เลย นำมาให้อ่านกัน
ตอนแรกว่าจะตั้งชื่อเรื่อง "คนไทยเสียท่า ..นักลงทุนต่างชาติอีกแล้ว" หรือ "นักลงทุนไทยเสียท่า ..นักลงทุนต่างชาติอีกแล้ว" มันไม่ค่อยเข้ากับข้อมูลที่นำเสนอ ความเสียหายทางเศรษฐกิจของโลกทุนนิยม รวมทั้งประเทศไทย มีจุดหลักอยู่ที่ตลาดหุ้น และความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับนักลงทุนเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ อย่างมีนัยสำคัญ หรือส่งผลกระทบต่อคนไทยทุกคน
หนักขึ้นตลอดเวลา
จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง "คนไทยเสียท่า ..นักลงทุนต่างชาติตลอดกาล"
โดยใช้คำว่า "คนไทย" แทนคำว่า "นักลงทุน" และคำว่า "ตลอดกาล" แทนคำว่า "อีกแล้ว"
สำหรับท่านที่ติดตามบทความของผู้เขียน ..ที่ผู้เขียนนำเสนอซ้ำแล้วซ้ำอีก
การพังทลายของตลาดหุ้น ทำให้สภาพคล่องของระบบเสีย
หาย ทำให้ค่าเงินเสียหาย ทำให้ความเชื่อมั่นของประเทศ
เสียหาย ฯลฯ
"สภาพคล่องของระบบเสียหาย" ..ทำให้สถาบันการเงิน และภาคการผลิตจริงล้ม(ทั้งประเทศ)
"ค่าเงินเสียหาย" ทำให้ต้องใช้เงินซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น เช่น ราคารถยนต์คันละ 5 แสนบาท ก็เพิ่มมาเป็นคันละ 1 ล้านบาท ราคาน้ำมันเบนซินลิตรละ 10 บาท ก็เพิ่มมาเป็นลิตรละ 20 - 30 บาท ค่ารถเมล์เพิ่มจาก 3 บาท มาเป็น 7 - 8 บาท
"รายจ่าย" เพิ่มเป็นตราส่วนมากกว่า "รายรับ"
"ความเชื่อมั่นของประเทศเสียหาย" ทำให้เกิดหนี้เสีย และเกิดหนี้สาธารณะมากขึ้น ประเทศที่มีหนี้มาก ความเชื่อมั่นก็เสียหาย
ข้อมูลต่อไปนี้ แสดงให้เห็นว่า ในตลาดหุ้น ทำให้ "คนไทยเสียท่า ..นักลงทุนต่างชาติตลอดกาล"
นักลงทุนไทยมีไม่ถึง 1 ล้านคน ตลาดหุ้นไม่ได้ทำให้คนเล่นหุ้น
1 ล้านคน ขาดทุนเท่านั้น แต่ทำให้คนไทยทั้ง 65 ล้านคน
และประเทศไทยเสียหายทั้งหมด ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
1) การเสียท่าของคนไทยเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2007 โดยต่างชาติเป็นคนขายหุ้นราคาสูงๆให้คนไทย คนไทยไม่ทราบ ไปรับซื้อราคาหุ้นราคาสูงๆจากต่างชาติ ก็ขาดทุน
ตลาดหุ้นตกลง ทำสภาพคล่องเสียหาย กำลังซื้อลด ภาคการผลิตจริงต้องลดกำลังการผลิต และปลดคนงาน
2) การเสียท่าล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2008 โดยที่ต่างชาติกลับเข้ามาเก็บสะสมหุ้นรอบใหม่ โดยคนไทยไม่ทราบอีกเช่นกัน คนไทยขายหุ้นราคาต่ำกๆให้ต่างชาติ กล่าวได้ว่าคนไทยขาดทุนอีก คนไทยติดหุ้นราคาสูง ขายหุ้นแบบขาดทุนให้ต่างชาติ
On Balance Volume (OBV) คือเครื่องชี้บอก (Indicator) ว่า มีการสะสมหุ้น หรือใครขายหุ้นมีการขายหุ้นออก
Relative Strength Index (RSI) เป็น Indicator ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของดัชนี ถ้าดัชนีอ่อนแอ RSI จะต่ำลง ถ้าดัชนีแข็งแกร่ง RSI จะสูงขึ้น
ดู OBV และ RSI จากกราฟต่อไปนี้

1) SET Index พัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
OBV แสดงให้เห็นว่ามีการสะสมหุ้นตั้งแต่ปลายปี 2008 (A-B)
Relative Strength Index (RSI) ระยะใกล้ๆ แข็งขึ้นมาสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม อ่อนตัวสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม และ rebound ขึ้นอีกครั้งในต้นเดือนมิถุนายน
