ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้วัฎจักรเศรษกิจอยู่ช่วงไหนแล้ว จะหาคำตอบได้จากไหนบ้างครับ
- มีหน่วยงานไหนที่เขามีข้อมูลเรื่องนี้โดยตรงไหมครับ
- หรือว่าเราจะต้องวิเคราะห์เอาเองจาก อัตราดอกเบี้ย, ราคาน้ำมัน, ราคาทองคำ แล้วมีที่ไหนบ้างที่จะให้ความรู้ในการวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้ให้คำตอบครับครับ
จะทราบได้อย่างไรว่าตอนนี้วัฎจักรเศรษกิจอยู่ช่วงไหนแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จะทราบได้อย่างไรว่าตอนนี้วัฎจักรเศรษกิจอยู่ช่วงไหนแล้ว
โพสต์ที่ 2
น่าจะดูจากยอดขายรถ ยอดขายบ้านมั่งครับ แล้วก็คงเป็น ดัชชีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และผู้ประกอบการครับ ดอกเบี้ยแบงค์อีกตัวครับ จริงๆ ตลาดหุ้นก็สามารถบอกล่วงหน้าได้ครับ จริงๆ ในหนังสือ กุญแจห้าดอก มีการพูดถึงเกี่ยวกับตัว leading indicators อยู่อ่ะครับ ลองไปหาอ่านดูนะครับ จริงๆ สำหรับผม ผมอ่านบทวิเคาะห์มุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจเอาอ่ะครับ จะมีผู้เชียวชาญมาให้ความเห็นตามหนังสือพิมพ์อยู่นิครับ
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2748
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จะทราบได้อย่างไรว่าตอนนี้วัฎจักรเศรษกิจอยู่ช่วงไหนแล้ว
โพสต์ที่ 3
ถ้าเอาตามวิชาการ Macroeconomics ก็ต้องดู Aggregate Demand และ Aggregate Supply ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงครับ เช่น
- AD ลดลงอย่างอื่นคงที่ -> ความต้องการการบริโภคลดลงแต่ผลิตคงเดิม ราคาสินค้าก็ต้องลดลงเรื่อยๆ เกิด Recession (ภาวะถดถอย?)
- AD เพิ่มขึ้นอย่างอื่นคงที่ -> การบริโภคเพิ่มขึ้นแต่ผลิตเท่าเดิม ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิด Inflation (ภาวะเงินเฟ้อ?)
เป็นต้น ทีนี้วิธีการดู AD หรือ AS นั้นก็ดูได้จาก GDP growth, ปริมาณเงินลงทุน, อัตราดอกเบี้ย, ค่าแรง, และอื่นๆ ทั้งจากนโยบายของรัฐบาลและปัจจัยภายนอก
ในแต่ละภาวะเศรษฐกิจ การจัดพอร์ทการลงทุนก็ต้องเปลี่ยนไป เช่นช่วงภาวะถดถอยควรเน้นไปลงพันธบัตรหรือหุ้นเชิงตั้งรับเพราะราคาสินค้าจะตกเศรษฐกิจจะย่ำแย่ แต่ภาวะเงินเฟ้อนั้นตรงกันข้าม ควรลงทุนในหุ้นวัฏจักรหลายๆชนิด ไม่ควรลงทุนใน fixed income เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น เงินจะด้อยค่าลง
ทีนี้เนื่องจากต้องวิเคราะห์เอาเอง ต่างคนต่างก็ว่ากันไปต่างๆนาๆครับ บางคนว่าเศรษฐกิจกำลังโต บางคนว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ หรืออื่นๆ แต่พอถึงจุดหนึ่งทุกคนก็จะมองคล้ายๆกัน เห็นได้จากกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าออกตลาดหุ้นไทย ส่วนหนึ่งมาจากการวิเคราะห์แนวนี้
- AD ลดลงอย่างอื่นคงที่ -> ความต้องการการบริโภคลดลงแต่ผลิตคงเดิม ราคาสินค้าก็ต้องลดลงเรื่อยๆ เกิด Recession (ภาวะถดถอย?)
- AD เพิ่มขึ้นอย่างอื่นคงที่ -> การบริโภคเพิ่มขึ้นแต่ผลิตเท่าเดิม ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิด Inflation (ภาวะเงินเฟ้อ?)
เป็นต้น ทีนี้วิธีการดู AD หรือ AS นั้นก็ดูได้จาก GDP growth, ปริมาณเงินลงทุน, อัตราดอกเบี้ย, ค่าแรง, และอื่นๆ ทั้งจากนโยบายของรัฐบาลและปัจจัยภายนอก
ในแต่ละภาวะเศรษฐกิจ การจัดพอร์ทการลงทุนก็ต้องเปลี่ยนไป เช่นช่วงภาวะถดถอยควรเน้นไปลงพันธบัตรหรือหุ้นเชิงตั้งรับเพราะราคาสินค้าจะตกเศรษฐกิจจะย่ำแย่ แต่ภาวะเงินเฟ้อนั้นตรงกันข้าม ควรลงทุนในหุ้นวัฏจักรหลายๆชนิด ไม่ควรลงทุนใน fixed income เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น เงินจะด้อยค่าลง
ทีนี้เนื่องจากต้องวิเคราะห์เอาเอง ต่างคนต่างก็ว่ากันไปต่างๆนาๆครับ บางคนว่าเศรษฐกิจกำลังโต บางคนว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ หรืออื่นๆ แต่พอถึงจุดหนึ่งทุกคนก็จะมองคล้ายๆกัน เห็นได้จากกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าออกตลาดหุ้นไทย ส่วนหนึ่งมาจากการวิเคราะห์แนวนี้
Vi IMrovised