คุณ คัดท้าย ครับ ช่วยดู ความน่าจะเป็น ของ SET ด้วยครับ

อังคาร มี.ค. 30, 2004 5:33 pm

ขอบคุณครับ

อังคาร มี.ค. 30, 2004 6:08 pm

ผมไม่เก่งขนาดจะดูได้หรอกครับ พูดไปตามที่เทคนิคมันบอก ก็พอได้ครับ

ถ้าดูคู่กับ อีเลียตเวฟ SET อยู่ใน Wave4 ถ้ามองในกราฟ Week Pattern หัวไหล่ แนวรับ 620 ถ้ามองในกรณีเลวร้ายก็ 600 ซึ่งไม่น่าจะแย่กว่านี้ (แต่ผมแช่งอยู่ เพราะอยากได้หุ้นดีราคาถูกๆ)

แต่ถ้ามองแบบโรคจิต มองหัวไหล่ในกราฟ Day ก็อาจไป 500-550 แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นนะครับ เพราะสัญญาณประกอบของ pattern มันไม่ครบ

ตอนนี้ SET อยู่บนแนวรับย่อย 650 (ไม่จำเป็นต้องเปะๆในความคิดของผม) ผมมองว่าเป็นแนวที่คง Sideway อยู่ตรงนี้ซักพัก เพราะเป็นแนวที่เหมาะกับการทำให้คนติดหุ้นครับ คนเวลาเจอแนว 650 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มซื้อ กับกลุ่มขาย ถ้ารายย่อยซื้อตรงนี้มากๆ ก็เตรียมใจเจอ การลงอีกระลอกได้ครับ

ถ้าผมเป็นหรั่ง .... ผมจะทำท่าเหมือนจะเอาขึ้นที่แนวนี้ ถ้าคนตามก็เสร็จผม ถ้าคนไม่ตาม ผมจะลากจนกว่าจะตาม แต่ถ้าไม่ตามอีก ผมก็ลากยาวขึ้น Wave 5 ไปเลย อิอิ อันนี้ก็เป็นแนวคิดของผมนะครับ อย่าถือเป็นจริงจังนะ
(ไม่เชื่อดูดิ วันนี้ฝรั่งซื้อ พันกว่าล้าน และถ้าใครดูเทคนิคเป็นก็จะเห็นสัญญาณ Divergence)

แต่ทั้งนี้ ผมกลัวเรื่องเดียว ที่ยังไม่อยากมีหุ้นติดพอร์ตตอนนี้ คือ เรื่องภาคใต้ครับ บอกตามตรง เรื่องนี้รุนแรงนะครับ ถ้าสมมุติ สมมุตินะครับ มีตูมนึงแรงๆที่ รร.ซํกที่ในหาดใหญ่ ...

การท่องเที่ยว จะเป็นยังไง ? ----> GDP จะเป็นยังไง ? ----> ตลาดหุ้นจะเป็นยังไง ?? สงสัยได้เห็นกราฟแบบโรคจิต

เรื่องอื่นผมไม่ค่อยกลัว แต่เรื่องภาคใต้นี้อยากให้จบเร็วที่สุดครับ

ผมซื้อเมื่อกลับตัวครับ ตอนนี้ก็เลือกหุ้นที่ผมคิดว่าดี อยากได้อยู่ แล้วก็แช่งให้มันลงทุกวัน

จริงๆ ตอนนี้ ผมอยากให้เปิดประเด็นว่า "เศรษฐกิจไทย กำลังจะดีจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ครับ

อังคาร มี.ค. 30, 2004 7:18 pm

ขอบคุณสำหรับมุมมองอย่างละเอียดครับ

ผมเองก็หวั่น เรื่องภาคใต้ครับ

ช่วงนี้ ก็ ไม่ค่อยกล้าซื้อ มาก แม้ จะมองว่า ค่อนข้างต่ำ เพราะเกรงว่า เงินจะหมดเมื่อมีต่ำกว่าครับ

อังคาร มี.ค. 30, 2004 8:06 pm

เริ่มแล้วครับ สิ่งที่ผมกลัว ภาวนาให้ภาคใต้จบได้อย่างสวยงามและสงบด้วยเถอะครับ ไม่งั้นระยะยาวคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงซิครับ นี่ขนาดเล็กๆนะ

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews ... 0000052838

สื่อมาเลย์ลงข่าวหน้า1บึ้มโก-ลกยอดนักท่องเที่ยวมาเลย์ลดฮวบ

รูปภาพ

ปัตตานี กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยยอดนักท่องเที่ยวมาเลย์ลดเหลือ 2 พันจาก3 หมื่นช่วงสงกรานต์ 3จ.ชายแดนจากเหตุระเบิดสุไหงโกลก ซ้ำสื่อมาเลย์ลงข่าวต่อเนื่องขึ้นหน้าหนึ่งเบียดข่าวเลือกนายกมาเลย์วอนนายกฯส่งรมต.ท่องเที่ยว ททท.ลงพื้นที่ ช่วย 23 บ.ทัวร์ไทย เห็นด้วยระงับงบ เพราะตั้งงบท่องเที่ยวไม่โดนใจคนพื้นที่ เสนอทำโพลสำรวจเรื่องแบ่งแยกดินแดน ยุติการพูดเพราะคนมาเลย์ยังตลกกับเรื่องนี้

นายอับดุลอายิ อาแวสือแม กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากเหตุลอบวางระเบิดที่อ.สุไหงโกลก ปรากฏว่าตั้งแต่เกิดเหตุถึงขณะนี้สื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ของประเทศมาเลเซีย ได้ลงข่าวติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญในเหตุการณ์ของชายแดนภาคใต้ของไทย มากกว่าข่าวในมาเลเซีย โดย ข่าวระเบิดที่อ.สุไหงโกลก จะขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ แซงหน้าข่าวการเมืองมาเลเซีย ทั้งที่อยู่ในระหว่างเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ในเนื้อข่าว ซึ่งมีการลงบทสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ถูกระเบิด
ก็ได้กล่าวย้ำว่า ชีวิตนี้จะไม่เดินทางมายังประเทศไทยอีกต่อไป ในวันนี้ตนได้นำหนังสือพิมพ์ของมาเลเซีย มาเผยแพร่ให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรีซึ่งลงพื้นที่จ.ปัตตานีร่วมประชุมกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และองค์กรปกครองท้องถิ่นได้รับทราบ ว่าขณะนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โดยปกติจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 1.2 ล้านคนต่อปี โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวประมาณ 30,000 คนแต่จากเหตุการณ์ระเบิด และการลงข่าวดังกล่าว คาดว่าในช่วงท่องเที่ยวเดือนเม.ย.ปีนี้ จะเหลือนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงประมาณ 2,000 คนเท่านั้น

ต่อข้อถามที่ว่าขณะนี้มีการยกเลิกกรุ๊ปทัวร์ การจองห้องพักในพื้นที่หรือไม่อย่างไร นายอับดุลอายิ กล่าว่า ไม่มีการยกเลิก เพราะนักท่องเที่ยวมาเลเซียไม่ได้มีการจองทัวร์ ห้องพักเข้ามาเลยในปีนี้ บริษัททัวร์ 23 แห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดจึงเดือดร้อนอย่างหนัก จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้ส่งรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือโดยเร็ว

"ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์โรคซาร์ส หรือโครงการท่องเที่ยวต่างๆเช่น อะเมซิ่งไทยแลนด์ อันซีนไทยแลนด์ เป็นต้น แต่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มักจะไม่เคยได้รับการมีส่วนร่วม หรือการช่วยเหลือเหมือนจังหวัดอื่น หรือจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย แต่สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุของพื้นที่โดยตรง จึงควรที่จะมีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงลงพื้นที่รับทราบปัญหาและให้ความช่วยเหลือ"

กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่ จากการที่ นายกรัฐมนตรีระงับการเดินทางไปต่างประเทศเพื่ออยู่แก้ปัญหาชายแดนใต้นั้นถือเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว แต่การบริหารนโยบายแก้ปัญหายังไม่ตรงจุด เช่น เรื่องการแบ่งแยกดินแดนนั้นไม่ควรจะมีการพูดถึงแล้ว เพราะคนในพื้นที่รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ หรือแม้แต่ชาวมาเลเซียก็ยังรู้เขาบอกว่าเป็นเรื่องตลก

ดังนั้นหากนายกรัฐมนตรียังไม่มั่นใจเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ตนขอเสนอให้มีการทำโพลสำรวจคนในพื้นที่ว่าคิดเห็นอย่างไร หรือมีใครที่อยากแบ่งแยกดินแดน เพื่อว่าจะได้ไม่เป็นการตอกย้ำคนในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านนั้นใจครึ่งหนึ่งหวาดกลัวโจร แต่ใจอีกครึ่งหนึ่งก็กลัวเจ้าหน้าที่รัฐ นายกฯจึงควรที่จะซื้อใจชาวบ้านให้ได้ เพื่อง่ายต่อการแก้ปัญหาที่แท้จริง

ส่วนการระงับงบหมื่นล้านพัฒนาชายแดนใต้นั้น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.นราธิวาส กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะในงบเดิมที่ตั้งไว้ยังไม่ตรงใจชาวบ้าน โดยเฉพาะในด้านพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น ตั้งงบไว้ 36 ล้านบาท เพื่อนำแม่บ้านในพื้นที่ไปท่องเที่ยว ซึ่งถามว่าเป็นความต้องการจริงหรือ ตนก็ได้ทักท้วงไปแล้ว สิ่งที่คนพื้นที่ต้องการจริงๆด้านการท่องเที่ยว เช่น การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวริม 2 ฝั่งไทย-มาเลย์ ฝั่งแม่น้ำสายบุรี ซึ่งไหลผ่านทั้งมาเลย์และชายแดนใต้ของไทย จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า

อังคาร มี.ค. 30, 2004 8:23 pm

ขอบคุณอีกครั้งครับ คุณคัดท้าย

ช่วงนี้ ความวุ่นวาย ภายในประเทศ ก็มาก อีกทั้ง การก่อการร้าย ในต่างประเทศ ก็ไม่น่าวางใจเลยครับ

8 · อังคาร มี.ค. 30, 2004 9:51 pm

เรื่องภาคใต้ถ้าการเจรจาทางลับกับหัวขบวนได้ อย่างที่กำลังทำกันอยู่ขณะนี้และการเข้าไปทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆให้ดีโดยสันติวิธีเหมือนกับที่เราเคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีตน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้เพราะที่ผ่านมาคนที่มาจากภาครัฐที่ลงพื้นที่ไม่เข้าใจและสร้างแรงกดดันในกับผู้คนในพื้นที่มากจะเห็นได้จากมีข่าวออกมาว่ามีการอุ้มกันอยู่บ่อยๆ คนพื้นที่ถึงไม่ให้ความร่วมมือในเวลาที่ผ่านมา งานนี้ต้องดูว่าจะมีฝีมือกันแค่ไหน ถ้าทำได้ความสงบก็จะกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าสังเกตุให้ดีการก่อการที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในวงจำกัดต่อบุคคลบางกลุ่มเป็นหลัก เพิ่งมีครั้งล่าสุดที่ใช้ต่อฝูงชนแต่วัตถุระเบิดที่ใช้ยังไม่มีความรุนแรงแบบประสงค์ต่อชีวิตของคนหมู่มาก ไม่เช่นนั้นคนที่อยู่ใกล้กับการระเบิดคงไม่ใช่แค่บาดเจ็บเท่านั้นแน่ คนทำมีเจตนาทำให้เกิดความหวาดกลัวและสร้างแรงกดดันต่อภาครัฐเท่านั้น ผมว่าขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลรู้ว่าอะไรเป้นอะไรแล้วล่ะครับไม่เหมือนเมื่อตอนแรกๆที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรู้สึกตอนนั้นออกทะเลไปเยอะตอนนี้มาถูกทางแล้วครับแต่ไม่รู้เหมือนกันครับว่าจะทำได้แค่ไหน