ผมไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดครับ แต่วันนี้ได้ไปอ่านกระทู้ของคุณ Oscar ที่ SEAMICO รู้สึกตรงกับที่ผมคิดทีเดียว เลยขอถือวิสาสะแปลมาให้อ่านกันเล่นๆครับ
เสริมนิดนึงครับ การที่สหรัฐฯลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศเขาในสองทางหลักๆ คือหนึ่ง trade deficit ลดลงทันตาเห็น และสอง เงินสกุล EU แข็งขึ้นอย่างมาก ทำให้การเติบโตของกลุ่มประเทศในยุโรปชะงักงันทันทีOscar เขียน:มีข่าวลือว่าสหรัฐฯโจมตีอิรักเพียงเพื่อรักษาสถานภาพของเงินสกุลดอลล่าร์ เพราะก่อนหน้านี้อิรักและประเทศโอเปกบางประเทศต้องการขายน้ำมันดิบในสกุล EU ซึ่งจะส่งผลให้ US Treasuries มูลค่า 1.4 ล้านล้านกลายเป็นเศษเงินในชั่วข้ามคืน
ทฤษฎีนี้อธิบายเหตุผลที่อังกฤษสนับสนุนการโจมตีอิรักร่วมกับสหรัฐฯ เพราะเงินสกุลปอนด์จะถูกกระทบด้วย
สหรัฐฯจะพยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องค่าเงินดอลล่าร์และเศรษฐกิจของตนเอง จึงนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ย (Fed) อย่างต่อเนื่องและยาวนาน (ซึ่งจะเกิดขึ้นในราวทุกๆสิบปี) ผลก็คือเม็ดเงินจะไหลออกจากสหรัฐฯเป็นจำนวนมากไปยังประเทศต่างๆที่ค่าเงินมิได้ผูกติดอยู่กับสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศไทยด้วย
ผลก็คือเกิดการซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง และจะต่อเนื่องไปถึงปีหน้าตราบเท่าที่สหรัฐฯยังตรึง Fed ในอัตราที่ต่ำมากหรือลดลงเรื่อยๆ
ความคิดของผมคือ เราหลงตัวเองไปรึเปล่าครับที่คิดว่าฝรั่งจะเข้ามาหลอกเอาเงินไทย หรือจะโจมตี SET Index บ้านเรา สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติทำก็แค่ย้ายเงินไปยังจุดที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดเท่านั้นเองครับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น กองทุนต่างชาติอาจจะไม่คิด take profit ในช่วงสั้นๆด้วยซ้ำครับ จนกว่าจะมี option ที่ดีกว่าให้เลือก
ตราบเท่าที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯยังมีแนวโน้มต่ำ และเงินหยวนยังอิงกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ตลาดหุ้นที่ก็ยังเป็นที่สนใจของต่างชาติไปเรื่อยๆ (จริงๆแล้วก็แค่เศษเงินของเขาเองครับ น่าจะประมาณ 2-3% ของ hedge funds ทั้งหลาย)
ถ้าเป็นเช่นนั้นความเสี่ยงระยะสั้นของเราจะมาจากจีนครับ ถ้าจีนตัดสินใจ revalue เงินหยวน เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแน่นอน
ส่วนความเสี่ยงในระยะยาวคือ ถ้าสหรัฐฯกลับมาคุมสถานการณ์เศรษฐกิจได้อีกครั้ง (เช่นเอาอิรักออกจาก OPEC และเริ่มขายน้ำมันเสรีให้ตัวเอง ฯลฯ) เม็ดเงินต่างๆจะใหลกลับเข้าสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว
ไม่ทราบนักลงทุนทั้งหลายมีความเห็นว่าอย่างไรครับ?