับมาฟื้นตัวและค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ด้านนางณัฐรินทร์ พยุงวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีผลกระทบต่อยอดทราฟฟิกของลูกค้าที่เข้ามาในศูนย์ โดยเฉพาะสาขาแจ้งวัฒนะกระทบหนักที่สุดเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชุมนุมหลัก ซึ่งบริษัทได้มีการลดค่าเช่าให้ลูกค้าบางส่วน ซึ่งจะพิจารณาเป็นราย ๆ ตามแต่ละธุรกิจ

เช่นเดียวกับศูนย์การค้าสยามพารากอน แหล่งข่าวผู้เช่าในศูนย์ระบุว่า ศูนย์เตรียมช่วยเหลือร้านค้าถ้าการชุมนุมลากยาวต่อเนื่อง แต่จะเป็นในรูปแบบที่เหมาะสมของแต่ละร้านค้า อย่างไรก็ตาม ยอมรับโอกาสการขายของร้านค้าสั้นลง เนื่องจากที่ผ่านมาต้องปิดให้บริการเร็วขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้าที่ต้องปรับตัวตาม ไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน แต่ไม่มีมู้ดที่จะมาจับจ่าย

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า หลังจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้ปรับเวลาปิดศูนย์การค้าเร็วขึ้น คือ 18.00 น. หรือ 20.00 น.ตลอดช่วงที่มีการชุมนุม แต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับเวลากลับสู่ปกติ คือ 10.00-22.00 น. เพื่อรับกับกำลังซื้อช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ที่คาดว่าจะมีเงินสะพัด 3.3 พันล้านบาท พร้อมได้เพิ่มพื้นที่เข้าออกศูนย์การค้าครบทั้ง 4 ด้านจากเดิมที่เปิด 1 ช่องทาง

ราชประสงค์ชาร์จธุรกิจรอบใหม่

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ RSTA กล่าวว่า ราชประสงค์ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานครและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปลุกเศรษฐกิจของย่านครั้งใหม่

ด้วยแคมเปญ "ราชประสงค์ สตรีท เฟสติวัล" ผ่านเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่องจากนี้ยิงยาวถึงเดือนมิถุนายน ด้วยแผนงานสำหรับการพลิกฟื้นราชประสงค์ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักช็อปปิ้งผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กของสมาคมและสมาชิกทั้งหมดของย่าน

นอกจากนี้ ได้ทำ "แผนที่ไลฟ์สไตล์ "Lifestyle Map" อัพเดตเส้นทางการสัญจร ความปลอดภัยและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในย่าน โดยหวังว่าจะเกิดกระแสการบอกต่อระหว่างนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ที่จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของย่านให้เข้าสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือพนักงาน 4 หมื่นราย และร้านค้า 3,000 ร้านค้าในย่าน

สตาร์บัคส์ส่งโปรแกรมเพิ่มความถี่

นางสาวสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้รับผลกระทบพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีสัดส่วนประมาณ 10-20% ซึ่งขณะนี้หายไปหมด โดยเฉพาะหลังการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่กลับมา ขณะที่กลุ่มลูกค้าคนไทยก็มีอารมณ์การจับจ่ายน้อยลง หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไปคาดว่าภาพรวมสตาร์บัคส์จะได้รับผลกระทบยอดขายหดหายประมาณ 10% โดยเฉพาะพื้นที่ชุมนุมสตาร์บัคส์มีประมาณ 20 สาขา

อย่างไรก็ตาม บริษัทกระตุ้นการจับจ่ายในกลุ่มลูกค้าคนไทยด้วยการได้เปิดลอยัลตี้โปรแกรม "มาย สตาร์บัคส์ รีวอร์ดส์" ให้สิทธิพิเศษเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ เข้ามาเป็นครั้งแรก อาทิ ซื้อครบ 12 แก้ว รับฟรี 1 แก้ว

สะสมแต้มเมื่อซื้อสินค้าครบ 100 บาท ได้ของขวัญพิเศษและส่วนลด คาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้สตาร์บัคส์ การ์ดอีก 20% เพื่อทดแทนยอดที่หายไปจากนักท่องเที่ยว และสาขาที่ได้รับผลกระทบ

ด้านนางสาวสมรรัตน์ ศิริรัตน์อัสดร ผู้ช่วยผู้จัดการการตลาดฟู้ดรีเทล ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์แบรนด์มิสซิสฟิลด์สกล่าวว่า บริษัทได้หารือกันเพื่อหามาตรการในการรับมือกับผลกระทบของสาขาที่อยู่ในย่านพื้นที่ชุมนุม ได้แก่ สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อดึงผู้บริโภคให้เข้ามาซื้อสินค้าด้วยโปรโมชั่นเฉพาะ 2 สาขานี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการยุบเวทีบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ส่งผลให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวสามารถเปิด-ปิดได้ตามปกติ พบว่ายอดขายของสาขาในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นไปในทิศทางเดียวกับนางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองยืดเยื้อยิ่งนานก็ยิ่งเห็นภาพผลกระทบกับยอดขาย โดยเฉพาะสาขาในพื้นที่การชุมนุมที่มีอยู่ 3 จุด โดย 2 สาขาในพื้นที่ราชประสงค์มียอดขายลดลงถึง 50% ขณะที่อีก 1 สาขาในพื้นที่แจ้งวัฒนะมียอดขายลดลง 20% และอาจทำให้การเติบโตในครึ่งปีแรกไม่เป็นไปตามเดิม ระหว่างนี้จึงเป็นเรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่าย รวมทั้งใช้กิจกรรมการตลาดรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้น
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1392657229
การเดินทางสำคัญกว่าจุดหมาย
โพสต์โพสต์