มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 1
หุ้นบางตัวหรือหลายตัว ขอไม่เอ่ยชื่อนะครับ เด๋วมีปัญหา
ยังมีการบริหารจัดการไม่ดีพอ หรือ บางที ก็มี capex สูงเกินไป
บางตัวก็ cash cycle ไม่ดี
บางตัวก็มีเงินสดน้อย
แต่ตลาดเหมือนจะเหมาเข่งรวมกันไปเลย
ไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ ถ้าโมเดลใกล้เคียง หรือเป็น ค้าปลีก
จะได้ พรีเมียม จากตลาดค่อนข้างเยอะ
ลองถามๆดูว่า ใครคิดอย่างไรบ้าง
ขอบคุณมากคับ
ยังมีการบริหารจัดการไม่ดีพอ หรือ บางที ก็มี capex สูงเกินไป
บางตัวก็ cash cycle ไม่ดี
บางตัวก็มีเงินสดน้อย
แต่ตลาดเหมือนจะเหมาเข่งรวมกันไปเลย
ไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ ถ้าโมเดลใกล้เคียง หรือเป็น ค้าปลีก
จะได้ พรีเมียม จากตลาดค่อนข้างเยอะ
ลองถามๆดูว่า ใครคิดอย่างไรบ้าง
ขอบคุณมากคับ
show me money.
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 2
เป็นรสนิยมของตลาดในช่วงเวลาหนึ่งๆ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 3
ผมมองสองอย่างนะครับ ความั่งคงของกำไร และการเติบโตของกำไร โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับอย่างที่สองมากกว่าอย่างแรกนะครับดังนั้นผมชอบพวกPEต่ำกำไรโตสูงมากที่สุดครับ
เคยลองนั่งเทียบระหว่างหุ้นPEต่ำๆโตต่ำๆ PEสูงๆโตสูงๆว่าตัวไหนจะได้กำไรเยอะกว่ากันและเยอะกว่าเท่าไหร่
และตัวไหนเสี่ยงกว่ากี^^
เคยลองนั่งเทียบระหว่างหุ้นPEต่ำๆโตต่ำๆ PEสูงๆโตสูงๆว่าตัวไหนจะได้กำไรเยอะกว่ากันและเยอะกว่าเท่าไหร่
และตัวไหนเสี่ยงกว่ากี^^
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2748
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 4
ผมมองว่าช่วงนี้หุ้นค้าปลีกอาจได้ความนิยมเพราะไม่ต้องไปเสี่ยงกับวิกฤติต่างประเทศมากครับ คือถึงประเทศอื่นจะเกิดวิกฤติจริงๆ ค้าปลีกไทยก็ยังอยู่ได้เรื่อยๆ ถ้า PE ไม่สูงมากก็น่าสนใจ
หุ้นบางตัวพึ่งเปลี่ยนมาเป็นค้าปลีกได้ไม่นาน ราคาก็ตอบรับกันค่อนข้างเยอะ พวกนี้ผมยังเลี่ยงๆไว้เพราะแพง และมันยังไม่พิสูจน์ตัวเองว่าจะโตได้อย่างที่หวังกัน
เช่นถ้าตลาดให้หุ้น A มี PE 30 แต่การเติบโตอยู่ที่ 30% เทียบกับหุ้น B มี PE 20 มีการเติบโต 20% แบบนี้แล้วหุ้น A จะน่าสนใจกว่า เพราะเมื่อผ่านไป 3 ปีหุ้น A ก็จะโตแซงราคาแล้ว
หุ้นบางตัวพึ่งเปลี่ยนมาเป็นค้าปลีกได้ไม่นาน ราคาก็ตอบรับกันค่อนข้างเยอะ พวกนี้ผมยังเลี่ยงๆไว้เพราะแพง และมันยังไม่พิสูจน์ตัวเองว่าจะโตได้อย่างที่หวังกัน
Peter Lynch เคยเขียนใน One up on Wall street ว่าถึงแม้หุ้น PE สูง ถ้าการเติบโตของกำไรสูงตามด้วยก็ไม่ได้แย่ผมมองสองอย่างนะครับ ความั่งคงของกำไร และการเติบโตของกำไร โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับอย่างที่สองมากกว่าอย่างแรกนะครับดังนั้นผมชอบพวกPEต่ำกำไรโตสูงมากที่สุดครับ
เคยลองนั่งเทียบระหว่างหุ้นPEต่ำๆโตต่ำๆ PEสูงๆโตสูงๆว่าตัวไหนจะได้กำไรเยอะกว่ากันและเยอะกว่าเท่าไหร่
และตัวไหนเสี่ยงกว่ากี^^
เช่นถ้าตลาดให้หุ้น A มี PE 30 แต่การเติบโตอยู่ที่ 30% เทียบกับหุ้น B มี PE 20 มีการเติบโต 20% แบบนี้แล้วหุ้น A จะน่าสนใจกว่า เพราะเมื่อผ่านไป 3 ปีหุ้น A ก็จะโตแซงราคาแล้ว
Vi IMrovised
- 1154
- Verified User
- โพสต์: 894
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 5
ส่วนนึงเพราะ ค้าปลีกเป็นทั้ง Growth +Defensive Stock ไปในตัวครับ
เค้าถึงมีการมอง Forward P/E ไงครับ
Forward P/E = P/E x Growth
ยิ่งตอนนี้ถ้าเกรงว่า ยุโรปมีโอกาสที่จะไม่ดี
การถือโล่ ในสนามรบ อาจจะสำคัญกว่าดาบด้วยซ้ำไป
เค้าถึงมีการมอง Forward P/E ไงครับ
Forward P/E = P/E x Growth
ยิ่งตอนนี้ถ้าเกรงว่า ยุโรปมีโอกาสที่จะไม่ดี
การถือโล่ ในสนามรบ อาจจะสำคัญกว่าดาบด้วยซ้ำไป
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 6
ขอให้ความเห็นตรงคำว่า "ตลาด (Mr. or Ms. Market) นะครับ
เราอาจจะยังไม่เข้าใจคำๆว่า คุณตลาด เพียงพอรึป่าวครับ เพราะคำๆนี้มันมีความหมายแปรเปลี่ยนไปตลอด เพราะสมาชิกในตลาดมีหลากหลายมาก อาทิเช่น
1. ตาสี ยายแม้น ซึ่งมีเงินมากพอ แต่ขอซื้อหุ้นที่เป็นชื่อติดหู และเป็นที่รู้จักก่อน ตาไม่รู้จักหรอก PE PBV ROE DCF DE, etc.
2. นักเก็งกำไรรายวัน รายสัปดาห๋ รายเดือน .......
3. VI ทั้งหลาย ซึ่งมีแนวโน้มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามี Evidence of success ให้เห็น
4. กลุ่มคนที่ต้องการบริษัทที่แข็งแกร่ง ปันผลสม่ำเสมอ ราคาแพงหน่อยไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าจะแพงต่อไป ก็ไม่ยอดลด premium ให้กับกิจการที่มี brand และเป็นผู้นำ
5. นักวิชาการทั้งหลาย รวมไปถึงคนมีความรู้ ก็จะเป็นตลาดอีกแบบหนึ่งและมีเกณฑืในการซื้อหุ้นลงทุนอีกแบบหนึ่ง
6. กองทุน ต่างชาติ Manipulator
โดยสรุปผมว่าตลาดมีความหลากหลายของผู้คนอยู่ในนั้น และมีระดับความเข้าใจ ระดับความรู้ ระดับความเสี่ยงทียอมรับได้ และอื่นๆที่แตกต่างกัน ประเมินมูลค่าก็ต่างกัน วิธีคิดก็ต่างกัน และที่สำคัญในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน องค์ประกอบของตลาดก็แตกต่างกันอีกด้วย น่าจะมีอีกหลายปัจจัย...........
แต่สำหรับผมคำว่า premium และ level of premium ในระยะยาวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆต่อไปนี้
1. ผู้บริหารและความแข็งแกร่งของกิจการ
2. คุณภาพและความมั่นคงของกำไรและเงินสด (มีปัจจัยหลายอย่างซ่อนในนี้ที่่ทำให้มันมีคุณภาพและมั่นคง)
3. การเติบโตของกิจการในแง่ยอดขาย กำไร เงินสด (มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้มันโตแบบมั่นคง)
4. แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภค
ซึ่งทั้ง 4 ข้อผมว่าค้าปลีกบางตัวมีครบหมด
เราอาจจะยังไม่เข้าใจคำๆว่า คุณตลาด เพียงพอรึป่าวครับ เพราะคำๆนี้มันมีความหมายแปรเปลี่ยนไปตลอด เพราะสมาชิกในตลาดมีหลากหลายมาก อาทิเช่น
1. ตาสี ยายแม้น ซึ่งมีเงินมากพอ แต่ขอซื้อหุ้นที่เป็นชื่อติดหู และเป็นที่รู้จักก่อน ตาไม่รู้จักหรอก PE PBV ROE DCF DE, etc.
2. นักเก็งกำไรรายวัน รายสัปดาห๋ รายเดือน .......
3. VI ทั้งหลาย ซึ่งมีแนวโน้มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามี Evidence of success ให้เห็น
4. กลุ่มคนที่ต้องการบริษัทที่แข็งแกร่ง ปันผลสม่ำเสมอ ราคาแพงหน่อยไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าจะแพงต่อไป ก็ไม่ยอดลด premium ให้กับกิจการที่มี brand และเป็นผู้นำ
5. นักวิชาการทั้งหลาย รวมไปถึงคนมีความรู้ ก็จะเป็นตลาดอีกแบบหนึ่งและมีเกณฑืในการซื้อหุ้นลงทุนอีกแบบหนึ่ง
6. กองทุน ต่างชาติ Manipulator
โดยสรุปผมว่าตลาดมีความหลากหลายของผู้คนอยู่ในนั้น และมีระดับความเข้าใจ ระดับความรู้ ระดับความเสี่ยงทียอมรับได้ และอื่นๆที่แตกต่างกัน ประเมินมูลค่าก็ต่างกัน วิธีคิดก็ต่างกัน และที่สำคัญในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน องค์ประกอบของตลาดก็แตกต่างกันอีกด้วย น่าจะมีอีกหลายปัจจัย...........
แต่สำหรับผมคำว่า premium และ level of premium ในระยะยาวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆต่อไปนี้
1. ผู้บริหารและความแข็งแกร่งของกิจการ
2. คุณภาพและความมั่นคงของกำไรและเงินสด (มีปัจจัยหลายอย่างซ่อนในนี้ที่่ทำให้มันมีคุณภาพและมั่นคง)
3. การเติบโตของกิจการในแง่ยอดขาย กำไร เงินสด (มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้มันโตแบบมั่นคง)
4. แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภค
ซึ่งทั้ง 4 ข้อผมว่าค้าปลีกบางตัวมีครบหมด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 7
แล้วเคยลองเปรียบเทียบไหมครับpicklife เขียน:ผมมองสองอย่างนะครับ ความั่งคงของกำไร และการเติบโตของกำไร โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับอย่างที่สองมากกว่าอย่างแรกนะครับดังนั้นผมชอบพวกPEต่ำกำไรโตสูงมากที่สุดครับ
เคยลองนั่งเทียบระหว่างหุ้นPEต่ำๆโตต่ำๆ PEสูงๆโตสูงๆว่าตัวไหนจะได้กำไรเยอะกว่ากันและเยอะกว่าเท่าไหร่
และตัวไหนเสี่ยงกว่ากี^^
หุ้น P/E ต่ำๆ กับ หุ้น P/E สูงๆ เวลากำไรพลาดเป้า ตัวไหนจะขาดทุนเยอะกว่ากัน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2686
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 8
ผมอยากจะรู้ว่า model ในเมืองนอก
เมื่อ 10 ปี ก่อน PE เขาเท่าไหร่
ปัจจุบัน PE เท่าไหร่
เอา factor recession ใส่ ไปด้วย
ของ WMT
http://ycharts.com/companies/WMT/pe_rat ... sions=true
เมื่อ 10 ปี ก่อน PE เขาเท่าไหร่
ปัจจุบัน PE เท่าไหร่
เอา factor recession ใส่ ไปด้วย
ของ WMT
http://ycharts.com/companies/WMT/pe_rat ... sions=true
- 1154
- Verified User
- โพสต์: 894
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 10
ผมก็สงสัยว่าทำไม Walmart PE ต่ำจัง เลยไปค้นดูเจอกราฟนี้ครับ ก็พอจะเข้าใจว่ามันใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
และ
และ
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 11
ผมว่าบริษัทค้าปลีกที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันในตลาดมีน้อย ทำให้นลท.มีทางเลือกจำกัด เช่นถ้ามี
HOME WORK VS. HOME PRO
LOTUS VS. BIGC
FAMILY MART VS. CPALL
etc.
ราคาหุ้นค้าปลีกอาจจะไม่สูงเท่านี้
HOME WORK VS. HOME PRO
LOTUS VS. BIGC
FAMILY MART VS. CPALL
etc.
ราคาหุ้นค้าปลีกอาจจะไม่สูงเท่านี้
- kabu
- Verified User
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 12
เห็นด้วยกับคุณ hangman ครับ
ที่ญี่ปุ่นหุ้นค้าปลีกมีเยอะมากๆในตลาด โดย P/E ของหุ้นดีดีบางตัวก็ไม่เกิน 10 ทั้งๆ ที่เติบโตเกิน 15% ทุกปี
คงเป็นยุคฟองสบู่หุ้นค้าปลีกของเมืองไทยมั้งครับ
ที่ญี่ปุ่นหุ้นค้าปลีกมีเยอะมากๆในตลาด โดย P/E ของหุ้นดีดีบางตัวก็ไม่เกิน 10 ทั้งๆ ที่เติบโตเกิน 15% ทุกปี
คงเป็นยุคฟองสบู่หุ้นค้าปลีกของเมืองไทยมั้งครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณทุกท่านคับ
สะดุด พี่ฉัตรชัยพูด เหมือนกัน
บางตัว capex for maintain of competitiveness สูง ปีละ 2000-3000 ล้าน
เพราะ ต้องupdate ตัวเองให้ fashionable เสมอ แต่ตลาดให้ราคาระดับ super stock
ทั้งๆ ที่capex ระดับนี้ ( กำไรประมาณ พันล้านปลายๆ) น่าจะดูดซับ value ของ growth ไปหมดมากกว่า
สะดุด พี่ฉัตรชัยพูด เหมือนกัน
บางตัว capex for maintain of competitiveness สูง ปีละ 2000-3000 ล้าน
เพราะ ต้องupdate ตัวเองให้ fashionable เสมอ แต่ตลาดให้ราคาระดับ super stock
ทั้งๆ ที่capex ระดับนี้ ( กำไรประมาณ พันล้านปลายๆ) น่าจะดูดซับ value ของ growth ไปหมดมากกว่า
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 15
มันจะเป็นกระแสน่ะครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าการที่ตลาดมันไปลงน้ำหนักให้กับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด จะทำให้มีหุ้นที่คนไม่ค่อยสนใจนั้นจะ undervalued เสมอ
นับว่าเป็นโอกาสดีทีเดียว
ส่วนตัวผมคิดว่าการที่ตลาดมันไปลงน้ำหนักให้กับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด จะทำให้มีหุ้นที่คนไม่ค่อยสนใจนั้นจะ undervalued เสมอ
นับว่าเป็นโอกาสดีทีเดียว
- NAI-A SIKHIU
- Verified User
- โพสต์: 584
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 16
มาเป็นสมัยนิยมน่ะครับ
แต่ก่อนก็ bank finance property
ยุคต่อมาก็ พลังงาน
ยุคปัจจุบันก็ modern trade โรงพยาบาล มือถือ
ยุคต่อไปจะอะไรน้า.............
แต่ก่อนก็ bank finance property
ยุคต่อมาก็ พลังงาน
ยุคปัจจุบันก็ modern trade โรงพยาบาล มือถือ
ยุคต่อไปจะอะไรน้า.............
นครจันทึก จารึกภาพ ๔,๐๐๐ ปี สี่เขี้ยวต้นตำนาน คู่บ้านลำตะคลอง
-
- Verified User
- โพสต์: 467
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 18
ผมขอเห็นแย้งในจุดที่มองว่า การลงทุนในหุ้นค้าปลีกเป็นกระแสของนักลงทุนหรือสมัยนิยมนะครับ หลายคนอาจไม่เคยสังเกตุว่าอิทธิพลทางฝั่งตะวันตกได้เข้ามาในบ้านเรามากน้อยแค่ไหน อาจดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าสังเกตรอบตัวเราให้ดีๆ มีหลายอย่างมากที่เปลี่ยนแปลงไป
พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปในหลายรูปแบบ ทั้งขนาดของครอบครัว การแยกออกมาจากครอบครัวใหญ่ ดูแลกันเอง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยโดยเฉพาะกับพวก modern trade มีสูงขี้น รวมถึงค่านิยมที่เรารับมาจากทางตะวันตกก็เริ่มมีผลมาก ความเจริญเริ่มแผ่ไปถึงต่างจังหวัดมากขี้นเรื่อยๆ ทำให้ช่องทางการเติบโตที่เคยกระจุกตัวอยู่เฉพาะในแถบกรุงเทพและปริมณฑลก็ถูกเปิดกว้างมากขี้น รวมทั้ง ผลตอบแทนของภาคเกษตรกรก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขี้นด้วย หลายๆ ปัจจัยที่ไทยเพิ่งเปลี่ยนแปลง เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก และมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอีกยาวนานครับ
พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปในหลายรูปแบบ ทั้งขนาดของครอบครัว การแยกออกมาจากครอบครัวใหญ่ ดูแลกันเอง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยโดยเฉพาะกับพวก modern trade มีสูงขี้น รวมถึงค่านิยมที่เรารับมาจากทางตะวันตกก็เริ่มมีผลมาก ความเจริญเริ่มแผ่ไปถึงต่างจังหวัดมากขี้นเรื่อยๆ ทำให้ช่องทางการเติบโตที่เคยกระจุกตัวอยู่เฉพาะในแถบกรุงเทพและปริมณฑลก็ถูกเปิดกว้างมากขี้น รวมทั้ง ผลตอบแทนของภาคเกษตรกรก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขี้นด้วย หลายๆ ปัจจัยที่ไทยเพิ่งเปลี่ยนแปลง เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก และมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอีกยาวนานครับ
The miracle of compounding,
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 19
ผมว่าสนใจตรงนี้ที่ว่าจะมีหุ้นตัวไหนได้รับผลผลพลอยได้จากหุ้นค้าปลีกบ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 21
เอ่อ ผมว่า เรื่องเงินสดท่วมบริษัทตอนเลิกกิจการนี่เข้าใจกันใช่เหรอคับ
นั่นมันเงินเจ้าหนี้การค้าไม่ใช่เหรอคับ
เอามาหมุนได้ เลิกกิจการก็ต้องคืนเค้าไปไม่ได้เกี่ยวกับ ผถห เลยนี่คับ
cash flow และ wc คล่อง อาจจะเป็นจุดแข็งจริง แต่ขี้ตู่เอาเงินสดเจ้าหนี้มาแบ่งกันใน ผถห ไม่น่าจะได้นะคับ
นั่นมันเงินเจ้าหนี้การค้าไม่ใช่เหรอคับ
เอามาหมุนได้ เลิกกิจการก็ต้องคืนเค้าไปไม่ได้เกี่ยวกับ ผถห เลยนี่คับ
cash flow และ wc คล่อง อาจจะเป็นจุดแข็งจริง แต่ขี้ตู่เอาเงินสดเจ้าหนี้มาแบ่งกันใน ผถห ไม่น่าจะได้นะคับ
show me money.
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2748
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 23
ไปเจอข่าวน่าสนใจเกี่ยวกับการค้าปลีกประเภทห้างสรรพสินค้าในเยอรมนี เลยกึ่งแปลและกึ่งวิเคราะห์คร่าวๆให้อ่านกันครับ
จาก http://www.tagesschau.de/wirtschaft/kaufhaus114.html
ห้างสรรพสินค้าที่มีจำนวนสาขาและขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมันคงหนีไม่พ้น Karstadt และ Kaufhof สองบริษัทนี้เป็นห้างสรรพสินค้า หรือ Department Store ที่ขายทุกอย่างที่ผู้บริโภคต้องการโดยแบ่งเป็นหลายๆแผนก (ถ้าเทียบกับเมืองไทยน่าจะใกล้เคียงเดอะมอลล์และเซ็นทรัล)
ทั้งสองบริษัทนี้มีการเติบโตและขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขสัดส่วนต่อตลาดแล้ว เมื่อสมัยก่อตั้งบริษัทแรกๆในช่วงปี 1970s บริษัททั้งสองมีส่วนแบ่งตลาด 14% ขณะที่ในปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 3% ทำให้หลายๆคนมองว่า ธุรกิจห้างสรรพสินค้า นั้นมีอนาคตที่ไม่สดใสเหมือนอดีต
ูแล้วธุรกิจอะไรที่มาแทน?
นิสัยของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปจากที่ต้องการเข้าห้างสรรพสินค้าที่มีทุกอย่าง ไปเป็นการเดินซื้อของในศูนย์การค้า (Shopping Centre) ที่เป็นพื้นที่ให้ร้านค้ายี่ห้อต่างๆเช่า มีการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ตามแบรนด์สินค้านั้นๆ นักวิเคราะห์จาก BBE Handelsberatung GmbH มองว่า "ศูนย์การค้านั้นมีความยืดหยุ่นต่อการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตลาดมากกว่าห้างสรรพสินค้าอยู่เล็กน้อย"
"ในอนาคตสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกค้าที่มาซื้อของคือประสบการณ์ที่ดีของการจับจ่ายสินค้า เช่นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวขณะเลือกซื้อของ การมีอินเตอร์เน็ตไร้สายให้ใช้ฟรี มีพื้นที่เปิดอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือบ้าน ในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในธุรกิจนี้"
ห้างต่างๆในไทยเองนั้นทำตัวเป็นทั้งห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในตัว จึงอาจจะสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคได้ไม่ชัด การที่บริษัทอื่นจะเปิดศูนย์การค้ามาแข่งกับเจ้าใหญ่ๆก็ต้องพบกับปัญหาการหาผู้เช่าหน้าร้าน ส่วนเจ้าเดิมนั้นมีธุรกิจอาหารเข้ามาสร้าง Synergy ให้กับตัวเองเช่นร้านอาหารและร้านเสื้อผ้า เหมือนเป็นกำแพงกีดกันคู่แข่งไปในตัว สาเหตุนี้อาจทำให้ PE ค้าปลีกของบริษัทในไทยสูงมาก
จาก http://www.tagesschau.de/wirtschaft/kaufhaus114.html
ห้างสรรพสินค้าที่มีจำนวนสาขาและขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมันคงหนีไม่พ้น Karstadt และ Kaufhof สองบริษัทนี้เป็นห้างสรรพสินค้า หรือ Department Store ที่ขายทุกอย่างที่ผู้บริโภคต้องการโดยแบ่งเป็นหลายๆแผนก (ถ้าเทียบกับเมืองไทยน่าจะใกล้เคียงเดอะมอลล์และเซ็นทรัล)
ทั้งสองบริษัทนี้มีการเติบโตและขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขสัดส่วนต่อตลาดแล้ว เมื่อสมัยก่อตั้งบริษัทแรกๆในช่วงปี 1970s บริษัททั้งสองมีส่วนแบ่งตลาด 14% ขณะที่ในปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 3% ทำให้หลายๆคนมองว่า ธุรกิจห้างสรรพสินค้า นั้นมีอนาคตที่ไม่สดใสเหมือนอดีต
ูแล้วธุรกิจอะไรที่มาแทน?
นิสัยของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปจากที่ต้องการเข้าห้างสรรพสินค้าที่มีทุกอย่าง ไปเป็นการเดินซื้อของในศูนย์การค้า (Shopping Centre) ที่เป็นพื้นที่ให้ร้านค้ายี่ห้อต่างๆเช่า มีการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ตามแบรนด์สินค้านั้นๆ นักวิเคราะห์จาก BBE Handelsberatung GmbH มองว่า "ศูนย์การค้านั้นมีความยืดหยุ่นต่อการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตลาดมากกว่าห้างสรรพสินค้าอยู่เล็กน้อย"
"ในอนาคตสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกค้าที่มาซื้อของคือประสบการณ์ที่ดีของการจับจ่ายสินค้า เช่นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวขณะเลือกซื้อของ การมีอินเตอร์เน็ตไร้สายให้ใช้ฟรี มีพื้นที่เปิดอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือบ้าน ในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในธุรกิจนี้"
ห้างต่างๆในไทยเองนั้นทำตัวเป็นทั้งห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในตัว จึงอาจจะสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคได้ไม่ชัด การที่บริษัทอื่นจะเปิดศูนย์การค้ามาแข่งกับเจ้าใหญ่ๆก็ต้องพบกับปัญหาการหาผู้เช่าหน้าร้าน ส่วนเจ้าเดิมนั้นมีธุรกิจอาหารเข้ามาสร้าง Synergy ให้กับตัวเองเช่นร้านอาหารและร้านเสื้อผ้า เหมือนเป็นกำแพงกีดกันคู่แข่งไปในตัว สาเหตุนี้อาจทำให้ PE ค้าปลีกของบริษัทในไทยสูงมาก
Vi IMrovised
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 26
ผมเคยคุยกับ นักธุรกิจที่รวยมากท่านหนึ่ง
เขาบอกผมว่า
ชอบธุรกิจซื้อมา ขายไป
เพราะ ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักร เทคโนโลยี มาก
ถึงเวลา หาก ความนิยมเปลี่ยน ก็ รับของใหม่มาขาย
นั่นเลยทำให้ผม สนใจ พวกค้าปลีกครับ
ดูบาง บริษัท เมื่อ เทคโนโลยีเปลี่ยน
สิ่งที่ตัวเองเคยถนัดก็ไร้ค่าลงไป เอามาใช้หากินต่อไม่ได้
เขาบอกผมว่า
ชอบธุรกิจซื้อมา ขายไป
เพราะ ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักร เทคโนโลยี มาก
ถึงเวลา หาก ความนิยมเปลี่ยน ก็ รับของใหม่มาขาย
นั่นเลยทำให้ผม สนใจ พวกค้าปลีกครับ
ดูบาง บริษัท เมื่อ เทคโนโลยีเปลี่ยน
สิ่งที่ตัวเองเคยถนัดก็ไร้ค่าลงไป เอามาใช้หากินต่อไม่ได้
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยคิดไหมครับว่า ตลาดให้ premium กลุ่มค้าปลีกเกินไป
โพสต์ที่ 28
เคยครับพี่ฉัตร PEต่ำมีแนวโน้มขาดทุนน้อยกว่าครับ เหตุผลประมาณนี้ครับchatchai เขียน:แล้วเคยลองเปรียบเทียบไหมครับpicklife เขียน:ผมมองสองอย่างนะครับ ความั่งคงของกำไร และการเติบโตของกำไร โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับอย่างที่สองมากกว่าอย่างแรกนะครับดังนั้นผมชอบพวกPEต่ำกำไรโตสูงมากที่สุดครับ
เคยลองนั่งเทียบระหว่างหุ้นPEต่ำๆโตต่ำๆ PEสูงๆโตสูงๆว่าตัวไหนจะได้กำไรเยอะกว่ากันและเยอะกว่าเท่าไหร่
และตัวไหนเสี่ยงกว่ากี^^
หุ้น P/E ต่ำๆ กับ หุ้น P/E สูงๆ เวลากำไรพลาดเป้า ตัวไหนจะขาดทุนเยอะกว่ากัน
1.ความคาดหวัง ถ้าหวังเยอะ แล้วพลาดหวัง ก็ขาดทุนหนักได้ไม่ว่าPEต่ำหรือสูงก็ตาม
2.PEสูงมีแนวโน้มขาดทุนเยอะกว่า เนื่องจากPEสูงมักจะตอบรับความคาดหวังส่วนหนึ่งอยู่แล้ว
ซึ่งถ้าไม่เป็นไปตามหวังอาจจะเจอสองเด้ง คือEที่ลดลง กับPEที่ลดลง แต่PEต่ำโดนทางเดียวคือEที่ลดลง^^
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ