อยากรู้จัง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
tawich
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ไม่ทราบพี่ๆทุกท่านเวลาจะซื้อหุ้นเคยคิดมูลค่าเองเปล่าครับหรือว่าอาศัยบทวิเคราะห์บลจ. ผมพยามศึกษาวิธีหามูลค่าแต่ไม่สำเหร็จซักทีแบบว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ และส่วนตัวคิดว่าวิธีต่างๆมันซับซ้อนไปน่าจะมีวิธคิดแบบง่ายๆกว่าครับ
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

tawich เขียน:ไม่ทราบพี่ๆทุกท่านเวลาจะซื้อหุ้นเคยคิดมูลค่าเองเปล่าครับหรือว่าอาศัยบทวิเคราะห์บลจ. ผมพยามศึกษาวิธีหามูลค่าแต่ไม่สำเหร็จซักทีแบบว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ และส่วนตัวคิดว่าวิธีต่างๆมันซับซ้อนไปน่าจะมีวิธีคิดแบบง่ายๆกว่าครับ
วิธีง่ายๆไม่มีครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
navapon
Verified User
โพสต์: 760
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เอาเงินซื้อหุ้น มีอยู่ 2 อย่าง ไม่ขาดทุน(เสียเงิน) ก็ ได้กำไร เป็นเกมส์เสียเงินจริง
ถ้าไม่อยากทำตัวแบบเข้าบ่อนวัดดวง ก็ต้องหาความรู้ให้มากๆครับ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Packky
Verified User
โพสต์: 856
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ช่วยตอบนะครับ :) :) :)

เวลาลงทุนผมจะคิดมูลค่าเองทุกครั้ง โดยพยายามหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้มากที่สุดรวมทั้งข้อมูลจากโบรกเกอร์ บทวิเคราะห์ต่างๆ ด้วยครับ
เนื่องจากผมไม่มีความรู้ด้านการเงินเลย ช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มศึกษาก็นานเหมือนกัน จนสุดท้ายก็เริ่มเข้าใจได้ครับ

การลงทุนไม่มีทางลัดครับ..พี่ๆ ที่ประสบความสำเร็จในบ้านหลังนี้ล้วนแต่ผ่านช่วงเวลานี้มาแล้วทั้งนั้นครับ
ยังไงก็ขอให้พยายามต่อไปนะครับ..สู้ๆ ครับ

:D :D :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คิดเองครับ เชื่อคนอื่นจะลงเหวเอา เพราะ คิดเอง ก็มั่นใจเอง

ของผมคร่าวๆก็ใช้ pe นะ สมมุตินะ

(1) หุ้น A ตอนนี้ ราคา 1.00 บาท
กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท
ก็ PE = 10 นะครับ

คราวนี้ คุณมองว่า อนาคตธุรกิจตัวนี้ กำลังขยายสาขา รายได้จะเพิ่มขึ้น มาร์จิ้นเท่าเดิมหรือดีขึ้น ธุรกิจจะรุ่งโรจน์โชติชัชวาล

(2) คุณก็กะว่า กำไรต่อหุ้น มันต้อง ดีขึ้น ประมาณ 20% ก็จะได้
กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท
สมมุติว่า เขาเล่นกันที่ pe เท่าเดิมคือ 10
ดังนั้นราคาหุ้นที่ น่าจะได้ก็คือ 1.2 บาท ใช่ไหมครับ
คุณก็กำไร จากราคาหุ้น ชิมิ (ถ้ามันเป็นไปตามที่ประมาณการนะ)

แต่ทีนี้ตอนซื้อเนี่ย มันก็ต้องดูว่าเหมาะไหม ย้อนไป ข้อ 1 นะ ถ้าราคาหุ้น A มันอยู่ที่ 2 บาท แสดงว่าตอนนี้ซื้อขายที่ pe = 20

หมายความว่า ต้องทำธุรกิจตั้ง 20 ปีถึงจะคืนทุน คุณก็มองว่าไม่คุ้ม มีความเสี่ยง ฝากประจำดีกว่า ก็ไม่ลงทุน

ถ้าอยากลงทุนโดยมีความเสี่ยงน้อยหน่อย ก็ต้องรอ จนราคามันมาอยู่ pe 10 ก็ซื้อ

คร่าวๆนะ แต่ pe ที่เหมาะสมนี่ต้องอยู่ที่ตัวเอง บ้างก็ว่า 7 บ้างก็ว่า 10

ของผมประมานนี้แหละ
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ภาพประจำตัวสมาชิก
มือเก่าหัดขับ
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

การคิดมูลค่าของหุ้น มีหลายวิธีนะครับ
ทั้งด้าน qualitative และ quantitative
ข้อมูลการวิเคราะห์ ใช้ได้ในระดับหนึ่ง
แต่ไม่ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ
qualitative หรือ subjective ซึ่งตีความหมาย
ออกมาเป็นตัวเลขได้ยากครับ

สรุปคือผมใช้ผสม
ดูเฉพาะส่วนที่เป็น fact จากบทวิเคราะห์
และคิดผสมกับค่าของบริษัทด้าน qualitative เอง
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul Octopus
Verified User
โพสต์: 798
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมอาจไม่เหมือนท่านอื่นๆ
ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการคำนวณทางด้านการเงินตัวเลขมากนักเพราะมันขึ้นกับ Assumption ตั้งถูกตั้งผิด มันให้ค่าต่างกันมากมาย

ผมให้ความสำคัญกับ Assumption มาก
การที่จะตั้ง Assumption ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นหรือที่กำลังจะเกิดขึ้นต้องอาศัยความรู้รอบตัวอย่างมาก และ เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น น้ำท่วมใหญ่ในออสเตรเลียขณะนี้กระทบหุ้นอะไรใน Port เราบ้าง นานแค่ใหน
เช่น หุ้น Banpu น่าจะดี ขณะที่ หุ้น Glow น่าจะแย่
(เพราะน้ำท่วมกระทบการผลิต การขนส่งถ่านหิน อย่างมาก)
นอกจากนั้น หุ้นเดินเรือจะแย่เพราะเรือเทกอง ขณะนี้มัน Oversupply ทำให้ยิ่ง Oversupply เข้าไปกันใหญ่ เพราะเป็นตลาดของผู้ซื้อ ขนถ่านหินไม่ได้ ยกเลิกไปเลย (อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เดียวกันนี้ 3 ปีที่แล้วหลายๆท่านคงจำได้ น้ำท่วมเหมือนกัน ถ่านหิน Short เหมือนกัน แต่หุ้น เดินเรือ TTA ราคาพุ่ง Recorded high เพราะขณะนั้นเรือเทกอง Short Supply ทำให้ Short Supply มากขึ้นเพราะไปรอขนถ่านหิน.....ที่ออสเตรเลีย เห็นมั๊ยครับว่าเรื่องเดียวกัน ผลแตกต่างกัน)

ตัวอย่างข้างบนล้วนเป็น Assumption ที่ต้องใส่เข้าไปสำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจทั้งสิ้น รวมทั้งมูลค่า Stock

วันนี้ที่เราไม่มีศรัทธากับ Analyst โดยเฉพาะของไทย เพราะการตั้ง Assumption มันแคบมาก ไม่มี Linkage และ ขาดความเข้าใจ
เหมือนคุณเป็นนักพยากรอากาศ สิ่งที่คุณทำคือเปิดหน้าต่างออกไปดู เห็นมีเมฆก็จะบอกว่าฝนกำลังจะตก ถ้าไม่มีเมฆก็บอกว่าฟ้าสดใส อะไรปานนั้น)

สรุปคือว่าต้องอ่านมาก ศึกษามาก และ ต้อง Up to date ตลอดเวลา เรื่องการคำนวณด้านการเงิน มีตัววัดไม่มากนักหรอกครับผมยืนยันได้เลย
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

วิธียุ่งๆ ก็เคยคิด ส่วนวิธีง่ายๆ ก็เคยทำ :roll:
แต่ความน่าสนใจในการประเมินมูลค่า ผมว่า...
ไม่ได้อยู่ที่วิธีที่หยิบเอามาใช้
แต่อยู่ที่ความรู้ และข้อมูลของเรา
ว่าเรารู้จักกิจการนั้นดีมากน้อยขนาดไหน
ถูกอยู่ หรือว่า แพงไป ?

และที่สำคัญ Margin of Safety ครับ อย่าลืม :) ...
tawich
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

Re: อยากรู้จัง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณครับจะศึกษาเพิ่มครับ
โพสต์โพสต์