เมื่อ คนเรียนสูงๆ เงินเดือนดีๆ มีลูกไม่มาก/ไม่แต่งงาน

[teetotal]

เมื่อ คนเรียนสูงๆ เงินเดือนดีๆ มีลูกไม่มาก/ไม่แต่งงาน

แต่ คนที่มีฐานะไม่ค่อยดี กลับมีลูกมาก พอมีมากแล้วก็เลี้ยงไม่ดี
เป็นปัญหาสังคม

อีก 30 ปี ประเทศไทย จะเป็นยังไงครับ

[chatchai]

ลูกของคนที่เรียนสูงๆ  มีฐานะร่ำรวย  ก็คงรับประกันไม่ได้ว่าจะเป็นคนดีในอนาคตนะครับ

[กระทิงแดง]

เดี๋ยวนี้ ผมว่าไม่ว่าครอบครัว คนรวย หรือคนจนก็มีลูกน้อยลงครับ
และคุณภาพของเด็กจะดีขึ้น จากการ focus ไปที่ลูกไม่กี่คน

ส่วนคนเรียนสูงๆนี่ แต่งงาน และมีลูกช้าครับ ผมเห็นด้วยครับ
รุ่นผมที่จบมาแต่งกันได้ประมาณ 10 ต้นๆคู่เองครับ (รุ่น39 ครับ)
แต่ละคนก็บอกยังไม่พร้อม รอสร้างฐานะให้ได้ก่อน

[MindTrick]

เมื่อ คนเรียนสูงๆ เงินเดือนดีๆ มีลูกไม่มาก/ไม่แต่งงาน

แต่ คนที่มีฐานะไม่ค่อยดี กลับมีลูกมาก พอมีมากแล้วก็เลี้ยงไม่ดี
เป็นปัญหาสังคม

อีก 30 ปี ประเทศไทย จะเป็นยังไงครับ

จากที่กล่าวมา เหมือนมีคำตอบซ่อนอยู่ ว่ามันจะแย่ลงไปเรื่อยๆ ในระยะยาว

แต่ผมว่า มันจะขึ้นๆลงๆไปเรื่ีอยๆ ปรับสมดุลไปเรื่อยๆครับ เพราะคนที่คิดได้ จะคอยดึงคนที่ดิ่งลงไปขึ้นมา พอดึงจนเหนื่อย ก็จะหลุดมือลงไปอีก วนไป วนมา... ตราบใดที่มนุษย์ยังช่วยเหลือกัน เห็นแก่สังคม มากกว่าตัวเอง ..หากมนุษย์ไร้จิตสำนึกเหล่าีนี้แล้ว คงอาการหนักที่เดียว

[house]

http://en.wikipedia.org/wiki/Idiocracy

หนังเรื่องนี้เลยครับ ทุกอย่างที่พี่อยากรู้

[booklover]

อนาคตหมอสูตินารีเก่งๆน่าจะดีไหมครับอย่างนี้

เห็นแต่ละคนมีปัญหาการมีลูกทั้งนั้นเลย

[wara]

ผมว่าคำถามเป็นปัญหาสังคมที่ น่าสนใจน่ะครับ
ผมเป็นหมออยู่บ้านนอก เห็นบางคนท้อง 3 ท้อง 4
แนะนำให้ทำหมัน ก็ไม่ทำ
กลัวจะไม่มีแรงทำงาน กลัวจะทำให้บ้าผุ้ชาย
( แต่ไม่กลัวลูกจำนวนสมาชิกเท่าทีมบาสเกตบอล อดตาย )

พอเด็กเกิดมา พ่อแม่ก็ไม่ได้เลี้ยงเอง ทำงานกรุงเทพ ให้ยายเลี้ยง
เพราะไม่มีงานที่บ้านนอก ทำ
พอไปอยู่กรุงเทพ ทำก่อสร้าง สิ่งแวดล้อม ไม่ดี ก็ทะเลาะกัน ครอบครัวแตก
มีสามี ภรรยาใหม่ ก็ท้องอีก
ส่วนที่บ้าน
ยายก็ เลี้ยงหลาน แบบตามมีตามเกิด เพราะไม่มีคนส่งเงินมาให้

พออายุ 15 ก็ใจแตกท้องใหม่เป็นวงจรอุบาต ไม่เลิก
พอท้องก็ไม่ได้เรียนหนังสือ ต่อ
ต้องไปเป็นผู้ใช้แรงงาน ที่กรุงเทพต่อ
เห็นแล้วมันน่าเศร้า น่ะครับ

บางทีผมก็อยากให้โรงงานมาเปิดที่ต่างจังหวัดเยอะ ๆ
อย่างน้อย ครอบครัวจะได้อยู่เป็นครอบครัว
ที่บ้านนอกทีผมอยู่ตอนนี้ เริ่มมีโรงงานทอผ้ามาเปิด ให้ทำงาน 3 เดือนแล้วไล่ออก ให้มาสมัครใหม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องขึ้นค่าแรงให้
แต่ก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ยิ่งเห็นข่าวปิดโรงงานเสื้อผ้าบ่อยๆ

[Muffin]

เรื่องนี้ สิงคโปร์ มีปัญหาเยอะครับ

ขนาดเปิดสถานบันเทิงมัน 24 ชม แล้ว เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนเจอกันมากขึ้น
ก็ดันเน้นแต่มีกิ๊ก ไม่มีครอบครัว

รุ่นผม ก็แต่งกันไปหลายคู่แล้วนะครับ แต่ผมยังไม่ได้แต่งเลย  :oops:

[mprandy]

เรื่องนี้ สิงคโปร์ มีปัญหาเยอะครับ

ขนาดเปิดสถานบันเทิงมัน 24 ชม แล้ว เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนเจอกันมากขึ้น
ก็ดันเน้นแต่มีกิ๊ก ไม่มีครอบครัว

จำได้ว่าสิงคโปร์เขาเคยทำโครงการออกมาเป็นจริงเป็นจังเลยครับ ไม่รู้ว่าเลิกไปยัง

ปัญหาของเขาคือ อัตราการเพิ่มประชากรของประเทศต่ำมาก และยิ่งไปกว่านั้นถ้าไปดูพบว่ากลุ่ม low socioeconomics มีการเพิ่มประชากรสูง แต่กลุ่ม medium และ high มีการเพิ่มประชากรติดลบ

คนที่เรียนสูง การงานมั่นคง ฐานะดี มีความเป็นอิสระสูงมาก ไม่ชอบภาระ เลยทำให้ชอบอยู่เป็นโสดหรือแต่งงานช้า หรือถ้าแต่งงานก็เลือกจะมีลูกน้อยหรือไม่มีลูกเลย

รัฐบาลลงทุนจัดแคมเปญ หาคู่ให้คนกลุ่มนี้ มี package แต่งงาน แถมเงิน ยิ่งถ้ามีลูกด้วย ลดภาษีแถมให้อีก

... In 1986 the government also decided to revamp its family planning program to reflect its identification of the low birth rate as one of the country's most serious problems. The old family planning slogan of "Stop at Two" was replaced by "Have Three or More, if You Can Afford It." A new package of incentives for large families reversed the earlier incentives for small families. It included tax rebates for third children, subsidies for daycare, priority in school enrollment for children from large families, priority in assignment of large families to Housing and Development Board apartments, extended sick leave for civil servants to look after sick children and up to four years' unpaid maternity leave for civil servants (อันนี้เจ๋งโคด ๆ). Pregnant women were to be offered increased counseling to discourage "abortions of convenience" or sterilization after the birth of one or two children. Despite these measures, the mid-1986 to mid-1987 total fertility rate reached a historic low of 1.44 children per woman, far short of the replacement level of 2.1. The government reacted in October 1987 by urging Singaporeans not to "passively watch ourselves going extinct." The low birth rates reflected late marriages, and the Social Development Unit extended its matchmaking activities to those holding Advanced level (A-level) secondary educational qualifications as well as to university graduates. The government announced a public relations campaign to promote the joys of marriage and parenthood. In March 1989, the government announced a S$20,000 tax rebate for fourth children born after January 1, 1988.  :shock:  The population policies demonstrated the government's assumption that its citizens were responsive to monetary incentives and to administrative allocation of the government's medical, educational, and housing services...

สงสัยต้องย้ายไปอยู่สิงคโปร์.. :lovl:

[krisy]

ส่วนของจีน ก็เน้นให้มีลูกแค่คนเดียวเท่านั้น ถ้ามีเกินรัฐจะไม่สนับสนุนอะไรเลย แถมต้องเสียภาษีแพงด้วย

เราไปเที่ยวมา มีแต่พ่อแม่วัยละอ่อนทั้งนั้นเลยค่ะ แต่งงานไวจริงๆ

[Radio]

เท่าที่ผมดูคร่าวๆ  ปัจจุบัน คนที่มีอายุ 50-60 ปีจะมีบุตรโดยเฉลี่ย 2 คน
อายุ 40-50 ปี จะมีบุตรเฉลี่ย 1 คน  ส่วนคนที่มีอายุ 40ปีลงมาบางคน
บอกจะไม่แต่งงานหรือแต่งแล้วจะไม่มีบุตร (สำหรับคนที่มีการศึกษา)
แต่กับสาวโรงงานอายุ 16-18 ปีก็เริ่มมีบุตรแล้ว   บางคนมีแล้ว 2 คน
ก็อยากมีคนที่ 3 พอถามว่าจะเลี้ยงยังไง เขาก็ตอบว่าจะส่งไปให้ยายเลี้ยง
ถ้ามีบุตรแล้วไม่เลี้ยงเอง แล้วจะมีไปทำไมก็ไม่รู้ พูดยังกับเด็กเล่นตุ๊กตา

[artvr4]

ผมว่าอนาคต ประเทศไทย พวกรากหญ้าจะเยอะขึ้น

คุณภาพประชากร จะแย่ลง    ประเทศไทยคงแย่มากขึ้น

เพราะคน ชั้นกลาง ไม่อยากมีลูก หรือไม่ก็มีน้อย  ทั้งที ชนชั้นนี้ควรจะเป็นฐานการพัฒนาประเทศ ให้ กำเนิดประชากร ที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่กลับไม่ใช่

ขณะ ที่ชาวรากหญ้ากลับมีลูกเป็นขบวน  ไม่รู้จะ เปิดสโมสรฟุตบอลหรืออย่างไร  แต่ในขณะที่ไม่สามารถทุ่มเท พัฒนาเค้าให้ดีขึ้นมาได้  


 เพื่อนผมเป็นอาจาร์ย  กำลังทำ วิจัยเรื่องนี้อยู่ แต่ เค้าบอกว่าจะเก็บข้อมูลอีกหลายปี    เห็นเค้าบ่นๆ เหมือนกันว่า ต่อไป ประเทศไทย คุณภาพจะแย่ลง ไปเก็บข้อมูล เจอแต่ เด็ก ยากจน อายุไม่มาก ก็ท้องไม่มีพ่อ กันเยอะแล้ว บางคนอายุแค่ 20 แต่มีลูกไปแล้ว 3 คน     เค้าเคยพูดถึงกฎหมายการทำหมัน หากว่าไม่มีความสามารถในการเลี้ยงลูก  แต่ว่า คงเป็นไม่ได้ในประเทศไทย

[teetotal]

เพื่อนที่บอกผม เป็นหมอ ครับ เหมือน คุณหมอ wara

เขาเล่าว่า เจอ อายุ 21 ท้องที่สาม เป็นพวกคนงานรายได้น้อย

แล้วก็พวกเด็กบ้านท้องไว และ เด็กนักเรียนพลั้งพลาด
จึงเจอ แม่ อายุ ต่ำกว่า 15 อยู่เรื่อยๆ
เวลา ลูกคลอด  จะระบุ เป็น ดญ บุตร ดญ / ดช  บุตร ดญ

หันไปดูอีกด้าน พวกรวยๆ มีลูกน้อย มีลูกยาก จนต้องเข้ารับการรักษาให้มีลูก

อ่านหนังสือธรรมะ มีอธิบายว่า
การเกิดของคน นอกจากเซลล์สืบพันธุ์ จะมีปฏิสนธิวิญญาณ ด้วย
ปฏิสนธิวิญญาณ ของผู้ที่มีบุญ ซึ่งจะเป็นคนเก่ง สวย รวย จะมีน้อย
พวกที่ เกิดมา เพื่อเสวยสุข เลย เกิดน้อยกว่า ยากกว่า

ส่วนปฏิสนธิวิญญาณ ระดับด้อย จะมีมาก และแย่งกันมาเกิด
ครอบครัว จนๆ ที่มีความลำบาก ยากแค้น รออยู่ จึงมีลูกง่าย

นอกเรื่องไปไกล ขอโทษด้วยครับ

[takechi]

[quote
อีก 30 ปี ประเทศไทย จะเป็นยังไงครับ[/quote]
 
ผมเดาว่า บรรดาชาวแก็งค์มอไซด์ และ เด็กแว็น ทั้งหลาย
คงจะโลดแล่นในถนน กันเยอะเป็นหลายๆ
เท่าจากปัจจุบันเลยทีเดียว คงจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริงๆ
และธุรกิจ ลิสสิ่งที่ปล่อยกู้ให้แก่ ชาวแก็งค์
ก็คงจะเจริญเติบโต (growth) ขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยครับ..

ปล. ยังไม่มีครอบครัวครับ

[Radio]

จะเป็นความเครียดหรือเปล่า หรือคนมีบุญมีน้อยจึงไม่ค่อยมาเกิด
ในคนมีการศึกษาหรือมีฐานะดี  ผมประสบกับตัวเองเลย  โดยญาติตนเอง
อย่างน้อยสองคนมีบุตรยากมาก  ต้องทำผสมเทียมได้มาคนหนึ่ง
ส่วนญาติอีกคนกำลังทำอยู่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า

[ลูกอิสาน]

คนรวยมีลูกน้อย เพราะไม่อยากลำบาก-เหนื่อยในการเลี้ยง (คนที่มีลูกจะรู้ดี)
ส่วนคนจนไม่คิดมาก ไม่ค่อยมีความรู้ในการวางแผนครอบครัว เลยลูกดก ทั้งที่ไม่ค่อยมีปัญญาจะเลี้ยงให้ได้ดี


ส่วนที่ไม่ค่อยแต่งงาน เพราะมีความมั่นคงเรื่องรายได้ เรื่องความปลอดภัย โครงสร้างสังคมเป็นสังคมเดี่ยว เปรียบเทียบกับในอดีตที่คนต้องร่วมกันทำงาน อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ เพื่อความปลอดภัย ไม่อย่างนั้นจะไม่รอด

[Zionism]

...กรรม...

[MindTrick]

จำได้ว่าสิงคโปร์เขาเคยทำโครงการออกมาเป็นจริงเป็นจังเลยครับ ไม่รู้ว่าเลิกไปยัง

ปัญหาของเขาคือ อัตราการเพิ่มประชากรของประเทศต่ำมาก และยิ่งไปกว่านั้นถ้าไปดูพบว่ากลุ่ม low socioeconomics มีการเพิ่มประชากรสูง แต่กลุ่ม medium และ high มีการเพิ่มประชากรติดลบ

คนที่เรียนสูง การงานมั่นคง ฐานะดี มีความเป็นอิสระสูงมาก ไม่ชอบภาระ เลยทำให้ชอบอยู่เป็นโสดหรือแต่งงานช้า หรือถ้าแต่งงานก็เลือกจะมีลูกน้อยหรือไม่มีลูกเลย

รัฐบาลลงทุนจัดแคมเปญ หาคู่ให้คนกลุ่มนี้ มี package แต่งงาน แถมเงิน ยิ่งถ้ามีลูกด้วย ลดภาษีแถมให้อีก
สงสัยต้องย้ายไปอยู่สิงคโปร์.. :lovl:

อ่านแล้วสงสารประเทศสิงค์โปร์เลย(มีเรื่องให้สงสารได้ด้วย)

[SEHJU]

จารย์ mprandy ข้อมูลเยอะอีกแล้วว....

อาจารย์ความรู้กว้างขวางมากเลยอ่ะ

[Ryuga]

ยังโสดอยู่คับ เข้ามาฟังพี่ๆ ที่มีลูกแล้วเล่าประสบการณ์ให้ฟัง  

[Alastor]

ผมว่าเรื่องที คนรวย/ชั้นกลางมีลูกน้อย แต่คนจนมีลูกเป็นกระต่าย มันก็เป็นมาตั้งนานแล้วนะครับ สุดท้ายเราก็เห็นจำนวนคนรวย & ชั้นกลางเพิ่มขึ้นทุกที อาจจะเพราะว่าเราไปคิดว่า คนชั้นไหนก็ออกลูกมาเป็นคนชั้นนั้น แต่ความจริงแล้วการเลื่อนชั้นขึ้นหรือลง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าง buffet/bill gate ก็ไม่ได้เกิดมารวย ตัน oishi นี่ยิ่งแย่เลย

คนเกิดมารวยก็แค่มี head start แต่ไม่ได้แปลว่าจะโตมาเป็นคนที่ดีกว่าพ่อแม่อ่ะครับ ดังนั้น อย่าห่วงเรื่องนี้เลยครับ ผมว่าที่น่าห่วงคือคนไม่มีลูกกันทั้งประเทศ แบบ Germany ที่คนแก่เต็มเมือง เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยโตเพราะไม่มีแรงงาน ต่อไปประเทศคงมีแต่ turkey กับ chinese (ไทยด้วย) เต็มไปหมด เป็นการยึดประเทศทาง demographic แบบช้าๆ :lol:

[teetotal]

คนใช้ไหนก็ตาม ถ้าเลี้ยงดูลูกของตัวอย่างเหมาะสม
พอที่จะเป็น คนดี ของสังคมได้ ก็ดี
แต่ พวกที่มีแล้ว เลี้ยงไม่ดี จนเป็นปัญหาสังคมนี่สิครับ

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า เด็กเล็กๆ เดี๋ยวนี้น่ากลัวขึ้น
เพื่อนของคนที่เล่าให้ฟัง เห็นเด็กอายุไม่ถึง 15 จับกลุ่มกัน
เข้าไปตบหัวหยอกล้อ
เจอแทงสวนด้วยมีดปอกผลไม้ได้เลือดเลย

สังคมน่ากลัวนะครับ คิดว่า น่าจะมาจาก
ครอบครัวที่มีลูกมาก แต่ไม่พร้อมจะเลี้ยงให้ดี ส่วนหนึ่งนะครับ

จะหวัง ให้ครูสอนเหรอ ครับ ผมไม่กล้าหวัง

[Psalms0851538354]

ส่วนตัวผมคิดว่า การแต่งงานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตนะครับ บางคนอยู่เป็นโสดแล้วมีความสุขก็เยอะแยะไป ปัญหาคือเจอคนที่ใช่จริงๆ หรือเปล่าที่ทำให้คุณมีความสุขกว่าอยู่คนเดียว ถ้าไม่เจอก็อย่าแต่งเลยครับ เพราะมันจะไม่ยั่งยืนหรืออดทนต่อกัน เพราะมันตลอดชีวิตเลย เห็นพวกสักแต่ว่าแต่ง กระสันจะแต่ง พอมีลูกออกมา อยู่ได้อีก 2-3 ปี ก็เลิกกัน หรือสักแต่ว่าขอให้ได้ออกลูกก่อนหรือยังไงก็ไม่ทราบ ลูกออกมาก็มีปัญหาขาดความอบอุ่นอีก

การเป็นโสดก็ดีครับ ไม่ต้องมีภาระ มีอิสระเต็มที่ ไม่ต้องมีอะไรให้เป็นห่วงหรือสาละวนวุ่นวายมาก เพียงแต่ว่าต้องเป็นคนที่สามารถอยู่คนเดียวได้แล้วไม่เหงานะครับ แต่หากอยู่คนเดียวไม่ได้ก็แต่งไปเถอะครับ ไม่ต้องมีลูกก็ได้ กลัวจะบ้าไปซะก่อน

อัตราการเพิ่มของประชากรของโลกโดยรวมลดลงก็จริงครับ แต่ก็ถือว่ายังน่าเป็นห่วงเมื่อเทียบกับทรัพยากรของโลกที่มีแต่จะลดลง ไม่เพิ่มขึ้น ประชากรโลกก็จะต้องแย่งชิงกันมากขึ้นไปอีก ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องมาเพิ่มประชากรให้โลกเรามากอีกก็ได้

[August]

"อภรรยา ปรมาลาภา"
ความไม่มีเมียเป็นลาภอันประเสริฐ

มีเมีย เหมือนมือถือ...เป็นเหมือนสื่อคอยติดตาม
มีเมีย เหมือนมียาม...คอยสอบถามยุ่มย่ามใจ
มีเมีย เหมือนมีบ้าน...อยู่นานนานย่อมเบื่อได้
มีเมีย เหมือนมอเตอร์ไซค์...ซิ่งเร็วไปอาจเสี่ยงตาย
มีเมีย เหมือนมีรถ...ราคาหดเวลาขาย
มีเมีย เหมือนผีพราย...หากร่างกายไม่แต่งเติม
มีเมีย เหมือนม้าห้อ...ควบไม่รอยามฮึกเหิม
มีเมีย เหมือนบัตรเสริม...ต้องคอยเติมเงินเรื่อยไป
มีเมีย เหมือนปีศาจ...ยามอาละวาดน่าตกใจ
มีเมีย เหมือนมีไหปลาร้า....ใส่หลายร้อยปี
มีเมีย เหมือนมีคอมฯ...ต้องคอยซ่อมบ่อยเหลือที่
มีเมีย เหมือนปลากระดี่...ได้น้ำดีก็จากไป
มีเมีย เหมือนดั่งเสือ...ขย้ำเหยื่อจะเหลือไร
มีเมีย เหมือนกรรไกร...ตัดทีไรขาดทุกที
มีเมีย ชอบจ่ายดะ...ซื้อไม่ละนะคุณพี่
มีเมีย ชอบเซ้าซี้...บ่นทุกทีที่เจอกัน
มีเมีย ละเ***่ยใจ...แล้วทำไมชอบมีกัน
มีเมีย ไม่สร้างสรรค์...จำให้มั่น อย่า มีเมีย

--------------------------------------------
กลอนนี้  
เอามาให้อ่านเล่นๆ  
สำหรับคนโสดครับ


จากคนไม่โสด
หมดสิทธิ์คิดแล้ว
:lol: