การซื้อรถของชาวVI
- indevidal
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 1
ผมเพิ่งลงทุนในรูปแบบVIได้ปีนึงแล้วฮะ
ตอนนี้มีพอร์ตอยู่ แสนนึง และตั้งเป้าจะเก็บเงินเข้าพอร์ตเดือนละ 10,000
โดยตั้งเป้าพอร์ตปีละไม่ต่ำกว่า 15%
แต่รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานเหมือนกัน
เพราะทำงานอยู่ไกล จากกรุงเทพ
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรมาก แค่รู้สึกลำบาก
อยากถามพี่ๆในห้องนี้ว่า ผมจะหาโอกาสซื้อรถยังไงดีครับ
ซื้อแบบผ่อน ซื้อสด แล้วใช้เงินส่วนไหนซื้อดีครับ
เพราะไม่อยากเอาเงินจากพอร์ตมาซื้อเลยครับ
อยากลงทุน95%ของเงินทั้งหมด ไปนานๆ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
ตอนนี้มีพอร์ตอยู่ แสนนึง และตั้งเป้าจะเก็บเงินเข้าพอร์ตเดือนละ 10,000
โดยตั้งเป้าพอร์ตปีละไม่ต่ำกว่า 15%
แต่รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานเหมือนกัน
เพราะทำงานอยู่ไกล จากกรุงเทพ
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรมาก แค่รู้สึกลำบาก
อยากถามพี่ๆในห้องนี้ว่า ผมจะหาโอกาสซื้อรถยังไงดีครับ
ซื้อแบบผ่อน ซื้อสด แล้วใช้เงินส่วนไหนซื้อดีครับ
เพราะไม่อยากเอาเงินจากพอร์ตมาซื้อเลยครับ
อยากลงทุน95%ของเงินทั้งหมด ไปนานๆ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 3
ชีวิตของคุณน้อง คล้ายเม่ามากเลยฮะ
มีเงินลงตอนแรกแสนเดียว เพิ่มเดือนละหมื่น
แนะนำว่าให้ซื้อรถมือสอง ฮะ เพราะรถ มีแต่จะลด ใช้รถเก่าไม่เสียหาย ถูกกว่ารถห้าง 30 % - 50 %
เอาเงินที่เพิ่มทุกเดือนไปแบ่งผ่อนรถ หรือจะเก็บก้อนไปซื้อทีเดียวเลยก็ได้ฮะ
ถ้าจำเป็นขนาดนั้น
สู้ๆ ฮะ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 4
การซื้อรถยนต์ซักคันหนึ่ง มีภาระเพิ่มขึ้นอีกมาก
นอกจากเงินค่างวดที่ต้องจ่ายทุกเดือนแล้ว ค่าน้ำมันก็ไม่ใช่น้อยในยุคน้ำมันแพงขนาดนี้
แล้วยังมีเบี้ยประกันรถ ค่าภาษีรถยนต์ที่ต้องจ่ายทุกปี
ไม่รวมบางคนก็ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม สัญญาณกันขโมย ติดฟิลม์รถยนต์
ประมาณค่าใช้จ่ายให้ดีๆนะครับ
นอกจากเงินค่างวดที่ต้องจ่ายทุกเดือนแล้ว ค่าน้ำมันก็ไม่ใช่น้อยในยุคน้ำมันแพงขนาดนี้
แล้วยังมีเบี้ยประกันรถ ค่าภาษีรถยนต์ที่ต้องจ่ายทุกปี
ไม่รวมบางคนก็ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม สัญญาณกันขโมย ติดฟิลม์รถยนต์
ประมาณค่าใช้จ่ายให้ดีๆนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 6
ผมเพิ่งขาย top ไปออกรถป้ายแดงมาตั้งใจไว้เลยว่าซื้อ top ตอนนั้น 24 บาท เพื่อขายที่ 75 จะมาซื้อรถ(โชคดีขายได้ที่ 80 ) ตอนแรกจะซื้อมือ 2 เหมือนกันแต่ดูรถไม่เป็นเลยตัดปัญหาที่ต้องหาช่างไปช่วยดูให้ ถ้ามีเงินพอก็ ซื้อตามที่เราชอบครับ เพราะเวลาขับไม่ต้องอึดอัดใจ เวลาเห็นรถที่เราชอบผ่านไป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 7
พี่ว่ารอเก็บเงินอีกหน่อยดีกว่า เพราะว่ารถซื้อไปจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเยอะๆๆ ค่าน้ำมัน ค่าตรวจเช็ค ฯลฯ ถ้าคิดจะลงทุน ให้พอร์ตเติบโต เอาเงินใส่พอร์ตก่อนดีกว่า ตอนนี้อดทนไปก่อนindevidal เขียน:ผมเพิ่งลงทุนในรูปแบบVIได้ปีนึงแล้วฮะ
ตอนนี้มีพอร์ตอยู่ แสนนึง และตั้งเป้าจะเก็บเงินเข้าพอร์ตเดือนละ 10,000
โดยตั้งเป้าพอร์ตปีละไม่ต่ำกว่า 15%
แต่รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานเหมือนกัน
เพราะทำงานอยู่ไกล จากกรุงเทพ
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรมาก แค่รู้สึกลำบาก
อยากถามพี่ๆในห้องนี้ว่า ผมจะหาโอกาสซื้อรถยังไงดีครับ
ซื้อแบบผ่อน ซื้อสด แล้วใช้เงินส่วนไหนซื้อดีครับ
เพราะไม่อยากเอาเงินจากพอร์ตมาซื้อเลยครับ
อยากลงทุน95%ของเงินทั้งหมด ไปนานๆ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 8
เท่าที่ดูจากขนาดพอร์ต ยังไม่น่าจะซื้อรถนะครับ
เพราะถ้ามีรถก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ประกัน ฯลฯ
แล้วเท่าที่ดูไอ้ค่าใช้จ่ายพวกนี้มันจะไปกินเงินที่เติมเข้าพอร์ตเดือนละ10,000อีกด้วยนะครับ
แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ลองดูพวกรถมือสองน่าจะดีกว่ามั้ยครับ
เพราะถ้ามีรถก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ประกัน ฯลฯ
แล้วเท่าที่ดูไอ้ค่าใช้จ่ายพวกนี้มันจะไปกินเงินที่เติมเข้าพอร์ตเดือนละ10,000อีกด้วยนะครับ
แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ลองดูพวกรถมือสองน่าจะดีกว่ามั้ยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 9
ยอมลำบากในวันนี้ เพื่อไปสบายในวันหน้าดีกว่าครับ
เพราะการซื้อรถจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีกเยอะแยะ
เปลี่ยนยาง ต่อภาษี ต่อประกัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พวกนี้จะบั่นทอนเงินลงทุน
ของเราอย่างมากเลยครับ นี่ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่จะตามมาอีก
เพราะการซื้อรถจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีกเยอะแยะ
เปลี่ยนยาง ต่อภาษี ต่อประกัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พวกนี้จะบั่นทอนเงินลงทุน
ของเราอย่างมากเลยครับ นี่ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่จะตามมาอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 10
If unnecessary, not to buy it krub. If you have to, second hand is a good idea.
Once you have car, many unexpected things will happen i.e. more trips personally or family. This will create huge expense krub.
Sorry to write in English krub.
Once you have car, many unexpected things will happen i.e. more trips personally or family. This will create huge expense krub.
Sorry to write in English krub.
-
- Verified User
- โพสต์: 569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 11
ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้เปลี่ยนงานครับ
1. เลือกงานที่ใกล้บ้าน
2. เลือกงานที่เอาประสบการณ์ที่มีมาใช้ได้
สิ่งที่จะได้รับ
1. ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง เพิ่มเวลาพักผ่อน และเวลาในการศึกษาหุ้น
2. ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้ไปในตัว
ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนงาน ก็
1. ใช้รถประจำทาง และจัดสรรเวลาให้ดีครับ จะเหลือเวลาไปทำอะไรได้อีกเยอะ
2. ซื้อรถมือสองครับ จำไว้ว่ารถเอาไว้ใช้สำหรับเดินทาง สตาร์ทติด วิ่งได้ เครื่องไม่ดับ เบรคอยู่ ไฟติด แอร์เย็น แตรดัง ไม่กินน้ำมัน พอครับ
1. เลือกงานที่ใกล้บ้าน
2. เลือกงานที่เอาประสบการณ์ที่มีมาใช้ได้
สิ่งที่จะได้รับ
1. ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง เพิ่มเวลาพักผ่อน และเวลาในการศึกษาหุ้น
2. ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้ไปในตัว
ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนงาน ก็
1. ใช้รถประจำทาง และจัดสรรเวลาให้ดีครับ จะเหลือเวลาไปทำอะไรได้อีกเยอะ
2. ซื้อรถมือสองครับ จำไว้ว่ารถเอาไว้ใช้สำหรับเดินทาง สตาร์ทติด วิ่งได้ เครื่องไม่ดับ เบรคอยู่ ไฟติด แอร์เย็น แตรดัง ไม่กินน้ำมัน พอครับ
เราจะพอเพียง แค่เราเพียงพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 12
มีเงินเก็บส่วนอื่นอีกมั้ยครับ ถ้าไม่ ผมคิดว่าควรรอก่อน
โดยเฉพาะตอนพอร์ตเล็กยิ่งสำคัญมาก
เหมือนปลูกต้นมะขาม ตอนเกิดใหม่ๆมันจะมีแค่ 2 ใบเองครับ เราไปเด็ดมากินต้นมันก็ตาย
แต่ถ้าเราอดใจหน่อยปล่อยให้ต้นมันโต ใบมันจะมากมาย ตัดทั้งกิ่งมากินยังได้เลย
ถ้าจำเป็นต้องใช้ รอมีเงินเก็บได้เท่าราคาตัวรถก่อน ถึงน่าจะคิดซื้อครับ และซื้อแบบผ่อน
โดยเฉพาะตอนพอร์ตเล็กยิ่งสำคัญมาก
เหมือนปลูกต้นมะขาม ตอนเกิดใหม่ๆมันจะมีแค่ 2 ใบเองครับ เราไปเด็ดมากินต้นมันก็ตาย
แต่ถ้าเราอดใจหน่อยปล่อยให้ต้นมันโต ใบมันจะมากมาย ตัดทั้งกิ่งมากินยังได้เลย
ถ้าจำเป็นต้องใช้ รอมีเงินเก็บได้เท่าราคาตัวรถก่อน ถึงน่าจะคิดซื้อครับ และซื้อแบบผ่อน
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 13
มติเอกฉัน แบบนี้ พวกถือหุ้นยานยนตร์แย่แน่ๆ เลยนะ
แต่เห็นว่ายอดขายงานพริตตี้โชวไปได้สวย
แต่เห็นว่ายอดขายงานพริตตี้โชวไปได้สวย
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 14
ถ้าซื้อรถแล้ว มันช่วยในการสร้างงาน สร้างรายได้ ก็โอเคนะ
ถ้าเอาเฟียสต้า ก็แนะนำตัวรองท็อป4 หรือ5ประตู (ผมก็อยากได้เหมือนกัน T_T )
หรือจะเอารถอะไรก็ได้ มือ2แบบติดแก๊สก็ได้ครับ
ถ้าเอาเฟียสต้า ก็แนะนำตัวรองท็อป4 หรือ5ประตู (ผมก็อยากได้เหมือนกัน T_T )
หรือจะเอารถอะไรก็ได้ มือ2แบบติดแก๊สก็ได้ครับ
You only live once, but if you do it right, once is enough.
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 16
เพิ่งจะวางเงินจองรถไปเหมือนกันครับ
ผมวางเงินดาวน์ 25% รถใหม่อัตราดอกเบี้ย2เปอร์เซ็นต์กว่า เลยรู้สึกว่าผ่อนชำระเอาดีกว่าเพื่อที่จะได้นำเงินที่เหลือมาหาผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าได้ครับ
ผมวางเงินดาวน์ 25% รถใหม่อัตราดอกเบี้ย2เปอร์เซ็นต์กว่า เลยรู้สึกว่าผ่อนชำระเอาดีกว่าเพื่อที่จะได้นำเงินที่เหลือมาหาผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าได้ครับ
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
- minkyman
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 17
จริงๆผมก็เป็นคนทำงานไกลคนนึงนะครับ จ-ศ ทำต่างจังหวัด ส-อ ก็กลับเข้ากรุงเทพทำอย่างนี้มาจะเข้าปีที่4อยู่แล้ว สำหรับผมจะถือว่าลำบากก็ลำบากเหมือนกันในบางครั้งเวลาไปไหนมาไหน แต่ส่วนมากจะลำบากเวลาไปเที่ยว เวลาไม่มีรถก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเวลาอยู่ต่างจังหวัดนะ ส่วนเสาร์ อาทิตย์ ผมก็ใช้รถที่บ้านบางบางครั้ง และยังนั่งรถเมล์ เดือนทุกเดือนก็เข้าเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเดือนล่ะหมื่น-2หมื่นบางเป็นประจำก็ได้ผมตอบแทนที่แอบอมยิ้มกว่าเอาเงินไปซื้อรถน่ะครับ
แต่ก็ไม่ได้บอกว่าซื้อรถไม่ดีนะครับ แต่สำหรับผม ทุกอย่างมันอยู่ที่เวลาที่เหมาะสม กับความต้องการและเงินในกระเป๋าครับ รถยนต์ไม่ได้จะซื้อเพราะอารมณ์ชั่ววูบสะหน่อย
แต่ก็ไม่ได้บอกว่าซื้อรถไม่ดีนะครับ แต่สำหรับผม ทุกอย่างมันอยู่ที่เวลาที่เหมาะสม กับความต้องการและเงินในกระเป๋าครับ รถยนต์ไม่ได้จะซื้อเพราะอารมณ์ชั่ววูบสะหน่อย
อุ อา กะ สะ
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 19
เสี่ยพี่มิ๊ง โอ้ววววminkyman เขียน: เดือนทุกเดือนก็เข้าเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเดือนล่ะหมื่น-2หมื่นบางเป็นประจำก็ได้ผลตอบแทนที่แอบอมยิ้มกว่าเอาเงินไปซื้อรถน่ะครับ
เห็นเงียบๆ ที่แท้แอบรวย นิเอง
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
- Croyoty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3617
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 21
ขออนุญาตแชร์แบบคนรู้น้อยครับ
ผมซื้อรถปี 2550 ครับ จบทำงานปีแรก
ตอนนั้นตัดสินใจเอารถมือสองครับ ราคา 4 แสน
เพราะว่า คุ้มค่ากว่าในระยะเวลาที่เท่ากันและต้องการซื้อมาใช้งานจริงๆ
เพราะสมมติซื้อมือหนึ่ง ผ่านไป 4-5 ปี บางรุ่นบางยี่ห้อราคา ตกมาครึ่งหนึ่ง
แต่ถ้าเราซื้อมือหนึ่ง ผ่านไปอีก 5 ปี ราคาบางครั้งลงมาน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่เราซื้อมา ก็คุ้มค่า
ยกตัวอย่างคับ รถที่ผมซื้อมา ถ้าเป็นมือหนึ่ง 6แสน 9 ผมซื้อ รถอายุ 3.5 ปี 4 แสน
ราคาตกมาร่วม 4 แสนคับ
ตอนนี้รถผมมีอายุครบ 8 ปี (ซื้อมาใช้งาน 4.5ปีแล้วคับ)
ราคาถ้านำไปขายต่อตลาดเต้นท์รถ ก็น่าจะได้ 3 แสนคับ คุ้มคับ ลดลงไปแค่ แสนเดียวเอง
รถมือสอง เราต้องใส่ใจ ซ่อมบำรุงบ้างคับ เราจะได้รู้จักส่วนต่างๆของรถและเข้าใจตัวรถได้มากขึ้นคับ
คิดไว้ว่า ถ้าจะซื้อรถมือหนึ่ง จะเลือกพิถีพิถันจริงๆคับ เพราะจะซื้อใช้แบบไม่ขายจนเก่าเสียเจ๊งกันไปเลย
ผมซื้อรถปี 2550 ครับ จบทำงานปีแรก
ตอนนั้นตัดสินใจเอารถมือสองครับ ราคา 4 แสน
เพราะว่า คุ้มค่ากว่าในระยะเวลาที่เท่ากันและต้องการซื้อมาใช้งานจริงๆ
เพราะสมมติซื้อมือหนึ่ง ผ่านไป 4-5 ปี บางรุ่นบางยี่ห้อราคา ตกมาครึ่งหนึ่ง
แต่ถ้าเราซื้อมือหนึ่ง ผ่านไปอีก 5 ปี ราคาบางครั้งลงมาน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่เราซื้อมา ก็คุ้มค่า
ยกตัวอย่างคับ รถที่ผมซื้อมา ถ้าเป็นมือหนึ่ง 6แสน 9 ผมซื้อ รถอายุ 3.5 ปี 4 แสน
ราคาตกมาร่วม 4 แสนคับ
ตอนนี้รถผมมีอายุครบ 8 ปี (ซื้อมาใช้งาน 4.5ปีแล้วคับ)
ราคาถ้านำไปขายต่อตลาดเต้นท์รถ ก็น่าจะได้ 3 แสนคับ คุ้มคับ ลดลงไปแค่ แสนเดียวเอง
รถมือสอง เราต้องใส่ใจ ซ่อมบำรุงบ้างคับ เราจะได้รู้จักส่วนต่างๆของรถและเข้าใจตัวรถได้มากขึ้นคับ
คิดไว้ว่า ถ้าจะซื้อรถมือหนึ่ง จะเลือกพิถีพิถันจริงๆคับ เพราะจะซื้อใช้แบบไม่ขายจนเก่าเสียเจ๊งกันไปเลย
- kkwon
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 22
ซื้อรถเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดที่สุดของผมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
เพราะในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเริ่มต้นการทำงานแรกๆ เงินก็น้อยแต่อยากมีรถ อยากไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพึ่งรถเมล์
เลยออกรถมือสองอายุ 5 ปีมาใช้งาน แต่เนื่องจากเป็นมือสองเราเองก็เพิ่งทำงานเลยไม่มีประสบการณ์เรื่องซ่อมรถ
ช่วงนั้นที่มีเงินเดือนออกมาต้องจ่าย ค่าน้ำมัน(11.66) ค่าซ่อมบำรุง สุดท้ายเหลือเงินต่อเดือนใช้จ่ายไม่เกิน 5000 บาท ต่อมาผมขอเปลี่ยนหน้าที่เป็นเซลล์ นี่ละครับจุดเปลี่ยนเพราะมันทำให้ผมลดค่าใช้จ่ายเรื่องรถแทบจะทั้งหมด เนื่องจากบริษัทออกให้หมด วันนี้ผมยังใช้รถคันนั้นอยู่แม้มันจะเก่า แต่มันก็ทำให้ผมมีเงินเก็บ มีเงินลงทุน ที่สำคัญจอดที่ไหนไม่ต้องกลัว คนไม่กล้าแม้แต่จะพิง 55555
เพราะในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเริ่มต้นการทำงานแรกๆ เงินก็น้อยแต่อยากมีรถ อยากไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพึ่งรถเมล์
เลยออกรถมือสองอายุ 5 ปีมาใช้งาน แต่เนื่องจากเป็นมือสองเราเองก็เพิ่งทำงานเลยไม่มีประสบการณ์เรื่องซ่อมรถ
ช่วงนั้นที่มีเงินเดือนออกมาต้องจ่าย ค่าน้ำมัน(11.66) ค่าซ่อมบำรุง สุดท้ายเหลือเงินต่อเดือนใช้จ่ายไม่เกิน 5000 บาท ต่อมาผมขอเปลี่ยนหน้าที่เป็นเซลล์ นี่ละครับจุดเปลี่ยนเพราะมันทำให้ผมลดค่าใช้จ่ายเรื่องรถแทบจะทั้งหมด เนื่องจากบริษัทออกให้หมด วันนี้ผมยังใช้รถคันนั้นอยู่แม้มันจะเก่า แต่มันก็ทำให้ผมมีเงินเก็บ มีเงินลงทุน ที่สำคัญจอดที่ไหนไม่ต้องกลัว คนไม่กล้าแม้แต่จะพิง 55555
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 23
ผมเพิ่งหารถมาใช้เมื่อปีที่แล้วเองครับ
ด้วยวิธีผ่อนส่ง
ปกติก็ทำงาน ตจว. และต้องเดินทางไกลบ่อยๆ
เป็นอย่างนี้มาประมาณ 10 ปี
ก็อาศัยขนส่งมวลชน กับความอดทนนี่แหละครับ
ตอนที่ลงทุนใหม่ๆ เงินเดือนน้อยครับ
ก็ทยอยออมเงินมาตั้งแต่เดือนละ 500
จนกระทั่งเดือนละ 5,000 ซึ่งปัจจุบัน
ตอนนี้ผมไม่ได้เจียดเงินใส่พอร์ตได้สักระยะแล้วครับ
เพราะคิดว่าพอร์ตโตพอที่จะเริ่มสร้างผลตอบแทน
เป็นเงินก้อนโตหน่อยโดยไม่ต้องเจียดเงินเดือนไปใส่เพิ่ม
จะอาศัยก็แค่เงินปันผล กับเงินโบนัสครับ
ที่ใส่กลับเข้าไปในพอร์ต ส่วนเงินเดือนตอนนี้
นอกจากจะเจียดไปผ่อนรถ ก็เอาเงินที่เหลือ
ไปซื้อความสะดวกสบายให้กับชีวิตครับ
ด้วยวิธีผ่อนส่ง
ปกติก็ทำงาน ตจว. และต้องเดินทางไกลบ่อยๆ
เป็นอย่างนี้มาประมาณ 10 ปี
ก็อาศัยขนส่งมวลชน กับความอดทนนี่แหละครับ
ตอนที่ลงทุนใหม่ๆ เงินเดือนน้อยครับ
ก็ทยอยออมเงินมาตั้งแต่เดือนละ 500
จนกระทั่งเดือนละ 5,000 ซึ่งปัจจุบัน
ตอนนี้ผมไม่ได้เจียดเงินใส่พอร์ตได้สักระยะแล้วครับ
เพราะคิดว่าพอร์ตโตพอที่จะเริ่มสร้างผลตอบแทน
เป็นเงินก้อนโตหน่อยโดยไม่ต้องเจียดเงินเดือนไปใส่เพิ่ม
จะอาศัยก็แค่เงินปันผล กับเงินโบนัสครับ
ที่ใส่กลับเข้าไปในพอร์ต ส่วนเงินเดือนตอนนี้
นอกจากจะเจียดไปผ่อนรถ ก็เอาเงินที่เหลือ
ไปซื้อความสะดวกสบายให้กับชีวิตครับ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 24
มีรถค่าใช้จ่ายเยอะครับ
เผลอๆ เงินที่จะเก็บไว้ลงทุนในแต่ละเดือนอาจจะลดลงเนื่องจากผ่อนรถ
ลองคิดดูดีๆนะครับ ถ้ายังรู้สึกว่าไหวอยู่กับการไม่มีรถก็ทนไปก่อน เพราะถ้ามีรถแล้วจะกลับไปเดินทางแบบไม่มีรถมันยากพอตัวนะครับ
เผลอๆ เงินที่จะเก็บไว้ลงทุนในแต่ละเดือนอาจจะลดลงเนื่องจากผ่อนรถ
ลองคิดดูดีๆนะครับ ถ้ายังรู้สึกว่าไหวอยู่กับการไม่มีรถก็ทนไปก่อน เพราะถ้ามีรถแล้วจะกลับไปเดินทางแบบไม่มีรถมันยากพอตัวนะครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 25
ถ้ามีเงินมากอยู่แล้ว การจะซื้อรถยนต์ซักคันก็คงไม่เป็นภาระเท่าไรMO101 เขียน:มติเอกฉัน แบบนี้ พวกถือหุ้นยานยนตร์แย่แน่ๆ เลยนะ
แต่เห็นว่ายอดขายงานพริตตี้โชวไปได้สวย
อย่างคุณ WEB ก็เพิ่งถอย HONDA CITY ป้ายแดงออกมาขับ หลังจากใช้บริการรถแท๊กซี่มาน๊านนาน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 26
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 27
ถ้าทำใจได้จริงๆ ก็อย่างที่ท่านๆคห.บนๆแนะนำแหละครับ คือ รอไปก่อน ยิ่งซื้อช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รถรุ่นใหม่ขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ หรือถ้าเป็นรถมือสอง รุ่นที่เราชอบราคาก็จะถูกลงๆ เรื่อยๆ เช่นกัน แต่ถ้าทำใจไม่ได้หรือจำเป็นต้องใช้รถจริงๆ รถford fiesta ที่ท่านจขกท.อยากได้ก็ถือว่า OK ไม่ได้เป็นรถฟุ่มเฟือยมาก(ถ้าจำเป็นต้องใช้รถจริงๆนะครับ) ก็เลือกรุ่นที่ไม่ต้องรุ่นTop ก็ได้ ประหยัดไปได้อีกหลายหมื่น ดอกเบี้ยช่วงนี้ก็ถือว่าไม่ได้สูงมาก อ่อ จริงๆ ผมอยากจะแนะนำ Eco Car อย่างน้องมีนา(March) ผมว่าถ้าจำเป็นต้องใช้รถจริงๆ รุ่นนี้ก็คุ้มค่า แต่ท่านจขกท.ระบุมาว่าเป็น fiesta แสดงว่าคงจะชอบเป็นการส่วนตัว ก็เลยคิดว่าเอาที่เราชอบจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องช้ำใจและโทษตัวเอง...รู้งี้เอาfiesta ดีกว่า อิอิ ส่วนถ้าเป็นรถมือสอง ผมว่า ควรจะเป็นรถที่เราชอบจริงๆ และเป็นรถราคามือหนึ่งค่อนข้างสูง แล้วพอเป็นมือสองราคามันจะตกลงมาเยอะๆ ถึงจะซื้อแล้วคุ้มครับ อย่างถ้าชอบพวก รถใหญ่ๆ หรูๆหน่อย เนี่ย ซื้อมือสองคุ้มแน่นอน ยิ่งพวก Benz BMW VOLVO AUDIพวกนี้ ซื้อมือสองคุ้มแน่ๆ ถ้าได้รถที่สภาพดีนะครับ แต่เรื่องการบำรุงรักษา ก็คงจะเหนื่อยกว่ารถทั่วๆ ไปหน่อย ก็ต้องแลกกัน ก็ขับแล้วหน้าตามันใหญ่โตดี ค่าบำรุงรักษาหน้าตาก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย ขับแล้วรู้สึกอัตตาตัวตนมันใหญ่โตดีครับ ผมก็ชอบ สมัยก่อนที่บ้านพอมีกำลังซื้อรถพวกนี้ เรากำลังเป็นวัยรุ่นพอดี (ไม่ใช่รุ่นใหญ่ๆนะครับรุ่นเล็กๆปลายแถวของความหรู) ได้มีโอกาสใช้แล้วรู้สึกชอบมากครับ คือมันต่างกันจริงๆ ครับ ทั้งในเรื่องความรู้สึกในการขับขี่และความรู้สึกด้านอัตตาตัวตน ทุกวันนี้ทำมาหากินเอง ไม่มีปัญญาแล้ว ได้แต่ซื้อรถญี่ปุ่นคันเล็กๆขับ แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่า อืม แค่นี้ก็ดีแล้วพอเพียงๆ แต่ข้างในใจลึกๆ (ถ้ากรูมีวาสนาบารมีในชาตินี้อีกก็คงจะซื้อรถหรูๆขับอีกแหละเน้อก็มันชอบนิ) อิอิ ต้องขอโทษท่านจขกท.นะครับที่เพ้อเจ้อเยอะไปหน่อย สรุป(ความเห็นของผมนะครับ) ถ้าแบ่งสัดส่วนรายได้กับค่าใช้จ่ายและการลงทุนได้ลงตัวและจำเป็นต้องใช้รถ(ที่ตัวเองชอบ) ผมว่าจขกท.ก็น่าจะซื้อรถมาใช้ได้นะครับ ขับรถที่ชอบเนี่ย สิ่งที่ได้อีกอย่างคือ มันมีความสุขครับ แฮ ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 28
ตอนนี้ผมยัง รถไฟฟ้า(มาหานะเธอ)
รถประจำทาง
และรถแท็กซี่
ถ้าหากถ้าต้องการซื้อรถยนต์ใช้จริงๆ
ก็ชอบ นิสสัน มาร์ค เป็นตัวเลือกที่ดีในรถ ECO CAR
แต่ถ้าถามถึงรถยนต์ในฝันใฝ่ที่ต้องการคือ Mini เท่านั้น
ชอบ มาร์ค คืออะไร ประหยัดคำเดียว
และเป็น Eco car ที่คล้ายกับ Mini ที่ชอบอยู่แล้ว
ส่วน Mini ที่ชอบอยู่แล้ว ตั้งแต่การ์ตูนเรื่องซาเอบะ เรียว (ซิติ้ ฮันเตอร์)
รถประจำทาง
และรถแท็กซี่
ถ้าหากถ้าต้องการซื้อรถยนต์ใช้จริงๆ
ก็ชอบ นิสสัน มาร์ค เป็นตัวเลือกที่ดีในรถ ECO CAR
แต่ถ้าถามถึงรถยนต์ในฝันใฝ่ที่ต้องการคือ Mini เท่านั้น
ชอบ มาร์ค คืออะไร ประหยัดคำเดียว
และเป็น Eco car ที่คล้ายกับ Mini ที่ชอบอยู่แล้ว
ส่วน Mini ที่ชอบอยู่แล้ว ตั้งแต่การ์ตูนเรื่องซาเอบะ เรียว (ซิติ้ ฮันเตอร์)
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 29
โห...ระดับพี่เว็บถอย city คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกถอย BRIOchatchai เขียน:ถ้ามีเงินมากอยู่แล้ว การจะซื้อรถยนต์ซักคันก็คงไม่เป็นภาระเท่าไรMO101 เขียน:มติเอกฉัน แบบนี้ พวกถือหุ้นยานยนตร์แย่แน่ๆ เลยนะ
แต่เห็นว่ายอดขายงานพริตตี้โชวไปได้สวย
อย่างคุณ WEB ก็เพิ่งถอย HONDA CITY ป้ายแดงออกมาขับ หลังจากใช้บริการรถแท๊กซี่มาน๊านนาน
กลัวจะโดนพี่ WEB เขม่นเอา...
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถของชาวVI
โพสต์ที่ 30
เดี๋ยวคนอ่านที่คุณฉัตรชัยเขียนจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนประหยัดไม่ยอมใช้เงิน
จริงๆ แล้ว ผมใช้เงินนะครับแต่จะใช้เฉพาะเรื่องที่ผมชอบ อย่างรถ พอพ้นช่วง
วัยรุ่นนี่ก็เฉยๆแล้ว ไม่ได้อยากได้ยี่ห้อไหนรุ่นไหนเป็นพิเศษ อย่างเสื้อผ้า กล้อง
นาฬิกา รองเท้า เครื่องเสียง ผมก็ไม่ชอบซื้อเลย แต่ผมชอบเรียนหนังสือครับ
ทุกปี ผมจะไปเรียนอะไรซักอย่างที่เมืองนอก สองวันบ้าง ห้าวันบ้าง
ค่าเรียนแพงมากครับ แต่พอดีมันทำให้ผมมีความสุข ผมก็ต้องยอมจ่าย
ผมไม่ได้มีความสุขกับการนั่งดูเงินพอกพูนอย่างเดียว ผมพร้อมจะใช้เงินกับเรื่องที่ทำให้
ตัวเองมีความสุข ถ้าจำนวนเงินมันไม่มากเกินไปจนทำให้ชีวิตในระยะยาวเราเสียหาย
เราอยากมีเงินเยอะๆก็เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรามีความสุข แล้วถ้ามันมีเรื่องอื่นที่เรารู้ว่า
มันทำให้เรามีความสุข เราก็ควรทำไม่ใช่เหรอครับ
จริงๆ แล้ว ผมใช้เงินนะครับแต่จะใช้เฉพาะเรื่องที่ผมชอบ อย่างรถ พอพ้นช่วง
วัยรุ่นนี่ก็เฉยๆแล้ว ไม่ได้อยากได้ยี่ห้อไหนรุ่นไหนเป็นพิเศษ อย่างเสื้อผ้า กล้อง
นาฬิกา รองเท้า เครื่องเสียง ผมก็ไม่ชอบซื้อเลย แต่ผมชอบเรียนหนังสือครับ
ทุกปี ผมจะไปเรียนอะไรซักอย่างที่เมืองนอก สองวันบ้าง ห้าวันบ้าง
ค่าเรียนแพงมากครับ แต่พอดีมันทำให้ผมมีความสุข ผมก็ต้องยอมจ่าย
ผมไม่ได้มีความสุขกับการนั่งดูเงินพอกพูนอย่างเดียว ผมพร้อมจะใช้เงินกับเรื่องที่ทำให้
ตัวเองมีความสุข ถ้าจำนวนเงินมันไม่มากเกินไปจนทำให้ชีวิตในระยะยาวเราเสียหาย
เราอยากมีเงินเยอะๆก็เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรามีความสุข แล้วถ้ามันมีเรื่องอื่นที่เรารู้ว่า
มันทำให้เรามีความสุข เราก็ควรทำไม่ใช่เหรอครับ