มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คำที่ผมชอบ

ตั้งแต่เริ่มศึกษาการลงทุนต่างๆ จนได้มาเจอเว็บนี้และได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแบบ value ก็ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมอะไรมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะถ้าเราจะซื้อหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่ง การเข้าใจธุรกิจนั้นก็หมายถึง ถ้าเรามีเงินเอง แล้วจะทำธุรกิจนั้นเอง เราจะทำอย่างไร ให้ค้าขายดี มีกำไร การเลือกหุ้นก็เช่นเดียวกัน เพราะกิจการที่เราอยากทำก็มีให้เลือกในตลาดฯ อีกทั้งยังเปิดมาหลายปี มีทีมงาน พนักงาน ผู้บริหารครบ พร้อมสร้างผลกำไรให้กับเรา เพียงแต่ว่าเราเป็นได้แค่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ออกเสียงอะไรแล้ว ไม่ค่อยจะมีผลก็เท่านั้นเอง

เข้าถึงคำที่ผมชอบดีกว่า คำแรกที่จะกล่าวถึงก็คือคำว่า "ผู้นำตลาด" แม้หลายๆท่านจะบอกว่าบริษัทที่ไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง ก็ลงทุนได้ แต่สำหรับผมแล้วถ้ามีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ผมจะให้ความสนใจธุรกิจอย่างนี้มากทีเดียว แต่ถ้าไปดูลึกๆแล้ว มีปัญหาอย่างอื่นซ่อนอยู่ ก็ขอบายดีกว่า

คำที่สองที่นึกออกก็คือคำว่า "มีอำนาจต่อรอง" คำนี้เป็นคำที่ผมชอบมากกว่าคำแรกซะอีก เพราะว่าการที่เราต่อรองอะไรได้ ย่อมแสดงถึงสิ่งที่ดี บางบริษัทสามารถต่อรองกับซัพพลายเออร์ให้ขายสินค้าให้ในราคาถูก หรือตั้งราคาขายสูงๆได้ หรือแม้จากการเป็นผู้นำตลาดทำให้มีอำนาจต่อรองในเรื่องการขายสินค้าและบริการ ผมสนใจกิจการแบบนี้มากเช่นกัน

คำที่สามคำว่า "หนี้" ตัวผมเองและหลายๆคนก็เลือกที่จะไม่มีหนี้เป็นดี เพราะมันทำให้กังวลและเครียดเสมอ ไม่ว่าหนี้ของบริษัทหรือของตัวบุคคลเอง แต่จากการที่ผมได้อ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูก ก็ทำให้รู้ว่าหนี้ที่ดี ทำให้เรามีโอกาสเมื่อโอกาสมันเกิดขึ้นให้เราได้สร้างผลประโยชน์ กิจการที่ดี ก็อาจมีสัดส่วนหนี้สูงได้ แต่ผมก็ไม่ได้เชี่ยวชาญในการอ่านงบการเงินมากนัก แต่ผมก็ยึดหลักว่าหนี้ระยะยาวน้อยๆไว้ก่อนเป็นดี แต่ถ้าเราหากิจการที่ดี และรู้ว่าสามารถทำกำไรและเงินสดมาใช้หนี้ได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะที่ผ่านมาดอกเบี้ยมันลงมาเรื่อยๆ แถมข่าวก็ยังออกมาว่าสภาพคล่องยังล้น และแข่งกันเสนอดอกเบี้ยต่ำให้ กระนั้นแล้ว กิจการที่ไม่มีหนี้ระยะยาวย่อมทำให้เราสบายใจว่าเมื่อเกิดปัญหา หรือภาวะตกต่ำขึ้นมาแล้ว จะเจ็บน้อยและฟื้นได้เร็ว

คำสุดท้ายคือคำว่า "ผูกขาด" กิจการแบบนี้คงหายากมากแล้วในโลกยุคปัจจุบัน แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเราเข้าใจกิจการนั้นดี แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบจะเป็นกิจการประเภทรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปมาให้เราได้ซื้อหุ้น แต่กิจการผูกขาดของรัฐที่แปรรูปมานั้น มักจะเป็นกิจการที่ต้องการแข่งขันกับเอกชน และมีปัญหาติดตัวมาด้วย เช่นการแบกรับต้นทุน หรือขาดทุนเพื่อให้สามารถบริการประชาชนที่มีรายได้น้อยได้ แต่เมื่อเป็นบริษัทมหาชนแล้ว การแข่งขันจะทำให้ราคาปรับตัวไปตามกลไกตลาด ทำให้พวกสหภาพแรงงานเช่นการไฟฟ้าออกมาประท้วง แต่ผมได้คิดดูแล้ว พวกนี้กลัวการถูกไล่ออก กลัวการไม่ได้ขึ้นเงินเดือนและได้รับโบนัส แต่เอาจุดด้อยตรงนี้มาอ้าง วันนี้ได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่ไปสำรวจพนักงานของ ทศท. ในเรื่องการปรับปรุงการคอรัปชั่นหรือการทุจริตในองค์กร กลับมีพนักงานคัดค้านเรื่องนี้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำเอาเซ็งเหมือนกัน ว่าที่แท้คนเราก็กลัวตัวเองจะตกงาน ไม่มีเงิน และหาผลประโยชน์ทางลัดไม่ได้ กลับเข้าเรื่องกิจการที่ผูกขาด แม้ว่ากิจการจะผูกขาดได้ แต่ถ้างบการเงินไม่ดี หมายถึง หนี้เยอะเกิน หรือ ขาดทุนสะสม ก็คงต้องขอบายเช่นกัน

สุดท้าย ผมคงไม่อาจไปแนะนำอะไรใคร แต่ขอบอกแนวทางการลงทุนง่ายๆของผม ผมเลือกกิจการสองแบบ แบบแรกคือหนี้น้อยมากๆ จนแม้แต่เงินสดก็ยังมากกว่า แบบนี้ถือไว้รับปันผล ไม่หวังอะไรมาก เพราะเชื่อว่าหายังหนี้น้อยแบบนี้ และยังไม่ขาดทุน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แบบที่สองใช้เวลามากหน่อย หากิจการที่ดีที่สุดในกลุ่มของเขา และถือมันเหมือนเราเป็นเจ้าของกิจการเอง ให้ความสำคัญ ศึกษา ติดตามข่าวคราว และซื้อเพิ่มให้ได้เยอะที่สุด ซึ่งผมก็พอมีเค้าลางแล้วว่าเป็นตัวไหน แต่มันก็มีหลายตัวให้ช่างใจ เพราะเงินมันน้อย แต่อนาคตมันไม่แน่นอน บางทีกิจการใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดฯอาจจะดีกว่าก็ได้ เช่นเบียร์ช้างที่จะเข้ามา
ก็ว่างๆเลยเขียนมาให้อ่านกันเล่นๆ และเช่นเคย ขอเชิญทุกท่านมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ
Expecto Patronum!!!!!!
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ยกตัวอย่างกิจการดี ๆ แบบที่ว่าให้ด้วยค่ะ
ช่วงนี้อยู่ระหว่างศึกษาและเก็บข้อมูล
หาหุ้นที่โหวงเฮ้งดี ๆ จากท่านไปก่อนค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Anonymous เขียน:ยกตัวอย่างกิจการดี ๆ แบบที่ว่าให้ด้วยค่ะ
ช่วงนี้อยู่ระหว่างศึกษาและเก็บข้อมูล
หาหุ้นที่โหวงเฮ้งดี ๆ จากท่านไปก่อนค่ะ
แนะนำให้โหลด 56-1 มาอ่านครับ คำที่ผมชอบ ก็มีอยู่ในนั้นด้วย และผมก็เจอหลายกิจการแล้วเหมือนกัน

บอกหุ้นนึงก็ได้เช่น se-ed เค้าบอกว่าการที่ไม่มีโรงพิมพ์เอง เพราะการส่งงานให้โรงพิมพ์อื่น นั้นทำให้สามารถต่อรองราคาให้ถูกที่สุดได้ แม้ว่าการมีโรงพิมพ์เองจะควบคุมต้นทุนได้ อันนี้แล้วแต่มุมมองครับ
Expecto Patronum!!!!!!
Phayaoman
Verified User
โพสต์: 56
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

งั้นผมก็เลือกเอาทั้งที่มีโรงพิมพ์เองและไม่มีโรงพิมพ์ด้วยทั้งสองบริษัทเลย
ง่ายดีมั้ยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tenkafubu
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คุณ Harry เขียนได้น่าอ่านมากครับ....
แล้วเป็นไงบ้างครับ กับภาคนี้ รายได้ดีไหมครับ??? :)
3M Only...
Market Cap.
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 6

โพสต์

tenkafubu เขียน:คุณ Harry เขียนได้น่าอ่านมากครับ....
แล้วเป็นไงบ้างครับ กับภาคนี้ รายได้ดีไหมครับ??? :)
ภาคนี้ คืออะไรครับ รายได้ดียังงัยครับ งง :? :?

ถ้าหมายถึงพอร์ท ก็ราคามันแดงไปบ้าง แต่ผมถือตัวที่เราประเมินเองแล้วว่าดี และหลายๆท่านในนี้ก็ถืออยู่ด้วย ก็ทำให้อุ่นใจ และซื้อเฉลี่ยไปบ้างครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wvix
Verified User
โพสต์: 124
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เขียนได้ดีครับคุณ harry
ผมว่าคุณ harry ขยันมากๆเลยครับ นับถือ
ผมให้คุณเป็นเด็กใหม่ไฟแรงอนาคตไกลคนนึงของ Thaivalueinvestor เลยครับ
tenkafubu เขียน: คุณ Harry เขียนได้น่าอ่านมากครับ....
แล้วเป็นไงบ้างครับ กับภาคนี้ รายได้ดีไหมครับ???
คุณ tenkafubu เค้าคงหมายถึงหนังภาคล่าสุดที่คุณแสดงนำมั้งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ถ้าหมายถึงหนัง ก็ดีครับ คนดูเยอะเชียว ต่างจังหวัดก็เยอะ ไปดูมาแล้วเหมือนกัน หลายๆคนดูมากกว่าหนึ่งรอบ และก็มีเด็กๆมาดูกันเยอะทีเดียว

อ๋อ เข้าใจแล้วครับ นึกว่าเกี่ยวกับหุ้น :D :D
Expecto Patronum!!!!!!
ล็อคหัวข้อ