สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
kongkang
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1084
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ว่าหากคนเป็น เป็นมาประมาณ 1 ปี ถ่ายแล้วมีเลือดไหลอย่างนี้ โอกาสรักษาหายมีมากแค่ไหน ต้องทำยังไงคือ ใช้ชีวิตยังไงถึงทำให้อาการดีขึ้น แล้วค่ารักษา หรือว่า รพ.ไหนที่พอแนะนำให้รักษาที่ไหนดีคะ คือน้องเขยเป็นโรคนี้ แต่เค้าอยู่อังกฤษ ถ้าจะกลับมารักษาที่เมืองไทยดีกว่ามั้ย คิดว่าค่ารักษาน่าจะถูกกว่าและการบริการคนไทยจะดีกว่า ขอความคิดเห็นคุณหมอหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

Re: สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 2

โพสต์

kongkang เขียน:ว่าหากคนเป็น เป็นมาประมาณ 1 ปี ถ่ายแล้วมีเลือดไหลอย่างนี้ โอกาสรักษาหายมีมากแค่ไหน ต้องทำยังไงคือ ใช้ชีวิตยังไงถึงทำให้อาการดีขึ้น แล้วค่ารักษา หรือว่า รพ.ไหนที่พอแนะนำให้รักษาที่ไหนดีคะ คือน้องเขยเป็นโรคนี้ แต่เค้าอยู่อังกฤษ ถ้าจะกลับมารักษาที่เมืองไทยดีกว่ามั้ย คิดว่าค่ารักษาน่าจะถูกกว่าและการบริการคนไทยจะดีกว่า ขอความคิดเห็นคุณหมอหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขึ้นกับระยะของโรค (stage) ครับ เพราะอาการอย่างเดียวอาจจะบอกอะไรไม่ได้มากนัก บางรายมีถ่ายปนเลือดมานานแต่เป็นแค่ระยะแรกก็ได้เพราะการถ่ายเป็นเลือดอาจเกิดจากตัวติ่งเนื้อ (polyp) ที่เป็นมานาน แต่เพิ่งกลายเป็นเนื้อร้ายในเวลาไม่นานนัก

ถ้าเป็นระยะแรก ๆ ผ่าได้แนะนำให้ผ่าตัดครับ จากนั้นก็มาดูว่ามีการกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงหรือไม่ ถ้ามีหลังผ่าตัดต้องตามด้วยยาเคมีบำบัด +/- ฉายแสง เพื่อกำจัดให้สิ้นซาก (เหมือนกำจัดต้นไม้ โค่นต้นไม้ ถอนรากถอนโคนยังไม่พอ ต้องเผาทำลายเมล็ดพันธุ์ที่อาจตกหล่นอยู่แถวโคนต้นด้วย)

การรักษาถ้ามีระบบประกันสุขภาพที่อังกฤษ (National Health Service) จะรักษาที่โน่นก็ได้ครับ ถ้าจะมารักษาเมืองไทย ก็ขึ้นกับว่ารักษาใน รพ.ของรัฐหรือเอกชน

ถ้าเอกชนก็แพงครับ หลักแสนเป็นอย่างต่ำ จะกี่แสนก็แล้วแต่ระดับของโรงพยาบาล

ถ้าอยากจะมารักษาที่ศิริราช รบกวนติดต่อหลังไมค์ครับ
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
kongkang
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1084
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 3

โพสต์

:bow: ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ  เดี๋ยวจะถามเขาก่อน ถ้ามารักษาที่เมืองไทยก็คงต้องรบกวนหมอเอ็มด้วยค่ะ ถ้ารักษาที่ศิริราชนี่ค่ารักษาประมาณเท่าไรคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
baby-investor
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอถามคุณหมอเพิ่มเติมด้วยคนนะครับว่าถ้าท้องเสียบ่อยๆ (เป็นเกือบทุกวัน บางวันกินอาหารไม่เผ็ดก็ยังเป็น) จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือเปล่าครับ แล้วเราจะมีวิธีทางแก้ให้หายขาดได้หรือไม่ อย่างไรครับ ตอนนี้ผมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยทานน้ำผึ้ง หรือน้ำชา หรือน้ำขิง แต่ก็แก้ได้เฉพาะวันนั้นนั้น อีกวันสองวันก็เป็นอีก
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 5

โพสต์

พี่หลินครับ รักษากับหมอเอ็มแล้ว อย่าลืมส่งตัวไปรักษาใจกับหมอแถวห้วยขวางด้วยนะครับ หมอพอใจ อ่ะครับ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
ภาพประจำตัวสมาชิก
gradius173
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 6

โพสต์

baby-investor เขียน:ขอถามคุณหมอเพิ่มเติมด้วยคนนะครับว่าถ้าท้องเสียบ่อยๆ (เป็นเกือบทุกวัน บางวันกินอาหารไม่เผ็ดก็ยังเป็น) จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือเปล่าครับ แล้วเราจะมีวิธีทางแก้ให้หายขาดได้หรือไม่ อย่างไรครับ ตอนนี้ผมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยทานน้ำผึ้ง หรือน้ำชา หรือน้ำขิง แต่ก็แก้ได้เฉพาะวันนั้นนั้น อีกวันสองวันก็เป็นอีก

ผมคิดว่าน่าจะเป็นIBS(Irritative bowel syndrome)มากกว่า
อย่างไรก็ดีผมว่าลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่าครับ
โรคนี้ต้องตรวจแยกโรคอื่นออกให้หมดก่อน

ลำไส้แปรปรวน

โรคลำไส้แปรปรวน หรือ โรคไอบีเอส (irritable bowel syndrome; IBS) เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไส้ โดยที่ไม่พบความผิดปกติอะไรที่โครงสร้างของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร และไม่มีพยาธิสภาพอื่นใด ก่อนหน้านี้เคยเชื่อว่าโรคนี้เกิดจากภาวะทางจิตใจ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ใหญ่หนึ่งในห้าคนเป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงแต่อย่างใด น้อยรายที่อาการรุนแรงมากหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน แตกต่างจากโรคลำไส้อักเสบที่มักพบว่าเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้บ่อย พบว่าผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุน้อย หลายคนมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเช่นกัน

สาเหตุของโรค

ในปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอน จัดว่าเป็นโรคในกลุ่มการทำหน้าที่ผิดปกติชนิดหนึ่ง หมายความถึงโรคที่ไม่พบความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด หรือการตรวจเพิ่มเติมเพื่อสืบค้นหาสาเหตุ ไม่พบว่ามีการอักเสบและไม่พบว่าเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งแต่อย่างใด อาการต่างๆของโรคนี้เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังลำไส้

จากหลักฐานที่มีอยู่เชื่อว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคไอบีเอส ซึ่ง 3 ปัจจัยที่สำคัญได้แก่

1.การบีบตัวหรือการเคลื่อนตัวของลำไส้ผิดปกติ โดยปกติผนังของลำไส้จะประกอบด้วยชั้นกล้ามเนื้อเรียบที่สามารถหด-ขยายได้ ทำให้เกิดการบีบรัดตัวของลำไส้ กรณีที่การบีบรัดตัวของลำไส้รุนแรงและนานกว่าปกติจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เรอ ท้องเสีย ในบางรายการบีบรัดตัวของลำไส้น้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการท้องผูก
2.ระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า หรือตัวกระตุ้นมากผิดปกติ ผลการศึกษาวิจัยพบว่าโรคลำไส้แปรปรวนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้ อาจมีผลมาจากระบบประสาทส่วนกลางได้เช่นกัน
3.ความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ก็มีส่วนหนุนเสริมทำให้อาการของโรคกำเริบ
อาการของโรค

อาการที่พบ ผู้ป่วยมักทรมานจากอาการปวดท้องซึ่งเมื่อได้ถ่ายอุจจาระจะรู้สึกหายปวดและสบายขึ้น ส่วนใหญ่มักปวดที่ท้องน้อย ลักษณะปวดเกร็ง หลายคนสังเกตพบว่าอาการปวดจะดีขึ้นหลังถ่ายอุจจาระ อาการปวดท้องแต่ละครั้งรุนแรงไม่เท่ากัน บางครั้งปวดมาก บางครั้งปวดน้อย ร่วมกับการมีการขับถ่ายที่ผิดปกติ เช่นท้องผูกหรือท้องเสีย หรืออย่างใดอย่างหนึ่งสลับกัน โดยแต่ละรายจะมีอาการหนึ่งอาการใดเด่นกว่าอีกอาการหนึ่ง


ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าถ่ายอุจจาระไม่ค่อยสุด หรือมีมูกปนออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ ลักษณะอุจจาระจะเปลี่ยนไปเป็นก้อนแข็งหรือเหลวจนเป็นน้ำ ถ่ายเป็นมูกปนอุจจาระมากขึ้น หลายคนอาจมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ผู้ป่วยจะมีอาการท้องอืด มีลมมากในท้อง เรอบ่อยๆ เวลาถ่ายอุจจาระมักมีลมออกมาด้วย ซึ่งล้วนเป็นอาการที่สำคัญของโรคไอบีเอสทั้งสิ้น อาการต่างๆ เหล่านี้มักเป็นนานเกิน 3 เดือน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักมีประวัติเป็นมานานหลายปี

โรคลำไส้ทำงานแปรปรวนจะเป็นโรคเรื้อรังอาจเป็นปี ๆ หรืออาจเป็นตลอดชีวิต เป็นโรคที่ไม่ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม แม้จะเป็นมาหลาย ๆ ปี และไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เป็นโรคที่สร้างความรำคาญ ผู้ป่วยจะวิตกกังวลมากกว่าทำไมโรคไม่หายเสียทีแม้ได้รับยารักษาแล้วก็ตาม

โรคนี้ถือว่าเป็นโรคลำไส้ที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก อาจไม่เคยไปพบแพทย์เลยด้วยซ้ำ แต่ในบางรายก็จะมีอาการที่รุนแรงขึ้นจนเป็นปัญหาได้เช่นกัน พึงระลึกไว้เสมอว่าโรคไอบีเอสไม่ใช่โรคมะเร็งและจะไม่กลายเป็นมะเร็ง แม้จะมีประวัติเป็นๆ หาย ๆ มานาน ยิ่งผู้ป่วยมีอาการมานานเป็นปี ๆ โอกาสเป็นโรคมะเร็งยิ่งน้อยมาก และโรคนี้ไม่เป็นสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งไม่ค่อยพบในคนไทย แต่พบได้บ่อยและเป็นปัญหาสำคัญของชาวตะวันตก
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมเห็นกระทู้นี้คุณหมอตอบเยอะ
ขอรบกวนถามด้วยคนนะคับ

การทานปลาแซลมอลดิบบ่อยๆ จะเป็นอันตรายไหมครับ ?
เพราะผมเคยเรียนว่าการทานของดิบจะืำทำให้มีพยาธิได้
ไม่ทราบว่าในปลาแซลมอล ปลาโอ ปลาซะบะที่เป็นแบบดิบจะมีด้วยหรือเปล่าครับ
ผมกลัวเป็นโรคพยาธิ หรือ โรคตับน่ะคับ
:roll:

ขอบคุณมากครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
baby-investor
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 8

โพสต์

gradius173 เขียน:
ผมคิดว่าน่าจะเป็นIBS(Irritative bowel syndrome)มากกว่า
อย่างไรก็ดีผมว่าลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่าครับ
โรคนี้ต้องตรวจแยกโรคอื่นออกให้หมดก่อน

ลำไส้แปรปรวน

โรคลำไส้แปรปรวน หรือ โรคไอบีเอส (irritable bowel syndrome; IBS) เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไส้ โดยที่ไม่พบความผิดปกติอะไรที่โครงสร้างของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร และไม่มีพยาธิสภาพอื่นใด ก่อนหน้านี้เคยเชื่อว่าโรคนี้เกิดจากภาวะทางจิตใจ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ใหญ่หนึ่งในห้าคนเป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงแต่อย่างใด น้อยรายที่อาการรุนแรงมากหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน แตกต่างจากโรคลำไส้อักเสบที่มักพบว่าเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้บ่อย พบว่าผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุน้อย หลายคนมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเช่นกัน

สาเหตุของโรค

ในปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอน จัดว่าเป็นโรคในกลุ่มการทำหน้าที่ผิดปกติชนิดหนึ่ง หมายความถึงโรคที่ไม่พบความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด หรือการตรวจเพิ่มเติมเพื่อสืบค้นหาสาเหตุ ไม่พบว่ามีการอักเสบและไม่พบว่าเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งแต่อย่างใด อาการต่างๆของโรคนี้เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังลำไส้

จากหลักฐานที่มีอยู่เชื่อว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคไอบีเอส ซึ่ง 3 ปัจจัยที่สำคัญได้แก่

1.การบีบตัวหรือการเคลื่อนตัวของลำไส้ผิดปกติ โดยปกติผนังของลำไส้จะประกอบด้วยชั้นกล้ามเนื้อเรียบที่สามารถหด-ขยายได้ ทำให้เกิดการบีบรัดตัวของลำไส้ กรณีที่การบีบรัดตัวของลำไส้รุนแรงและนานกว่าปกติจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เรอ ท้องเสีย ในบางรายการบีบรัดตัวของลำไส้น้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการท้องผูก
2.ระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า หรือตัวกระตุ้นมากผิดปกติ ผลการศึกษาวิจัยพบว่าโรคลำไส้แปรปรวนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้ อาจมีผลมาจากระบบประสาทส่วนกลางได้เช่นกัน
3.ความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ก็มีส่วนหนุนเสริมทำให้อาการของโรคกำเริบ
อาการของโรค

อาการที่พบ ผู้ป่วยมักทรมานจากอาการปวดท้องซึ่งเมื่อได้ถ่ายอุจจาระจะรู้สึกหายปวดและสบายขึ้น ส่วนใหญ่มักปวดที่ท้องน้อย ลักษณะปวดเกร็ง หลายคนสังเกตพบว่าอาการปวดจะดีขึ้นหลังถ่ายอุจจาระ อาการปวดท้องแต่ละครั้งรุนแรงไม่เท่ากัน บางครั้งปวดมาก บางครั้งปวดน้อย ร่วมกับการมีการขับถ่ายที่ผิดปกติ เช่นท้องผูกหรือท้องเสีย หรืออย่างใดอย่างหนึ่งสลับกัน โดยแต่ละรายจะมีอาการหนึ่งอาการใดเด่นกว่าอีกอาการหนึ่ง


ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าถ่ายอุจจาระไม่ค่อยสุด หรือมีมูกปนออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ ลักษณะอุจจาระจะเปลี่ยนไปเป็นก้อนแข็งหรือเหลวจนเป็นน้ำ ถ่ายเป็นมูกปนอุจจาระมากขึ้น หลายคนอาจมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ผู้ป่วยจะมีอาการท้องอืด มีลมมากในท้อง เรอบ่อยๆ เวลาถ่ายอุจจาระมักมีลมออกมาด้วย ซึ่งล้วนเป็นอาการที่สำคัญของโรคไอบีเอสทั้งสิ้น อาการต่างๆ เหล่านี้มักเป็นนานเกิน 3 เดือน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักมีประวัติเป็นมานานหลายปี

โรคลำไส้ทำงานแปรปรวนจะเป็นโรคเรื้อรังอาจเป็นปี ๆ หรืออาจเป็นตลอดชีวิต เป็นโรคที่ไม่ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม แม้จะเป็นมาหลาย ๆ ปี และไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เป็นโรคที่สร้างความรำคาญ ผู้ป่วยจะวิตกกังวลมากกว่าทำไมโรคไม่หายเสียทีแม้ได้รับยารักษาแล้วก็ตาม

โรคนี้ถือว่าเป็นโรคลำไส้ที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก อาจไม่เคยไปพบแพทย์เลยด้วยซ้ำ แต่ในบางรายก็จะมีอาการที่รุนแรงขึ้นจนเป็นปัญหาได้เช่นกัน พึงระลึกไว้เสมอว่าโรคไอบีเอสไม่ใช่โรคมะเร็งและจะไม่กลายเป็นมะเร็ง แม้จะมีประวัติเป็นๆ หาย ๆ มานาน ยิ่งผู้ป่วยมีอาการมานานเป็นปี ๆ โอกาสเป็นโรคมะเร็งยิ่งน้อยมาก และโรคนี้ไม่เป็นสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งไม่ค่อยพบในคนไทย แต่พบได้บ่อยและเป็นปัญหาสำคัญของชาวตะวันตก
ขอบคุณครับ
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 9

โพสต์

kornjackrit เขียน:ผมเห็นกระทู้นี้คุณหมอตอบเยอะ
ขอรบกวนถามด้วยคนนะคับ

การทานปลาแซลมอลดิบบ่อยๆ จะเป็นอันตรายไหมครับ ?
เพราะผมเคยเรียนว่าการทานของดิบจะืำทำให้มีพยาธิได้
ไม่ทราบว่าในปลาแซลมอล ปลาโอ ปลาซะบะที่เป็นแบบดิบจะมีด้วยหรือเปล่าครับ
ผมกลัวเป็นโรคพยาธิ หรือ โรคตับน่ะคับ
:roll:

ขอบคุณมากครับ
เท่าที่ทราบ ผมยังไม่เคยได้ยินรายงานพยาธิของไทยที่มาจากปลาแซลมอนครับ สำหรับพยาธิในปลาดิบที่พบบ่อย เป็นปลาน้ำจืดบ้านเรา เช่นปลาที่มาทำปลาร้า ปลาส้ม มากกว่า พวกนี้ทำให้เกิดพยาธิใบไม้ในตับ และพยาธิตัวจี๊ด เป็นหลัก

ส่วนพยาธิที่พบในปลาดิบ เช่นแซลมอน ของประเทศตะวันตก (เท่าที่รู้ ยังไม่มีรายงานในเมืองไทยจริง ๆ) 2 ชนิด ได้แก่ Diphyllobothrium (ไดฟิลโลโบเทรียม) กับ Anisakis (แอนิซาคิส) ครับ เข้าใจว่าปลาอื่นที่ว่ามา ก็มีโอกาสติดพยาธิสองตัวนี้ได้เหมือนกัน

พยาธิตัวแรก เป็นพยาธิตัวตืด (tape worm) ครับ มียากินรักษาได้
พยาธิตัวที่สอง เป็นพยาธิตัวกลม (round worm) และไม่มียารักษาครับ
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับมุะเร็งลำไส้ใหญ่

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มีคนใจดีเยอะเลยนะครับเนี่ย ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับผม
(ว่าจะเข้ามาตอบซะหน่อย :lol: )
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
โพสต์โพสต์