บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงกว่า
โพสต์ที่ 1
ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงกว่า บริษัทที่มี Market Cap เล็ก
ใช่ไหมครับ
คุณคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุให้บริษัทขนาดใหญ่ สามารถใช้ D/E ในสัดส่วนที่สูง
และบริษัทขนาดเล็ก มักจะมี D/E ต่ำ
การใช้ D/E ในสัดส่วนที่สูง ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ดูมีผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ROE สูงกว่า บริษัทขนาดเล็ก
กรณีมี ROA พอๆกันด้วยใช่ไหมครับ
ใช่ไหมครับ
คุณคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุให้บริษัทขนาดใหญ่ สามารถใช้ D/E ในสัดส่วนที่สูง
และบริษัทขนาดเล็ก มักจะมี D/E ต่ำ
การใช้ D/E ในสัดส่วนที่สูง ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ดูมีผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ROE สูงกว่า บริษัทขนาดเล็ก
กรณีมี ROA พอๆกันด้วยใช่ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงก
โพสต์ที่ 2
คุณน่าจะเข้าใจผิดหลายข้อ
1>market cap คือราคาที่ตลาดตีมูลค่าให้บริษัทครับ ส่วนสินทรัพย์จริงของบริษัทคือ ASSET ซึ่งเท่ากับ D+E
2>พยายามทำความเข้าใจกับคำว่าหนี้สินรวม กับสัดส่วนหนี้สิน นะครับ
บริษัทที่โตขึ้น ย่อมมีหนี้สินมากขึ้นได้ไม่แปลก แต่สัดส่วนหนี้สินไม่จำเป็นต้องมากตามไปด้วย ถ้าเติบโตจากภายใน
3>การมีd/e ratio สูงๆ ก็เพิ่มความเสี่ยงให้บริษัทเท่านั้นเอง ทีนี้ก็แล้วแต่ละบริษัท ว่ามั่นใจในความสามารถชำระหนี้ของตนเองแค่ไหน ไม่เกี่ยวกับ บริษัทเล็กหรือใหญ่หรอกครับ
4>d/e ratioสูงมีแนวโน้มทำให้ roeสูงขึ้นนั้นถูกครับ แต่ มันก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว เพราะ ROEยังขึ้นกับ NPM และ asset turnover ด้วย ดังนั้นถ้าขายของไม่ออก ยังไงROEก็ไม่มีทางสูงหรอกครับ
1>market cap คือราคาที่ตลาดตีมูลค่าให้บริษัทครับ ส่วนสินทรัพย์จริงของบริษัทคือ ASSET ซึ่งเท่ากับ D+E
2>พยายามทำความเข้าใจกับคำว่าหนี้สินรวม กับสัดส่วนหนี้สิน นะครับ
บริษัทที่โตขึ้น ย่อมมีหนี้สินมากขึ้นได้ไม่แปลก แต่สัดส่วนหนี้สินไม่จำเป็นต้องมากตามไปด้วย ถ้าเติบโตจากภายใน
3>การมีd/e ratio สูงๆ ก็เพิ่มความเสี่ยงให้บริษัทเท่านั้นเอง ทีนี้ก็แล้วแต่ละบริษัท ว่ามั่นใจในความสามารถชำระหนี้ของตนเองแค่ไหน ไม่เกี่ยวกับ บริษัทเล็กหรือใหญ่หรอกครับ
4>d/e ratioสูงมีแนวโน้มทำให้ roeสูงขึ้นนั้นถูกครับ แต่ มันก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว เพราะ ROEยังขึ้นกับ NPM และ asset turnover ด้วย ดังนั้นถ้าขายของไม่ออก ยังไงROEก็ไม่มีทางสูงหรอกครับ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 385
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงก
โพสต์ที่ 4
ความเห็นผม คือ บริษัทใหญ่ได้เปรียบครับ
ด้วยความใหญ่ มีโครงการใหญ่ กู้ทีเยอะ มีพลังต่อรองดอกเบี้ยได้ คือหนี้เยอะไม่ได้แปลว่าดอกเบี้ยสูง
อีกอย่าง ตาม concept ถ้ากู้ในสัดส่วนที่เหมาะสม (D) จะดีกว่าการเพิ่มทุน (E) ครับ + กับการที่บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งมีพลังในการสร้างรายได้สูงกว่าการชำระหนี้อยู่แล้ว จึงไม่กลัวครับ ไม่ใช่ว่า D/E น้อยๆแล้วจะดีเสมอไปนะครับ
หรืออีกประเด็น ต้องดูธุรกิจด้วย เช่น ซื้อมาขายไป กับ ผลิตเอง ก็จะมีสัดส่วน D กับ E ที่ต่างกันด้วย nature ของธุรกิจอยู่แล้วครับ
ด้วยความใหญ่ มีโครงการใหญ่ กู้ทีเยอะ มีพลังต่อรองดอกเบี้ยได้ คือหนี้เยอะไม่ได้แปลว่าดอกเบี้ยสูง
อีกอย่าง ตาม concept ถ้ากู้ในสัดส่วนที่เหมาะสม (D) จะดีกว่าการเพิ่มทุน (E) ครับ + กับการที่บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งมีพลังในการสร้างรายได้สูงกว่าการชำระหนี้อยู่แล้ว จึงไม่กลัวครับ ไม่ใช่ว่า D/E น้อยๆแล้วจะดีเสมอไปนะครับ
หรืออีกประเด็น ต้องดูธุรกิจด้วย เช่น ซื้อมาขายไป กับ ผลิตเอง ก็จะมีสัดส่วน D กับ E ที่ต่างกันด้วย nature ของธุรกิจอยู่แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ มักจะใช้ D/E ในสัดส่วนสูงก
โพสต์ที่ 5
พูดถึงd/e แล้ว อยากทราบมาตรฐานของแต่ละอุตสาหกรรมครับว่าควรเป็นเท่าไหร่ เช่นพวกกลุ่มธนาคารควรมีd/eเท่าไร และกลุ่มอื่นๆด้วยครับ จะได้เอาไปเปนbenchmarkในการตรวจสุขภาพบริษัท(ปกติจะทราบแต่ว่ายิ่งน้อยยิ่งปลอดภัย
นักเลงคีย์บอร์ด4.0