เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 1
คอลัมน์: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, April 30, 2012 06:54
เปิดความลับพอร์ตลงทุน 'ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร' วีไอต้นตำรับของเมืองไทย สรุปตัวเลข 'ไตรมาสแรก' ของปี 2555 โกยกำไรเกินเป้าหมายชนิดที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง!!
เคยโชว์พอร์ตลงทุนของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วีไอต้นตำรับของเมืองไทยผ่าน "บิซวีค" ไปแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนแทบไม่เชื่อสายตาว่าพอร์ตลงทุนของอาจารย์นิเวศน์ในปี 2555 จะเติบโตรวดเร็วขนาดนี้เหนือระดับ 2,500 ล้านบาท ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อประมาณสองปีก่อนยังพูดกันแค่ตัวเลขระดับ 1,000 ล้านบาท และหากย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนพอร์ตเริ่มต้นแค่ระดับ "สิบล้านบาท" เท่านั้นเอง
ความมหัศจรรย์ของแนวทางการลงทุนแบบ "เต่า" แต่พอร์ตวิ่งเร็วกว่า "กระต่าย" ส่งให้อาจารย์นิเวศน์ยังครองใจแฟนพันธุ์แท้หุ้นวีไออันดับหนึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย คำถามหนึ่งที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าถามไถ่กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ในช่วงที่ตลาดหุ้นมาแรงแซงทางโค้ง จนดัชนีไต่ระดับขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี อาจารย์นิเวศน์ซึ่งเป็น "ไอดอล" (บุคคลต้นแบบ) ของเหล่า Value Investor โกยกำไรจากการลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 เข้าเป้าหมายหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปถามเจ้าตัวให้เป็นผู้เฉลย
ดร.นิเวศน์ ปรมาจารย์ด้านแวลูอินเวสเตอร์ของเมืองไทย บอกเล่าว่า ผลตอบแทนจากเงินปันผลบวกกับราคาหุ้น ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เรียกได้ว่า "เกินเป้าหมายแบบสุดๆ" หากคิดจากราคาหุ้นเพียงอย่างเดียวก็น่าจะมีกำไรราวๆ 20% เทียบจากราคาหุ้นเมื่อปลายปี 2554
"ปกติผมจะปักธง! ทุกครั้งว่าต้องมีกำไรจากการลงทุน (กำไรหุ้นบวกเงินปันผล) ปีละประมาณ 10-15% แต่ผ่านมาเพียง 3 เดือน ผมได้รับผลตอบแทนเกินเป้าหมายแล้วค่อนข้างมาก จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีกำไรสูงขนาดนี้ ต้องยกความดีให้บริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนเหล่านั้น ผู้บริหารเขาเก่งมาก ผมแค่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง"
อาจารย์นิเวศน์ อธิบายว่า หลายคนคงคิดว่ากำไรจากการลงทุนของผม เกิดจากการขายหุ้นในพอร์ตออกมา จริงๆ แล้ว "ไม่ใช่เลย..ผมไม่เคยขาย" ก่อนลงทุนทุกครั้งจะคัดหุ้นมาอย่างดี โดยผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาต้นทุน และเงินปันผลที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่บริษัทจ่ายเงินปันผลก็มักจะนำเงินซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มเติม หากวิเคราะห์แล้วพบว่าคุ้มค่า และเข้าเงื่อนไขการลงทุนทุกประการ
ปัจจุบัน ดร.นิเวศน์ มีหุ้นอยู่ในพอร์ตทั้งหมดเกือบ 20 บริษัท โดยในจำนวนนี้เป็นหุ้นธุรกิจค้าปลีกมากที่สุดมีอยู่ 7-8 บริษัท และหุ้นธุรกิจค้าปลีกเหล่านี้ถือเป็นตัวสร้างผลงานได้อย่าง "โดดเด่น" เจ้าตัวเล่าว่า จริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีกเพราะส่วนตัวไม่นิยมซื้อหุ้นเป็นกลุ่ม ชอบซื้อหุ้นเป็น "รายตัว" มากกว่า แต่เนื่องจากจุดเด่นหลายๆ อย่างของกลุ่มค้าปลีกเข้าเงื่อนไขการลงทุนที่ตั้งไว้ จึงทยอยซื้อมาเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทียังคิดเลยว่า “ทำไมเรามีเยอะจัง” (หัวเราะ)
เงื่อนไขการลงทุนที่เป็น "ข้อดี" ของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ลงทุนอยู่ ปรมาจารย์หุ้นวีไอของเมืองไทย ตีโจทย์ให้ฟังว่า ประการที่หนึ่ง..มีความเสี่ยงต่ำในแง่ของผลประกอบการ สอง..มีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน และสม่ำเสมอ สาม..ธุรกิจมีกระแสเงินสดที่ดีมาก และประการสุดท้าย..มีตำแหน่งทางการตลาดที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งเงื่อนไขลักษณะนี้ "ผมจะนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อหุ้นตัวอื่นๆ ด้วย"
ถามว่า..วันนี้ยังสามารถลงทุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกได้อีกหรือไม่ ดร.นิเวศน์ กล่าวว่า หากมองในมุมของ "ราคาหุ้น" ส่วนตัวคิดว่า "ราคาไม่ถูกแล้ว" หุ้นพวกนี้มันเคยถูกมากเมื่อ 7-8 ปีก่อน แต่เผอิญส่วนตัวไม่ใช่คนที่จะนำราคามาเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อหุ้น แต่จะนิยมดู "ปัจจัยพื้นฐาน" ของบริษัทมากกว่า หากพบว่าธุรกิจนั้นยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ และสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ "ผมซื้อเลย"
ในส่วนของหุ้นตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในพอร์ต ก็สร้างกำไรในช่วงไตรมาสแรกได้ดี หากจะถามว่าตอนนี้มูลค่าพอร์ตอยู่ระดับไหนคงตอบเป็นตัวเลขไม่ได้ บอกได้เพียงว่ายังคงยืนอยู่ "หลักพันล้านบาท พอร์ตของผมเติบโตขึ้นทุกปี"
สำหรับเป้าหมายการลงทุน เจ้าตัวยังยืนยัน การลงทุนต้องเติบโตทุกปีเฉลี่ยปีละ 10-15% เพียงเท่านี้ "ผมก็มีความสุขมากแล้ว" ไม่เคยขอให้พอร์ตโตปีละ 100% เหมือนในอดีต พอร์ตยิ่งใหญ่ขึ้นจะหวังให้มูลค่าขยายตัวมากกว่าเดิมมากๆ คงเป็นไปได้ยาก
หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาที่พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ "หัวหิน" ได้นั่งมองทะเลและคิดอะไรมากมาย อาจารย์นิเวศน์ บอกว่า ในภาวะตลาดหุ้นเช่นนี้ (ที่ขึ้นมามากแล้ว) ก็ยังมีหุ้นหลายกลุ่มน่าสนใจ เช่น กลุ่มธนาคาร สื่อสาร และ พลังงาน เนื่องจากพวกนี้พื้นฐานดี แถมจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง จึงทำให้เขา "มีเสน่ห์” แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า อาจมีความเสี่ยงบางอย่างที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ และหากเกิดขึ้นอาจส่งผลต่อราคาหุ้นได้ง่าย
ถามถึงมุมมองตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี 2555 วีไอต้นตำรับของเมืองไทย ตอบว่า คิดว่าสิ้นปี 2555 ดัชนีจะเติบโตขึ้นประมาณ 20% หรือยืนระดับ 1,200 จุด เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ที่ดัชนีปิดที่ระดับ 1,025 จุด แม้จะมีเรื่องไม่ดีออกมาเซอร์ไพรส์ แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่า "หุ้นไทยจะลงไม่แรง" เพราะราคาหุ้นวันนี้ "ไม่ได้สูงมาก" ที่สำคัญในประเทศยังมี "ข่าวดี" มากมายมาสนับสนุน
ข่าวดีสำคัญที่สุดที่จะ "หนุนดัชนี" ปีนี้ ก็คือ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในปี 2555 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 20% เพราะมาตรการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% จะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเพิ่มขึ้นทันที 10%
ขณะเดียวกันปี 2555 ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ (จีดีพี) มีโอกาสเติบโต 5-6% ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อมีข่าวดีถึง "สองเด้ง" นักลงทุนคงมีแต่ "เก็บหุ้นเข้ากระเป๋า" แม้การเมืองบ้านเราจะยังไม่ค่อยราบรื่น แต่มันไม่ได้วุ่นวาย ผลกระทบตลาดหุ้นไม่น่าจะมี
สำหรับความกังวลเศรษฐกิจต่างประเทศ วันนี้ยังออกแนวทรงๆ ตัว ส่วนตัวยังเชื่อว่าจะไม่มีวิกฤติอะไรมากระทบตลาดหุ้นอย่างรุนแรง "ถึงมี..เศรษฐกิจไทยก็ทนได้" ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยได้ "แยกตัว" ออกมาแล้ว เรามีการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น เราไม่ต้องพึ่งพายุโรปและสหรัฐอเมริกาเหมือนก่อนแล้ว
ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในภาวะตลาดกลางๆ แบบนี้ (ไม่ถูก-ไม่แพง) ควรเลือกลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 50% ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนสินทรัพย์ประเภทใด บอกตรงๆ ในภาวะตอนนี้ยังไม่เห็นมีสินทรัพย์อะไรโดดเด่นนักลงทุนควร "กระจายความเสี่ยง" ไล่ตั้งแต่เสี่ยงต่ำที่สุดไปจนถึงเสี่ยงสูงสุด นั่นคือ เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และ ตลาดหุ้น
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ คิดว่าลงหุ้นเพียง 20-30% ก็น่าจะโอเค จริงๆ ก็ไม่อยากแนะนำว่าควรลงทุนในสัดส่วนเท่าไร มันอยู่ที่ระยะเวลาการถือหุ้นมากกว่า เพราะบางคนเขาอาจมีรายรับมากกว่ารายจ่ายมาก ฉะนั้นก็สามารถลงทุนได้มากกว่า 30% ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจเป็นหลัก
“ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น การเมืองที่ไม่วุ่นวาย จะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 20% บนสมมติฐานที่ว่า คัดเลือกหุ้นได้ดี หุ้นทุกตัวที่ซื้อมาต้องมีพื้นฐานที่ดี”
กูรูตลาดหุ้นระดับแถวหน้า กล่าวทิ้งท้ายว่า รู้สึกดีใจที่นักลงทุนรุ่นใหม่แนว "วีไอ" มีตนเองเป็น "ต้นแบบ" ในการลงทุน จนทำให้นักลงทุนหลายรายประสบความสำเร็จและก็หวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่นำประโยชน์จากสิ่งที่ตนเองเขียนและให้ความรู้ไปใช้เรื่อยๆ จะยิ่งรู้สึกยินดี
"ผมอยากบอกนักลงทุนทุกท่านว่า อย่าคาดหวังว่าวันนี้ต้องได้ผลตอบแทนเท่าเดิม และอย่าหวังว่าลงทุนแล้วต้องได้กำไรเหมือนรุ่นพี่ ที่ในอดีตเคยทำได้ 100% วันนี้ต้องยอมรับว่าเราเข้ามาทีหลัง ฉะนั้นความสัมฤทธิผลย่อมน้อยกว่าเป็นธรรมดา ไม่เหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ยังไม่ค่อยมีใครเล่นแนว VI ช่วงนั้นรวยแบบไร้เหตุผล..จริงๆ ก็มีเหตุผล (หัวเราะ)"
อาจารย์นิเวศน์ ฝากถึงแฟนพันธุ์แท้สไตล์วีไอ ว่า ข้อสำคัญ "อย่ายึดติดกับกลยุทธ์เดิมๆ" นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจะต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เพื่อลดความเสี่ยง และรักษาความมั่งคั่งของพอร์ต
"สำหรับผมคิดว่าการลงทุนระยะยาว "อย่างมีสติ" เป็นทฤษฎีที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแน่นอน" วีไอต้นตำรับของเมืองไทย กล่าว
บรรยายใต้ภาพ
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, April 30, 2012 06:54
เปิดความลับพอร์ตลงทุน 'ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร' วีไอต้นตำรับของเมืองไทย สรุปตัวเลข 'ไตรมาสแรก' ของปี 2555 โกยกำไรเกินเป้าหมายชนิดที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง!!
เคยโชว์พอร์ตลงทุนของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วีไอต้นตำรับของเมืองไทยผ่าน "บิซวีค" ไปแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนแทบไม่เชื่อสายตาว่าพอร์ตลงทุนของอาจารย์นิเวศน์ในปี 2555 จะเติบโตรวดเร็วขนาดนี้เหนือระดับ 2,500 ล้านบาท ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อประมาณสองปีก่อนยังพูดกันแค่ตัวเลขระดับ 1,000 ล้านบาท และหากย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนพอร์ตเริ่มต้นแค่ระดับ "สิบล้านบาท" เท่านั้นเอง
ความมหัศจรรย์ของแนวทางการลงทุนแบบ "เต่า" แต่พอร์ตวิ่งเร็วกว่า "กระต่าย" ส่งให้อาจารย์นิเวศน์ยังครองใจแฟนพันธุ์แท้หุ้นวีไออันดับหนึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย คำถามหนึ่งที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าถามไถ่กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ในช่วงที่ตลาดหุ้นมาแรงแซงทางโค้ง จนดัชนีไต่ระดับขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี อาจารย์นิเวศน์ซึ่งเป็น "ไอดอล" (บุคคลต้นแบบ) ของเหล่า Value Investor โกยกำไรจากการลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 เข้าเป้าหมายหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปถามเจ้าตัวให้เป็นผู้เฉลย
ดร.นิเวศน์ ปรมาจารย์ด้านแวลูอินเวสเตอร์ของเมืองไทย บอกเล่าว่า ผลตอบแทนจากเงินปันผลบวกกับราคาหุ้น ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เรียกได้ว่า "เกินเป้าหมายแบบสุดๆ" หากคิดจากราคาหุ้นเพียงอย่างเดียวก็น่าจะมีกำไรราวๆ 20% เทียบจากราคาหุ้นเมื่อปลายปี 2554
"ปกติผมจะปักธง! ทุกครั้งว่าต้องมีกำไรจากการลงทุน (กำไรหุ้นบวกเงินปันผล) ปีละประมาณ 10-15% แต่ผ่านมาเพียง 3 เดือน ผมได้รับผลตอบแทนเกินเป้าหมายแล้วค่อนข้างมาก จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีกำไรสูงขนาดนี้ ต้องยกความดีให้บริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนเหล่านั้น ผู้บริหารเขาเก่งมาก ผมแค่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง"
อาจารย์นิเวศน์ อธิบายว่า หลายคนคงคิดว่ากำไรจากการลงทุนของผม เกิดจากการขายหุ้นในพอร์ตออกมา จริงๆ แล้ว "ไม่ใช่เลย..ผมไม่เคยขาย" ก่อนลงทุนทุกครั้งจะคัดหุ้นมาอย่างดี โดยผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาต้นทุน และเงินปันผลที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่บริษัทจ่ายเงินปันผลก็มักจะนำเงินซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มเติม หากวิเคราะห์แล้วพบว่าคุ้มค่า และเข้าเงื่อนไขการลงทุนทุกประการ
ปัจจุบัน ดร.นิเวศน์ มีหุ้นอยู่ในพอร์ตทั้งหมดเกือบ 20 บริษัท โดยในจำนวนนี้เป็นหุ้นธุรกิจค้าปลีกมากที่สุดมีอยู่ 7-8 บริษัท และหุ้นธุรกิจค้าปลีกเหล่านี้ถือเป็นตัวสร้างผลงานได้อย่าง "โดดเด่น" เจ้าตัวเล่าว่า จริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีกเพราะส่วนตัวไม่นิยมซื้อหุ้นเป็นกลุ่ม ชอบซื้อหุ้นเป็น "รายตัว" มากกว่า แต่เนื่องจากจุดเด่นหลายๆ อย่างของกลุ่มค้าปลีกเข้าเงื่อนไขการลงทุนที่ตั้งไว้ จึงทยอยซื้อมาเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทียังคิดเลยว่า “ทำไมเรามีเยอะจัง” (หัวเราะ)
เงื่อนไขการลงทุนที่เป็น "ข้อดี" ของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ลงทุนอยู่ ปรมาจารย์หุ้นวีไอของเมืองไทย ตีโจทย์ให้ฟังว่า ประการที่หนึ่ง..มีความเสี่ยงต่ำในแง่ของผลประกอบการ สอง..มีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน และสม่ำเสมอ สาม..ธุรกิจมีกระแสเงินสดที่ดีมาก และประการสุดท้าย..มีตำแหน่งทางการตลาดที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งเงื่อนไขลักษณะนี้ "ผมจะนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อหุ้นตัวอื่นๆ ด้วย"
ถามว่า..วันนี้ยังสามารถลงทุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกได้อีกหรือไม่ ดร.นิเวศน์ กล่าวว่า หากมองในมุมของ "ราคาหุ้น" ส่วนตัวคิดว่า "ราคาไม่ถูกแล้ว" หุ้นพวกนี้มันเคยถูกมากเมื่อ 7-8 ปีก่อน แต่เผอิญส่วนตัวไม่ใช่คนที่จะนำราคามาเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อหุ้น แต่จะนิยมดู "ปัจจัยพื้นฐาน" ของบริษัทมากกว่า หากพบว่าธุรกิจนั้นยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ และสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ "ผมซื้อเลย"
ในส่วนของหุ้นตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในพอร์ต ก็สร้างกำไรในช่วงไตรมาสแรกได้ดี หากจะถามว่าตอนนี้มูลค่าพอร์ตอยู่ระดับไหนคงตอบเป็นตัวเลขไม่ได้ บอกได้เพียงว่ายังคงยืนอยู่ "หลักพันล้านบาท พอร์ตของผมเติบโตขึ้นทุกปี"
สำหรับเป้าหมายการลงทุน เจ้าตัวยังยืนยัน การลงทุนต้องเติบโตทุกปีเฉลี่ยปีละ 10-15% เพียงเท่านี้ "ผมก็มีความสุขมากแล้ว" ไม่เคยขอให้พอร์ตโตปีละ 100% เหมือนในอดีต พอร์ตยิ่งใหญ่ขึ้นจะหวังให้มูลค่าขยายตัวมากกว่าเดิมมากๆ คงเป็นไปได้ยาก
หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาที่พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ "หัวหิน" ได้นั่งมองทะเลและคิดอะไรมากมาย อาจารย์นิเวศน์ บอกว่า ในภาวะตลาดหุ้นเช่นนี้ (ที่ขึ้นมามากแล้ว) ก็ยังมีหุ้นหลายกลุ่มน่าสนใจ เช่น กลุ่มธนาคาร สื่อสาร และ พลังงาน เนื่องจากพวกนี้พื้นฐานดี แถมจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง จึงทำให้เขา "มีเสน่ห์” แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า อาจมีความเสี่ยงบางอย่างที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ และหากเกิดขึ้นอาจส่งผลต่อราคาหุ้นได้ง่าย
ถามถึงมุมมองตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี 2555 วีไอต้นตำรับของเมืองไทย ตอบว่า คิดว่าสิ้นปี 2555 ดัชนีจะเติบโตขึ้นประมาณ 20% หรือยืนระดับ 1,200 จุด เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ที่ดัชนีปิดที่ระดับ 1,025 จุด แม้จะมีเรื่องไม่ดีออกมาเซอร์ไพรส์ แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่า "หุ้นไทยจะลงไม่แรง" เพราะราคาหุ้นวันนี้ "ไม่ได้สูงมาก" ที่สำคัญในประเทศยังมี "ข่าวดี" มากมายมาสนับสนุน
ข่าวดีสำคัญที่สุดที่จะ "หนุนดัชนี" ปีนี้ ก็คือ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในปี 2555 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 20% เพราะมาตรการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% จะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเพิ่มขึ้นทันที 10%
ขณะเดียวกันปี 2555 ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ (จีดีพี) มีโอกาสเติบโต 5-6% ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อมีข่าวดีถึง "สองเด้ง" นักลงทุนคงมีแต่ "เก็บหุ้นเข้ากระเป๋า" แม้การเมืองบ้านเราจะยังไม่ค่อยราบรื่น แต่มันไม่ได้วุ่นวาย ผลกระทบตลาดหุ้นไม่น่าจะมี
สำหรับความกังวลเศรษฐกิจต่างประเทศ วันนี้ยังออกแนวทรงๆ ตัว ส่วนตัวยังเชื่อว่าจะไม่มีวิกฤติอะไรมากระทบตลาดหุ้นอย่างรุนแรง "ถึงมี..เศรษฐกิจไทยก็ทนได้" ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยได้ "แยกตัว" ออกมาแล้ว เรามีการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น เราไม่ต้องพึ่งพายุโรปและสหรัฐอเมริกาเหมือนก่อนแล้ว
ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในภาวะตลาดกลางๆ แบบนี้ (ไม่ถูก-ไม่แพง) ควรเลือกลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 50% ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนสินทรัพย์ประเภทใด บอกตรงๆ ในภาวะตอนนี้ยังไม่เห็นมีสินทรัพย์อะไรโดดเด่นนักลงทุนควร "กระจายความเสี่ยง" ไล่ตั้งแต่เสี่ยงต่ำที่สุดไปจนถึงเสี่ยงสูงสุด นั่นคือ เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และ ตลาดหุ้น
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ คิดว่าลงหุ้นเพียง 20-30% ก็น่าจะโอเค จริงๆ ก็ไม่อยากแนะนำว่าควรลงทุนในสัดส่วนเท่าไร มันอยู่ที่ระยะเวลาการถือหุ้นมากกว่า เพราะบางคนเขาอาจมีรายรับมากกว่ารายจ่ายมาก ฉะนั้นก็สามารถลงทุนได้มากกว่า 30% ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจเป็นหลัก
“ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น การเมืองที่ไม่วุ่นวาย จะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 20% บนสมมติฐานที่ว่า คัดเลือกหุ้นได้ดี หุ้นทุกตัวที่ซื้อมาต้องมีพื้นฐานที่ดี”
กูรูตลาดหุ้นระดับแถวหน้า กล่าวทิ้งท้ายว่า รู้สึกดีใจที่นักลงทุนรุ่นใหม่แนว "วีไอ" มีตนเองเป็น "ต้นแบบ" ในการลงทุน จนทำให้นักลงทุนหลายรายประสบความสำเร็จและก็หวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่นำประโยชน์จากสิ่งที่ตนเองเขียนและให้ความรู้ไปใช้เรื่อยๆ จะยิ่งรู้สึกยินดี
"ผมอยากบอกนักลงทุนทุกท่านว่า อย่าคาดหวังว่าวันนี้ต้องได้ผลตอบแทนเท่าเดิม และอย่าหวังว่าลงทุนแล้วต้องได้กำไรเหมือนรุ่นพี่ ที่ในอดีตเคยทำได้ 100% วันนี้ต้องยอมรับว่าเราเข้ามาทีหลัง ฉะนั้นความสัมฤทธิผลย่อมน้อยกว่าเป็นธรรมดา ไม่เหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ยังไม่ค่อยมีใครเล่นแนว VI ช่วงนั้นรวยแบบไร้เหตุผล..จริงๆ ก็มีเหตุผล (หัวเราะ)"
อาจารย์นิเวศน์ ฝากถึงแฟนพันธุ์แท้สไตล์วีไอ ว่า ข้อสำคัญ "อย่ายึดติดกับกลยุทธ์เดิมๆ" นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจะต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เพื่อลดความเสี่ยง และรักษาความมั่งคั่งของพอร์ต
"สำหรับผมคิดว่าการลงทุนระยะยาว "อย่างมีสติ" เป็นทฤษฎีที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแน่นอน" วีไอต้นตำรับของเมืองไทย กล่าว
บรรยายใต้ภาพ
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 2
ยินดีกับ dr ด้วยครับ
โคตรยอด vi
โคตรยอด vi

M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 28
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 3
ยอดเยี่ยมเสมอครับDr นักลงทุนในดวงใจ




noname
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 6
อาจารย์นิเวศน์ ฝากถึงแฟนพันธุ์แท้สไตล์วีไอ ว่า ข้อสำคัญ "อย่ายึดติดกับกลยุทธ์เดิมๆ" นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจะต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เพื่อลดความเสี่ยง และรักษาความมั่งคั่งของพอร์ต
"สำหรับผมคิดว่าการลงทุนระยะยาว "อย่างมีสติ" เป็นทฤษฎีที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแน่นอน" วีไอต้นตำรับของเมืองไทย กล่าว
ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ
"สำหรับผมคิดว่าการลงทุนระยะยาว "อย่างมีสติ" เป็นทฤษฎีที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแน่นอน" วีไอต้นตำรับของเมืองไทย กล่าว
ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 9
ยินดีด้วยครับ
ซักวันหวังว่าผมจะมีขนาดพอร์ตเท่าของ ดร.
ซักวันหวังว่าผมจะมีขนาดพอร์ตเท่าของ ดร.
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 10
ผมเป็นคนมักน้อยครับ ขอ Port ขนาด 1/10 ของท่าน DR.
ก็พอแล้ว
ก็พอแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ครับ
และขอแสดงความยินดีกับ ท่าน ดร.นิเวศน์ ฯ ครับ
และขอแสดงความยินดีกับ ท่าน ดร.นิเวศน์ ฯ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ สำหรับบทสัมภาษณ์ดี ๆ ของ อ.นิเวศน์ คร้าบผม
-
- Verified User
- โพสต์: 1161
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 16
^^ ถ้่าฝากตอน ดร. เริ่มเล่นเลย จาก 1 ล้าน จะเป็น 250 ล้าน นะครับ...เนื่องจาก ดร. เริ่มประมาณ 10 ล้าน จนกลายเป็น 2,500 ล้านในปัจจุบัน
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 17
เอาจริงๆเรื่องแบบนี้มันไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ ผมว่าดร.เองแกก็คงไม่คิดว่าจะพอร์ตโตมาได้ขนาดนี้เพราะไม่ว่าแกจะให้สัมภาษณ์มากี่ครั้ง แกก็พูดว่าหวังแค่10-15%ต่อปี เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 18
ใช่ครับ!!!เป็นเรื่องที่ไมน่าเชื่อจริงครับ อ่านเรื่อง ดร.แล้วทำให้มีเป้าหมายดีครับkraikria เขียน:^^ ถ้่าฝากตอน ดร. เริ่มเล่นเลย จาก 1 ล้าน จะเป็น 250 ล้าน นะครับ...เนื่องจาก ดร. เริ่มประมาณ 10 ล้าน จนกลายเป็น 2,500 ล้านในปัจจุบัน
- TBJTBT
- Verified User
- โพสต์: 404
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
โพสต์ที่ 19
อาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนะครับ เนื่องจาก ดร. มีเพิ่มทุนระหว่างทางด้วยkraikria เขียน:^^ ถ้่าฝากตอน ดร. เริ่มเล่นเลย จาก 1 ล้าน จะเป็น 250 ล้าน นะครับ...เนื่องจาก ดร. เริ่มประมาณ 10 ล้าน จนกลายเป็น 2,500 ล้านในปัจจุบัน
