หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ราคาเหล็กเส้นสูงขึ้นไปถึง 500 เหรียญสหรัฐ FOB
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:36 pm
โดย hot
ราคาเหล็กเส้นสูงขึ้นไปถึง 500 เหรียญสหรัฐ FOB
ราคาเหล็กคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บรรดาแหล่งข่าวจากอินเดีย รายงานว่าราคาบิลเลต เหล็กเส้น และเหล็กลวดคาดว่าจะสูงขึ้นไปถึง 440, 500 และ 550เหรียญสหรัฐต่อตันตามลำดับ ความต้องการใช้เหล็กเป็นจำนวนมากยังคงเป็นเหตุผลหลักของการขึ้นราคาเหล็ก นอกจากนี้ในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างก็คาดว่าขยายตัวอย่างต่อเนื่องในกลางปีนี้ แม้ว่าการก่อสร้างจะเบาบางในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วก็ตาม
รัฐบาลรัสเซียไม่แทรกแซงราคาเหล็ก
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:37 pm
โดย hot
รัฐบาลรัสเซียไม่แทรกแซงราคาเหล็ก
บรรดาผู้ใช้เหล็กในประเทศรัสเซียเช่น โรงงานท่อ และบริษัทแก็ส ต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลให้กำหนดมาตราการเพื่อป้องกันการปรับตัวสูงขึ้นของราคาเหล็กทั้งทรงแบนและทรงยาว แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลรัสเซียก็ไม่มีการวางแผนที่จะดำเนินการใดๆ ปัจจุบันราคาบิลเลตสูงขึ้นถึง 30% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดังนั้น Pipe Metallurgical Co ผู้ผลิตท่อรายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย จึงออกมากล่าว่าหากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ บริษัทฯก็จำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาแม้ว่าจะเกิดความขัดแย้งกับผู้ใช้ท่อก็ตาม
China Steel ปรับราคาเหล็ก
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:37 pm
โดย hot
China Steel ปรับราคาเหล็ก
China Steel วางแผนขึ้นราคาเหล็กในประเทศตันละประมาณ 57-96 เหรียญสหรัฐ สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็ก 6 รายการ ในเดือนเมษายนสำห เนื่องจากการฟื้นฟูของเศรษฐกิจทำให้ราคาตลาดโลก ค่าขนส่ง และต้นทุนวัตถุดิบเช่น ถ่านหิน โลหะ เศษเหล็ก และสแลปปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯยังกล่าวเสริมอีกว่า ความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาสูงขึ้น
โอเปค"กลับลำเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ตั้งเป้าดึงราคาเหลือ30
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:38 pm
โดย hot
โอเปค"กลับลำเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ตั้งเป้าดึงราคาเหลือ30-31$/บาร์เรล
เอเอฟพีรายงานเมื่อ 1 มีนาคม ว่านายปุร์โนโม ยูสกิอันโตโร ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค) ประกาศที่อินโดนีเซียเมื่อวันเดียวกันว่า กลุ่มโอเปคจะปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ เพื่อกดดันให้ราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวลงมา ทั้งนี้ โอเปคตั้งเป้าหมายราคาน้ำมันดิบอยู่ในช่วง 30-31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น ขณะที่ราคาในปัจจุบันทะลุเกินไปอย่างมากมาย
ในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นหลังนายปุร์โนโมเข้าพบกับประธานาธิบดีเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี แห่งอินโดนีเซีย ประธานโอเปคบอกด้วยว่า จะมีการทบทวนปริมาณการผลิตน้ำมันและระดับราคาของน้ำมันในปัจจุบัน ส่วนการตัดสินใจว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตแน่นอนหรือมากน้อยเพียงใด จะสรุปใน 20 วันข้างหน้า และโอเปคยังไม่มีกำหนดการประชุมกันแบบฉุกเฉินภายในอนาคตอันใกล้นี้
คำประกาศข้างต้นช่วยลดแรงขับเคลื่อนราคาในตลาดโลก น้ำมันดิบไลต์สวีตส่งมอบเดือนเมษายน ซึ่งพุ่งแตะระดับ 36.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อ่อนกลับสู่ระดับ 36.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในตลาดบ่าย ย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงกดดันราคาน้ำมันตลาดโลกทวีตัวสูง ในบรรยากาศกังวลว่าโอเปคจะเอาจริงลงมือลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนนี้ และข่าวว่าสต๊อกน้ำมันในสหรัฐอเมริกาลดต่ำเป็นประวัติการณ์ เมื่อเชลล์ปิดโรงกลั่นน้ำมันในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่สหรัฐใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนมักแห่กันเอารถไปเติมน้ำมัน แล้วออกวิ่งพักผ่อน
ตลาดสองล้อ เดือนแรกคึกคักโตเพิ่ม 15% เชื่อปลายปีปิด 1.9 ล้าน
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:39 pm
โดย hot
ตลาดสองล้อ เดือนแรกคึกคักโตเพิ่ม 15% เชื่อปลายปีปิด 1.9 ล้านคัน
กรุงเทพธุรกิจวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2547
รายงานข่าวจากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน ม.ค.2547 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ตลาดมีสภาพที่ตื่นตัวและคึกคักเป็นอย่างสูง ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีปริมาณจำหน่ายโดยรวมทั้งสิ้น 159,397 คัน
โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีปริมาณ 138,654 คันแล้ว มียอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 20,743 คัน ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% ทั้งนี้ ปริมาณการจำหน่ายดังกล่าวแบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัว 140,385 คัน ซึ่งเทียบเป็นสัดส่วนตลาดสูงถึง 88% ในขณะที่รถประเภทสกู๊ตเตอร์ ซึ่งเป็นรถประเภทใหม่ที่เข้ามาในตลาดไม่นานนัก มีสัดส่วนตลาดรองลงมา คือ 7% โดยมีปริมาณจำหน่าย 10,442 คัน
ในส่วนรถประเภทครอบครัวกึ่งสปอร์ต มีปริมาณจำหน่าย 7,207 คัน สัดส่วนตลาด 4% และประเภทรถสปอร์ตมีปริมาณจำหน่าย 1,363 คัน สัดส่วนตลาด 1% นอกจากนั้น ตลาดในช่วงเดือน ม.ค.ยังนับเป็นยุคที่รถจักรยานยนต์แบบเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ครอบครองตลาดเกือบทั้งหมด โดยมีปริมาณจำหน่าย 159,017 คัน ขณะที่รถแบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ มีปริมาณจำหน่ายเพียง 380 คันเท่านั้น ส่วนแนวโน้มของตลาดตลอดปี 2547 นี้ จากการที่ภาครัฐบาลยังคงมุ่งเน้นนโยบายเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์โดยรวม ในปีนี้จะมีทั้งสิ้น 1.9 ล้านคัน