การดูลายผิว

[yoyo]

ไม่ใช่ดูลายมือนะครับ ตัวอย่างลายผิวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือลายนิ้วมือ แต่ในกรณีนี้จะดูลายผิวที่อยู่บนฝ่ายมือ (รวมถึงฝ่าเท้ากรณีที่เป็นคนตรวจเป็นเด็ก)

มายด์แม็กซ์ (MindMax) ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการคำปรึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก นำเข้าเทคโนโลยี DMI (Dermatoglyphics Multiple Intelligence) ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นมาจากการเก็บสถิติลายนิ้วมือ มาใช้ควบคู่กับหลักการทางจิตวิทยาในการสร้างความเข้าใจในธรรมชาติของเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองได้ใช้รูปแบบที่เหมาะสม และมีศักยภาพสูงสุดในการเลี้ยงดู และพัฒนาลูกให้เป็นบุคคลที่ดีมีคุณภาพในสังคมต่อไป

ดร. อัญจลา จารุมิลินท ผู้อำนวยการ บริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด (MindMax) กล่าวเพิ่มเติมถึงเทคโนโลยี DMI ว่า เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อทำการเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือและนำมาประมวลผลเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลในระบบกว่า 7 ล้านตัวอย่างจากทั่วโลก ซึ่งได้มาจากข้อมูลส่วนกลางที่ถูกวิจัยร่วมกันอย่างเป็นระบบ โปรแกรมจะทำการประมวลผลในลักษณะเทียบเคียงกับรูปแบบการเรียนรู้ (Learning Style) และพหุปัญญาทั้ง 8 ของ Howard Gardner (Multiple Intelligence) โดยเหตุผลที่เลือกสแกนลายนิ้วมือ เพราะมีการพิสูจน์ว่าลายนิ้วมือมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสมอง และจะไม่เปลี่ยนแปลง ผลที่ได้จึงค่อนข้างแม่นยำ สรุปออกมาในรูปของรายงานซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของทางบริษัท MindMax จะทำการอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และแนะนำแนวทางการเลี้ยงลูกอย่างมีประสิทธิภาพตามธรรมชาติของเด็ก

มีใครเคยไปหรือพาลูกไปตรวจมาบ้างมั๊ยครับ
ผมไปตรวจมาแล้ว สนใจศาสตร์ด้านนี้มากๆ อยาก discuss ต่อ

[กุหลาบงามหลังฝน]

ไม่ใช่ดูลายมือนะครับ ตัวอย่างลายผิวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือลายนิ้วมือ แต่ในกรณีนี้จะดูลายผิวที่อยู่บนฝ่ายมือ (รวมถึงฝ่าเท้ากรณีที่เป็นคนตรวจเป็นเด็ก)
มีใครเคยไปหรือพาลูกไปตรวจมาบ้างมั๊ยครับ
ผมไปตรวจมาแล้ว สนใจศาสตร์ด้านนี้มากๆ อยาก discuss ต่อ

พี่yoyo ไปตรวจที่ไหนครับ ว่างๆจะได้ไปตรวจดูบ้าง  :D

[yoyo]

ผมไปตรวจมาของที่ p-pac เป็นบริษัทลูกของ cpall อีกที

ขั้นตอนคือ เค้าให้เรา scan นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว แล้วก็ทาหมึกทั้งฝ่ามือแล้วแปะไปบนกระดาษ.. หลังจากนั้นก็ส่งข้อมูลลายผิวของเราไปที่ไต้หวั่น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ก็ทำการนัดเข้าไปฟังผลโดยจะมีนักวิเคราะห์มานั่งอธิบายให้เราใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. ต่อคน

รายงานที่ได้มาจากไต้หวั่นก็จะเป็นภาษาอังกฤษประมาณเกือบๆ 20 หน้า

สิ่งที่เราดูจากได้ลายผิว แตกต่างจากการดูดวง นะครับ เพราะมันไม่สามารถบอกอนาคตได้ มันได้บอกว่าปีไหนจะเจอเนื้อคู่ ปีไหนลงทุนทำธุรกิจดี หรือจะเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ลายผิวสามารถบอกได้คือ ศักยภาพที่แต่ละคนมีแตกต่างกัน

ถ้าใครเคยได้อ่านหนังสือของ หนูดีมา อาจจะเคยได้ยินเรื่อง Multiple intelligence ของ ดร. โฮเวิร์ด การ์เนอร์มาบ้าง เค้าบอกว่าคนเรานั้นมีอัจรยะภาพที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เพียง IQ หรือ EQ เท่านั้น แต่สามารถแบ่งได้ทั้งหมด 8 แบบ (ของที่ผมไปตรวจนี่แบ่งออกมาเป็น 10 แบบ)

เค้าบอกว่าลายผิวของคนนั้นพัฒนาตั้งแต่เราอยู่ในท้องแม่ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว และยังไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต และไม่ซ้ำกับใครในโลก (จึงมีการเอาลายนิ้วมือมาใช้ในการระบุตัวคนได้)

ซึ่งหลังจากการเก็บข้อมูลมาเป็นเวลาหนึ่ง เค้าก็พบว่าลายผิวนั้นมีความสัมพันธ์กับสมอง และสามารถบอกได้ว่าใครเก่งด้านไหนอย่างไร เราก็สามารถที่จะกำหนดแนวทางการดำเนินชีวิตได้ง่ายขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่พยายามเคี่ยวเข็นลูกให้ไปเรียนดนตรี เรียนเท่าไหร่ก็ไม่พัฒนาเท่าที่ควร แต่หลังจากตรวจแล้วก็อาจจะเห็นว่า เด็กคนนี้ความสามารถด้านดนตรีนั้นอยู่ในลำดับท้าย ถ้าจะพัฒนาก็ต้องความพยายามที่สูงกว่าเด็กคนอื่น ในขณะที่ความสามารถด้านกีฬานั้นจัดได้ว่าเป็นเลิศ แบบนี้แทนที่พ่อแม่จะพาเด็กไปเรียนดนตรีก็เอาลูกไปเล่นกีฬาซะดีกว่ามั๊ย

หรือในตัวอย่างของคนที่โตมาหน่อย อาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำงานอะไร ถนัดทำงานแบบไหน ... ผลการวิเคราะห์ก็บอกออกมาว่าเรามี skill ไหนที่เด่น ที่ด้อย skill ไหนที่สามารถ master ได้โดยไม่ยากถ้าได้รับการกระตุ้นให้ถูกวิธี (ผลวิเคราะห์นั้นบอกถึงวิธีเรียนรู้ที่เหมาะกับคนแต่ละคนที่แตกต่างกันด้วย) และก็ประมวลผลออกมาเป็นกลุ่มอาชีพที่แนะนำ ใครจะรู้ล่ะ มันอาจจะเป็นงานที่ไมได้ตรงกับสายที่เราเรียนมาก็ได้ เราไม่เคยมีโอกาสได้ลอง แต่มันอาจจะเป็นงานที่เราทำได้ดีโดยที่เราไม่รู้ก็ได้

นอกจากจะบอกได้ว่าคนๆนั้นมีศักยภาพด้านไหน ยังบอกด้วยว่าคนๆนั้นมีแนวโน้มการใช้ชีวิต ความพึงพอใจในชีวิต ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไรได้ด้วย ซึ่งถ้าไปดูด้วยกันเป็นคู่ หรือพ่อแม่พาลูกไปดู ก็จะได้เข้าใจในตัวตนที่เป็นของแต่ละคน

ผมว่ามีประโยชน์มากเลย ค่าดูอาจจะแพงหน่อย ผมไปดู 7000 บาท เข้าใจว่ามีของบริษัท mind max อีกอันนึง ราคาก็ประมาณนี้เหมือนกัน ถ้าไปเทียบกับการดูหมอ ดูดวง มันก็ดูว่าแพง แต่ถ้าเทียบกับเป็นการลงทุนเพื่อเข้าใจความสามารถของตัวเอง ค้นพบความสามารถพิเศษที่ตัวเองไม่เคยได้มีโอกาสลอง มันก็คุ้มค่านะ .... มาโฆษณาไว้ก่อนตอนนี้อาจจะยังไม่มีใครไปดู แต่ถ้ามีแล้วลองมาคุยกัน ... พอดีผมสนใจในศาสตร์นี้มาก ถ้าเค้ามีให้ไปเรียนผมคงไป แต่ตอนนี้เท่าที่รู้ยังไม่มี เลยมาพาพวกเอาในนี้ก่อน เผื่อมีคนสนใจไปดูเพิ่มผมจะได้มีเพื่อนคุยต่อ  :lol:

[romee]

น่าสนใจอ่ะครับ แต่ยังแพงมากอยู่นะสิ  :oops:

ไว้เหลือต่ำกว่าห้าพัน อาจจะไปตรวจด้วยละครับ