ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
- Toh
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
โพสต์ที่ 1
คือ สมมุติว่า ผม มีบริษัท มีสินค้าที่ผลิต มี know-how ทางด้้านการออกแบบการผลิต
แต่ ขาดเงินทุน ที่สร้างแบบธุรกิจจริงๆ ขาดวิสัยทัศน์ของนักบริหาร นักธุรกิจตัวจริง
คือ ถ้าอยากหา หรือหาผู้ร่วมทุนที่มี เงินทุน มี คอนเน็คชั่น มีประสบการณ์ในการบริหารงาน มีวิสัยทัศน์ เพื่อมาชดเชย ส่วนที่ บริษัทผม ขายหายไป และเพื่อให้ บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไม่ทราบว่า แบบนี้ พอจะมีโอกาสเป้นไปได้มั๊ยครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
แต่ ขาดเงินทุน ที่สร้างแบบธุรกิจจริงๆ ขาดวิสัยทัศน์ของนักบริหาร นักธุรกิจตัวจริง
คือ ถ้าอยากหา หรือหาผู้ร่วมทุนที่มี เงินทุน มี คอนเน็คชั่น มีประสบการณ์ในการบริหารงาน มีวิสัยทัศน์ เพื่อมาชดเชย ส่วนที่ บริษัทผม ขายหายไป และเพื่อให้ บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไม่ทราบว่า แบบนี้ พอจะมีโอกาสเป้นไปได้มั๊ยครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
we need to be a little bit better today than we were yesterday.
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
โพสต์ที่ 2
เป็นเจ้าของบริษัทเองใช่ไหมครับ และเป็นบริษัทที่ผลิตเองด้วยหรือเปล่า หรือว่าออกแบบเองคือ สมมุติว่า ผม มีบริษัท มีสินค้าที่ผลิต มี know-how ทางด้้านการออกแบบการผลิต
ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหม ก็เป็นไปได้ ถ้าคุณ Toh มีสินค้าที่ตลาดต้องการจริงๆ และก็มีคนอื่นที่มองเห็นแบบคุณ เขาก็อาจจะร่วมลงทุนด้วยครับ ถ้าเขาไม่มีความสามารถแบบคุณ ในการผลิตหรือการออกแบบครับแต่ ขาดเงินทุน ที่สร้างแบบธุรกิจจริงๆ ขาดวิสัยทัศน์ของนักบริหาร นักธุรกิจตัวจริง
คือ ถ้าอยากหา หรือหาผู้ร่วมทุนที่มี เงินทุน มี คอนเน็คชั่น มีประสบการณ์ในการบริหารงาน มีวิสัยทัศน์ เพื่อมาชดเชย ส่วนที่ บริษัทผม ขายหายไป และเพื่อให้ บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไม่ทราบว่า แบบนี้ พอจะมีโอกาสเป้นไปได้มั๊ยครับ
แต่หลังจากร่วมทุนไปแล้ว ก็คงต้องระวังเรื่องส่วนแบ่ง และเรื่อง know-how ของคุณ Toh อีก ถ้า know-how จด patent ได้ก็น่าจะไปจดก่อนนะครับ ไม่งั้นทำๆ ไป หุ้นส่วนขโมย know-how ไปตั้งบริษัทเอง ยุ่งเลย
และก็มีอีกหลายๆ ทางเลือกนะครับ เช่นการกู้เงินทุน และ จ้างผู้บริหารหรือที่ปรึกษา ที่มีประสพการณ์มาช่วยเรา หรือ ขอเข้าร่วมโครงการ Venture Capital ของ สนง.ส่งเสริม SME
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
- Toh
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
โพสต์ที่ 3
ครับ เป็นเจ้าของเอง ออกแบบเอง ผลิตเอง ขายเองเป็นเจ้าของบริษัทเองใช่ไหมครับ และเป็นบริษัทที่ผลิตเองด้วยหรือเปล่า หรือว่าออกแบบเอง
แต่หลังจากร่วมทุนไปแล้ว
we need to be a little bit better today than we were yesterday.
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
โพสต์ที่ 5
ขอแนะนำ อย่าเพิ่งกู้ :oops:
พยายามใช้เงินตัวเองไปก่อน
หริอหยิบยืมพอประมาณจากญาติพี่น้อง
ธุรกิจใหม่ นักลงทุนหน้าใหม่
ยากมากที่ใครจะมาปล่อยกู้ ยิ่งสถาบันการเงินแล้วล่ะก้อ ยากส์
จะมาประเภทแปลงปัญญาเป็นทุน หรือทรัพย์สินเป็นทุนนะเหรอ
สำหรับบ้านเรา ยิ่งกว่า ชาติหน้าตอนบ่ายๆเสียอีก
(รู้มั้ยวลีนี้มาจากที่ไหน )
ธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่หัวใจเต็มร้อยอย่างคุณ Toh
ควรพยายามดิ้นรนสร้างฐานธุรกิจด้วยตัวเอง
สร้างความแตกต่างของสินค้า/บริการ
แล้วหาวิถีทางออกสู่ตลาดเอง
ไม่ทราบเป็นสินค้าประเภทไหน
จำเป็นต้องใช้ตัวแทนจัดจำหน่ายหรือไม่
หรือใช้ช่องทางไหนขายของ
จะได้แนะนำถูก
เมื่อสร้างฐานระดับหนึ่งจนตั้งตัวได้
เมื่อนั้นอาจจะขยับขยาย
ถึงตอนนี้ค่อยมองแหล่งเงินทุนอื่นๆต่อไป
เพราะค่อยมีเรื่องราวที่พูดแล้วเห็นอนาคตหน่อย
ไม่ทราบคุณ Toh อยู่ในธุรกิจสายการผลิตหรือบริการ
เพราะขนาดของเงินทุนที่ต้องการจะแตกต่างกันมาก
ดีลกับแบงค์ตอนนี้เรื่องมาก
หรือแม้แต่บรรดาเวนเจอร์แคปก็เถอะ
บ้านเราเองมีไม่เยอะมาก
เงื่อนไขของแต่ละเวนเจอร์ก็ยากจะยอมรับได้
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องการคืนทุนเร็วที่สุด
ด้วยผลตอบแทนสูงสุด
เมื่อเทียบกับ Angle Cap ( บุพการี)
คนล่ะเรื่องเลย
ส่วนการหาพาร์ทเนอร์มาเสริมในจุดที่อ่อนนั้น
มีทั้งดีและเสีย
บริษัทใหญ่ๆที่โตมาได้ถึงทุกวันนี้
มีทั้งโตแบบร่วมหุ้น กอดคอกันมาตั้งแต่ต้น
และโตเพราะแตกคอไปเป็นศิลปินเดี่ยวเยอะ
เพราะฉะนั้นอยู่ที่สไตล์ของการทำงานเราเองด้วยว่า
อยากเป็นเจ้าของคนเดียว คิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวหรือเปล่า :lol:
ส่วนเรื่องคำพูดสวยหรูพวกวิสัยทัศน์ พันธะกิจ พันธะสัญญา เป้าหมาย
เป็นสิ่งที่เรียนรู้และหัดเขียนกันได้
ท้ายสุด ยังขอแนะนำด้วยความหวังดี
โตด้วยตัวเองก่อน
และค่อยๆหาพันธมิตรมาเสริมให้ยั่งยืน
หรืออาจจะไม่ต้องเลยก็ได้
เพราะถึงตอนนั้น จะรู้แล้วว่า ตัวเองถนัดด้านไหน
ก็จะเหลาความแกร่งนั้นให้แหลมคมจับ ตายิ่งขึ้น
ส่วนที่ไม่เก่ง ไม่ถนัดนั้นก็จะเพลามือไปเอง
ขอให้โชคดีจ้า :D
พยายามใช้เงินตัวเองไปก่อน
หริอหยิบยืมพอประมาณจากญาติพี่น้อง
ธุรกิจใหม่ นักลงทุนหน้าใหม่
ยากมากที่ใครจะมาปล่อยกู้ ยิ่งสถาบันการเงินแล้วล่ะก้อ ยากส์
จะมาประเภทแปลงปัญญาเป็นทุน หรือทรัพย์สินเป็นทุนนะเหรอ
สำหรับบ้านเรา ยิ่งกว่า ชาติหน้าตอนบ่ายๆเสียอีก
(รู้มั้ยวลีนี้มาจากที่ไหน )
ธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่หัวใจเต็มร้อยอย่างคุณ Toh
ควรพยายามดิ้นรนสร้างฐานธุรกิจด้วยตัวเอง
สร้างความแตกต่างของสินค้า/บริการ
แล้วหาวิถีทางออกสู่ตลาดเอง
ไม่ทราบเป็นสินค้าประเภทไหน
จำเป็นต้องใช้ตัวแทนจัดจำหน่ายหรือไม่
หรือใช้ช่องทางไหนขายของ
จะได้แนะนำถูก
เมื่อสร้างฐานระดับหนึ่งจนตั้งตัวได้
เมื่อนั้นอาจจะขยับขยาย
ถึงตอนนี้ค่อยมองแหล่งเงินทุนอื่นๆต่อไป
เพราะค่อยมีเรื่องราวที่พูดแล้วเห็นอนาคตหน่อย
ไม่ทราบคุณ Toh อยู่ในธุรกิจสายการผลิตหรือบริการ
เพราะขนาดของเงินทุนที่ต้องการจะแตกต่างกันมาก
ดีลกับแบงค์ตอนนี้เรื่องมาก
หรือแม้แต่บรรดาเวนเจอร์แคปก็เถอะ
บ้านเราเองมีไม่เยอะมาก
เงื่อนไขของแต่ละเวนเจอร์ก็ยากจะยอมรับได้
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องการคืนทุนเร็วที่สุด
ด้วยผลตอบแทนสูงสุด
เมื่อเทียบกับ Angle Cap ( บุพการี)
คนล่ะเรื่องเลย
ส่วนการหาพาร์ทเนอร์มาเสริมในจุดที่อ่อนนั้น
มีทั้งดีและเสีย
บริษัทใหญ่ๆที่โตมาได้ถึงทุกวันนี้
มีทั้งโตแบบร่วมหุ้น กอดคอกันมาตั้งแต่ต้น
และโตเพราะแตกคอไปเป็นศิลปินเดี่ยวเยอะ
เพราะฉะนั้นอยู่ที่สไตล์ของการทำงานเราเองด้วยว่า
อยากเป็นเจ้าของคนเดียว คิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวหรือเปล่า :lol:
ส่วนเรื่องคำพูดสวยหรูพวกวิสัยทัศน์ พันธะกิจ พันธะสัญญา เป้าหมาย
เป็นสิ่งที่เรียนรู้และหัดเขียนกันได้
ท้ายสุด ยังขอแนะนำด้วยความหวังดี
โตด้วยตัวเองก่อน
และค่อยๆหาพันธมิตรมาเสริมให้ยั่งยืน
หรืออาจจะไม่ต้องเลยก็ได้
เพราะถึงตอนนั้น จะรู้แล้วว่า ตัวเองถนัดด้านไหน
ก็จะเหลาความแกร่งนั้นให้แหลมคมจับ ตายิ่งขึ้น
ส่วนที่ไม่เก่ง ไม่ถนัดนั้นก็จะเพลามือไปเอง

ขอให้โชคดีจ้า :D
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่าเข้าแนวขายของหรือปล่าว แต่ คิดว่าเป็นเชิงขอคำแนะน
โพสต์ที่ 6
ประทานโทษ ผิมพ์ผิด มิอาจปล่อยผ่านได้เมื่อเทียบกับ Angle Cap ( บุพการี)
คนล่ะเรื่องเลย
"Angel Cap" :roll: