เทรนด์ลงทุนใหม่..'กองทุนคอมมอดิตี้' กระจายลงทุน ลดเสี่ยง
ยามที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ตลาดตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนตกต่ำ ทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่ดีก็คือ การจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในกองทุน "คอมมอดิตี้" หรือ กองทุนที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์
เพิ่มโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเข้ากระเป๋าที่น่าพอใจ
สอดรับกับแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังเป็น "ดาวรุ่ง" ของการลงทุน..
ระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ทะยานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ตามมาด้วยราคาทองคำ รวมทั้งโลหะธาตุต่าง ๆ ที่ปรับตัวขึ้นตามความต้องการบริโภค ขณะที่ปริมาณการผลิตหดตัวลง
ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตร หรือ "Soft Commodities" เพิ่งจะเริ่มต้นผงกหัวขึ้นเมื่อปี 2550 นี้เอง
ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ต่างเห็นพ้องกันว่า แนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าเกษตรจะยังอยู่ในวงจร "ขาขึ้น" อีกยาวไกล เพราะราคาเพิ่งจะขยับขึ้นได้เมื่อไม่นานมานี้
เพื่อลดความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ในช่วงนี้ "พิชา รัตนธรรม" ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ จึงแนะนำว่า นักลงทุนควรแบ่งเงินลงทุนไปในสินทรัพย์อย่างสินค้าคอมมอดิตี้ทางการเกษตร ที่ราคานับวันมีแต่ขาขึ้น
โดยให้เลือกกองทุนที่กระจายไปยังสินทรัพย์คอมมอดิตี้ที่หลากหลายประเภทที่ใช้สำหรับการบริโภค และเป็นสินค้าที่มีสภาพคล่องสูง
"นักลงทุนควรเลือกลงทุนในสินค้าคอมมอดิตี้ที่ผลิตเพื่อคนกินใช้กันมาก ตลอดจนเลือกสินค้าที่มีสภาพคล่องมาก ๆ ในตลาดคอมมอดิตี้
คิดว่าไซเคิลของสินค้าเกษตรยังไปได้อีกมาก ทำให้ราคายังมีอัพไซด์อีกมากเมื่อเทียบราคาวันนี้กับราคาสูงสุดในอดีต โดยเฉพาะสินค้าธัญพืช เป็นสินค้าที่น่าสนใจลงทุน" "พิชา" กล่าว
ทางเลือกในการลงทุนสินค้าการเกษตร จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อกระจายการลงทุน
เช่นเดียวกับ "ต่อ อินทรวิวัฒน์" ผู้อำนวยการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี ที่บอกว่า ไทม์มิ่งในการลงทุนสินค้าซอฟต์ คอมมอดิตี้ และทองคำช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากนักลงทุนยังมีโอกาสได้สินค้าที่เป็นของดีราคายังถูกอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ทางเกษตร ก็มีความเสี่ยงที่ต้องความระมัดระวังอยู่ไม่น้อย
โดย "มนรัฐ ผดุงสิทธิ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี บอกว่า สิ่งที่ต้องระวังในการลงทุนสินค้าเกษตรก็คือ สินค้าเกษตรมักจะเป็นพืชผลที่มีอายุสั้น จึงพร้อมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงการเพาะปลูกไปยังสินค้าอื่น ๆ เสมอ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจึงแนะนำว่า หากเป็นผู้ลงทุนรายย่อยแล้ว ควรจะเลือกลงทุนกับกองทุนคอมมอดิตี้จะดีกว่า เนื่องจากกองทุนจะกระจายสินทรัพย์ลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนด้วยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นกองทุนคอมมอดิตี้หน้าใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาดให้เลือกลงทุนกันหนาตามากขึ้น
โดย 2 กองทุนคอมมอดิตี้ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ กองทุน "กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกม เอ็นฮานส์ ลิ้งค์" (GAME) ของบลจ.ไอเอ็นจี และกองทุนเปิด "ทิสโก้ อากริคัลเจอร์ ยูโร ฟันด์" ของบลจ.ทิสโก้
กองทุน "GAME" จัดเป็นกองทุนเปิดตราสารหนี้ต่างประเทศที่เน้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่คุ้มครองเงินต้น (Structured Note) ที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก
ทั้งนี้ผลตอบแทนจะอ้างอิงกับค่าเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงดัชนีเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเท่ากันในทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์เกษตร และหุ้นในกลุ่มตะวันออกกลาง โดยอายุกองทุน 3 ปี 1 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
"กองทุนนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูง เพราะจะคุ้มครองเงินต้น สามารถลงทุนทดแทนเงินฝาก 3 เดือนที่ครบอายุได้ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินต่ำ เพื่อเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น
โดยคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนที่จะได้อย่างน้อย 21% ในระยะ 3 ปี แต่นักลงทุนจะต้องถือลงทุนต่อเนื่องให้ครบ 3 ปี" "ต่อ อินทรวิวัฒน์" ผู้อำนวยการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี กล่าว
กองทุนนี้กำหนดเปิดเสนอขายถึง 31 มี.ค. 2551
ขณะที่กองทุนเปิด "ทิสโก้ อากริคัลเจอร์ ยูโร ฟันด์" เป็นกองทุนผสมที่ลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ กองทุน DB Platinum Advisors ซึ่งเป็นบริษัทของธนาคารดอยช์แบงก์ มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสินค้าเกษตร แต่ไม่ได้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
"จุดเด่นของกองทุนหลักที่กองทุนเราจะเข้าไปลงทุนคือ ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับ db Agriculture Euro Index ซึ่งเป็นดัชนีที่มีผลตอบแทนสูงและผันผวนต่ำ
สินค้าเกษตรที่อยู่ในดัชนีนี้ประกอบสินค้าหลัก 7 ตัว คือ ข้าวสาลี ข้าวโพด อ้อย ฝ้าย เมล็ดกาแฟ ถั่วเหลืองและโกโก้ ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรธัญพืชที่มีสภาพคล่องสูง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวไปได้ในอนาคต" "ธีรนาถ รุจิเมธาภาส" รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนรวมส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ กล่าว
ธีรนาถบอกว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กองทุน DB Platinum Advisors ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 11% ต่อปี
กองทุนกำหนดเปิดขายถึงช่วงปลายเดือนมีนาคม 2551 เช่นกัน
สำหรับกองทุนเอฟไอเอฟ ที่มีนโยบายลงทุนในสินค้าคอมมอดิตี้ในตลาด มีอยู่ 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิด "ทหารไทย โกลด์ ฟันด์" ของบลจ.ทหารไทย และกองทุนเปิดหน่วยลงทุน "ฟินันซ่า โกลบอล คอมมอดิตี้" ของบลจ.ฟินันซ่า และกองทุนเปิด "เอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล แนชเชอรัลรีซอร์สฟันด์" ของบลจ.เอ็มเอฟซี ซึ่งปัจจุบันทั้งสามกองทุนให้ผลตอบแทนโดดเด่นเป็น "บวก" เทียบกับกองทุนเอฟไอเอฟอื่น ๆ ให้ผลตอบแทนติดลบ
โดยตั้งแต่ต้นปีถึง 29 ก.พ. 2551 กองทุน "ฟินันซ่า โกลบอล คอมมอดิตี้" ให้ผลตอบแทนสูงสุด 17.23% รองลงมาคือ เอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล แนชเชอรัลรีซอร์สฟันด์" 12.68% และ "ทหารไทย โกลด์ ฟันด์" ให้ผลตอบแทน 9.78%
ท่ามกลางกระแสอันร้อนแรงของสินค้าคอมมอดิตี้ เลือกลงทุนในกองทุนเอฟไอเอฟ "คอมมอดิตี้" อาจเป็นโอกาสใหม่ของนักลงทุนในการลดความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนให้เพิ่มขึ้น
http://www.bangkokbizweek.com/20080304/ ... 39302.html
เทรนด์ลงทุนใหม่..'กองทุนคอมมอดิตี้' กระจายลงทุน ลดเสี่ยง
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
เทรนด์ลงทุนใหม่..'กองทุนคอมมอดิตี้' กระจายลงทุน ลดเสี่ยง
โพสต์ที่ 2
น่าสนใจดี ขอบคุณครับ 

^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง