ข่าวสด
วันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2554
ผู้เข้าชม : 237 คน
นโยบายยกเลิกกองทุนน้ำมัน เพื่อลดราคาน้ำมัน พรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงไว้ใน “วาระประชาชน” แต่พอมาเป็นรัฐบาล 2 ปี 8 เดือนก็ไม่ทำ ซึ่งอย่าว่าแต่จะยกเลิกเลย แม้แต่จะลดอัตราจัดเก็บสักสลึงเฟื้องก็ไม่เคยมี
รัฐบาล “ปู” ยิ่งลักษณ์ เข้ามา ได้พิชัย นริพทะพันธุ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็เห็นยังคงยืนยันว่าจะยกเว้นการจัดเก็บน้ำมันชนิดเบนซิน 95 และ 91 และดีเซล (เป็นการชั่วคราว) อยู่นะ
เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า พอเข้ามาปฏิบัติจริง จะยกเลิกเป็นศูนย์เลย หรือว่าลดลงมาเป็นบางส่วน และลดราคาลงมาอย่างไร จะยังคงรักษานโยบายสนับสนุนการใช้แก๊สโซฮอล์ให้มี “ส่วนต่างราคา” ที่มากพอจะจูงใจได้
รวมทั้งจะมีเงินจากไหนไปชดเชยราคาก๊าซ
ส่วนเรื่องที่ว่า อาจจะออกพันธบัตรกู้เงินมาชดเชยให้ เมื่อไม่มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ผมว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว คนจะโห่เอาเปล่าๆ
เมื่อมาดูโครงสร้างราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันในปัจจุบันกับอัตราการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน ผมว่ารัฐบาลมีช่องทางทำได้โดยนโยบายสนับสนุนแก๊สโซฮอล์ก็ไม่เสีย และเงินไปชดเชยราคาก๊าซก็ยังมีอยู่ครับ
ราคาจำหน่ายปลีกเบนซิน 95 ตอนนี้ 47.24 บาท แก๊สโซฮอล์ E10 ก็อยู่ที่ 36.44 บาท มีส่วนต่างกันอยู่ที่ 10.80 บาท หากยกเลิกการจัดเก็บเบนซิน 95 เข้ากองทุนแบบเต็ม 100% คือ 7.50 บาท
ส่วนต่างระหว่างเบนซิน 95 กับแก๊สโซฮอล์ E10 ก็ยังมีส่วนต่างกันอยู่ 3.30 บาทเลย
ส่วนต่างแค่นี้ ผมก็ว่ายังจูงใจ แต่ถ้าจะให้สวย และยังคงรักษาการส่งเสริมพลังงานทางเลือกรวมทั้งเงินชดเชยราคาก๊าซก็ลดเงินจัดเก็บเบนซินเข้ากองทุนฯลงมาสักครึ่งหนึ่ง คือ 3.75 บาท
ราคาเบนซิน 95 ก็จะเหลือ 43.49 บาท ก็ยังคงมีส่วนต่างกับแก๊สโซฮอล์ E10 เพิ่มขึ้นไปเป็น 7.05 บาท
ส่วนต่างขนาดนี้ เหลือที่จะจูงใจ นโยบายส่งเสริมพลังงานทางเลือกไม่กระทบแน่ และถ้าจะสวยขึ้นไปอีกก็ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุน E10 ซึ่งเก็บอยู่ 2.40 บาทลงมาสักครึ่งด้วยก็จะโสภาสถาพรไปเลย
อัตราจัดเก็บเบนซิน 91 เข้ากองทุนก็เช่นกัน เวลานี้มีส่วนต่างกับแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ 7.40 บาท ถ้าลดการจัดเก็บเบนซิน 91 ลงมาครึ่งหนึ่งจาก 6.70 บาท ส่วนต่างก็ยังเหลือ 4.05 บาท
ส่วนต่างแค่นี้ก็ยังจูงใจและเหลือไปชดเชยก๊าซและแก๊สโซฮอล์ E20 ด้วย
สำหรับน้ำมันดีเซล ก็ยังมีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอยู่ 2.80 บาท ก็อาจจะไม่แตะต้องอะไรอีกแล้ว หรืออาจจะลดลงมาสักครึ่งหนึ่งก็ยังได้
นโยบายลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ทำได้สบายมากครับ ไม่ว่าจะยกเลิกการจัดเก็บไปเลย หรือว่าจะลดการจัดเก็บลงมาครึ่งหนึ่ง
แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นเรื่องแค่การปัดเป่าเฉพาะหน้า เป็นเรื่องแค่ชั่วครั้งชั่วคราว 6-12 เดือน ซึ่งก็คงจะช่วยสกัดภาวะเงินเฟ้อที่ตึงตัวสูงในเวลานี้ได้ไม่มากก็น้อย
แต่ในระยะยาวแล้ว ผมว่ารัฐบาลควรยกเลิกการบิดเบือนราคา โดยค่อยๆ ปรับราคาพลังงานให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งรัฐบาลก็ยังมีเครื่องมือในการจัดเก็บกองทุนน้ำมันและภาษีสรรพสามิตอยู่นี่
ไม่ได้ปล่อยให้ประชาชนเผชิญสภาวะราคาพลังงานแพงเสียที่ไหน
หนนี้ ลดราคาให้ประชาชน แต่ในระยะยาว ต้องบอกถึงแผนพลังงานในอนาคตให้ประชาชนเตรียมตัวเตรียมใจเสียแต่เนิ่นๆ