การซื้อบ้านเพื่อไว้อยู่อาศัยเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่

[titi]

อ่านหนังสือของดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ชื่อพ่อสอนลูกให้รวย
ท่านแนะนำให้ทุกคนควรลงทุนในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะถือเป็นปัจจัยสี่ การมีบ้านอยู่สบายเป็นสิ่งตอบแทนให้กับชีวิต ร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ และเป็นทรัพย์สินที่ใช้คุณประโยชน์ได้ซึ่งต่างกับเงินฝากในธนาคารหรือซื้อหุ้นที่เห็นแต่ตัวเลขหรือใบหุ้น ซึ่งใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่า นอกจากนี้ บ้านหากซื้อในตำแหน่งทำเลที่ดี โดยเฉพาะอยู่ในกรุงเทพ แนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นทำให้คุณมีกำไรไปในตัว
ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู ราคาที่ดินอาจเพิ่มขึ้นไปถึง20%ต่อปี ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินกับธนาคารหลายเท่าตัว
ท่านยังบอกด้วยว่าเราไม่ควรมีหนี้สิน ยกเว้นการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเพื่อไว้อยู่อาศัย

ในขณะที่บางคนไม่เห็นด้วยโดยคิดว่าเราไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านเพราะบ้านมีแต่ค่าใช้จ่าย ควรเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอนแทนที่ดีกว่าเช่นตราสารต่างๆ หรือหุ้น เป็นต้น

[harry]

แสดงว่าคุณอ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูก แล้วมาอ่านของดร.สุวรรณ จึงทำให้งงใช่มั้ยครับ

ผมมองดังนี้ครับ ถ้าคุณต้องการมีทรัพย์สินตามแบบของพ่อรวยฯ ก็คือซื้อเพื่อให้เช่า หรือขายต่อในราคาที่สูงกว่า โดยหลักแล้วจะให้เช่า เพื่อให้ได้เงินรายได้ประจำ โดยถือหลักว่ากู้มาแล้วให้ผ่อนจำนวนเงินที่น้อยกว่ารายรับ จะทำให้กระแสเงินสดเป็นบวก แล้วก็เอาเงินนั้นไปลงทุนต่อ

แต่การซื้อบ้านเพื่อเป็นที่พักอาศัยเองนั้น ผมคิดว่าซื้อตามขนาดจำนวนคนที่จะอยู่ในบ้าน และก็ราคาตามที่เราจะจ่ายไหวครับ เพราะมันคือบ้านที่เราอยู่ ซื้อแล้วอยู่กับเราไปอีกนาน อาจตกทอดไปถึงลูกหลานด้วย ดังนั้น เราต้องมองให้ออกว่า เราจะซื้อมาเพื่อประโยชน์อะไร

แต่การผ่อนบ้านนี้ กฎหมายไทย ให้เอามาหักภาษีได้ ดังนั้นคนที่ไม่เข้าใจจึงคิดว่า ผ่อนบ้านแพงๆดีกว่า จะได้ลดภาษีได้มากๆ ซึ่งถ้าคุณจ่ายไหว ก็ย่อมไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าเกินกำลัง ก็ไม่ดีหรอกครับ อย่าทำเลย และถ้าคุณผ่อนบ้านแบบเอาไว้ให้เช่าเนี่ย ก็น่าจะมาลดหย่อนได้ แต่ก็ต้องเอารายได้จากค่าเช่ามารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณด้วยนะ จะได้ถูกต้อง เดี๋ยวโดนตามย้อนหลังล่ะก็ ได้ขายบ้านจ่ายภาษีแน่ เผลอๆไม่พอด้วย

[harry]

ลืมตอบเรื่องความจำเป็น ถ้าคุณยังเช่าบ้านอยู่ ไม่มีบ้านที่เป็นที่ดินของตัวเอง ชื่อคุณเอง หรือชื่อของครอบครัวพอแม่ ก็ควรซื้อเลยครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ยังเช่าอยู่ ก็มองหาไว้เหมือนกัน เพื่ออนาคตที่ดี แต่คงรอดูความสามารถในการหาเงินของเราเองก่อนด้วย

[chatchai]

คณมีลกแล้วหรือยัง ฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร

ถ้าคณมีลกแล้ว มีเงินเก็บพอสมควร คณจะร้สึกอยากที่บ้านเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ให้ลกวิ่งเล่น อยากจะปรับปรงติดตั้งอะไรในบ้านเราก็ทำได้

แต่การซื้อบ้านก็ไม่ควรจะซื้อแพงจนเกินไป อาจจะเริ่มหลังเล็กๆก่อน เพื่อที่จะเหลือเงินไว้ลงทนบ้าง

พอผลตอบแทนจากการลงทนงอกเงยมากขึ้น ลกๆเริ่มโตมากขึ้น ก็ขยายหลังใหญ่ขึ้นทีหลังก็ได้ครับ

ในหนังสือพ่อรวยสอนลกนั้น ผมเข้าใจว่าเค้าไม่แนะนำให้ซื้อบ้านเพียงเพื่อเก็งกำไรว่าราคาในอนาคตจะแพงขึ้น ซึ่งในแต่ละเดือนเราจะมีกระแสเงินสดที่ไหลออกจากการจ่ายดอกเบี้ยเงินก้

แต่ให้ซื้อเพื่อให้เช่าโดยให้ค่าเช่ารับมากกว่าดอกเบี้ยจ่ายครับ กระแสเงินสดสทธิในแต่ละเดือนเป็นบวกครับ

[FreeMe]

อืมมม
ผมขอพูดบ้างนะครับ
ผมว่า ชีวิตเราจะดีขึ้นเสมอ ถ้าทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
แต่ว่า ชีวิตเราไม่ดีขึ้นหรอกครับ ถ้าทำเรื่องง่ายๆให้เป้นเรื่องยากๆ
หวังว่าคงเข้าใจนะครับ ว่าผมหมายถึงอะไร
เฮ้อ.....

[dingding]

ตามที่คุณ Harry และคุณ Chatchai ให้เหตุผลแหละค่ะ ขอต่ออีกนิดค่ะ

ที่อยู่ที่คุณจะซื้อนั้น มีใครมาอยู่บ้าง คุณต้องรับผิดชอบใครบ้าง
ตนเอง สามี/ภรรยา ลูก บิดา มารดา ญาติ

แนะนำว่าน่าจะซื้อที่อยู่อาศัย แต่ไม่แนะนำให้ซื้อราคาแพงหรือหลังใหญ่ๆในขณะที่รายได้ยังไม่สามารถรับไหว และมันจะกลายเป็นหนี้สิน ไม่ใช่ทรัพย์สิน มันจะเป็นทรัพย์สินต่อเมื่อกระแสเงินสดของเราไม่ถูกดูดเข้าไปจ่ายอยู่ตลอดเวลาอย่างที่คุณ Chatchai บอกไว้

อีกอย่างหนึ่ง เดี๋ยวนี้ครอบครัวเล็กลง ไม่ได้มีข้าทาสบริวารหรือคนนับสิบในบ้าน การดูแลรักษาบ้านหลังใหญ่นั้นมีค่าใช้จ่ายมากอย่างที่คุณคิดไม่ถึงทีเดียว รวมทั้งใช้แรงและเวลามากมาย เศรษฐีบางคนเอาบ้านเดี่ยวใหญ่โตของตนให้คนอื่นเช่า ตนเองและครอบครัวขึ้นไปอยู่คอนโดแทน เพราะการดูแลรักษาน้อยกว่ามาก ชีวิตในเมืองและการทำงานหนักอย่างทุกวันนี้ไม่อำนวยให้เรามีเวลาดูแลที่อยู่อาศัยพื้นที่กว้างๆได้มากนัก

ตลาดที่อยู่อาศัยบ้านเราต่างจากประเทศอื่นตรงที่ว่า ราคาถึงจะตกลงในบางช่วง แต่ก็ไม่ถึงกับร่วงอย่างน่ากลัว ประเทศอื่นเขามักจะเช่าบ้านมากกว่าซื้อเพราะปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย ทั้งเรื่องภาษีที่แพงมหาโหด และกฎหมายเข้มงวดอีกมากมาย รวมทั้งลักษณะของเมืองและลักษณะของที่อยู่อาศัยที่ต่างกับเรา บางประเทศราคาที่อยู่อาศัยเคยร่วงจากราคาเดิมไปถึง 90% ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ธุรกิจเรียลเอสเตทของเมืองไทยต่างกับบางประเทศโดยสิ้นเชิง ทำให้ทฤษฎีต่างๆที่เขาใช้กัน กลับใช้ไม่ได้เลยในเมืองไทย

[maomao20033]

ไม่มีตังค์ซื้อครับ

[pae2020]

ตอนนี้ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่มีคอนโดเล็กๆห้องนึงไว้อาศัยซุกหัวนอน กับคำถามที่ว่าจำเป็นต้องมีบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่ ผมตอบว่าจำเป็นครับ แต่ผมจะนำรายได้จากเงินลงทุนมาซื้อครับ.. สักวันคงจะทำได้...

[VIB007]

อ่านหนังสือของดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ชื่อพ่อสอนลูกให้รวย
ท่านแนะนำให้ทุกคนควรลงทุนในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะถือเป็นปัจจัยสี่ การมีบ้านอยู่สบายเป็นสิ่งตอบแทนให้กับชีวิต ร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ และเป็นทรัพย์สินที่ใช้คุณประโยชน์ได้ซึ่งต่างกับเงินฝากในธนาคารหรือซื้อหุ้นที่เห็นแต่ตัวเลขหรือใบหุ้น ซึ่งใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่า นอกจากนี้ บ้านหากซื้อในตำแหน่งทำเลที่ดี โดยเฉพาะอยู่ในกรุงเทพ แนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นทำให้คุณมีกำไรไปในตัว
ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู ราคาที่ดินอาจเพิ่มขึ้นไปถึง20%ต่อปี ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินกับธนาคารหลายเท่าตัว
ท่านยังบอกด้วยว่าเราไม่ควรมีหนี้สิน ยกเว้นการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเพื่อไว้อยู่อาศัย

ในขณะที่บางคนไม่เห็นด้วยโดยคิดว่าเราไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านเพราะบ้านมีแต่ค่าใช้จ่าย ควรเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอนแทนที่ดีกว่าเช่นตราสารต่างๆ หรือหุ้น เป็นต้น

จากประสบการณ์
การมีบ้านช่วยให้ชีวิตคุณมีความหมายมากขึ้น
อย่างน้อยก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เร่ร่อน
แต่การตัดสินใจลงทุนซื้อบ้านควรทำเมื่อ"พร้อม"เท่านั้น
เพราะเป็นหนี้สินระยะยาว ต้องคิดให้รอบคอบ

ผมเห็นคนตัดสินใจซื้อบ้านด้วย"อารมณ์"
เพียงเพราะกลัวว่าราคาบ้านจะแพงขึ้น
สุดท้ายก็เสียใจเพราะ ไม่ได้บ้านที่ตัวเองต้องการ
และการกลับหลังหันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ขายยาก และ ขายขาดทุน

ลองใช้"หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า"กับการลงทุนใน"บ้าน"
คุณจะพบว่ามันใช้กันได้

ส่วนการเก็บเงินสดแล้วค่อยซื้อบ้านนั้น
ผมไม่เห็นด้วย
เพราะกว่าจะเก็บเงินได้ ราคาบ้านก็ขึ้นไปอีกหลายเท่า
เช่น ใช้เวลา 5 ปี จะเก็บเงินซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท
ผ่านไป 5 ปี ราคาบ้าน 1 ล้าน มันกลายเป็น 3 ล้านบาทแล้ว
อันนี้เรื่องจริง

ดังนั้น ถ้ามีเงินสดพอซื้อบ้านได้
แต่สามารถนำเงินนั้นไปลงทุนได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ย
เช่น ลงทุนแบบ VI ได้ผลตอบแทน 20% ต่อปี
แต่จ่ายดอกเบี้ยปีละ 5%
ผมก็จะแนะนำให้กู้

สุดท้ายก็อยากจะย้ำว่า ให้ซื้อบ้านเมื่อ"พร้อม"เท่านั้น
และซื้อ"บ้าน"ที่มี"ราคา"ต่ำกว่า"มูลค่าที่แท้จริง"

หวังว่า คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ

[Aurora]

ขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้มากค่ะ พี่เข้าใจว่ายังมีคนอีกมากที่สับสนกับการซื้อบ้านเมื่ออ่านหนังสือทั้ง 2 เล่มจบแล้ว เพราะทุกคนเห็นด้วยที่จะซื้อบ้านแบบการลงทุนโดยให้มีกระแสเงินสดเป็นบวก แต่ขณะเดียวกันก็อยากได้บ้านอบอุ่นสำหรับครอบครัว ถ้านำทั้ง 2 อย่างมาประสานกัน ก็จะได้ความลงตัวอย่างที่คุณวิบูลย์พูด เห็นด้วยกับคุณวิบูลย์ค่ะ เย้......