ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 1
ปกติการลงทุนในหุ้น
จะส่งผลให้จิตใจว้าวุ่นกว่าการมีเงินลงทุนในทรัพย์สินอื่นที่หวือหวาน้อยกว่า
เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือแม้แต่ทองคำ ที่หลายๆคนบอกว่าเสี่ยงน้อย
ยิ่งหากการลงทุนในหุ้นนั้นๆ เน้นผลประโยชน์ระยะสั้น กึ่งๆเก็งกำไร
หรือที่กำลังล้อเลียนกันว่า ลงทุนแบบ vi vi
คนที่อยากเป็นสุข แต่ต้องการให้เงินทองงอกเงยในตลาดหุ้น จะทำอย่างไรดี
ผมจึงเชิญชวนพี่ๆเพื่อนๆ แนะนำแนวคิดว่า ทำอย่างไรเราจึงจะมีความสุขกับการลงทุนในหุ้นของเรา
บางทีวิธีปฏิบัติอย่างง่ายๆ อาจจะนำมาซึ่งสิ่งที่เราหวัง อย่างคิดไม่ถึงก็ได้
ตัวอย่างเช่น.....
พี่คลายเครียดเคยบอกว่า จะไม่อ่านกระทู้ หรือตอบกระทู้ จนกว่าจะถึงเช้าวันจันทร์
เพราะหากไปอ่านไปตอบเย็นวันศุกร์ อาจจะทำให้วันเสาร์-อาทิตย์ที่ควรจะสบายๆ
กลายเป็นวันที่เครียดไปได้.........
ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
จะส่งผลให้จิตใจว้าวุ่นกว่าการมีเงินลงทุนในทรัพย์สินอื่นที่หวือหวาน้อยกว่า
เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือแม้แต่ทองคำ ที่หลายๆคนบอกว่าเสี่ยงน้อย
ยิ่งหากการลงทุนในหุ้นนั้นๆ เน้นผลประโยชน์ระยะสั้น กึ่งๆเก็งกำไร
หรือที่กำลังล้อเลียนกันว่า ลงทุนแบบ vi vi
คนที่อยากเป็นสุข แต่ต้องการให้เงินทองงอกเงยในตลาดหุ้น จะทำอย่างไรดี
ผมจึงเชิญชวนพี่ๆเพื่อนๆ แนะนำแนวคิดว่า ทำอย่างไรเราจึงจะมีความสุขกับการลงทุนในหุ้นของเรา
บางทีวิธีปฏิบัติอย่างง่ายๆ อาจจะนำมาซึ่งสิ่งที่เราหวัง อย่างคิดไม่ถึงก็ได้
ตัวอย่างเช่น.....
พี่คลายเครียดเคยบอกว่า จะไม่อ่านกระทู้ หรือตอบกระทู้ จนกว่าจะถึงเช้าวันจันทร์
เพราะหากไปอ่านไปตอบเย็นวันศุกร์ อาจจะทำให้วันเสาร์-อาทิตย์ที่ควรจะสบายๆ
กลายเป็นวันที่เครียดไปได้.........
ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
- maoinvestor
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 8
เวลาขาดทุนเก็บมาวาดการ์ตูนค่ะ
เนื่องจากตอนแรกเครียดอยู่เหมือนกัน เลยวาดการ์ตูนคลายเครียดละกัน แล้วก็โพสลงเผื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นด้วย ทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆคนที่เป็นแบบเรานี่ก็เยอะแฮะ 555+ ได้เปิดโลก + ความรู้ + แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆนักลงทุน แม้จะไม่ได้มาเป็นตัวเงินแต่ก็ได้อะไรหลายๆอย่างจากการหาความสุขจากการลงทุนในรูปแบบนี้ค่ะ
เนื่องจากตอนแรกเครียดอยู่เหมือนกัน เลยวาดการ์ตูนคลายเครียดละกัน แล้วก็โพสลงเผื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นด้วย ทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆคนที่เป็นแบบเรานี่ก็เยอะแฮะ 555+ ได้เปิดโลก + ความรู้ + แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆนักลงทุน แม้จะไม่ได้มาเป็นตัวเงินแต่ก็ได้อะไรหลายๆอย่างจากการหาความสุขจากการลงทุนในรูปแบบนี้ค่ะ
ติดตามอ่านการ์ตูนหุ้น สารคดีชีวิตสัตว์โลก::แมลงเม่า ได้ตามลิงค์ข้างล่างจ้ะ
http://www.maoinvestor.com
http://www.facebook.com/maoinvestor
http://www.maoinvestor.com
http://www.facebook.com/maoinvestor
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 9
นึกซะว่าเราเป็นเพียงผู้ชม เป็นผู้สังเกตการณ์
กำลังนั่งชมละคร ครับ
555
(แต่พยายามอย่าหลวมตัวเข้าไปเล่นละครซะเอง เป็นพอ )
กำลังนั่งชมละคร ครับ
555
(แต่พยายามอย่าหลวมตัวเข้าไปเล่นละครซะเอง เป็นพอ )
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 11
สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: จิตสงบ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=47934
เข้าคู่กันโดยบังเอิญเลยนะครับ
โลภะ โทสะ โมหะ
ละได้ ด้วยคำว่า "พอ"
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=47934
เข้าคู่กันโดยบังเอิญเลยนะครับ
โลภะ โทสะ โมหะ
ละได้ ด้วยคำว่า "พอ"
- untrataro25
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 14
ธรรมมะช่วยได้นะครับ
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 15
ข่าวร้ายจะอ่านรอบเดียว
ส่วนข่าวดีๆ จะอ่านหลายๆรอบ พวกข่าวจ่ายปันผลอะไรแบบนี้ อ่านบ่อยๆมีความสุข
ส่วนข่าวดีๆ จะอ่านหลายๆรอบ พวกข่าวจ่ายปันผลอะไรแบบนี้ อ่านบ่อยๆมีความสุข
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 16
มีผู้ใหญ่ท่านนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า
คนที่เข้ามาตลาดหุ้น ส่วนใหญ่ก็เข้ามาเพราะความโลภ โลภที่จะได้ลาภ บางคนจ้องจะเข้ามากินตังคนอื่น
โดยใช้เครื่องมือต่างๆ วิธีการต่างๆ
และคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะถูกกินซะเอง ไม่ก็ถูกความโลภของตัวเองกัดกินจิตใจ
เมื่อเสียหายจากการลงทุน ผนวกกับพื้นฐานจิตใจที่เข้ามาด้วยจิตอกุศลจิตด้วยแล้ว
ย่อมทำให้เกิดโมหะ และ อคติตามมา คนเหล่านั้นนี้จะโทษโน้น โทษนี่ และจ้องแต่จะว่าร้ายผู้อื่น
สุดท้ายก็จะลงทุนโดยอารมณ์ ละเลยเหตุผล พลอยทำให้ตัวเองแย่ลงไปอีก
ทำให้ความสุขหาได้ยากยิ่งจากการกระทำเหล่านี้
ท่านก็สอนผมว่า ให้ดูไว้
สิ่งนี้คือละคร จงดูอย่างเข้าใจ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามละคร
ดูแล้วให้ปล่อยวาง
แล้วให้กลับมามองย้อน ดูตัวเรา
หากเอาตัวเราไปยุ่งกับคนอื่น เราก็อาจจะเป็นทุกข์
หากมีโมหะ เราก็เป็นทุกข์
หากมีโลภะมากไป เราก็เป็นทุกข์
อยากที่จะทุกข์น้อยลง ก็ต้องปล่อยวาง
ต้องลดต้นเหตุแห่งทุกข์ลง แม้ลดไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าการไม่พยายามลด
จริงๆแล้ว พุทธะ ไม่ได้สอนว่า ทำอย่างไรจึงจะมีความสุข
แต่สอนว่า การที่จะไม่ทุกข์นั้น ต้องทำอย่างไร
สำหรับผม ก็คงสรุปง่ายๆว่า ทำอย่างไรให้ลงทุนแล้วไม่เป็นทุกข์นั้น
ก็คือต้อง ปล่อยวาง มั้งครับ
คนที่เข้ามาตลาดหุ้น ส่วนใหญ่ก็เข้ามาเพราะความโลภ โลภที่จะได้ลาภ บางคนจ้องจะเข้ามากินตังคนอื่น
โดยใช้เครื่องมือต่างๆ วิธีการต่างๆ
และคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะถูกกินซะเอง ไม่ก็ถูกความโลภของตัวเองกัดกินจิตใจ
เมื่อเสียหายจากการลงทุน ผนวกกับพื้นฐานจิตใจที่เข้ามาด้วยจิตอกุศลจิตด้วยแล้ว
ย่อมทำให้เกิดโมหะ และ อคติตามมา คนเหล่านั้นนี้จะโทษโน้น โทษนี่ และจ้องแต่จะว่าร้ายผู้อื่น
สุดท้ายก็จะลงทุนโดยอารมณ์ ละเลยเหตุผล พลอยทำให้ตัวเองแย่ลงไปอีก
ทำให้ความสุขหาได้ยากยิ่งจากการกระทำเหล่านี้
ท่านก็สอนผมว่า ให้ดูไว้
สิ่งนี้คือละคร จงดูอย่างเข้าใจ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามละคร
ดูแล้วให้ปล่อยวาง
แล้วให้กลับมามองย้อน ดูตัวเรา
หากเอาตัวเราไปยุ่งกับคนอื่น เราก็อาจจะเป็นทุกข์
หากมีโมหะ เราก็เป็นทุกข์
หากมีโลภะมากไป เราก็เป็นทุกข์
อยากที่จะทุกข์น้อยลง ก็ต้องปล่อยวาง
ต้องลดต้นเหตุแห่งทุกข์ลง แม้ลดไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าการไม่พยายามลด
จริงๆแล้ว พุทธะ ไม่ได้สอนว่า ทำอย่างไรจึงจะมีความสุข
แต่สอนว่า การที่จะไม่ทุกข์นั้น ต้องทำอย่างไร
สำหรับผม ก็คงสรุปง่ายๆว่า ทำอย่างไรให้ลงทุนแล้วไม่เป็นทุกข์นั้น
ก็คือต้อง ปล่อยวาง มั้งครับ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 17
พอถึงเรื่อง ทุกข์ สุข
แล้วอยากจะขอ share เรื่องๆนึงนะครับ (คิดว่าไม่น่าจะนอกเรื่องมากนะครับ ^^)
เรื่องนี้เป็นการเรื่องของการเรียนการสอนวิชาพุทธศาสนา
ของอาจารย์ท่านนึง ที่ผมการันตาตีเลยว่า เป็นอาจารย์ที่แนวที่สุดในโลก
อาจารย์ท่านนี้ ชื่ออาจารย์ นภ (นะ-พะ) เป็นอาจารย์สอยวิชาพระพุทธศาสนา ที่โรงเรียนสาธิต มอ.
ลักษณะพิเศษของท่าน คือ จะแต่งกายคล้ายยากุซ่า ใส่ชุดดำ แว่นดำ
เดินไปไหนมาไหน จะไม่มีใครว่า ท่านเป็นอาจารย์สอนพระพุทธศาสนา
วันหนึ่ง เป็นเวลาเรียนในคาบวิชาพระพุทธศาสนา
อาจารย์มีช้า ประมาณ 15 นาที (ไม่รู้จงใจหรือเปล่า )
พอเด็กเห็นว่า อาจารย์ไม่มา ก็เลยส่งเสียงดัง ตามประสาวัยรุ่น
หลังจากนั้นอาจารย์ก็โผล่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
และอาจารย์ก็ทำโทษเด็กนักเรียนทุกคนให้ไปยืนยองๆ หน้าห้องเรียนๆ อยู่ครึ่งชัวโมง...
แล้วอาจารย์ก็ถามนักเรียนว่า "เมื่อยมั้ย..."
เด็กก็ตอบว่า "เมื่อยมากครับอาจารย์..."
อาจารย์ก็บอกกับนักเรียนว่า "สิ่งนี้แหละที่เรียกว่า นรก "
หลังจากนั้น "อาจารย์ให้นักเรียนกลับเข้าไปนั่งในห้องเรียน"
แล้วก็ถามนักเรียนว่า "สบายมั้ยๆ.."
นักเรียนก็ตอบว่า "สบายครับอาจารย์..."
อาจารย์ก็บอกกับนักเรียนว่า " นี้แหละ สิ่งที่เรียกว่า สวรรค์ "
แล้วอาจารย์ก็บอกต่ออีกว่า "จบการสอนพระพุทธศาสนาในคาบเรียบร้อยนี้แล้ว "
เพียงเท่านี้ ทำให้นักเรียนทุกข์เข้าใจหลักธรรมง่ายๆ ได้อย่างแจ่มแจ้ง
มากกว่าการอ่านท่องจำตำราเล่มหนาๆ หรือการพร่ำสอนอยู่หลายๆชั่วโมง ว่า
แท้จริงแล้ว
นรก นั้นคือ ทุกข์
สวรรค์ นั่นก็คือ การพ้นทุกข์
แล้วอยากจะขอ share เรื่องๆนึงนะครับ (คิดว่าไม่น่าจะนอกเรื่องมากนะครับ ^^)
เรื่องนี้เป็นการเรื่องของการเรียนการสอนวิชาพุทธศาสนา
ของอาจารย์ท่านนึง ที่ผมการันตาตีเลยว่า เป็นอาจารย์ที่แนวที่สุดในโลก
อาจารย์ท่านนี้ ชื่ออาจารย์ นภ (นะ-พะ) เป็นอาจารย์สอยวิชาพระพุทธศาสนา ที่โรงเรียนสาธิต มอ.
ลักษณะพิเศษของท่าน คือ จะแต่งกายคล้ายยากุซ่า ใส่ชุดดำ แว่นดำ
เดินไปไหนมาไหน จะไม่มีใครว่า ท่านเป็นอาจารย์สอนพระพุทธศาสนา
วันหนึ่ง เป็นเวลาเรียนในคาบวิชาพระพุทธศาสนา
อาจารย์มีช้า ประมาณ 15 นาที (ไม่รู้จงใจหรือเปล่า )
พอเด็กเห็นว่า อาจารย์ไม่มา ก็เลยส่งเสียงดัง ตามประสาวัยรุ่น
หลังจากนั้นอาจารย์ก็โผล่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
และอาจารย์ก็ทำโทษเด็กนักเรียนทุกคนให้ไปยืนยองๆ หน้าห้องเรียนๆ อยู่ครึ่งชัวโมง...
แล้วอาจารย์ก็ถามนักเรียนว่า "เมื่อยมั้ย..."
เด็กก็ตอบว่า "เมื่อยมากครับอาจารย์..."
อาจารย์ก็บอกกับนักเรียนว่า "สิ่งนี้แหละที่เรียกว่า นรก "
หลังจากนั้น "อาจารย์ให้นักเรียนกลับเข้าไปนั่งในห้องเรียน"
แล้วก็ถามนักเรียนว่า "สบายมั้ยๆ.."
นักเรียนก็ตอบว่า "สบายครับอาจารย์..."
อาจารย์ก็บอกกับนักเรียนว่า " นี้แหละ สิ่งที่เรียกว่า สวรรค์ "
แล้วอาจารย์ก็บอกต่ออีกว่า "จบการสอนพระพุทธศาสนาในคาบเรียบร้อยนี้แล้ว "
เพียงเท่านี้ ทำให้นักเรียนทุกข์เข้าใจหลักธรรมง่ายๆ ได้อย่างแจ่มแจ้ง
มากกว่าการอ่านท่องจำตำราเล่มหนาๆ หรือการพร่ำสอนอยู่หลายๆชั่วโมง ว่า
แท้จริงแล้ว
นรก นั้นคือ ทุกข์
สวรรค์ นั่นก็คือ การพ้นทุกข์
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 19
สำหรับผม ผมมีแค่ทัศนคติในการลงทุนครับ
โดยคิดว่าการซื้อหุ้นคือการร่วมลงทุนในธุรกิจนั้นจริงๆ
ตามหลักการลงทุนแนววีไอที่ทุกท่านก็รู้ๆกันอยู่แล้ว
โดยจะพยายามเลือกลงทุนในธุรกิจที่เราพอเข้าใจและพบเห็นในชีวิตประจำวัน
คอยติดตามการเติบโตของธุรกิจ
ตัวอย่างการติดตามธุรกิจก็เช่น
ตอนที่ผมกับแฟนขับรถอยู่ แล้วเจอรถของบริษัทที่เราลงทุน ขับในเส้นทางเดียวกัน
เราจะพยายามสะกดรอยขับตามไปดูว่าลูกน้องของเราจะไปทำอะไร
แอบอู้งาน เอารถมาขับเที่ยวเล่นหรือเปล่า เป็นต้นครับ
โดยคิดว่าการซื้อหุ้นคือการร่วมลงทุนในธุรกิจนั้นจริงๆ
ตามหลักการลงทุนแนววีไอที่ทุกท่านก็รู้ๆกันอยู่แล้ว
โดยจะพยายามเลือกลงทุนในธุรกิจที่เราพอเข้าใจและพบเห็นในชีวิตประจำวัน
คอยติดตามการเติบโตของธุรกิจ
ตัวอย่างการติดตามธุรกิจก็เช่น
ตอนที่ผมกับแฟนขับรถอยู่ แล้วเจอรถของบริษัทที่เราลงทุน ขับในเส้นทางเดียวกัน
เราจะพยายามสะกดรอยขับตามไปดูว่าลูกน้องของเราจะไปทำอะไร
แอบอู้งาน เอารถมาขับเที่ยวเล่นหรือเปล่า เป็นต้นครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- teenoys
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 20
เวลารู้สึกโลภ กลัว เกินไป มักจะเป็นเวลานั่งดูตัววิ่ง ผมใช้วิธีหนีไปทำอย่างอื่น เช่นดูคลิปของคุณ sorawut หลังๆเลยทำคลิปเองบ้าง จุดประสงค์คือต้องการทำตัวให้ไม่ว่าง เพื่อจะไม่ดูจอหุ้น ช่วยได้เยอะเลย
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 21
อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
- ลงทุนในกิจการที่เราเข้าใจ ไม่ลงทุนในราคา ไม่ลงทุนในความโลภ ความกลัว รวมไปถึงพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนคนอื่น
- ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษา ติดตามกิจการ ไม่ใช่ราคาหุ้น
- ดูราคาหุ้นให้น้อยที่สุด เพราะ ราคาหุ้น คือ แหล่งที่มาของความเครียด (ถึงแม้จะไม่ดูราคาหุ้นบ่อยๆ แต่ต้องมีการวางแผน มี Price Action ที่ชัดเจน)
- ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสม และอยู่กับเป้าตรงนั้น อย่าให้เป้าของคนอื่น หรือ ความสำเร็จของคนอื่นมีผลกระทบกับเป้าในระยะยาวของเรา... การเปรียบเทียบกับคนอื่นนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ว่าเราจะดีกว่า ด้อยกว่า หรือเสมอกันก็ตาม
- เลือกคบหากัลยาณมิตรที่ช่วยส่งเสริมการศึกษากิจการ และไม่มีพฤติกรรมที่นำไปสู่ความเครียด ความทุกข์ที่กล่าวมาข้างต้น
- ใช้ social network และรับข้อมูลข่าวสารแต่พอประมาณ เลือกรับเฉพาะ ที่เราคิดพิจารณาแล้ว คิดว่าเป็นประโยชน์ในการลงทุนอย่างแท้จริง
- อย่าให้เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะ สุดท้ายแล้วตอนเราตาย เราก็เอาเงิน เอาความสำเร็จจากการลงทุนไปด้วยไม่ได้
- ชีิวิตของเรา... เราก็แค่หยิบยืมจากธรรมชาติ สุดท้ายเราก็ต้องคืนกลับไปสู่ธรรมชาติ ดังนั้นเงินทองความสำเร็จที่เราได้มา ก็ควรที่จะนำไปทำประโยชน์ให้กับคนรอบๆ ตัวเท่าที่ทำได้ เมื่อคนรอบๆ ตัวมีความสุข เราก็จะมีความสุขเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นการนำผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนมาทำให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง
- ลงทุนในกิจการที่เราเข้าใจ ไม่ลงทุนในราคา ไม่ลงทุนในความโลภ ความกลัว รวมไปถึงพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนคนอื่น
- ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษา ติดตามกิจการ ไม่ใช่ราคาหุ้น
- ดูราคาหุ้นให้น้อยที่สุด เพราะ ราคาหุ้น คือ แหล่งที่มาของความเครียด (ถึงแม้จะไม่ดูราคาหุ้นบ่อยๆ แต่ต้องมีการวางแผน มี Price Action ที่ชัดเจน)
- ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสม และอยู่กับเป้าตรงนั้น อย่าให้เป้าของคนอื่น หรือ ความสำเร็จของคนอื่นมีผลกระทบกับเป้าในระยะยาวของเรา... การเปรียบเทียบกับคนอื่นนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ว่าเราจะดีกว่า ด้อยกว่า หรือเสมอกันก็ตาม
- เลือกคบหากัลยาณมิตรที่ช่วยส่งเสริมการศึกษากิจการ และไม่มีพฤติกรรมที่นำไปสู่ความเครียด ความทุกข์ที่กล่าวมาข้างต้น
- ใช้ social network และรับข้อมูลข่าวสารแต่พอประมาณ เลือกรับเฉพาะ ที่เราคิดพิจารณาแล้ว คิดว่าเป็นประโยชน์ในการลงทุนอย่างแท้จริง
- อย่าให้เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะ สุดท้ายแล้วตอนเราตาย เราก็เอาเงิน เอาความสำเร็จจากการลงทุนไปด้วยไม่ได้
- ชีิวิตของเรา... เราก็แค่หยิบยืมจากธรรมชาติ สุดท้ายเราก็ต้องคืนกลับไปสู่ธรรมชาติ ดังนั้นเงินทองความสำเร็จที่เราได้มา ก็ควรที่จะนำไปทำประโยชน์ให้กับคนรอบๆ ตัวเท่าที่ทำได้ เมื่อคนรอบๆ ตัวมีความสุข เราก็จะมีความสุขเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นการนำผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนมาทำให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 23
เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ตัวอย่างเช่น.....
พี่คลายเครียดเคยบอกว่า จะไม่อ่านกระทู้ หรือตอบกระทู้ จนกว่าจะถึงเช้าวันจันทร์
เพราะหากไปอ่านไปตอบเย็นวันศุกร์ อาจจะทำให้วันเสาร์-อาทิตย์ที่ควรจะสบายๆ
กลายเป็นวันที่เครียดไปได้.........
ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
ต้องขอแก้ไขหน่อยครับ
คือวิธีคลายเครียดจากการลงทุน
ผมแยกเป็นสองส่วนกันครับ
๑ เรื่องโพสต์กระทู้ มันถือเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งในระหว่างการดูราคาหุ้นครับ
ดังนั้น ก็ต้องให้มีความพอดี ไม่ใช่โพสต์กระทู้เพลิน จนไม่เป็นอันทำอย่างอื่นๆของชีวิต
ก็เลยจำกัดการโพสต์กระทู้ไว้แค่ ช่วงเช้าของวันที่ตลาดเปิดทำการ
จากวันจันทร์ถึงพฤหัสครับ เมื่อก่อนถึงวันศุกร์
แต่พอดีช่วงเปิดเทอมที่ผ่านมา ไปรับส่งลูกเรียน รด.ซึ่งอยู่ไกลบ้านในวันศุกร์
ก็เลยกลายเป็นว่า ไม่โพสต์วันศุกร์และวันที่ตลาดหุ้นปิดครับ
คือพอผมไม่ได้ตามดูราคาหุ้น ก็จะไม่โพสต์ข้อความอะไร
จะนั่งอ่านบ้าง แล้วแต่โอกาสครับ
เรียกว่าการโพสต์กระทู้ในเวบบอร์ดหุ้น
พยายามให้มันพอดี อยู่ในระดับแค่ชอบ ไม่ให้ขึ้นไปถึงระดับคลั่ง และเสพติด
๒ เรื่องราคาหุ้น ผมจะจำกัดความเครียดเกี่ยวกับราคาหุ้นในพอร์ต
เอาไว้เฉพาะเวลาตลาดเปิดทำการเท่านั้นครับ
เพราะตลาดปิดไปแล้ว ถึงจะเครียดยังไงเราก็แก้ไขอะไรไม่ได้
เดี๋ยวนี้ทำได้อย่างเด็ดขาดแล้วครับ
ระหว่างเวลาที่ตลาดหุ้นปิดไปแล้ว ไปจนถึงเวลาที่ตลาดเปิดอีกครั้ง
ผมจะไม่ดูและไม่คิดไปถึงราคาหุ้นในพอร์ตหุ้นตัวเองครับ พอไม่คิดถึง ไม่เข้าไปดู
ก็จะไม่เครียดว่า รู้งี้จะทำอย่างโน้น จะทำอย่างนี้
ผมขอสรุปง่ายๆว่า
นักลงทุนทุกคน ควรจะทำตาม
margin of satisfaction
ของตัวเราเอง
อะไรที่เราทำแล้วรู้สึกไม่พึงพอใจ ก็ไม่ควรทำครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 44
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 24
กด like เลยครับ ชอบมากๆเลยครับคุณ picatos...ขออนุญาตินำไป เผยแพร่ต่อนะครับ ^^picatos เขียน:อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
- ลงทุนในกิจการที่เราเข้าใจ ไม่ลงทุนในราคา ไม่ลงทุนในความโลภ ความกลัว รวมไปถึงพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนคนอื่น
- ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษา ติดตามกิจการ ไม่ใช่ราคาหุ้น
- ดูราคาหุ้นให้น้อยที่สุด เพราะ ราคาหุ้น คือ แหล่งที่มาของความเครียด (ถึงแม้จะไม่ดูราคาหุ้นบ่อยๆ แต่ต้องมีการวางแผน มี Price Action ที่ชัดเจน)
- ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสม และอยู่กับเป้าตรงนั้น อย่าให้เป้าของคนอื่น หรือ ความสำเร็จของคนอื่นมีผลกระทบกับเป้าในระยะยาวของเรา... การเปรียบเทียบกับคนอื่นนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ว่าเราจะดีกว่า ด้อยกว่า หรือเสมอกันก็ตาม
- เลือกคบหากัลยาณมิตรที่ช่วยส่งเสริมการศึกษากิจการ และไม่มีพฤติกรรมที่นำไปสู่ความเครียด ความทุกข์ที่กล่าวมาข้างต้น
- ใช้ social network และรับข้อมูลข่าวสารแต่พอประมาณ เลือกรับเฉพาะ ที่เราคิดพิจารณาแล้ว คิดว่าเป็นประโยชน์ในการลงทุนอย่างแท้จริง
- อย่าให้เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะ สุดท้ายแล้วตอนเราตาย เราก็เอาเงิน เอาความสำเร็จจากการลงทุนไปด้วยไม่ได้
- ชีิวิตของเรา... เราก็แค่หยิบยืมจากธรรมชาติ สุดท้ายเราก็ต้องคืนกลับไปสู่ธรรมชาติ ดังนั้นเงินทองความสำเร็จที่เราได้มา ก็ควรที่จะนำไปทำประโยชน์ให้กับคนรอบๆ ตัวเท่าที่ทำได้ เมื่อคนรอบๆ ตัวมีความสุข เราก็จะมีความสุขเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นการนำผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนมาทำให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง
- armaty
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 25
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=47918
บทความล่าสุดจาก อ.นิเวศ น่าจะตอบคำถามนี้ได้ดีนะครับ
ลงทุนอย่างมีความสุขทุกท่าน
บทความล่าสุดจาก อ.นิเวศ น่าจะตอบคำถามนี้ได้ดีนะครับ
ลงทุนอย่างมีความสุขทุกท่าน
เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า ราคาตอนที่คุณเข้าซื้อ คุณไม่ได้จ่ายเงินซื้อมาในราคาที่แพงเกินไป แค่นี้ก็เพียงพอกับการที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 26
ไม่กระตือรือร้นกับการลงทุนของเราเกินไป
-เปรียบเทียบคนอื่น เห็นคนอื่นได้ผลตอบแทนดี จนเราไปเล่นในเกมที่ไม่ถนัด
-ไม่รอคอย เพราะรักพี่เสียดายน้อง เห็นหุ้นตัวใหม่ถูกกว่า เลยSwitchไปซื้อ แล้วก็อีหรอบเดิมไปเรื่อยๆ
-ซื้อหุ้นหวังปันผล แต่ไม่ถึงปันผลก็ขายเสียก่อน เพราะรู้สึกปันผลจะได้น้อยและรอนาน
-ฟังข่าว เห็นราคา จนอยากขายหุ้นทั้งๆที่วิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว
สุดท้ายสรุปได้คือ ให้เงินทำงาน ไม่ใช่ให้เราทำงาน
-เปรียบเทียบคนอื่น เห็นคนอื่นได้ผลตอบแทนดี จนเราไปเล่นในเกมที่ไม่ถนัด
-ไม่รอคอย เพราะรักพี่เสียดายน้อง เห็นหุ้นตัวใหม่ถูกกว่า เลยSwitchไปซื้อ แล้วก็อีหรอบเดิมไปเรื่อยๆ
-ซื้อหุ้นหวังปันผล แต่ไม่ถึงปันผลก็ขายเสียก่อน เพราะรู้สึกปันผลจะได้น้อยและรอนาน
-ฟังข่าว เห็นราคา จนอยากขายหุ้นทั้งๆที่วิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว
สุดท้ายสรุปได้คือ ให้เงินทำงาน ไม่ใช่ให้เราทำงาน
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 27
ใน "โลกความจริง"...ผมเป็นแค่พนักงานออฟฟิสกินเงินเดือนทั่วไปคนหนึ่ง เล่นหุ้น 3 ตัวในพอร์ต
แต่ใน "โลกความฝัน"...คุณรู้ไหมว่า ผมคือใคร?
v
v
v
เพื่อความสุขในการลงทุนของผม...
ใน "โลกความฝัน" ผมจะจินตนาการว่า...
"ตัวผมเองคือ ลูกเศรษฐีไม่ค่อยมีเวลาคนหนึ่ง"
และผมจัดตั้งบริษัทฯขึ้นมา 3 แห่ง แล้วผมก็ได้ว่าจ้าง "CEO มือหนึ่งเก่งๆ จำนวน 3 คนมาบริหารแต่ละบริษัทฯแข่งกัน!!!"
แต่เนื่องจากผมไม่ค่อยมีเวลา ผมจึงได้มอบหมายให้ "CEO แต่ละคนทั้ง 3 คน มีหน้าที่ต้องรายงานผลงานให้ผมรู้ ทุกๆ 3 เดือน"
ส่วนราคาหุ้น...
ถ้าราคาหุ้นขึ้น ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำชื่นชม และเชื่อมั่นบริษัทฯของผม"
ถ้าราคาหุ้นลง ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำเย้ยหยัน และดูถูกบริษัทฯของผมด้วยความไม่เชื่อมั่น"
ดังนั้น "หุ้นขึ้น"...ผมก็ดีใจ เพราะมีคนมาชื่นชมมากมาย
แต่ถ้า "หุ้นลง"...ผมก็ไม่เสียใจ
แต่ผมจะคิดในใจว่า...
"บริษัทฯตรูออกจะดี แถมตรูยังจ้างคนที่เก่งที่สุดมาบริหารแล้วนะ
เอาวุ้ย...ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ
เดี๋ยวถ้าบริษัทฯตรูรุ่งเมื่อไหร่ โม้ทีหลัง...ก็ยังไม่สายอ่ะน้า"
หลังจากนั้น...ผมไม่เคยมีความทุกข์เพราะราคาหุ้นอีกเลย
(^_^)
แต่ใน "โลกความฝัน"...คุณรู้ไหมว่า ผมคือใคร?
v
v
v
เพื่อความสุขในการลงทุนของผม...
ใน "โลกความฝัน" ผมจะจินตนาการว่า...
"ตัวผมเองคือ ลูกเศรษฐีไม่ค่อยมีเวลาคนหนึ่ง"
และผมจัดตั้งบริษัทฯขึ้นมา 3 แห่ง แล้วผมก็ได้ว่าจ้าง "CEO มือหนึ่งเก่งๆ จำนวน 3 คนมาบริหารแต่ละบริษัทฯแข่งกัน!!!"
แต่เนื่องจากผมไม่ค่อยมีเวลา ผมจึงได้มอบหมายให้ "CEO แต่ละคนทั้ง 3 คน มีหน้าที่ต้องรายงานผลงานให้ผมรู้ ทุกๆ 3 เดือน"
ส่วนราคาหุ้น...
ถ้าราคาหุ้นขึ้น ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำชื่นชม และเชื่อมั่นบริษัทฯของผม"
ถ้าราคาหุ้นลง ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำเย้ยหยัน และดูถูกบริษัทฯของผมด้วยความไม่เชื่อมั่น"
ดังนั้น "หุ้นขึ้น"...ผมก็ดีใจ เพราะมีคนมาชื่นชมมากมาย
แต่ถ้า "หุ้นลง"...ผมก็ไม่เสียใจ
แต่ผมจะคิดในใจว่า...
"บริษัทฯตรูออกจะดี แถมตรูยังจ้างคนที่เก่งที่สุดมาบริหารแล้วนะ
เอาวุ้ย...ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ
เดี๋ยวถ้าบริษัทฯตรูรุ่งเมื่อไหร่ โม้ทีหลัง...ก็ยังไม่สายอ่ะน้า"
หลังจากนั้น...ผมไม่เคยมีความทุกข์เพราะราคาหุ้นอีกเลย
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 28
วิธีลงทุนแล้วไม่ทุกข์ ฝนพยายามทำให้ง่ายๆ
"ไม่ยึดติด"
หุ้นขึ้น ก็พยายามไม่สุขใจมากไป เพราะซักวันมันจะลง
หุ้นลง ก็พยายามไม่ทุกข์ใจมากไป เพราะซักวันมันจะขึ้น
สิ่งที่ทำให้ฝนสุขในการลงทุน คือ right for the right reason
คาดการณ์"เหตุ"คือผลประกอบการได้แม่นยำ และ "ผล" ตอบสนองในตลาดเป็นไปตามเหตุ
สุดท้ายตอนนี้ฝน เดินมาติดกับดักกลายเป็นยึดติดผลประกอบการบริษัทแทน ยังแก้ไม่ได้ 55555
"ไม่ยึดติด"
หุ้นขึ้น ก็พยายามไม่สุขใจมากไป เพราะซักวันมันจะลง
หุ้นลง ก็พยายามไม่ทุกข์ใจมากไป เพราะซักวันมันจะขึ้น
สิ่งที่ทำให้ฝนสุขในการลงทุน คือ right for the right reason
คาดการณ์"เหตุ"คือผลประกอบการได้แม่นยำ และ "ผล" ตอบสนองในตลาดเป็นไปตามเหตุ
สุดท้ายตอนนี้ฝน เดินมาติดกับดักกลายเป็นยึดติดผลประกอบการบริษัทแทน ยังแก้ไม่ได้ 55555
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
-
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างไรให้ลงทุนหุ้นแล้วเป็นสุข
โพสต์ที่ 29
อูวววววส์pak เขียน:ใน "โลกความจริง"...ผมเป็นแค่พนักงานออฟฟิสกินเงินเดือนทั่วไปคนหนึ่ง เล่นหุ้น 3 ตัวในพอร์ต
แต่ใน "โลกความฝัน"...คุณรู้ไหมว่า ผมคือใคร?
v
v
v
เพื่อความสุขในการลงทุนของผม...
ใน "โลกความฝัน" ผมจะจินตนาการว่า...
"ตัวผมเองคือ ลูกเศรษฐีไม่ค่อยมีเวลาคนหนึ่ง"
และผมจัดตั้งบริษัทฯขึ้นมา 3 แห่ง แล้วผมก็ได้ว่าจ้าง "CEO มือหนึ่งเก่งๆ จำนวน 3 คนมาบริหารแต่ละบริษัทฯแข่งกัน!!!"
แต่เนื่องจากผมไม่ค่อยมีเวลา ผมจึงได้มอบหมายให้ "CEO แต่ละคนทั้ง 3 คน มีหน้าที่ต้องรายงานผลงานให้ผมรู้ ทุกๆ 3 เดือน"
ส่วนราคาหุ้น...
ถ้าราคาหุ้นขึ้น ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำชื่นชม และเชื่อมั่นบริษัทฯของผม"
ถ้าราคาหุ้นลง ผมจะจินตนาการเสมือนว่า "มีคนมากมายเข้ามากล่าวคำเย้ยหยัน และดูถูกบริษัทฯของผมด้วยความไม่เชื่อมั่น"
ดังนั้น "หุ้นขึ้น"...ผมก็ดีใจ เพราะมีคนมาชื่นชมมากมาย
แต่ถ้า "หุ้นลง"...ผมก็ไม่เสียใจ
แต่ผมจะคิดในใจว่า...
"บริษัทฯตรูออกจะดี แถมตรูยังจ้างคนที่เก่งที่สุดมาบริหารแล้วนะ
เอาวุ้ย...ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ
เดี๋ยวถ้าบริษัทฯตรูรุ่งเมื่อไหร่ โม้ทีหลัง...ก็ยังไม่สายอ่ะน้า"
หลังจากนั้น...ผมไม่เคยมีความทุกข์เพราะราคาหุ้นอีกเลย
(^_^)
อันนี้ "โดนใจ" มากครับ
สงสัยผมจะรวยแฮะ เป็นเจ้าของเกือบ 10 บริษัท
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!