อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 1
ข้าว ในตลาดโลก ราคาไม่ค่อยดีมาหลายปีทำให้นานาประเทศ
พากันขายข้าวล่วงหน้ากันเป็นแถว แต่เนื่องจากภาวะภัยแล้ง
ในปีนี้เป็นต้นไปจะทำให้ การผลิตข้าวในตลาดโลก น้อยลง
สินค้าเกษตรหลายตัวจะแพงขึ้น
ต้นทุน การผลิตอาหารสัตว์จะแพง ภาวะ การขาดแคลน ระหว่าง
ผู้กิน กับข้าวและ สินค้าเกษตรจะเกิดความไม่สมดุลกัน
หวังว่าผมคะเนผิด
อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย
พากันขายข้าวล่วงหน้ากันเป็นแถว แต่เนื่องจากภาวะภัยแล้ง
ในปีนี้เป็นต้นไปจะทำให้ การผลิตข้าวในตลาดโลก น้อยลง
สินค้าเกษตรหลายตัวจะแพงขึ้น
ต้นทุน การผลิตอาหารสัตว์จะแพง ภาวะ การขาดแคลน ระหว่าง
ผู้กิน กับข้าวและ สินค้าเกษตรจะเกิดความไม่สมดุลกัน
หวังว่าผมคะเนผิด
อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย
-
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 3
ดีครับ ชาวสวนชาวนาแถวบ้านผม จะได้มีความสุขบ้างครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 5
เคยอ่านเจอข่าวนี้กันมั้ยครับ?
http://www.mthai.com/square/news/news73794.html
ช็อก! ตาตั้ง "วัฒนา" สั่งนำเข้าข้าว
ข่าวจาก นสพ. ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 5 พ.ค. 2547
นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดโควตานำเข้าข้าว จากลาว กัมพูชา พม่า ภายใต้ข้อตกลงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ ประเทศเพื่อนบ้าน (ECS) โดยจะเปิดโควตาแบบไม่จำกัดจำนวน ภาษี 0% เพื่อส่งออก แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะให้ผู้ส่งออก หรือให้หน่วยงานรัฐ เช่น องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้นำเข้า คาดว่าข้าวจากทั้ง 3 ประเทศคงมีไม่เกิน 1.5 ล้านตัน
"ผมได้คุยกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซ็น ของกัมพูชา และนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวแล้ว คาดว่าจะเริ่มนำเข้าได้เร็วๆนี้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการ ในเรื่องเอกสารและพิธีการนำเข้าให้เร็วที่สุด อย่ากลัวว่าราคาข้าวภายในของไทยจะตก รับรองว่าไม่ตกแน่นอน ที่ไทยนำเข้าก็เพื่อส่งออก และทำตลาดให้เพื่อนบ้าน เราทำตลาดราคาต้องสูงแน่ ถ้าไทยไม่ทำตลาดให้ เขาก็จะขายแข่ง หรือขายตัดราคาในตลาดโลก ราคาข้าวไทยก็จะตก และเชื่อว่าปีนี้ไทยจะส่งข้าวออกได้เกิน 8.5 ล้านตัน อาจจะใกล้เคียง 9 ล้านตัน ด้วยซ้ำ" สำหรับการพิจารณาขายข้าว 1.78 ล้านตัน จากจำนวนสต๊อกรัฐทั้งสิ้น 1.94 ล้านตัน ให้แก่บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ราคาเสนอซื้ออยู่ที่ 234.5 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยมูลค่าขายข้าวครั้งนี้ประมาณ 17,000 ล้านบาท ขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาท แต่หากหักค่าการตลาดอีก 4.5 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ทำให้คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาท
ด้านนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนช็อกกับนโยบายของนายวัฒนาที่จะเปิดให้นำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่ข้าวในประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะขาดแคลน อีกทั้งรัฐยังต้องคอยแทรกแซง ราคาข้าวเพื่ออุ้มชาวนาไทยอยู่ตลอด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ปริมาณข้าวในประเทศมีอยู่เหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องนำเข้า ซึ่งภาคเอกชนในวงการค้าข้าวยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การกระทำครั้งนี้มีอะไรแอบแฝงหรือต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่
"ยอมรับว่า ปัจจุบันราคาข้าวในประเทศแพงกว่าของประเทศเพื่อนบ้านมาก แต่การนำเข้าข้าวราคาถูกเข้ามาเพื่อทำการส่งออก เท่ากับทำลายตลาดในประเทศและ เกษตรกรของตัวเอง เพราะแค่รัฐบอกจะนำเข้าก็มีผลในทางจิตวิทยากดดัน ให้ราคาข้าวในประเทศมีโอกาสปรับตัวลดลงแล้ว เนื่องจากถ้าเกษตรกรยังดันทุรังขายแพง กลุ่มผู้ส่งออกก็เลี่ยงไปรอซื้อข้าวนำเข้าแทน" นายปราโมทย์กล่าว.
http://www.mthai.com/square/news/news73794.html
ช็อก! ตาตั้ง "วัฒนา" สั่งนำเข้าข้าว
ข่าวจาก นสพ. ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 5 พ.ค. 2547
นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดโควตานำเข้าข้าว จากลาว กัมพูชา พม่า ภายใต้ข้อตกลงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ ประเทศเพื่อนบ้าน (ECS) โดยจะเปิดโควตาแบบไม่จำกัดจำนวน ภาษี 0% เพื่อส่งออก แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะให้ผู้ส่งออก หรือให้หน่วยงานรัฐ เช่น องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้นำเข้า คาดว่าข้าวจากทั้ง 3 ประเทศคงมีไม่เกิน 1.5 ล้านตัน
"ผมได้คุยกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซ็น ของกัมพูชา และนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวแล้ว คาดว่าจะเริ่มนำเข้าได้เร็วๆนี้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการ ในเรื่องเอกสารและพิธีการนำเข้าให้เร็วที่สุด อย่ากลัวว่าราคาข้าวภายในของไทยจะตก รับรองว่าไม่ตกแน่นอน ที่ไทยนำเข้าก็เพื่อส่งออก และทำตลาดให้เพื่อนบ้าน เราทำตลาดราคาต้องสูงแน่ ถ้าไทยไม่ทำตลาดให้ เขาก็จะขายแข่ง หรือขายตัดราคาในตลาดโลก ราคาข้าวไทยก็จะตก และเชื่อว่าปีนี้ไทยจะส่งข้าวออกได้เกิน 8.5 ล้านตัน อาจจะใกล้เคียง 9 ล้านตัน ด้วยซ้ำ" สำหรับการพิจารณาขายข้าว 1.78 ล้านตัน จากจำนวนสต๊อกรัฐทั้งสิ้น 1.94 ล้านตัน ให้แก่บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ราคาเสนอซื้ออยู่ที่ 234.5 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยมูลค่าขายข้าวครั้งนี้ประมาณ 17,000 ล้านบาท ขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาท แต่หากหักค่าการตลาดอีก 4.5 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ทำให้คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาท
ด้านนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนช็อกกับนโยบายของนายวัฒนาที่จะเปิดให้นำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่ข้าวในประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะขาดแคลน อีกทั้งรัฐยังต้องคอยแทรกแซง ราคาข้าวเพื่ออุ้มชาวนาไทยอยู่ตลอด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ปริมาณข้าวในประเทศมีอยู่เหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องนำเข้า ซึ่งภาคเอกชนในวงการค้าข้าวยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การกระทำครั้งนี้มีอะไรแอบแฝงหรือต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่
"ยอมรับว่า ปัจจุบันราคาข้าวในประเทศแพงกว่าของประเทศเพื่อนบ้านมาก แต่การนำเข้าข้าวราคาถูกเข้ามาเพื่อทำการส่งออก เท่ากับทำลายตลาดในประเทศและ เกษตรกรของตัวเอง เพราะแค่รัฐบอกจะนำเข้าก็มีผลในทางจิตวิทยากดดัน ให้ราคาข้าวในประเทศมีโอกาสปรับตัวลดลงแล้ว เนื่องจากถ้าเกษตรกรยังดันทุรังขายแพง กลุ่มผู้ส่งออกก็เลี่ยงไปรอซื้อข้าวนำเข้าแทน" นายปราโมทย์กล่าว.
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 6
นั่นดิเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายละครับ
ถ้านำเข้ามาตอนนี้ระยะสั้นอาจทำให้ราคาข้าวเลิกทะยานขึ้นอย่างน่ากลัว
ระยะยาว ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี
แต่ถ้าทำให้เราเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวละครับ ราคาประเทศเราจะเป็นผู้กำหนด
อาจจะเป็นกลุ่มโอเปคข้าวก็ได้นะครับ :lol:
เอาไปขายแขกแพงๆเป็นดอลล่าร์ครับดัดหลังมัน :lol:
ถ้านำเข้ามาตอนนี้ระยะสั้นอาจทำให้ราคาข้าวเลิกทะยานขึ้นอย่างน่ากลัว
ระยะยาว ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี
แต่ถ้าทำให้เราเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวละครับ ราคาประเทศเราจะเป็นผู้กำหนด
อาจจะเป็นกลุ่มโอเปคข้าวก็ได้นะครับ :lol:
เอาไปขายแขกแพงๆเป็นดอลล่าร์ครับดัดหลังมัน :lol:
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 8
ประเทศอื่นเค้าอุดหนุนสินค้าตัวเองกัน แต่นี่เราคิดยังไงก็ไม่รู้นะครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2004/05/0 ... =pag1.html
3 สมาคมร้องนายกฯ บีบชะลอนำเข้าข้าว
แนะศึกษาผลดี - ผลเสียก่อน - ขู่ทิ้งเก้าอี้กรรมการ กนข.
กรมการค้าต่างประเทศรับลูก "วัฒนา" เร่งออกระเบียบนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน อ้างผู้ส่งออกไทยเชี่ยวชาญการตลาด
แผนนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ถูกค้านหนักจากโรงสี-ชาวนา 3 สมาคม จับมือทำหนังสือถึงนายกฯ-ประธาน กนข. ร้องชะลอนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน หวั่นทำลายระบบข้าวเมืองไทย ย้ำหากรัฐบาลเพิกเฉยพร้อมลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที นายกสมาคมชาวนาโวย พาณิชย์ตั้งแง่ งัดเงื่อนไขรับจำนำข้าวตันละ 6,000 บาท ขณะที่โรงสีภาคอีสานหวั่นนำเข้าข้าวเพื่อนบ้านผสมข้าวไทยฉุดราคาหอมมะลิร่วง
นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยถึงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 1.5 ล้านตัน ว่าเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ดังนั้นการประชุมสมาชิกสมาคมชาวนาไทยวันที่ 11 พ.ค.นี้ ตนจะขอให้ 3 สมาคม คือ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวต่างประเทศ ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว(กนข.)เพื่อขอให้ชะลอการนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน ทั้งนี้เพื่อศึกษาผลดีผลเสียของการนำเข้าข้าวจำนวนดังกล่าวก่อน
"ผมว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่หากข้อเสนอของ 3 สมาคมรัฐบาลยังเพิกเฉยที่จะนำเข้าข้าว ขั้นตอนต่อไปอาจต้องเป็นเรื่องของการเดิมพันระหว่างผลประโยชน์ธุรกิจกับบ้านเมืองแน่ ขั้นตอนสุดท้ายทั้ง 3 สมาคมจะยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที เราไม่ต้องการทำงานร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นความเสียหายของบ้านเมือง และผลกระทบต่อชาวนาไทยโดยตรง" นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ ย้ำว่าการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว และพม่า ย่อมที่จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ และพันธุ์ข้าวของไทยแน่นอน ที่สำคัญไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ไทยต้องนำเข้าข้าว แต่สิ่งที่จะได้รับผลกระทบคือ กัมพูชา มีพันธุ์ข้าวที่ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิของไทยมาก คือ ข้าวโซมาลี ดังนั้นหากนำเข้ามาแล้วก็จะส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวของไทยลดลงแน่นอน
นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การมองมิติการตลาดเรื่องข้าวอย่างเดียวไม่พออย่างเดียว ต้องมองมิติพื้นฐานข้าวกับประเทศไทยด้วย เรื่องอย่างนี้ควรหารือในระดับนโยบายไม่ใช่การตัดสินใจ เฉพาะรัฐมนตรี ต้องมีการศึกษาที่รอบคอบ "มองการตลาดอย่างเดียวคนที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มธุรกิจเท่านั้น ถ้าถามผมว่าเดือดร้อนหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่าไม่ เพราะผมเป็นพ่อค้าไม่ใช่ชาวนา แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นผมสงสารชาวนา และประเทศมากกว่า โดยเฉพาะเกษตรกรบ้านเราทุกวันนี้ที่มีอาชีพทำนากันไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน เขาจะเดือดร้อนกัน" นายปราโมทย์ ย้ำ
ตั้งแง่รับซื้อข้าวแสนตัน
นายสุวรรณ คฑาวุธ นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ ระบุ จะรับซื้อข้าวจากสมาคมชาวนาจำนวน 1 แสนตัน ในราคาตันละ 6,000 บาท ปรากฏว่าช่วงเช้าวานนี้ ( 7 พ.ค.) มีโรงสีรายหนึ่งอ้างว่ามีคำสั่งจากนายวัฒนา ให้มาเจรจาซื้อข้าวจากสมาคม แต่โรงสีรายนี้อ้างว่าถ้าเป็นข้าวปทุมธานี 1 ต้องเข้าเงื่อนไขโครงการรับจำนำ ซึ่งจะต้องมีการคัดเกรดกำหนดเปอร์เซ็นต์การปลอมปน ความชื้นไม่เกิน 15% ถึงจะได้ราคาตันละ 6,000 บาท แต่ขณะนี้ข้าวในมือเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นข้าวปทุมธานี 1ทั้งหมด หากให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวคงจะได้ราคาเพียงตันละ 5,000 บาท เท่านั้น
นายสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนได้แจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์ โดยแจ้งว่าหากเป็นเงื่อนไขดังกล่าวสมาคมฯ คงไม่สามารถหาข้าวให้ได้ในจำนวน 100,000 ตัน แต่การที่นายวัฒนาประกาศจะรับซื้อข้าวทุกเม็ดในราคาตันละ 6,000 บาท นั้นตนรู้สึกดีใจ และคลายความกังวลเรื่องการนำเข้าข้าว ตั้งใจที่จะส่งข้าวปทุมธานี 1 ขายให้กับนายวัฒนา
ส่วนกรณีที่นายวัฒนา กำลังจะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน 1.5 ล้านตัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นเวลานี้คือ โรงสีชะลอการรับซื้อข้าวในประเทศ เรื่องนี้นายวัฒนา ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางสมาคมฯ จะหารือร่วมกันก่อนทำหนังสือถึง กนข.เร็วๆ นี้
โรงสีอีสานโวย "วัฒนา" สร้างภาพราคาข้าว
นายบู๊เฮียง รุ่งรัชตกานนท์ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าการที่รัฐบาลจะเปิดนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนเห็นด้วยหากดำเนินการชั่วคราว แต่หากเปิดโควตาไว้ตลอดทุกปีไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขณะนี้ข้าวกัมพูชา ลาว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมือง แต่มีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิเช่นกัน หากนำเข้าในปีต่อไป และกลุ่มประเทศพวกนี้พัฒนาพันธุ์ได้คุณภาพ 50% ของไทย จะนำมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทย ฉุดให้ราคาข้าวหอมมะลิ ที่คุณภาพดีที่สุดของไทยราคาตกต่ำได้
"ข้าวหอมมะลิในภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ได้รับรางวัลพัฒนาพันธุ์ดีเด่นทุกปี หากนำเข้าจากเพื่อนบ้านซึ่งข้าวไม่มีสัญชาติเข้ามาผสมแล้ว ใครจะรับผิดชอบ หากราคาข้าวตกต่ำลงให้กับชาวนาภาคอีสาน ที่ปลูกข้าวได้ปีละครั้ง" นายบู๊เฮียง กล่าว
เขากล่าวว่า การดำเนินการของรัฐมนตรีพาณิชย์ในการนำเข้าข้าว ต้องการมุ่งสร้างภาพให้เห็นว่าข้าวขาดตลาด ไม่พอขาย ราคาทะยานสูง เพื่อลดน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในเรื่องข้าว แต่ที่ผ่านมาได้เทสต็อกให้กับผู้ส่งออกรายเดียว ซึ่งมีข้อสังเกตหลายประการ เช่น ค่าการตลาดที่ให้บริษัทต่อรองได้ โดยผู้ประมูลรายอื่นไม่ทราบมาก่อน และบริษัทที่ได้งานไป มีชื่อในบัญชีดำของรัฐเกี่ยวกับการค้าข้าว แต่ไม่เคยมีบทลงโทษ
"การทำเช่นนี้ จะตอบฝ่ายค้านได้ว่าขายข้าวได้ราคาดี ไม่ขาดทุน ไม่เคยมีราคาข้าวที่สูงอย่างนี้มาก่อน สร้างภาพข้าวไม่พอขาย ดันราคาสูง เหมือนกับกรณีหวัดนก ที่ไก่ถูกเก็บเข้าห้องเย็นเพราะส่งออกไม่ได้ การเก็บไว้มีภาระต้นทุนก็ต้องสร้างภาพให้ รำแพง ข้าวโพดแพง ไก่ที่จะนำออกมาจึงจะมีราคาแพงได้เหมือนกันกับข้าวที่สร้างภาพ ข้าวไม่พอขายต้องนำเข้า เพื่อให้ราคาไม่ลดลงต่อ" นายบู๊เฮียง
อย่างไรก็ตามการบริหารประเทศทุกวันนี้ ไม่มีนักการเมืองออกมารับประกัน ว่า หากบริหารผิดพลาด สามารถเดินเข้าคุกได้ ซึ่งหากราคาข้าวตกต่ำในช่วง 4 เดือนข้างหน้า ที่ข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาด และจีนเริ่มมีผลผลิต โดยขณะนี้ที่เมืองเฉินตูของจีน เริ่มผลิตข้าวได้แล้ว หากผลผลิตมากตามกลไกแล้ว ราคาจะต้องลดลงจะรับผิดชอบหรือไม่
โรงสีขอนแก่นหวั่นนำเข้าล็อตใหญ่ชาวนาลำบาก
นายชัยศิริ ลีศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีรุ่งเรือง การเกษตร เจ้าของโรงสีชัยมงคล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดนำเข้าข้าวของรัฐบาล 1.5 ล้านตัน เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้มีการสั่งให้ระงับการทำข้าวนาปรัง ซึ่งโดยปกติภาคกลางจะทำนาปีละ 3 ครั้ง ตลอดทั้งปี การสั่งระงับไม่ให้ปลูกข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวเปลือกที่จะนำมาใช้ในโรงสีขาดแคลน
"ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าข้าวเปลือกครั้งนี้ คือ เกษตรกรโดยตรง โดยราคาข้าวในประเทศลดลง โดยปกติช่วงนี้โรงสีต่างๆ จะรับซื้อข้าวเปลือกที่ กก.ละ 5 บาท หากมีการนำเข้าข้าวเข้ามาจะทำให้ราคาลดลงทันที โดยการนำเข้าครั้งนี้เป็นการนำเข้าล็อตใหญ่ที่สุด ซึ่งขณะนี้ทราบว่าสมาคมชาวนาไทยได้คัดค้านเรื่องนี้แล้ว" นายชัยศิริ กล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การนำเข้าข้าวเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ในทางทฤษฎีนี้อาจจะทำได้ แต่ต้องมีการควบคุมทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้มีปัญหากับภาคการผลิตภายในประเทศ ซึ่งตนจะหารือกับนายวัฒนาในการประชุม ครม.วันที่ 11 พ.ค.นี้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่านายวัฒนาน่าจะมีเหตุผล และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
กรมการค้าต่างประเทศรับลูกร่างระเบียบนำเข้า
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่าตามนโยบายของนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ จะเปิดโควตานำเข้าข้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา พม่า และลาว ในปริมาณ 1.5 ล้านตัน อัตราภาษีนำเข้า 0% ภายใต้ความร่วมมือเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน (อีซีเอส) นั้น ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศ ยังไม่ได้ร่างระเบียบการนำเข้าข้าว ซึ่งต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบการนำเข้าข้าวก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ครม.ได้เห็นชอบการนำเข้าสินค้าเกษตรกรจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
โดยปกติไทยเปิดนำเข้าข้าว ตามโควตาที่ผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ)ไทยต้องเปิดตลาดให้สมาชิกปีละ 249,757 ตัน โดยเสียภาษีนำเข้า 30% ขณะที่อัตราภาษีนำเข้านอกโควตาจะเสียภาษี 52% แต่มีการขอนำเข้าไม่เกิน 5,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวบาสมาติจากญี่ปุ่น เพื่อใช้ในธุรกิจร้านอาหารถือเป็นปริมาณเล็กน้อย
"ขณะนี้กรมฯ กำลังศึกษาเพื่อวางระเบียบปฏิบัติ โดยอิงกับการเปิดโควตาตามข้อตกลงดับบลิวทีโอ เพราะมีมติ ครม.รองรับแล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต้องดูว่าจะมีการออกหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่ม นอกเหนือจากมติเดิมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 แต่ละประเทศ จะส่งข้าวให้ได้เท่าไหร่คุณภาพข้าวเป็นอย่างไร รวมถึงการกำหนดแนวทางเพื่อรองรับว่า ข้าวที่นำเข้ามาจะนำไปส่งออกจริง "นายราเชนทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรอบระเบียบที่จะกำหนดขึ้น ไม่ใช่นำเข้ามาเพื่อใช้ชื่อประเทศไทย ในการส่งออก หรือให้ไทยไปทำหน้าที่รับรองคุณภาพ เพียงแต่ผู้ส่งออกของไทย ที่มีจุดแข็งด้านการตลาด ซึ่งได้รับความเชื่อถือจะเข้าไปทำหน้าที่ด้านการตลาดให้เท่านั้น
เขากล่าวว่า ขณะนี้ตลาดข้าวหลายแห่ง เช่น ฟิลิปปินส์ อิรัก และแอฟริกาใต้ ต้องการข้าวด้อยคุณภาพจากไทย เช่น ข้าว 25% ข้าว 35% ซึ่งไทยไม่มีผลผลิตหรือมีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการนำข้าวจากเพื่อนบ้านตามชนิดข้าว น่าจะเป็นประโยชน์ในการขยายตลาดข้าวของไทย ได้มากกว่าการผลิตเพื่อขายเอง
ปชป.ยื่นกระทู้สดถามเหตุผลรัฐเปิดนำเข้า
นายตรีพล เจาะจิตต์ ประธานคณะทำงานด้านการเกษตรของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน มีข้อเสีย 3 ประการ คือ 1.จะส่งผลทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำลง เนื่องจากพ่อค้าคนกลาง จะถือโอกาสกดราคาข้าวชาวนา 2.การนำข้าวคุณภาพต่ำ 25% หรือ 35% เข้าประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อการส่งออกนั้นยังมีเหตุผลไม่พอ เพราะทั้ง 3 ประเทศ สามารถส่งออกได้เอง นโยบายนี้อาจเป็นช่องว่าง ให้บางบริษัทนำข้าวคุณภาพต่ำ จากต่างประเทศมาผสมกับข้าวไทย 10% และ 15% แล้วติดตราสินค้าว่าเป็นข้าวไทย ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อถือในเรื่องคุณภาพข้าวไทย
3.หากมีการดำเนินการดังกล่าวจะทำลายความเชื่อมั่นผู้ค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้สดถาม รมว.พาณิชย์ เพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนในสภา ขณะนี้รัฐบาลควรยกเลิกการจำนำข้าว เพราะราคาข้าวในตลาดโลกดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับจำนำซึ่งเป็นช่องว่างให้เกิดการจำโกง และควรจะเร่งรัดการโละสต็อกข้าวเพื่อการส่งออกจำนวน 1.94 ล้านตัน ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากนี้อยากตั้งข้อสังเกตว่าข้าวที่อยู่ในสต็อกอาจมีไม่ครบจำนวน
http://www.bangkokbiznews.com/2004/05/0 ... =pag1.html
3 สมาคมร้องนายกฯ บีบชะลอนำเข้าข้าว
แนะศึกษาผลดี - ผลเสียก่อน - ขู่ทิ้งเก้าอี้กรรมการ กนข.
กรมการค้าต่างประเทศรับลูก "วัฒนา" เร่งออกระเบียบนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน อ้างผู้ส่งออกไทยเชี่ยวชาญการตลาด
แผนนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ถูกค้านหนักจากโรงสี-ชาวนา 3 สมาคม จับมือทำหนังสือถึงนายกฯ-ประธาน กนข. ร้องชะลอนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน หวั่นทำลายระบบข้าวเมืองไทย ย้ำหากรัฐบาลเพิกเฉยพร้อมลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที นายกสมาคมชาวนาโวย พาณิชย์ตั้งแง่ งัดเงื่อนไขรับจำนำข้าวตันละ 6,000 บาท ขณะที่โรงสีภาคอีสานหวั่นนำเข้าข้าวเพื่อนบ้านผสมข้าวไทยฉุดราคาหอมมะลิร่วง
นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยถึงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 1.5 ล้านตัน ว่าเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ดังนั้นการประชุมสมาชิกสมาคมชาวนาไทยวันที่ 11 พ.ค.นี้ ตนจะขอให้ 3 สมาคม คือ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวต่างประเทศ ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว(กนข.)เพื่อขอให้ชะลอการนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน ทั้งนี้เพื่อศึกษาผลดีผลเสียของการนำเข้าข้าวจำนวนดังกล่าวก่อน
"ผมว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่หากข้อเสนอของ 3 สมาคมรัฐบาลยังเพิกเฉยที่จะนำเข้าข้าว ขั้นตอนต่อไปอาจต้องเป็นเรื่องของการเดิมพันระหว่างผลประโยชน์ธุรกิจกับบ้านเมืองแน่ ขั้นตอนสุดท้ายทั้ง 3 สมาคมจะยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที เราไม่ต้องการทำงานร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นความเสียหายของบ้านเมือง และผลกระทบต่อชาวนาไทยโดยตรง" นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ ย้ำว่าการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว และพม่า ย่อมที่จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ และพันธุ์ข้าวของไทยแน่นอน ที่สำคัญไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ไทยต้องนำเข้าข้าว แต่สิ่งที่จะได้รับผลกระทบคือ กัมพูชา มีพันธุ์ข้าวที่ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิของไทยมาก คือ ข้าวโซมาลี ดังนั้นหากนำเข้ามาแล้วก็จะส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวของไทยลดลงแน่นอน
นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การมองมิติการตลาดเรื่องข้าวอย่างเดียวไม่พออย่างเดียว ต้องมองมิติพื้นฐานข้าวกับประเทศไทยด้วย เรื่องอย่างนี้ควรหารือในระดับนโยบายไม่ใช่การตัดสินใจ เฉพาะรัฐมนตรี ต้องมีการศึกษาที่รอบคอบ "มองการตลาดอย่างเดียวคนที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มธุรกิจเท่านั้น ถ้าถามผมว่าเดือดร้อนหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่าไม่ เพราะผมเป็นพ่อค้าไม่ใช่ชาวนา แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นผมสงสารชาวนา และประเทศมากกว่า โดยเฉพาะเกษตรกรบ้านเราทุกวันนี้ที่มีอาชีพทำนากันไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน เขาจะเดือดร้อนกัน" นายปราโมทย์ ย้ำ
ตั้งแง่รับซื้อข้าวแสนตัน
นายสุวรรณ คฑาวุธ นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ ระบุ จะรับซื้อข้าวจากสมาคมชาวนาจำนวน 1 แสนตัน ในราคาตันละ 6,000 บาท ปรากฏว่าช่วงเช้าวานนี้ ( 7 พ.ค.) มีโรงสีรายหนึ่งอ้างว่ามีคำสั่งจากนายวัฒนา ให้มาเจรจาซื้อข้าวจากสมาคม แต่โรงสีรายนี้อ้างว่าถ้าเป็นข้าวปทุมธานี 1 ต้องเข้าเงื่อนไขโครงการรับจำนำ ซึ่งจะต้องมีการคัดเกรดกำหนดเปอร์เซ็นต์การปลอมปน ความชื้นไม่เกิน 15% ถึงจะได้ราคาตันละ 6,000 บาท แต่ขณะนี้ข้าวในมือเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นข้าวปทุมธานี 1ทั้งหมด หากให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวคงจะได้ราคาเพียงตันละ 5,000 บาท เท่านั้น
นายสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนได้แจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์ โดยแจ้งว่าหากเป็นเงื่อนไขดังกล่าวสมาคมฯ คงไม่สามารถหาข้าวให้ได้ในจำนวน 100,000 ตัน แต่การที่นายวัฒนาประกาศจะรับซื้อข้าวทุกเม็ดในราคาตันละ 6,000 บาท นั้นตนรู้สึกดีใจ และคลายความกังวลเรื่องการนำเข้าข้าว ตั้งใจที่จะส่งข้าวปทุมธานี 1 ขายให้กับนายวัฒนา
ส่วนกรณีที่นายวัฒนา กำลังจะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน 1.5 ล้านตัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นเวลานี้คือ โรงสีชะลอการรับซื้อข้าวในประเทศ เรื่องนี้นายวัฒนา ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางสมาคมฯ จะหารือร่วมกันก่อนทำหนังสือถึง กนข.เร็วๆ นี้
โรงสีอีสานโวย "วัฒนา" สร้างภาพราคาข้าว
นายบู๊เฮียง รุ่งรัชตกานนท์ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าการที่รัฐบาลจะเปิดนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนเห็นด้วยหากดำเนินการชั่วคราว แต่หากเปิดโควตาไว้ตลอดทุกปีไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขณะนี้ข้าวกัมพูชา ลาว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมือง แต่มีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิเช่นกัน หากนำเข้าในปีต่อไป และกลุ่มประเทศพวกนี้พัฒนาพันธุ์ได้คุณภาพ 50% ของไทย จะนำมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทย ฉุดให้ราคาข้าวหอมมะลิ ที่คุณภาพดีที่สุดของไทยราคาตกต่ำได้
"ข้าวหอมมะลิในภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ได้รับรางวัลพัฒนาพันธุ์ดีเด่นทุกปี หากนำเข้าจากเพื่อนบ้านซึ่งข้าวไม่มีสัญชาติเข้ามาผสมแล้ว ใครจะรับผิดชอบ หากราคาข้าวตกต่ำลงให้กับชาวนาภาคอีสาน ที่ปลูกข้าวได้ปีละครั้ง" นายบู๊เฮียง กล่าว
เขากล่าวว่า การดำเนินการของรัฐมนตรีพาณิชย์ในการนำเข้าข้าว ต้องการมุ่งสร้างภาพให้เห็นว่าข้าวขาดตลาด ไม่พอขาย ราคาทะยานสูง เพื่อลดน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในเรื่องข้าว แต่ที่ผ่านมาได้เทสต็อกให้กับผู้ส่งออกรายเดียว ซึ่งมีข้อสังเกตหลายประการ เช่น ค่าการตลาดที่ให้บริษัทต่อรองได้ โดยผู้ประมูลรายอื่นไม่ทราบมาก่อน และบริษัทที่ได้งานไป มีชื่อในบัญชีดำของรัฐเกี่ยวกับการค้าข้าว แต่ไม่เคยมีบทลงโทษ
"การทำเช่นนี้ จะตอบฝ่ายค้านได้ว่าขายข้าวได้ราคาดี ไม่ขาดทุน ไม่เคยมีราคาข้าวที่สูงอย่างนี้มาก่อน สร้างภาพข้าวไม่พอขาย ดันราคาสูง เหมือนกับกรณีหวัดนก ที่ไก่ถูกเก็บเข้าห้องเย็นเพราะส่งออกไม่ได้ การเก็บไว้มีภาระต้นทุนก็ต้องสร้างภาพให้ รำแพง ข้าวโพดแพง ไก่ที่จะนำออกมาจึงจะมีราคาแพงได้เหมือนกันกับข้าวที่สร้างภาพ ข้าวไม่พอขายต้องนำเข้า เพื่อให้ราคาไม่ลดลงต่อ" นายบู๊เฮียง
อย่างไรก็ตามการบริหารประเทศทุกวันนี้ ไม่มีนักการเมืองออกมารับประกัน ว่า หากบริหารผิดพลาด สามารถเดินเข้าคุกได้ ซึ่งหากราคาข้าวตกต่ำในช่วง 4 เดือนข้างหน้า ที่ข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาด และจีนเริ่มมีผลผลิต โดยขณะนี้ที่เมืองเฉินตูของจีน เริ่มผลิตข้าวได้แล้ว หากผลผลิตมากตามกลไกแล้ว ราคาจะต้องลดลงจะรับผิดชอบหรือไม่
โรงสีขอนแก่นหวั่นนำเข้าล็อตใหญ่ชาวนาลำบาก
นายชัยศิริ ลีศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีรุ่งเรือง การเกษตร เจ้าของโรงสีชัยมงคล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดนำเข้าข้าวของรัฐบาล 1.5 ล้านตัน เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้มีการสั่งให้ระงับการทำข้าวนาปรัง ซึ่งโดยปกติภาคกลางจะทำนาปีละ 3 ครั้ง ตลอดทั้งปี การสั่งระงับไม่ให้ปลูกข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวเปลือกที่จะนำมาใช้ในโรงสีขาดแคลน
"ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าข้าวเปลือกครั้งนี้ คือ เกษตรกรโดยตรง โดยราคาข้าวในประเทศลดลง โดยปกติช่วงนี้โรงสีต่างๆ จะรับซื้อข้าวเปลือกที่ กก.ละ 5 บาท หากมีการนำเข้าข้าวเข้ามาจะทำให้ราคาลดลงทันที โดยการนำเข้าครั้งนี้เป็นการนำเข้าล็อตใหญ่ที่สุด ซึ่งขณะนี้ทราบว่าสมาคมชาวนาไทยได้คัดค้านเรื่องนี้แล้ว" นายชัยศิริ กล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การนำเข้าข้าวเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ในทางทฤษฎีนี้อาจจะทำได้ แต่ต้องมีการควบคุมทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้มีปัญหากับภาคการผลิตภายในประเทศ ซึ่งตนจะหารือกับนายวัฒนาในการประชุม ครม.วันที่ 11 พ.ค.นี้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่านายวัฒนาน่าจะมีเหตุผล และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
กรมการค้าต่างประเทศรับลูกร่างระเบียบนำเข้า
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่าตามนโยบายของนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ จะเปิดโควตานำเข้าข้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา พม่า และลาว ในปริมาณ 1.5 ล้านตัน อัตราภาษีนำเข้า 0% ภายใต้ความร่วมมือเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน (อีซีเอส) นั้น ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศ ยังไม่ได้ร่างระเบียบการนำเข้าข้าว ซึ่งต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบการนำเข้าข้าวก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ครม.ได้เห็นชอบการนำเข้าสินค้าเกษตรกรจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
โดยปกติไทยเปิดนำเข้าข้าว ตามโควตาที่ผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ)ไทยต้องเปิดตลาดให้สมาชิกปีละ 249,757 ตัน โดยเสียภาษีนำเข้า 30% ขณะที่อัตราภาษีนำเข้านอกโควตาจะเสียภาษี 52% แต่มีการขอนำเข้าไม่เกิน 5,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวบาสมาติจากญี่ปุ่น เพื่อใช้ในธุรกิจร้านอาหารถือเป็นปริมาณเล็กน้อย
"ขณะนี้กรมฯ กำลังศึกษาเพื่อวางระเบียบปฏิบัติ โดยอิงกับการเปิดโควตาตามข้อตกลงดับบลิวทีโอ เพราะมีมติ ครม.รองรับแล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต้องดูว่าจะมีการออกหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่ม นอกเหนือจากมติเดิมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 แต่ละประเทศ จะส่งข้าวให้ได้เท่าไหร่คุณภาพข้าวเป็นอย่างไร รวมถึงการกำหนดแนวทางเพื่อรองรับว่า ข้าวที่นำเข้ามาจะนำไปส่งออกจริง "นายราเชนทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรอบระเบียบที่จะกำหนดขึ้น ไม่ใช่นำเข้ามาเพื่อใช้ชื่อประเทศไทย ในการส่งออก หรือให้ไทยไปทำหน้าที่รับรองคุณภาพ เพียงแต่ผู้ส่งออกของไทย ที่มีจุดแข็งด้านการตลาด ซึ่งได้รับความเชื่อถือจะเข้าไปทำหน้าที่ด้านการตลาดให้เท่านั้น
เขากล่าวว่า ขณะนี้ตลาดข้าวหลายแห่ง เช่น ฟิลิปปินส์ อิรัก และแอฟริกาใต้ ต้องการข้าวด้อยคุณภาพจากไทย เช่น ข้าว 25% ข้าว 35% ซึ่งไทยไม่มีผลผลิตหรือมีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการนำข้าวจากเพื่อนบ้านตามชนิดข้าว น่าจะเป็นประโยชน์ในการขยายตลาดข้าวของไทย ได้มากกว่าการผลิตเพื่อขายเอง
ปชป.ยื่นกระทู้สดถามเหตุผลรัฐเปิดนำเข้า
นายตรีพล เจาะจิตต์ ประธานคณะทำงานด้านการเกษตรของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน มีข้อเสีย 3 ประการ คือ 1.จะส่งผลทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำลง เนื่องจากพ่อค้าคนกลาง จะถือโอกาสกดราคาข้าวชาวนา 2.การนำข้าวคุณภาพต่ำ 25% หรือ 35% เข้าประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อการส่งออกนั้นยังมีเหตุผลไม่พอ เพราะทั้ง 3 ประเทศ สามารถส่งออกได้เอง นโยบายนี้อาจเป็นช่องว่าง ให้บางบริษัทนำข้าวคุณภาพต่ำ จากต่างประเทศมาผสมกับข้าวไทย 10% และ 15% แล้วติดตราสินค้าว่าเป็นข้าวไทย ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อถือในเรื่องคุณภาพข้าวไทย
3.หากมีการดำเนินการดังกล่าวจะทำลายความเชื่อมั่นผู้ค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้สดถาม รมว.พาณิชย์ เพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนในสภา ขณะนี้รัฐบาลควรยกเลิกการจำนำข้าว เพราะราคาข้าวในตลาดโลกดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับจำนำซึ่งเป็นช่องว่างให้เกิดการจำโกง และควรจะเร่งรัดการโละสต็อกข้าวเพื่อการส่งออกจำนวน 1.94 ล้านตัน ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากนี้อยากตั้งข้อสังเกตว่าข้าวที่อยู่ในสต็อกอาจมีไม่ครบจำนวน
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 9
http://www.bangkokbiznews.com/2004/05/0 ... =pag1.html
ฝ่ายค้านถกซักฟอกนำเข้าข้าว
เตรียมเชิญ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แนวคิดนำเข้าข้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน ของรมว.พาณิชย์ ถูกฝ่ายค้าน ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีวาระซ่อนเร้น
ฝ่านค้านจี้ "วัฒนา" ทบทวนนโยบายนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ชี้กระทบต่อโครงสร้างการผลิตทั้งระบบ พร้อมเรียกร้องให้เปิดสัญญาเจ้าปัญหาโดยด่วน เหน็บช่วยชาวนาไทยให้ลืมตาอ้าปากได้ก่อนค่อยไปช่วยชาวนาเพื่อนบ้าน เตรียมนำเข้าหารือที่ประชุมพรรคสมควรเปิดซักฟอกด้วยหรือไม่ ด้านนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยหวั่นทำไทยเสียประโยชน์มากกว่าได้
นโยบายการนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศ ลาว เวียดนาม และพม่า จำนวน 1.5 ล้านตัน ของนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ เพื่อส่งออกภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน กำลังเป็นที่จับตามองของฝ่ายค้าน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสงสัยว่าอาจจะมีวาระซ่อนเร้น
วานนี้ (8 พ.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การนำเข้าข้าวครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการผลิต ราคาการตลาด มาตรฐานและคุณภาพข้าวในประเทศ ทั้งนี้การนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเรามีกรอบขององค์การการค้าโลก ( WTO ) อยู่ว่าในปี 2547 กำหนดโควตาสามารถนำเข้าได้ 2.4 แสนตัน แต่ต้องเสียภาษี 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้านอกปริมาณโควตาจะเสียภาษี 52 เปอร์เซ็นต์
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การนำเข้าข้าวในครั้งนี้ไม่แน่ใจว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่เพราะน่าจะส่อไปในทางมีพิรุธ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อตกลงที่ไปทำไว้กับ 3 ประเทศว่าดำเนินการอยู่ในกรอบใหญ่ของ WTO หรือไม่ และควรชี้แจงเหตุผลข้อเท็จจริง ผลดีผลเสีย อย่างรอบคอบในคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) และในที่ประชุมครม.และควรให้สมาคมชาวนาไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้ส่งออกได้ช่วยกันวิเคราะห์ถึงข้อเสนอของ รมว.พาณิชย์
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะให้ 3 สมาคม มาให้ข้อมูลและความคิดเห็น เพราะเพียงแค่ รมว.พาณิชย์ ประกาศนโยบายนี้ออกมาก็ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำ เนื่องจากผู้ส่งออกและโรงสีข้าวชะลอการรับซื้อ เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีหลักและกฎเกณฑ์อย่างไรออกมา เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีต้นทุนการผลิตและราคาที่ต่ำกว่าไทยมาก
ปชป.เตรียมถกซักฟอกนำเข้าข้าว
เขากล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ และในเบื้องต้นพรรคก็ไม่เห็นด้วยอยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายนี้ใหม่ และดำเนินการด้วยความรอบคอบหากผิดพลาดไปจะเป็นการทำลายความเข้มแข็ง และความสามารถของการส่งออกข้าวของไทย ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าแม้แต่ราคาเป้าหมายนำในการแทรกแซงข้าวชาวนาส่วนใหญ่ไม่ได้ตามราคาที่กำหนดอยู่แล้ว
"นายกฯและรมว.พาณิชย์ ควรรับฟังคำชี้แจงจากชาวนาด้วย ไม่ใช่รับฟังแต่รายงานของราชการด้านเดียว เพราะจะทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและกำหนดนโยบายที่ผิดพลาดได้ ผมคิดว่ารัฐบาลควรมาอุ้มชาวนาไทยให้ลืมตาอ้าปากได้เสียก่อนที่จะไปอุ้มชาวนาของประเทศเพื่อนบ้าน"
ส่วนเรื่องนี้จะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้านการเกษตรและคณะทำงานด้านการพาณิชย์ของพรรค ซึ่งจะประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้
พบพิรุธ 2 ปมประมูลข้าวนอกฤดูกาล
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการประมูลข้าวนอกฤดูการผลิตปี 44/45 และ 46/47 จำนวน 1.7 ล้านตัน ของกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเอกชนรายเดียวที่เสนอราคาและชนะการประมูล การประมูลดังกล่าวมีข้อสงสัยใน 3 ประเด็น ที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องชี้แจงคือ เรื่องการตลาด 4.50 ดอลลาร์ต่อตัน เงินค้ำประกันที่มีการลดหย่อนจาก 5 เปอร์เซ็นต์เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ และค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวเหลือตันละ 16.25 ดอลลาร์ต่อตัน
และที่สำคัญคือการประมูลได้ทำเป็นล็อตใหญ่ โดยมีบริษัทผู้ส่งออกข้าวรายเดียวเป็นผู้ประมูลได้ จึงทำให้เกิดการผูกขาดข้าว ทำให้เอกชนสามารถเข้ามาควบคุมกลไกตลาดการส่งออกทั้งหมด ถือเป็นฆ่าตัดตอนผู้ค้ารายอื่น ส่งผลให้ไม่มีการแข่งขันในระยะยาว ทำให้การส่งออกของประเทศมีปัญหา ซึ่งพรรคได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านเกษตรและคณะทำงานด้านพาณิชย์ติดตามเรื่องนี้ต่อไป
"ผมมีข้อสังเกตว่าบริษัทที่ชนะการประมูลเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้กระทำการทุจริตการจำนำข้าวในโรงสีที่ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวนโยบายเอื้ออาทรต่อบริษัทที่เข้ามาประมูลได้ ซึ่งเป็นเอกชนรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้สร้างไซโลข้าวขนาดใหญ่ ดังนั้นผมเห็นว่าทั้ง 2 กรณี ต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีการทุจริตในเชิงนโยบายหรือไม่" นายอลงกรณ์ กล่าว
เอกชนหวั่นเกิดปัญหาตามมามากมาย
ด้านนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากมั่นใจว่า หากนำเข้าข้าวต่างประเทศเพื่อส่งออก จะเกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งราคาข้าวในประเทศที่จะตกต่ำลง และคุณภาพของข้าวส่งออกที่อาจจะต่ำลงกว่าเดิม หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมข้าวที่นำเข้ามา ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าข้าวของไทยได้ เป็นต้น โดยอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาข้าวภายในประเทศให้เรียบร้อย ก่อนจะแสดงบทบาทผู้นำในภูมิภาคช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน เพราะอาจทำให้ไทยต้องเสียประโยชน์มากกว่าจะได้
นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันรัฐบาลยังต้องใช้งบประมาณปีละกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท ในการแทรกแซงราคาข้าวในประเทศ แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ข้าวของไทยก็ยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขอยู่อีกมาก ทั้งนี้ หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน อาจทำได้ด้วยวิธีอื่น เช่น การหาตลาดส่งออกให้ แต่ให้ส่งออกไปต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านประเทศไทย เนื่องจากจะทำให้ไม่เกิดปัญหาราคาข้าวไทยที่ตกลง และไม่สร้างภาระอื่นๆ ให้กับรัฐบาลและเกษตรกรไทยด้วย
ขณะที่นายฮวงเซง แซ่ลี้ ประธานชมรมผู้ประกอบการโรงสีข้าว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงสีข้าว หวั่นวิตกเรื่องคุณภาพข้าวไม่ได้มาตรฐาน และอาจมีการนำข้าวของประเทศเพื่อนบ้านมาปลอมปนกับข้าวไทย ทำให้กระทบต่อการส่งออกข้าวไทยไปยังต่างประเทศ ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงสีข้าวกำลังรอดูท่าทีนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ว่า จะสามารถควบคุมมาตรฐาน และไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าวได้หรือไม่
ส.ว.ชี้หมกเม็ดผู้ส่งออกได้ประโยชน์
นายอนันต์ ดาโลดม ส.ว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่กระทรวงพาณิชย์ จะให้มีการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน 1.5 ล้านตัน เพราะประเทศไทย มีปริมาณข้าวที่ผลิตได้แต่ละปีเกินความต้องการบริโภคภายในอยู่แล้ว ไม่เคยขาดแคลน ไม่จำเป็นต้องมีการนำเข้าข้าวเพื่อป้องกันการขาดแคลนหรือเพื่อการส่งออก
"การทำเช่นนี้มีการหมกเม็ดหรือไม่ เพราะข้าวที่สั่งนำเข้าจากประเทศกัมพูชา ลาว และพม่านั้น ปริมาณข้าวของแต่ละประเทศมีเพียงพอแค่บริโภคภายในประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งออกข้าวมายังประเทศไทย ในปริมาณมากถึง 1.5 ล้านตัน ที่สำคัญคือ อาจมีการแฝงนำข้าวจากประเทศเวียดนามส่งผ่านประเทศเหล่านี้เข้ามาขายในประเทศ กลายเป็นว่านโยบายนี้ช่วยระบายข้าวจากเวียดนามมาสู่ประเทศไทย ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นผลเสียอย่างยิ่ง เพราะข้าวของเวียดนามเป็นข้าวที่คุณภาพต่ำ แต่อาศัยชื่อของประเทศไทยในการส่งออก เป็นเรื่องที่น่ากลัว" นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า นโยบายดังกล่าวเมื่อออกมาก็มีผู้คัดค้าน ไม่ว่าจะเป็นชมรม โรงสีข้าว และสมาคมต่างๆ แต่คนที่ดีใจที่สุด และเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับกระทรวงพาณิชย์คือ ผู้ส่งออก ซึ่งจะได้รับประโยชน์มหาศาล จากนโยบายนี้ซึ่งมีไม่กี่คนเท่านั้น เท่าที่ทราบขณะนี้ผู้ส่งออกบางรายมีการรับออเดอร์จากต่างประเทศมาล่วงหน้าแล้วด้วย จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ดูแลเรื่องนี้อย่างรวดเร็วด้วย
ฝ่ายค้านถกซักฟอกนำเข้าข้าว
เตรียมเชิญ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แนวคิดนำเข้าข้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน ของรมว.พาณิชย์ ถูกฝ่ายค้าน ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีวาระซ่อนเร้น
ฝ่านค้านจี้ "วัฒนา" ทบทวนนโยบายนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ชี้กระทบต่อโครงสร้างการผลิตทั้งระบบ พร้อมเรียกร้องให้เปิดสัญญาเจ้าปัญหาโดยด่วน เหน็บช่วยชาวนาไทยให้ลืมตาอ้าปากได้ก่อนค่อยไปช่วยชาวนาเพื่อนบ้าน เตรียมนำเข้าหารือที่ประชุมพรรคสมควรเปิดซักฟอกด้วยหรือไม่ ด้านนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยหวั่นทำไทยเสียประโยชน์มากกว่าได้
นโยบายการนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศ ลาว เวียดนาม และพม่า จำนวน 1.5 ล้านตัน ของนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ เพื่อส่งออกภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน กำลังเป็นที่จับตามองของฝ่ายค้าน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสงสัยว่าอาจจะมีวาระซ่อนเร้น
วานนี้ (8 พ.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การนำเข้าข้าวครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการผลิต ราคาการตลาด มาตรฐานและคุณภาพข้าวในประเทศ ทั้งนี้การนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเรามีกรอบขององค์การการค้าโลก ( WTO ) อยู่ว่าในปี 2547 กำหนดโควตาสามารถนำเข้าได้ 2.4 แสนตัน แต่ต้องเสียภาษี 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้านอกปริมาณโควตาจะเสียภาษี 52 เปอร์เซ็นต์
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การนำเข้าข้าวในครั้งนี้ไม่แน่ใจว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่เพราะน่าจะส่อไปในทางมีพิรุธ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อตกลงที่ไปทำไว้กับ 3 ประเทศว่าดำเนินการอยู่ในกรอบใหญ่ของ WTO หรือไม่ และควรชี้แจงเหตุผลข้อเท็จจริง ผลดีผลเสีย อย่างรอบคอบในคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) และในที่ประชุมครม.และควรให้สมาคมชาวนาไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้ส่งออกได้ช่วยกันวิเคราะห์ถึงข้อเสนอของ รมว.พาณิชย์
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะให้ 3 สมาคม มาให้ข้อมูลและความคิดเห็น เพราะเพียงแค่ รมว.พาณิชย์ ประกาศนโยบายนี้ออกมาก็ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำ เนื่องจากผู้ส่งออกและโรงสีข้าวชะลอการรับซื้อ เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีหลักและกฎเกณฑ์อย่างไรออกมา เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีต้นทุนการผลิตและราคาที่ต่ำกว่าไทยมาก
ปชป.เตรียมถกซักฟอกนำเข้าข้าว
เขากล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ และในเบื้องต้นพรรคก็ไม่เห็นด้วยอยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายนี้ใหม่ และดำเนินการด้วยความรอบคอบหากผิดพลาดไปจะเป็นการทำลายความเข้มแข็ง และความสามารถของการส่งออกข้าวของไทย ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าแม้แต่ราคาเป้าหมายนำในการแทรกแซงข้าวชาวนาส่วนใหญ่ไม่ได้ตามราคาที่กำหนดอยู่แล้ว
"นายกฯและรมว.พาณิชย์ ควรรับฟังคำชี้แจงจากชาวนาด้วย ไม่ใช่รับฟังแต่รายงานของราชการด้านเดียว เพราะจะทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและกำหนดนโยบายที่ผิดพลาดได้ ผมคิดว่ารัฐบาลควรมาอุ้มชาวนาไทยให้ลืมตาอ้าปากได้เสียก่อนที่จะไปอุ้มชาวนาของประเทศเพื่อนบ้าน"
ส่วนเรื่องนี้จะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้านการเกษตรและคณะทำงานด้านการพาณิชย์ของพรรค ซึ่งจะประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้
พบพิรุธ 2 ปมประมูลข้าวนอกฤดูกาล
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการประมูลข้าวนอกฤดูการผลิตปี 44/45 และ 46/47 จำนวน 1.7 ล้านตัน ของกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเอกชนรายเดียวที่เสนอราคาและชนะการประมูล การประมูลดังกล่าวมีข้อสงสัยใน 3 ประเด็น ที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องชี้แจงคือ เรื่องการตลาด 4.50 ดอลลาร์ต่อตัน เงินค้ำประกันที่มีการลดหย่อนจาก 5 เปอร์เซ็นต์เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ และค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวเหลือตันละ 16.25 ดอลลาร์ต่อตัน
และที่สำคัญคือการประมูลได้ทำเป็นล็อตใหญ่ โดยมีบริษัทผู้ส่งออกข้าวรายเดียวเป็นผู้ประมูลได้ จึงทำให้เกิดการผูกขาดข้าว ทำให้เอกชนสามารถเข้ามาควบคุมกลไกตลาดการส่งออกทั้งหมด ถือเป็นฆ่าตัดตอนผู้ค้ารายอื่น ส่งผลให้ไม่มีการแข่งขันในระยะยาว ทำให้การส่งออกของประเทศมีปัญหา ซึ่งพรรคได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านเกษตรและคณะทำงานด้านพาณิชย์ติดตามเรื่องนี้ต่อไป
"ผมมีข้อสังเกตว่าบริษัทที่ชนะการประมูลเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้กระทำการทุจริตการจำนำข้าวในโรงสีที่ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวนโยบายเอื้ออาทรต่อบริษัทที่เข้ามาประมูลได้ ซึ่งเป็นเอกชนรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้สร้างไซโลข้าวขนาดใหญ่ ดังนั้นผมเห็นว่าทั้ง 2 กรณี ต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีการทุจริตในเชิงนโยบายหรือไม่" นายอลงกรณ์ กล่าว
เอกชนหวั่นเกิดปัญหาตามมามากมาย
ด้านนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากมั่นใจว่า หากนำเข้าข้าวต่างประเทศเพื่อส่งออก จะเกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งราคาข้าวในประเทศที่จะตกต่ำลง และคุณภาพของข้าวส่งออกที่อาจจะต่ำลงกว่าเดิม หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมข้าวที่นำเข้ามา ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าข้าวของไทยได้ เป็นต้น โดยอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาข้าวภายในประเทศให้เรียบร้อย ก่อนจะแสดงบทบาทผู้นำในภูมิภาคช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน เพราะอาจทำให้ไทยต้องเสียประโยชน์มากกว่าจะได้
นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันรัฐบาลยังต้องใช้งบประมาณปีละกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท ในการแทรกแซงราคาข้าวในประเทศ แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ข้าวของไทยก็ยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขอยู่อีกมาก ทั้งนี้ หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน อาจทำได้ด้วยวิธีอื่น เช่น การหาตลาดส่งออกให้ แต่ให้ส่งออกไปต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านประเทศไทย เนื่องจากจะทำให้ไม่เกิดปัญหาราคาข้าวไทยที่ตกลง และไม่สร้างภาระอื่นๆ ให้กับรัฐบาลและเกษตรกรไทยด้วย
ขณะที่นายฮวงเซง แซ่ลี้ ประธานชมรมผู้ประกอบการโรงสีข้าว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงสีข้าว หวั่นวิตกเรื่องคุณภาพข้าวไม่ได้มาตรฐาน และอาจมีการนำข้าวของประเทศเพื่อนบ้านมาปลอมปนกับข้าวไทย ทำให้กระทบต่อการส่งออกข้าวไทยไปยังต่างประเทศ ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงสีข้าวกำลังรอดูท่าทีนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ว่า จะสามารถควบคุมมาตรฐาน และไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าวได้หรือไม่
ส.ว.ชี้หมกเม็ดผู้ส่งออกได้ประโยชน์
นายอนันต์ ดาโลดม ส.ว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่กระทรวงพาณิชย์ จะให้มีการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน 1.5 ล้านตัน เพราะประเทศไทย มีปริมาณข้าวที่ผลิตได้แต่ละปีเกินความต้องการบริโภคภายในอยู่แล้ว ไม่เคยขาดแคลน ไม่จำเป็นต้องมีการนำเข้าข้าวเพื่อป้องกันการขาดแคลนหรือเพื่อการส่งออก
"การทำเช่นนี้มีการหมกเม็ดหรือไม่ เพราะข้าวที่สั่งนำเข้าจากประเทศกัมพูชา ลาว และพม่านั้น ปริมาณข้าวของแต่ละประเทศมีเพียงพอแค่บริโภคภายในประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งออกข้าวมายังประเทศไทย ในปริมาณมากถึง 1.5 ล้านตัน ที่สำคัญคือ อาจมีการแฝงนำข้าวจากประเทศเวียดนามส่งผ่านประเทศเหล่านี้เข้ามาขายในประเทศ กลายเป็นว่านโยบายนี้ช่วยระบายข้าวจากเวียดนามมาสู่ประเทศไทย ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นผลเสียอย่างยิ่ง เพราะข้าวของเวียดนามเป็นข้าวที่คุณภาพต่ำ แต่อาศัยชื่อของประเทศไทยในการส่งออก เป็นเรื่องที่น่ากลัว" นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า นโยบายดังกล่าวเมื่อออกมาก็มีผู้คัดค้าน ไม่ว่าจะเป็นชมรม โรงสีข้าว และสมาคมต่างๆ แต่คนที่ดีใจที่สุด และเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับกระทรวงพาณิชย์คือ ผู้ส่งออก ซึ่งจะได้รับประโยชน์มหาศาล จากนโยบายนี้ซึ่งมีไม่กี่คนเท่านั้น เท่าที่ทราบขณะนี้ผู้ส่งออกบางรายมีการรับออเดอร์จากต่างประเทศมาล่วงหน้าแล้วด้วย จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ดูแลเรื่องนี้อย่างรวดเร็วด้วย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 10
วันก่อนดรายการถึงลกถึงคน เรื่องนำเข้าข้าวจากปะรเทศเพื่อนบ้าน สรปได้ว่า
ข้าวก็เป็นสินค้าที่มีหลายเกรดครับ แล้วข้าวที่ประเทศเราปลกได้ก็เป็นข้าวเกรดดีสด แพงสด ที่นี้ความต้องการซื้อข้าวนั้นก็มีทั้งข้าวเกรดดีและเกรดต่ำลงมา
ข้าวเกรดต่ำเหล่านี้ประเทศเราไม่สามารถส่งออกได้เพราะไม่มีสินค้า ส่วนประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น ลาว พม่า เขมร นั้นปลกได้แต่ข้าวเกรดต่ำ แต่ไม่สามารถส่งออกได้เพราะประเทศเหล่านี้ไม่มีเครดิต ในขณะที่ประเสเรามีเครดิต
ดังนั้นถ้าเราจำเข้าข้าวเกรดต่ำเหล่านี้จากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วส่งออกก็ไม่น่าจะกระทบต่อราคาข้าวเกรดดีที่เราทำตลาดอย่แล้ว
เหมือนเราขายรถเบนซ์อย่แล้ว แต่มีคนต้องการซื้อรถโตโยต้ากับเราอีกด้วย เพียงเราก็เป็นดีลเลอร์ขายโตโยต้าเพิ่ม ก็จะช่วยยอดขายรวมทั้งบริษัท และก็ไม่น่าจะกระทบต่อยอดขายเบนซ์ของเรานะครับ
ที่ประชาชนไม่เข้าใจเนื่องจากข่าวที่ลง ไม่ได้ให้รายละเอียดของข้าวที่จะนำเข้าเป็นคนละเกรดกับที่เราปลกได้
ข้าวก็เป็นสินค้าที่มีหลายเกรดครับ แล้วข้าวที่ประเทศเราปลกได้ก็เป็นข้าวเกรดดีสด แพงสด ที่นี้ความต้องการซื้อข้าวนั้นก็มีทั้งข้าวเกรดดีและเกรดต่ำลงมา
ข้าวเกรดต่ำเหล่านี้ประเทศเราไม่สามารถส่งออกได้เพราะไม่มีสินค้า ส่วนประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น ลาว พม่า เขมร นั้นปลกได้แต่ข้าวเกรดต่ำ แต่ไม่สามารถส่งออกได้เพราะประเทศเหล่านี้ไม่มีเครดิต ในขณะที่ประเสเรามีเครดิต
ดังนั้นถ้าเราจำเข้าข้าวเกรดต่ำเหล่านี้จากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วส่งออกก็ไม่น่าจะกระทบต่อราคาข้าวเกรดดีที่เราทำตลาดอย่แล้ว
เหมือนเราขายรถเบนซ์อย่แล้ว แต่มีคนต้องการซื้อรถโตโยต้ากับเราอีกด้วย เพียงเราก็เป็นดีลเลอร์ขายโตโยต้าเพิ่ม ก็จะช่วยยอดขายรวมทั้งบริษัท และก็ไม่น่าจะกระทบต่อยอดขายเบนซ์ของเรานะครับ
ที่ประชาชนไม่เข้าใจเนื่องจากข่าวที่ลง ไม่ได้ให้รายละเอียดของข้าวที่จะนำเข้าเป็นคนละเกรดกับที่เราปลกได้
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 11
"นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการประมูลข้าวนอกฤดูการผลิตปี 44/45 และ 46/47 จำนวน 1.7 ล้านตัน ของกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเอกชนรายเดียวที่เสนอราคาและชนะการประมูล การประมูลดังกล่าวมีข้อสงสัยใน 3 ประเด็น ที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องชี้แจงคือ เรื่องการตลาด 4.50 ดอลลาร์ต่อตัน เงินค้ำประกันที่มีการลดหย่อนจาก 5 เปอร์เซ็นต์เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ และค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวเหลือตันละ 16.25 ดอลลาร์ต่อตัน "
เอกชนที่ว่าคือ บริษัท PA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PR (PR ถืออยู่ 51%) ประมูลได้ เป็นการประมูลได้จากการประมูลทั้ง 2 ครั้ง
ถ้าผมจำไม่ผิดครั้งแรกมีการล้มประมูล
PR ได้รับผลประโยชน์เต็มๆครับ
รวมถึง PB ที่ PR ที่หุ้นอยู่ด้วยครับ
ส่วนเรื่องการทุจริตอะไรที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ มีการถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
แล้วประธานได้อธิบายให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจแล้วครับ จำรายละเอียดไม่ได้แต่สรุปได้ว่าไม่มีปัญหาใดๆ กับการดำเนินงานครับ
รอบนี้ประมูลได้อีก ก็ได้รับผลประโยชน์ไปอีก 1.7 ล้านตัน
ยังมากกว่าที่มีเรื่องกันอยู่ของรัฐบาลที่นำต้องการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน 2 ล้านตัน (รัฐจะนำเข้า 1.5 ล้านตัน แต่ผมมั่นใจว่า ถึงจะนำเข้ามาจริงๆ ยังไงก็ไม่ถึง 1.5 ล้านตัน แน่ๆ ครับ ได้ครึ่งล้านตันก็เก่งแล้ว ดีไม่ดีอาจไม่ได้เลย เพราะมีการถกเถียงกันมากในเรื่องนี้ เสียชื่อประเทศไทยหมด ชาวนาผลิตข้าวได้มากมาย มีทุกเกรด แต่ต้องซื้อข้าวนอกมาขายต่อ เซ็งสิครับ)
ปีที่ผ่านมา PA มีรายได้ 8513 ล้านบาท PR 686.76 ล้านบาท
ส่วนปีก่อนนู้น PA ได้ 7595 ส่วน PR ได้ 747
ส่วนปีก่อนนู้นอีก PA ได้แค่ 5491 ส่วน PR ได้ 732
สังเกตุ PA มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี ส่วน PR รายได้เฉลี่ยอยู่ประมาณ 700 นิดมา 2-3 ปีแล้ว
สำหรับปีนี้ผมคาดว่า PA มีรายได้ทะลุ 10000 บาท ส่วน PR เองคงได้ประมาณ 750
เชิญพิจารณาครับ
เอกชนที่ว่าคือ บริษัท PA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PR (PR ถืออยู่ 51%) ประมูลได้ เป็นการประมูลได้จากการประมูลทั้ง 2 ครั้ง
ถ้าผมจำไม่ผิดครั้งแรกมีการล้มประมูล
PR ได้รับผลประโยชน์เต็มๆครับ
รวมถึง PB ที่ PR ที่หุ้นอยู่ด้วยครับ
ส่วนเรื่องการทุจริตอะไรที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ มีการถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
แล้วประธานได้อธิบายให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจแล้วครับ จำรายละเอียดไม่ได้แต่สรุปได้ว่าไม่มีปัญหาใดๆ กับการดำเนินงานครับ
รอบนี้ประมูลได้อีก ก็ได้รับผลประโยชน์ไปอีก 1.7 ล้านตัน
ยังมากกว่าที่มีเรื่องกันอยู่ของรัฐบาลที่นำต้องการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน 2 ล้านตัน (รัฐจะนำเข้า 1.5 ล้านตัน แต่ผมมั่นใจว่า ถึงจะนำเข้ามาจริงๆ ยังไงก็ไม่ถึง 1.5 ล้านตัน แน่ๆ ครับ ได้ครึ่งล้านตันก็เก่งแล้ว ดีไม่ดีอาจไม่ได้เลย เพราะมีการถกเถียงกันมากในเรื่องนี้ เสียชื่อประเทศไทยหมด ชาวนาผลิตข้าวได้มากมาย มีทุกเกรด แต่ต้องซื้อข้าวนอกมาขายต่อ เซ็งสิครับ)
ปีที่ผ่านมา PA มีรายได้ 8513 ล้านบาท PR 686.76 ล้านบาท
ส่วนปีก่อนนู้น PA ได้ 7595 ส่วน PR ได้ 747
ส่วนปีก่อนนู้นอีก PA ได้แค่ 5491 ส่วน PR ได้ 732
สังเกตุ PA มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี ส่วน PR รายได้เฉลี่ยอยู่ประมาณ 700 นิดมา 2-3 ปีแล้ว
สำหรับปีนี้ผมคาดว่า PA มีรายได้ทะลุ 10000 บาท ส่วน PR เองคงได้ประมาณ 750
เชิญพิจารณาครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 13
จากที่ฟังรายการวันนั้นที่มีผ้ร่วมรายการคือ รัฐมนตรีพาณิชย์ นายกโรงสีข่าว นายกผ้ส่งออกข้าว และผ้ปลกข้าวอีกท่าน
ข้อแย้งที่กล่าวว่าประเทศไทยสามารถปลกข้าวได้ทกเกรดครับ เพราะวันนั้นรัฐมนตรีพดเรื่องเกรดข้าวที่จะนำเข้าเป็นเกรดที่ไทยไม่สามารถปลกได้ และไม่เคยส่งออก ผ้ที่เข้าร่วมรายการก็ยอมรับครับ ไม่มีใครแย้ง
ข้อแย้งที่กล่าวว่าประเทศไทยสามารถปลกข้าวได้ทกเกรดครับ เพราะวันนั้นรัฐมนตรีพดเรื่องเกรดข้าวที่จะนำเข้าเป็นเกรดที่ไทยไม่สามารถปลกได้ และไม่เคยส่งออก ผ้ที่เข้าร่วมรายการก็ยอมรับครับ ไม่มีใครแย้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 14
งั้นก็สรุปได้ว่า นำเข้าแน่ๆ เพราะทั้งพ่อค้าข้าว ชาวนา ก็ไม่มีใครโต้แย้ง
มีแต่นักการเมือง และความรู้สึกของประชาชน ทั่วไป ที่แย้งกันอยู่ ว่าทำไม ทำไม ประเทศไทยเปลี่ยนไป อีกแล้วครับท่าน
ซื้อมาแล้วขายต่อ พ่อค้าคนกลางอย่าง PA และ PR ก็ได้รับผลประโยชน์ไปไม่มากก็น้อยละครับ
มีแต่นักการเมือง และความรู้สึกของประชาชน ทั่วไป ที่แย้งกันอยู่ ว่าทำไม ทำไม ประเทศไทยเปลี่ยนไป อีกแล้วครับท่าน
ซื้อมาแล้วขายต่อ พ่อค้าคนกลางอย่าง PA และ PR ก็ได้รับผลประโยชน์ไปไม่มากก็น้อยละครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 15
ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าไม่ดีตรงไหนครับ ถึงแม้จะทำให้บริษัทส่งออกข้าวมีกำไรมากขึ้น แต่ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วทำไมเราถึงต้องโต้แย้งครับ ไม่ทราบว่าที่โต้แย้งกันอย่นี้เป็นเพราะเหตผลใดครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 16
ตามความคิดผม ผมว่าโดยหลักการแล้วไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ
ประเทศไทยถ้าโดยหลักการ ผมว่าก็ดีทั้งนั้น ปัญหาของประเทศเรามันอยู่ที่การปฎิบัติ เมื่อไหร่ที่ผมเห็นว่ามันมีช่องให้ลอด มันก็ลอดช่องทุกทีเลยซิครับ
ภาคปฎิบัติได้ดีตามหลักการก็จะดีมากครับ ผมว่าหลายๆท่านที่กลัวคงกลัวเรื่องนี้มากกว่าครับ
อีกอย่างนึง เรื่องการอุดหนุนและดูแลเกษตรกรของตัวเองผมว่าเป็นเรื่องสำคัญ ในหลายๆประเทศก็ทำ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ในยุโรปหลายประเทศ ฯลฯ
ไทยเราเองควรดูแลเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ผมว่ากำไร ไม่ใช่ตัวในการชี้วัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียวครับ
ประเทศไทยถ้าโดยหลักการ ผมว่าก็ดีทั้งนั้น ปัญหาของประเทศเรามันอยู่ที่การปฎิบัติ เมื่อไหร่ที่ผมเห็นว่ามันมีช่องให้ลอด มันก็ลอดช่องทุกทีเลยซิครับ
ภาคปฎิบัติได้ดีตามหลักการก็จะดีมากครับ ผมว่าหลายๆท่านที่กลัวคงกลัวเรื่องนี้มากกว่าครับ
อีกอย่างนึง เรื่องการอุดหนุนและดูแลเกษตรกรของตัวเองผมว่าเป็นเรื่องสำคัญ ในหลายๆประเทศก็ทำ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ในยุโรปหลายประเทศ ฯลฯ
ไทยเราเองควรดูแลเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ผมว่ากำไร ไม่ใช่ตัวในการชี้วัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียวครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 17
คุณ chatchai
ข่าวว่าราคาข้าวเปลือกลดลงตั้งเกวียนล่ะเกือบพันบาท
อย่างนี้ ชาวนาไม่เดือดร้อนได้ยังไงครับ
มีแต่พ่อค้าข้าวนะครับ ที่กำไร
ข่าวว่าราคาข้าวเปลือกลดลงตั้งเกวียนล่ะเกือบพันบาท
อย่างนี้ ชาวนาไม่เดือดร้อนได้ยังไงครับ
มีแต่พ่อค้าข้าวนะครับ ที่กำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
อีกหกเดือนข้างหน้า ข้าวในตลาดโลกจะแพงกว่าทองและน้ำมัน
โพสต์ที่ 18
วันนั้นก็ดูอยู่ แต่พอท่านรัฐมจตรีพูดก็ไม่เห็น คนที่มาด้วยจะแย้ง แล้วผมก็ไม่รู้ว่าราคาข้าวเปลือก ข้าวสารมันตกเกวียนละเท่าไหร่
แต่ผมเห็นว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของท่านเลยเรื่องนึง คือเรื่องประมูลข้าวนี่แหละ
ถึงหนังสือพิมพ์บางฉบับจะกล่าวหา ว่าเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเดียว ลดค่าการตลาด ลดค่าปรับปรุงข้าว
แต่ราคาที่บริษัทนั้นเสนอมีราคาสูงกว่าบริษัทอื่น และเมื่อหักลบค่าต่างๆที่ลดให้ แล้วก็ไม่ได้ถูกกว่า ราคาของบริษัทอื่น ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศด้วยซ้ำ ขายข้าวได้ราคายังมีคนด่านี่แปลกจริงๆ
แต่ผมเห็นว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของท่านเลยเรื่องนึง คือเรื่องประมูลข้าวนี่แหละ
ถึงหนังสือพิมพ์บางฉบับจะกล่าวหา ว่าเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเดียว ลดค่าการตลาด ลดค่าปรับปรุงข้าว
แต่ราคาที่บริษัทนั้นเสนอมีราคาสูงกว่าบริษัทอื่น และเมื่อหักลบค่าต่างๆที่ลดให้ แล้วก็ไม่ได้ถูกกว่า ราคาของบริษัทอื่น ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศด้วยซ้ำ ขายข้าวได้ราคายังมีคนด่านี่แปลกจริงๆ
