โพสต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
จากข้อมูลสถิติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30กรกฎาคม 2556 พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนในSET และ maiจำนวน 484และ 87 บริษัท ตามลำดับ นับว่าเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับกว่า 550,000บริษัทที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ทั่วประเทศ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะปัจจัยด้านขนาด ศักยภาพ ความพร้อม ตลอดจนความต้องการระดมทุนของธุรกิจนั่นเอง
นอกจากนี้กิจการที่มีขนาดมูลค่าตลาด(Market Capitalization) มากกว่า 10,000ล้านบาทนั้น มีเพียงประมาณ 1 ใน6 ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดเท่านั้น ทั้งๆ ที่บริษัทขนาดใหญ่ส่วนมากเลือกเติบโตธุรกิจผ่านการระดมทุนเป็นบริษัทมหาชนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่ก็ยังมีกิจการขนาดใหญ่ของไทยจำนวนไม่มากนักที่ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียน เช่นกัน
หากวิเคราะห์ถึงโครงสร้างของบางอุตสาหกรรม จะพบกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญทั้งด้านส่วนแบ่งการตลาด ศักยภาพธุรกิจ อำนาจการต่อรอง รวมถึงมีผลต่อการแข่งขันและกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม ลองดูตัวอย่างว่ามีกลุ่มธุรกิจอะไรบ้าง
กลุ่มธุรกิจการแพทย์ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ (BGH)ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลมากว่า 40ปี เพิ่งประกาศแผนขยายธุรกิจจาก 30 เป็น 50 โรงพยาบาลในอีก3 ปีข้างหน้า จะเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และได้ประโยชน์จาก Economies of Scaleมากที่สุด ผู้ประกอบการรายอื่นจึงต้องมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมตอบสนองกลุ่มเป้าหมายของตนและต้องบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อผลประกอบการที่ดีเช่นกัน
ธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)เปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 33ปี เป็นผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นทั้งด้านขนาด ส่วนแบ่งการตลาด ประสบการณ์และความสำเร็จในอดีต ยังมีแผนขยายธุรกิจเพิ่มเติมต่อเนื่องทั้งภายในและต่างประเทศด้วยการระดมทุนเพิ่มผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีกด้วยจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ประกอบการรายอื่นหรือรายใหม่ๆ ที่จะพัฒนาธุรกิจให้มีขนาดและศักยภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับ CPNในปัจจุบัน
ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีบริษัท ซีพีออล์(CPALL)ผู้ประกอบการร้าน 7-11ที่มีจุดเด่นเรื่องความสะดวกในการเข้าถึงผู้บริโภคใช้เวลากว่า25ปีจนมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 7,000แห่ง แม้การแข่งขันทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นจากคู่แข่งที่มีศักยภาพแต่แผนการขยายสาขาต่อปีและการเข้าซื้อกิจการค้าส่ง MAKRO น่าจะช่วยเพิ่มประโยชน์จาก Economies of Scaleและ Efficiencyเพื่อยังรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันไว้ได้ต่อไป
ธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมีจำนวนผู้ให้บริการแน่นอนเนื่องจากอยู่ใต้กรอบสัมปทานหรือใบอนุญาต ผู้ใช้บริการจึงเป็นผู้ตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการที่มีอยู่จำกัด การแข่งขันจึงเป็นไปในลักษณะที่ทุกรายอยู่ร่วมกันได้ ตำแหน่งและส่วนแบ่งทางการตลาดของแต่ละรายมักไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ความต้องการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นและ ส่วนแบ่งรายได้ภายใต้ใบอนุญาตใหม่ ผลประกอบการทุกรายควรจะไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการที่บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจะมีผลประกอบการโดดเด่นที่สุดด้วย
บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC)คือหนึ่งในบริษัทไทยที่เปิดดำเนินธุรกิจครบ 100ปี เป็นผู้นำธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ธุรกิจซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระดาษ ปิโตรเคมี และดิสทริบิวชั่นมีศักยภาพพร้อมในการขยายธุรกิจและการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงจึงเป็นกิจการที่มีความแข็งแกร่งและเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ที่กล่าวข้างต้นไม่มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหุ้นดังกล่าวแต่เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเป็นกรณีศึกษาสำหรับธุรกิจที่โดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรมนั้น ล้วนมีประวัติยาวนานนับหลายสิบปีที่ผู้ร่วมก่อตั้ง ผู้ถือหุ้น ผู้บริหารและพนักงานทุกคนได้ทุ่มเท ความรู้ ความสามารถ ร่วมมือร่วมใจเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนกิจการเติบใหญ่และมีความแข็งแกร่งในปัจจุบัน
จากหลายเดือนก่อนที่นักลงทุนส่วนหนึ่งเลือกถือเงินสดและยังไม่ตัดสินใจลงทุนเนื่องจากตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาตลอด ในยามที่ตลาดเผชิญความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงและมีความผันผวนสูง นี่จึงน่าจะเป็น ‘โอกาส’ ในการเป็น “หุ้นส่วนของธุรกิจไทย” ที่เข้าข่าย ‘กิจการยอดเยี่ยมในราคายุติธรรม’ หรือ ‘กิจการคุณภาพปานกลางในราคาถูกลง’ ก็ได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมากนับจากนี้ เพราะการลงทุนคงจะ‘ไม่ง่าย’ เหมือนช่วงตลาดขาขึ้นดังเช่นที่ผ่านมา
บันทึกไม่สำเร็จ