โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 1
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
หุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวกลางปี ฟันธง!
ท่ามกลางความวิตกกังวลของนักลงทุน และประชาชนทั่วประเทศ ต่อกรณีความมั่นคงของรัฐบาลและการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ เพื่อร่วมแก้ปัญหาผลจากกระทบซับไพร์ม ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะอึมครึม ล่าสุด บล.เอเซียพลัส ช่วยผ่าทางตัน จัดโหรหุ้นชื่อดัง "หมอไพศาล-หมอเจษฎา" ร่วมทำนายดวงเมืองและตลาดหุ้น ระบุ "สมัคร" นั่งเก้าอี้นายกฯ ได้ไม่นาน ขณะที่หุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวช่วงกลางปี ฟันธง!
* วิตกรัฐบาลใหม่ไม่มั่นคง
ในที่สุด 28 มกราคม 2551 ประเทศไทยก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 อย่างเป็นทางการซึ่งมีชื่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูง และขณะนี้ประชาชนทั่วประเทศ กำลังรอดูโฉมหน้ารัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้มีโผออกมาทุกเก้าอี้แล้ว และค่อนข้างชัดเจนว่ารายชื่อที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนนั้น มักไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด
สำหรับรายชื่อโผ ครม.ที่เกิดขึ้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นรายชื่อที่สั่งตรงมาจากฮ่องกง นำเสนอผ่านมือขวาอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ซึ่งตัวเองมีชื่อด้วยว่าจะได้นั่งเก้าอี้ รมว.คลัง และโผรายชื่อทั้งหมดนี้ถูกท้วงติงจาก นายสมัคร ว่าจะเปลี่ยนได้หรือไม่ใน 3 ตำแหน่งสำคัญ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.พลังงาน
แม้ประชาชนทั้งประเทศจะโล่งใจไปเปราะหนึ่ง ที่ประเทศไทยได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ประเด็นสำคัญที่ยังวิตกกังวลก็คือ รัฐบาลชุดที่หลายคนเรียกว่านอมินี และทีมเศรษฐกิจชุดใหม่นี้จะมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาซับไพร์มขยายวงกว้างไปทั่วโลกได้หรือไม่ แล้วจะเกิดเหตุการณ์ประท้วงภายในประเทศอีกหรือไม่ด้วยเช่นกัน
ความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลมาจากภาคการลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย ดูได้จากตลอดเดือนมกราคม 2551 นี้ นักลงทุนต่างชาติได้เทขายสุทธิออกมากว่า 30,000 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยต่างปรับกลยุทธ์ใหม่ หันมาถือเงินสดเพื่อลดความเสี่ยง แล้วเน้นการลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรเป็นหลัก โดยไม่เน้นถือหุ้นข้ามวันเหมือนในอดีต
* โบรกฯ จัดสัมนาหาทางออกให้นักลงทุน
บรรยากาศความอึมครึมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และในตลาดหุ้นไทยอย่างไร้คำตอบ ส่งผลให้ บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ได้จัดเสวนาเรื่อง "โหราหุ้น : ทำนายทายทักเศรษฐกิจปีหนูไฟ" เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) โดยมีโหรหุ้นชื่อดังเข้าร่วมเสวนา คือ รศ.ดร.เจษฎา โลหอุ่นจิตร นักเศรษฐศาสตร์ผู้ศึกษาในโหราศาสตร์สากล เจ้าของนามปากกา ยูเรสโตร์ จากคอลัมน์ถอดรหัสลับดวงดาว ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนายไพศาล ซอยพิบูลย์เวศน์ โหราพยากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์และการพยากรณ์หุ้น
* เจษฎา ชี้รัฐบาลผสมภายใต้แกนนำ "สมัคร" จะมีอายุครึ่งปี
รศ.ดร.เจษฎา เปิดเผยว่า รัฐบาลผสมที่จัดตั้งขึ้นโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะมีอายุเพียงประมาณครึ่งปีเท่านั้น หลังจากนั้นอาจจะมีการยุบสภาในกรณีที่การเมืองมาถึงทางตัน เพราะดาวเสาร์จรจะเข้าเล็งดาวศุกร์ ในช่วงท้ายของปีนี้ ดังนั้นปัจจัยการเมืองจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจไทยที่กำลังซบเซาในขณะนี้
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวในปีนี้ คือ การอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดเงิน ตลอดจนตลาดทุนทั่วโลกด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ
"ปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับมุมกุม หรือ ศูนย์องศาของพลูโตจร กับเสาร์และพฤหัส ในเรือนชะตาที่ 8 อันเกี่ยวกับเรื่องการเงินกับต่างประเทศและมุมเล็ง ของพลูโตจร กับมฤตยูในเรือนชะตาที่ 2 อันเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การลงทุนและเงินบาท" รศ.ดร.เจษฎา กล่าว
อย่างไรก็ดี ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับ รมว.คลังคนใหม่ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หากการรับมือกับสถานการณ์ผันผวนของปัจจัยลบภายนอกประเทศไม่ได้ ก็มีโอกาสที่บุคคลทั้งสองที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะหลุดพ้นจากตำแหน่งโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2550 ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าว จึงมีข่าวออกมาว่านักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังหลายคนได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง รมว.คลังคนใหม่
* ไพศาล มองหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวช่วงกลางปี
ด้านนายไพศาล เปิดเผยว่า ตามพื้นดวงของนายสมัคร สุนทรเวช เหมาะสำหรับการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย เนื่องจากมีดวงความเป็นผู้นำและจะนำพาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นคนดี ไม่มีการฉ้อโกง
"คุณสมัคร ตามดวงเป็นผู้นำที่ดี อีกทั้งสัมพันธ์กับเศรษฐกิจ เพราะเกิดในราศีมังกร อีกทั้งจะเป็นผู้ที่กลั่นกรองบุคคลได้เป็นอย่างดี เพราะเชื่อว่าเห็นคนไม่ดีเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วก็จะมีการปรับเปลี่ยนหาคนที่ดีเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ตามพื้นดวงของคุณสมัคร ที่เป็นผู้นำที่ดี" นายไพศาล กล่าว
ทั้งนี้ตามคำทำนายในช่วงเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. 2551 หรือ 4 เดือนแรกของปีนี้ เป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะทยอยเข้ามาซื้อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่าหลังจากนี้ไปบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเริ่มดีขึ้น ตามปัจจัยทางการเมืองที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ จะเริ่มลงตัวในช่วงเวลาดังกล่าว และจากนั้นเดือน ก.ค. 2551 จึงทยอยขายทำกำไร ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ควรที่จะโลภเมื่อมีกำไรแล้วควรที่จะทยอยขายทำกำไรด้วย
* ฟันธง! "สมัคร" นั่งเก้าอี้นายกฯ แค่ 2 ปี
นายไพศาล กล่าวด้วยว่า ตามพื้นดวงของนายสมัคร สุนทรเวช ทำนายว่า จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 2 ปี เพราะเป็นไปตามเส้นวาสนาของบุคคลดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่พ้นจากตำแหน่งนายกฯ แล้วคาดว่านายสมัคร จะเขียนหนังสือบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติและประสบการณ์ในการขึ้นดำรงตำแหน่งครั้งนี้ออกวางจำหน่าย ซึ่งน่าจะได้รับความนิยม เพราะเป็นที่สนในของบุคคลอยู่แล้ว
* ก้องเกียรติ เชื่อตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้นหลังการเมืองนิ่ง
ด้าน ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) (ASP) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสที่จะดีขึ้น หลังจากที่ปัจจัยทางการเมืองเริ่มนิ่ง ซึ่งส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงไหน เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศ ในไตรมาส 1/51 ว่าจะออกมาในทิศทางใด
โดยการพิจารณายกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรที่จะต้องหาเวลาและช่วงจังหวะที่เหมาะสม นอกจากนี้ ในปัจจุบันมาตรการกันสำรอง 30% ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องการฝากให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาคือ ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม อย่าคำนึงหรือให้ความสำคัญเฉพาะบางกลุ่ม
"รัฐบาลชุดใหม่จะต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นและดูหลายอย่างประกอบกัน ตลอดจนให้ความสำคัญกับทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกหรือเอสเอ็มอี ต้องดูแลทุกกลุ่มให้เกิดความสมดุลด้วย" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
* ปัดไม่ออกความคิดเห็น รมว.คลังคนใหม่
ทั้งนี้ ไม่ขอออกความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า มีการทาบทามนายวีระพงษ์ รามางกูร หรือตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังคนใหม่ หรือไม่ แต่ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจที่จะเข้ามาให้ความสำคัญกับนโยบายในการดำเนินการว่าทำได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ควรที่จะให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมมากกว่า เพราะไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้ ขณะเดียวกัน ไม่ขอออกความคิดเห็นว่ามีใครทาบทามเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่
ส่วนในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบนี้ คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ส่วนกลางปี คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2-2.50% ขณะเดียวกัน แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกยังมีโอกาสลดลงด้วย
นอกจากนี้ หากดูตัวเลขสถิติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวสูงที่สุดเกิน 100% เป็นเวลา 8 ปี และแกว่งตัวอยู่ในช่วง 50-100% เป็นระยะเวลา 6 ปี และต่ำกว่า 50% อีก 6 ปี ยกเว้นปี 2003 ที่ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวเกิน 100%
* บล.ภัทร แนะ ธปท.ลดดอกเบี้ย-ยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30%
ในวันเดียวกันนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (PHATRA) ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ จับตาเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตซับไพร์ม ว่า ประเทศไทยไม่ควรที่จะค่าเงินบาทไว้กับเงินดอลลาร์ แต่ควรปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวอย่างเสรีซึ่งแนวโน้มขณะนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ข้อดีคือจะทำให้เงินเฟ้อลดลง ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็จะหมดความกังวลในการดูแลเงินเฟ้อ และสามารถลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีโอกาสที่ ธปท.จะลดดอกเบี้ยได้ตราบใดที่ไทยไม่มีปัญหาทางเงินเฟ้อ
"ค่าเงินจะอยู่ที่ 29 หรือ 30 บาทก็ปล่อยไป เพราะจะทำให้เงินเฟ้อลดลง และสามารถลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
สำหรับมาตรการกันสำรองเงินทุนนำเข้า 30% ในระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรจะยกเลิกเพื่อเปิดทางให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะเงินลงทุนโดยตรง (FDI) ที่จะไหลเข้ามาพร้อมกับเทคโนโลยีและการบริหารจัดการที่ดีกว่ามาตรฐานของไทย ทั้งนี้ตามที่เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาและลงทุนไม่ถึง 1 ปีไม่ได้หมายความว่าเป็นเงินลงทุนระยะสั้นเสมอไป แต่บางครั้งนักลงทุนอาจต้องการความยืดหยุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องคงเงินลงทุนไว้ในไทยถึง 1 ปีตามเกณฑ์ 30%
* ต้องปล่อยค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ก่อนที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวได้ ธปท.จะต้องปล่อยให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด ซึ่งแนวโน้มในขณะนี้เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยการปล่อยให้เคลื่อนไหวเสรีนั้น นักลงทุนจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเงินบาทจะอ่อนหรือแข็งค่าทำให้เก็งทิศทางค่าเงินได้ยาก ซึ่งจะช่วยลดการเก็งกำไรลงได้
"เหตุผลที่ ธปท. กลัวคือผู้ส่งออกจะลำบากหากปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าอย่างเสรี แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวก สะท้อนได้ว่าการส่งออกสุทธิของไทยมีมากแล้ว ดังนั้นจึงควรหันมาเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าที่จะพึ่งการส่งออก" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
แม้ขณะนี้ปัญหาซับไพร์มจะลุกลามไปทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก แม้ว่าไทยยังคงพึ่งตลาดส่งออกไปยังสหรัฐ เนื่องจากประเทศไทยมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยปัจจุบันกำลังการผลิตภาคใช้ไปมาก ซึ่งถึงจังหวะที่จะต้องขยายการลงทุนใหม่ และสามารถชดเชยการส่งออกที่ลดลงได้
* แนะนักลงทุนจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาหนึ่งที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ต้องเผชิญคือ แรงกดดันจากเงินเฟ้อ สืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 15% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย เนื่องจากนักลงทุนเกิดการตื่นตระหนกจึงมีการลดความเสี่ยงโดยรวมจากการลงทุนด้วยการโยกเงินจากตลาดหุ้นไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
ดังนั้นนักลงทุนควรจะมีการจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวัง ว่าจะลงทุนในหุ้นกองทุนรวมหรืออื่นๆ อย่างไรบ้าง เพราะสิ่งหนึ่งที่จะต้องยอมรับ คือ อัตราผลตอบแทนที่เคยได้ในระดับสูงอาจจะปรับลดลงมาเหลือเพียง 50% ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้เกิดจากความผันผวนของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งสืบเนื่องมาจากปัญหาซับไพร์ม ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน รวมถึงผลกระทบจากนโยบายทางการเงินของไทยเอง
"ยอมรับว่าปีนี้มีตัวแปรที่ต้องติดตามสูงมาก เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนจึงควรจะจัดสรรการลงทุนอย่างรัดกุมมากกว่าที่จะมาดูเป็นหุ้นรายตัว" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
* ยันไม่มีใครทาบทามเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ดร.ศุภวุฒิ ยังกล่าวว่า ไม่เคยได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจกับรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากไม่มีความถนัดทางด้านการเมือง แต่ยินดีให้คำปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า เนื่องจาก บล.ภัทร มีการพัฒนาบทวิจัยกับ เมอริลลินช์ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จึงพร้อมที่จะนำบทวิเคราะห์หรือบทวิจัยต่างๆ นำเสนอให้กับรัฐบาล แต่ไม่สนใจในตำแหน่งทางการเมือง
หุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวกลางปี ฟันธง!
ท่ามกลางความวิตกกังวลของนักลงทุน และประชาชนทั่วประเทศ ต่อกรณีความมั่นคงของรัฐบาลและการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ เพื่อร่วมแก้ปัญหาผลจากกระทบซับไพร์ม ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะอึมครึม ล่าสุด บล.เอเซียพลัส ช่วยผ่าทางตัน จัดโหรหุ้นชื่อดัง "หมอไพศาล-หมอเจษฎา" ร่วมทำนายดวงเมืองและตลาดหุ้น ระบุ "สมัคร" นั่งเก้าอี้นายกฯ ได้ไม่นาน ขณะที่หุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวช่วงกลางปี ฟันธง!
* วิตกรัฐบาลใหม่ไม่มั่นคง
ในที่สุด 28 มกราคม 2551 ประเทศไทยก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 อย่างเป็นทางการซึ่งมีชื่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูง และขณะนี้ประชาชนทั่วประเทศ กำลังรอดูโฉมหน้ารัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้มีโผออกมาทุกเก้าอี้แล้ว และค่อนข้างชัดเจนว่ารายชื่อที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนนั้น มักไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด
สำหรับรายชื่อโผ ครม.ที่เกิดขึ้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นรายชื่อที่สั่งตรงมาจากฮ่องกง นำเสนอผ่านมือขวาอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ซึ่งตัวเองมีชื่อด้วยว่าจะได้นั่งเก้าอี้ รมว.คลัง และโผรายชื่อทั้งหมดนี้ถูกท้วงติงจาก นายสมัคร ว่าจะเปลี่ยนได้หรือไม่ใน 3 ตำแหน่งสำคัญ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.พลังงาน
แม้ประชาชนทั้งประเทศจะโล่งใจไปเปราะหนึ่ง ที่ประเทศไทยได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ประเด็นสำคัญที่ยังวิตกกังวลก็คือ รัฐบาลชุดที่หลายคนเรียกว่านอมินี และทีมเศรษฐกิจชุดใหม่นี้จะมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาซับไพร์มขยายวงกว้างไปทั่วโลกได้หรือไม่ แล้วจะเกิดเหตุการณ์ประท้วงภายในประเทศอีกหรือไม่ด้วยเช่นกัน
ความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลมาจากภาคการลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย ดูได้จากตลอดเดือนมกราคม 2551 นี้ นักลงทุนต่างชาติได้เทขายสุทธิออกมากว่า 30,000 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยต่างปรับกลยุทธ์ใหม่ หันมาถือเงินสดเพื่อลดความเสี่ยง แล้วเน้นการลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรเป็นหลัก โดยไม่เน้นถือหุ้นข้ามวันเหมือนในอดีต
* โบรกฯ จัดสัมนาหาทางออกให้นักลงทุน
บรรยากาศความอึมครึมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และในตลาดหุ้นไทยอย่างไร้คำตอบ ส่งผลให้ บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ได้จัดเสวนาเรื่อง "โหราหุ้น : ทำนายทายทักเศรษฐกิจปีหนูไฟ" เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) โดยมีโหรหุ้นชื่อดังเข้าร่วมเสวนา คือ รศ.ดร.เจษฎา โลหอุ่นจิตร นักเศรษฐศาสตร์ผู้ศึกษาในโหราศาสตร์สากล เจ้าของนามปากกา ยูเรสโตร์ จากคอลัมน์ถอดรหัสลับดวงดาว ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนายไพศาล ซอยพิบูลย์เวศน์ โหราพยากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์และการพยากรณ์หุ้น
* เจษฎา ชี้รัฐบาลผสมภายใต้แกนนำ "สมัคร" จะมีอายุครึ่งปี
รศ.ดร.เจษฎา เปิดเผยว่า รัฐบาลผสมที่จัดตั้งขึ้นโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะมีอายุเพียงประมาณครึ่งปีเท่านั้น หลังจากนั้นอาจจะมีการยุบสภาในกรณีที่การเมืองมาถึงทางตัน เพราะดาวเสาร์จรจะเข้าเล็งดาวศุกร์ ในช่วงท้ายของปีนี้ ดังนั้นปัจจัยการเมืองจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจไทยที่กำลังซบเซาในขณะนี้
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวในปีนี้ คือ การอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดเงิน ตลอดจนตลาดทุนทั่วโลกด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ
"ปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับมุมกุม หรือ ศูนย์องศาของพลูโตจร กับเสาร์และพฤหัส ในเรือนชะตาที่ 8 อันเกี่ยวกับเรื่องการเงินกับต่างประเทศและมุมเล็ง ของพลูโตจร กับมฤตยูในเรือนชะตาที่ 2 อันเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การลงทุนและเงินบาท" รศ.ดร.เจษฎา กล่าว
อย่างไรก็ดี ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับ รมว.คลังคนใหม่ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หากการรับมือกับสถานการณ์ผันผวนของปัจจัยลบภายนอกประเทศไม่ได้ ก็มีโอกาสที่บุคคลทั้งสองที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะหลุดพ้นจากตำแหน่งโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2550 ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าว จึงมีข่าวออกมาว่านักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังหลายคนได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง รมว.คลังคนใหม่
* ไพศาล มองหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวช่วงกลางปี
ด้านนายไพศาล เปิดเผยว่า ตามพื้นดวงของนายสมัคร สุนทรเวช เหมาะสำหรับการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย เนื่องจากมีดวงความเป็นผู้นำและจะนำพาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นคนดี ไม่มีการฉ้อโกง
"คุณสมัคร ตามดวงเป็นผู้นำที่ดี อีกทั้งสัมพันธ์กับเศรษฐกิจ เพราะเกิดในราศีมังกร อีกทั้งจะเป็นผู้ที่กลั่นกรองบุคคลได้เป็นอย่างดี เพราะเชื่อว่าเห็นคนไม่ดีเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วก็จะมีการปรับเปลี่ยนหาคนที่ดีเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ตามพื้นดวงของคุณสมัคร ที่เป็นผู้นำที่ดี" นายไพศาล กล่าว
ทั้งนี้ตามคำทำนายในช่วงเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. 2551 หรือ 4 เดือนแรกของปีนี้ เป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะทยอยเข้ามาซื้อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่าหลังจากนี้ไปบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเริ่มดีขึ้น ตามปัจจัยทางการเมืองที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ จะเริ่มลงตัวในช่วงเวลาดังกล่าว และจากนั้นเดือน ก.ค. 2551 จึงทยอยขายทำกำไร ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ควรที่จะโลภเมื่อมีกำไรแล้วควรที่จะทยอยขายทำกำไรด้วย
* ฟันธง! "สมัคร" นั่งเก้าอี้นายกฯ แค่ 2 ปี
นายไพศาล กล่าวด้วยว่า ตามพื้นดวงของนายสมัคร สุนทรเวช ทำนายว่า จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 2 ปี เพราะเป็นไปตามเส้นวาสนาของบุคคลดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่พ้นจากตำแหน่งนายกฯ แล้วคาดว่านายสมัคร จะเขียนหนังสือบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติและประสบการณ์ในการขึ้นดำรงตำแหน่งครั้งนี้ออกวางจำหน่าย ซึ่งน่าจะได้รับความนิยม เพราะเป็นที่สนในของบุคคลอยู่แล้ว
* ก้องเกียรติ เชื่อตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้นหลังการเมืองนิ่ง
ด้าน ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) (ASP) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสที่จะดีขึ้น หลังจากที่ปัจจัยทางการเมืองเริ่มนิ่ง ซึ่งส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงไหน เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศ ในไตรมาส 1/51 ว่าจะออกมาในทิศทางใด
โดยการพิจารณายกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรที่จะต้องหาเวลาและช่วงจังหวะที่เหมาะสม นอกจากนี้ ในปัจจุบันมาตรการกันสำรอง 30% ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องการฝากให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาคือ ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม อย่าคำนึงหรือให้ความสำคัญเฉพาะบางกลุ่ม
"รัฐบาลชุดใหม่จะต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นและดูหลายอย่างประกอบกัน ตลอดจนให้ความสำคัญกับทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกหรือเอสเอ็มอี ต้องดูแลทุกกลุ่มให้เกิดความสมดุลด้วย" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
* ปัดไม่ออกความคิดเห็น รมว.คลังคนใหม่
ทั้งนี้ ไม่ขอออกความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า มีการทาบทามนายวีระพงษ์ รามางกูร หรือตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังคนใหม่ หรือไม่ แต่ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจที่จะเข้ามาให้ความสำคัญกับนโยบายในการดำเนินการว่าทำได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ควรที่จะให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมมากกว่า เพราะไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้ ขณะเดียวกัน ไม่ขอออกความคิดเห็นว่ามีใครทาบทามเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่
ส่วนในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบนี้ คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ส่วนกลางปี คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2-2.50% ขณะเดียวกัน แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกยังมีโอกาสลดลงด้วย
นอกจากนี้ หากดูตัวเลขสถิติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวสูงที่สุดเกิน 100% เป็นเวลา 8 ปี และแกว่งตัวอยู่ในช่วง 50-100% เป็นระยะเวลา 6 ปี และต่ำกว่า 50% อีก 6 ปี ยกเว้นปี 2003 ที่ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวเกิน 100%
* บล.ภัทร แนะ ธปท.ลดดอกเบี้ย-ยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30%
ในวันเดียวกันนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (PHATRA) ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ จับตาเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตซับไพร์ม ว่า ประเทศไทยไม่ควรที่จะค่าเงินบาทไว้กับเงินดอลลาร์ แต่ควรปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวอย่างเสรีซึ่งแนวโน้มขณะนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ข้อดีคือจะทำให้เงินเฟ้อลดลง ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็จะหมดความกังวลในการดูแลเงินเฟ้อ และสามารถลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีโอกาสที่ ธปท.จะลดดอกเบี้ยได้ตราบใดที่ไทยไม่มีปัญหาทางเงินเฟ้อ
"ค่าเงินจะอยู่ที่ 29 หรือ 30 บาทก็ปล่อยไป เพราะจะทำให้เงินเฟ้อลดลง และสามารถลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
สำหรับมาตรการกันสำรองเงินทุนนำเข้า 30% ในระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรจะยกเลิกเพื่อเปิดทางให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะเงินลงทุนโดยตรง (FDI) ที่จะไหลเข้ามาพร้อมกับเทคโนโลยีและการบริหารจัดการที่ดีกว่ามาตรฐานของไทย ทั้งนี้ตามที่เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาและลงทุนไม่ถึง 1 ปีไม่ได้หมายความว่าเป็นเงินลงทุนระยะสั้นเสมอไป แต่บางครั้งนักลงทุนอาจต้องการความยืดหยุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องคงเงินลงทุนไว้ในไทยถึง 1 ปีตามเกณฑ์ 30%
* ต้องปล่อยค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ก่อนที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวได้ ธปท.จะต้องปล่อยให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด ซึ่งแนวโน้มในขณะนี้เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยการปล่อยให้เคลื่อนไหวเสรีนั้น นักลงทุนจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเงินบาทจะอ่อนหรือแข็งค่าทำให้เก็งทิศทางค่าเงินได้ยาก ซึ่งจะช่วยลดการเก็งกำไรลงได้
"เหตุผลที่ ธปท. กลัวคือผู้ส่งออกจะลำบากหากปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าอย่างเสรี แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวก สะท้อนได้ว่าการส่งออกสุทธิของไทยมีมากแล้ว ดังนั้นจึงควรหันมาเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าที่จะพึ่งการส่งออก" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
แม้ขณะนี้ปัญหาซับไพร์มจะลุกลามไปทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก แม้ว่าไทยยังคงพึ่งตลาดส่งออกไปยังสหรัฐ เนื่องจากประเทศไทยมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยปัจจุบันกำลังการผลิตภาคใช้ไปมาก ซึ่งถึงจังหวะที่จะต้องขยายการลงทุนใหม่ และสามารถชดเชยการส่งออกที่ลดลงได้
* แนะนักลงทุนจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาหนึ่งที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ต้องเผชิญคือ แรงกดดันจากเงินเฟ้อ สืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 15% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย เนื่องจากนักลงทุนเกิดการตื่นตระหนกจึงมีการลดความเสี่ยงโดยรวมจากการลงทุนด้วยการโยกเงินจากตลาดหุ้นไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
ดังนั้นนักลงทุนควรจะมีการจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวัง ว่าจะลงทุนในหุ้นกองทุนรวมหรืออื่นๆ อย่างไรบ้าง เพราะสิ่งหนึ่งที่จะต้องยอมรับ คือ อัตราผลตอบแทนที่เคยได้ในระดับสูงอาจจะปรับลดลงมาเหลือเพียง 50% ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้เกิดจากความผันผวนของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งสืบเนื่องมาจากปัญหาซับไพร์ม ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน รวมถึงผลกระทบจากนโยบายทางการเงินของไทยเอง
"ยอมรับว่าปีนี้มีตัวแปรที่ต้องติดตามสูงมาก เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนจึงควรจะจัดสรรการลงทุนอย่างรัดกุมมากกว่าที่จะมาดูเป็นหุ้นรายตัว" ดร.ศุภวุฒิ กล่าว
* ยันไม่มีใครทาบทามเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ดร.ศุภวุฒิ ยังกล่าวว่า ไม่เคยได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจกับรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากไม่มีความถนัดทางด้านการเมือง แต่ยินดีให้คำปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า เนื่องจาก บล.ภัทร มีการพัฒนาบทวิจัยกับ เมอริลลินช์ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จึงพร้อมที่จะนำบทวิเคราะห์หรือบทวิจัยต่างๆ นำเสนอให้กับรัฐบาล แต่ไม่สนใจในตำแหน่งทางการเมือง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 6
โค้ด: เลือกทั้งหมด
รศ.ดร.เจษฎา เปิดเผยว่า รัฐบาลผสมที่จัดตั้งขึ้นโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะมีอายุเพียงประมาณครึ่งปีเท่านั้น หลังจากนั้นอาจจะมีการยุบสภาในกรณีที่การเมืองมาถึงทางตัน เพราะดาวเสาร์จรจะเข้าเล็งดาวศุกร์ ในช่วงท้ายของปีนี้ ดังนั้นปัจจัยการเมืองจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจไทยที่กำลังซบเซาในขณะนี้
อะไรกัน รศ.ดร.
กร๊ากกก เรียนมาทำไมกันนี่
ดาวเสาร์จรจะเข้าดาวศุกร์
ส่งผลถึงรัฐบาลประเทศไทยเลย เหอๆ
- Kuruni
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 8
ทำนายทายทัก ดูดวง สมัยก่อนนั้นมีไว้สำหรับปกครองทาสไม่ให้คิดเป็น ไม่ใช้ปัญญา เหมือนตอนเกิดสึนามิก็มีพวกโหรทั้งโหรกระจอกทั้งโหรดังออกมาบอกว่าจะเกิดอีก รุนแรงกว่าครั้งก่อน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคิดว่าคนที่ประกอบอาชีพโหรนี่เป็นงานขายบริการอย่างนึง คือการที่คนไปหาหมอดูส่วนใหญ่มีเรื่องไม่สบายใจพวกก็ทายดักไว้เลยว่ามีเรื่องนั้นบ้างนี้บ้าง เพราะคนที่มีความสุขอยู่ดีๆคงไม่มีใครไปดูหมอหรือให้หมอดูหรอกครับ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 9
จำได้ว่า เคยมีคนดูว่า อภิสิทธิ์ จะได้ไม่ใช่เหรอครับ
กลายเป็น คุณ สมัคร ไปได้
อย่าไปเชื่อพวกโหร มากเลยครับ
บางคนก็ นั่งสมาธิ จน เกิดนิมิต(ฝัน)
แล้วเอามาเล่าเป็นตุ เป็นตะ
โหรสมัยนี้ ผูกดวง ยังไม่ลบเวลาตกฟากเลย
ลองไปลองภูมิ พวกที่บอกว่า ตัวเองเป็นหมอดูโหรไทย
ถามมันว่า เวลาท้องถิ่นที่ กทม ทำไม ต้องลบ 18 นาที
บางคนยังไม่รู้เลย
โหราศาสตร์ นับวันจะตกต่ำ
เพราะ ไปอยู่กะ พวก หาเช้า กินค่ำ
ทำอะไรไม่เป็น มสร้างภาพว่า เป็นหมอดู
เอาตาราง 12 ช่อง มาเขียน เป็นเลข 7 ตัว 3 ฐาน ก็เคยเห็นมาแล้ว
โคตรมั่วเลย
กลายเป็น คุณ สมัคร ไปได้
อย่าไปเชื่อพวกโหร มากเลยครับ
บางคนก็ นั่งสมาธิ จน เกิดนิมิต(ฝัน)
แล้วเอามาเล่าเป็นตุ เป็นตะ
โหรสมัยนี้ ผูกดวง ยังไม่ลบเวลาตกฟากเลย
ลองไปลองภูมิ พวกที่บอกว่า ตัวเองเป็นหมอดูโหรไทย
ถามมันว่า เวลาท้องถิ่นที่ กทม ทำไม ต้องลบ 18 นาที
บางคนยังไม่รู้เลย
โหราศาสตร์ นับวันจะตกต่ำ
เพราะ ไปอยู่กะ พวก หาเช้า กินค่ำ
ทำอะไรไม่เป็น มสร้างภาพว่า เป็นหมอดู
เอาตาราง 12 ช่อง มาเขียน เป็นเลข 7 ตัว 3 ฐาน ก็เคยเห็นมาแล้ว
โคตรมั่วเลย
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 10
สถานการณ์แบบนี้ โอกาส อยู่ไม่ครบเทอม มีสูงอยู่แล้ว
ทำมาเป็นเชื่อมโยง กับ โหร
แน่จริงให้ โหร บอกหน่อยว่า
3 ตัวบนงวดหน้า วิ่งอะไรดี
เอาตัวเดียวพอ
:lol: :lol: :lol:
อ่านซ้อ 7 แฉ โหร คนดังกันยัง
ทำมาเป็นเชื่อมโยง กับ โหร
แน่จริงให้ โหร บอกหน่อยว่า
3 ตัวบนงวดหน้า วิ่งอะไรดี
เอาตัวเดียวพอ
:lol: :lol: :lol:
อ่านซ้อ 7 แฉ โหร คนดังกันยัง
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 11
แสดงว่าดูดวงเป็น อิอิteetotal เขียน:จำได้ว่า เคยมีคนดูว่า อภิสิทธิ์ จะได้ไม่ใช่เหรอครับ
กลายเป็น คุณ สมัคร ไปได้
อย่าไปเชื่อพวกโหร มากเลยครับ
บางคนก็ นั่งสมาธิ จน เกิดนิมิต(ฝัน)
แล้วเอามาเล่าเป็นตุ เป็นตะ
โหรสมัยนี้ ผูกดวง ยังไม่ลบเวลาตกฟากเลย
ลองไปลองภูมิ พวกที่บอกว่า ตัวเองเป็นหมอดูโหรไทย
ถามมันว่า เวลาท้องถิ่นที่ กทม ทำไม ต้องลบ 18 นาที
บางคนยังไม่รู้เลย
โหราศาสตร์ นับวันจะตกต่ำ
เพราะ ไปอยู่กะ พวก หาเช้า กินค่ำ
ทำอะไรไม่เป็น มสร้างภาพว่า เป็นหมอดู
เอาตาราง 12 ช่อง มาเขียน เป็นเลข 7 ตัว 3 ฐาน ก็เคยเห็นมาแล้ว
โคตรมั่วเลย
- pavilion
- Verified User
- โพสต์: 1766
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 12
อ่านแล้วครับ มีความรู้สึกว่าสังคมบ้านเรามันเสื่อมได้ขนาดนั้นเลยรึครับ แม้แต่คนที่เป็นหมอดูพอดังหน่อย มีเงินหน่อยก็ยังทำได้ขนาดนี้ ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างแต่หนักไปทางเชื่อมากกว่า 8)teetotal เขียน:อ่านซ้อ 7 แฉ โหร คนดังกันยัง
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 13
อย่าไปเชื่อเลยครับซ้อเจ็ดเนี่ยะpavilion เขียน: อ่านแล้วครับ มีความรู้สึกว่าสังคมบ้านเรามันเสื่อมได้ขนาดนั้นเลยรึครับ แม้แต่คนที่เป็นหมอดูพอดังหน่อย มีเงินหน่อยก็ยังทำได้ขนาดนี้ ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างแต่หนักไปทางเชื่อมากกว่า 8)
จริงบ้างไม่จริงบ้าง เอามันส์เข้าว่า สังคมไทยมันเสื่อมก็เพราะพวกเม้าท์ต่อๆกันนี่แหละครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 14
การเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของ vi อยู่แล้ว แม้กระทั่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีทั้งความรู้ทางวิชาชีพและประสบการณ์ ชาว vi ก็ต้องคิดเองว่าจะเชื่อหรือไม่
สำหรับโหราศาสตร์นั้น เป็นศาสตร์ที่มีแต่โบราณและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง นักปราชญ์สำคัญของโลกต่างก็เป็นนักโหราศาสตร์ ผมขอยกตัวอย่างชื่อนักโหราศาสตร์ในอดีตมาเป็นข้อมูลพิจารณาก็แล้วกันครับ
อริสโตเติล
ปโตเลมี
จอห์น ดี
ไทโค บราห์
กาลิเลโอ
โจฮันส์ เคปเลอร์
ไอแซค นิวตัน
คาร์ล จุง
ฯลฯ
อ้อ มีนักธุรกิจคนสำคัญของสหรัฐฯคนหนึ่งจ้างนักโหราศาสตร์ไว้คอยให้คำปรึกษาประจำสำนักงานเลย นั่นคือ J P Morgan ผู้กล่าวว่า
"Millionaires don't hire astrologers, billionaires do."
ปัญหาในบ้านเราก็คือ นักโหราศาสตร์ที่ออกตามสื่อ เป็นนักโหราศาสตร์ที่มีความรู้จริงๆหรือเปล่า เท่านั้นเอง
สำหรับโหราศาสตร์นั้น เป็นศาสตร์ที่มีแต่โบราณและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง นักปราชญ์สำคัญของโลกต่างก็เป็นนักโหราศาสตร์ ผมขอยกตัวอย่างชื่อนักโหราศาสตร์ในอดีตมาเป็นข้อมูลพิจารณาก็แล้วกันครับ
อริสโตเติล
ปโตเลมี
จอห์น ดี
ไทโค บราห์
กาลิเลโอ
โจฮันส์ เคปเลอร์
ไอแซค นิวตัน
คาร์ล จุง
ฯลฯ
อ้อ มีนักธุรกิจคนสำคัญของสหรัฐฯคนหนึ่งจ้างนักโหราศาสตร์ไว้คอยให้คำปรึกษาประจำสำนักงานเลย นั่นคือ J P Morgan ผู้กล่าวว่า
"Millionaires don't hire astrologers, billionaires do."
ปัญหาในบ้านเราก็คือ นักโหราศาสตร์ที่ออกตามสื่อ เป็นนักโหราศาสตร์ที่มีความรู้จริงๆหรือเปล่า เท่านั้นเอง
"As Above, So Below"
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 16
หมอดูคู่หมอเดาครบ พวก ดูดวงเมืองก็เหมือนกัน คล้ายนักิวเคราะห้นมาก
ดูสถาณการณ์ แล้วคาดเดา
วันก่อนฟัง 96.5 เค้าเอา พวกหมอดูพูดว่าใครจะเป็นนายก สรุป หน้าแหกทุกคน เพราะว่าผิดโผ
ผมเคยโดนแฟนลากไปดูหมอ ผมไม่พูดอะไรเลย ให้เค้าพูดอย่างเดียว
เค้าไม่ได้ข้อมูลเราเค้าก็เดาไม่ถูกว่ายังไง สรุปทายผมผิดหมด ผมงี้ขำกลิ้ง
ทำให้หมอดู โกรธจน ตบะแตก หงุดหงิดใส่ผมได้
ดูสถาณการณ์ แล้วคาดเดา
วันก่อนฟัง 96.5 เค้าเอา พวกหมอดูพูดว่าใครจะเป็นนายก สรุป หน้าแหกทุกคน เพราะว่าผิดโผ
ผมเคยโดนแฟนลากไปดูหมอ ผมไม่พูดอะไรเลย ให้เค้าพูดอย่างเดียว
เค้าไม่ได้ข้อมูลเราเค้าก็เดาไม่ถูกว่ายังไง สรุปทายผมผิดหมด ผมงี้ขำกลิ้ง
ทำให้หมอดู โกรธจน ตบะแตก หงุดหงิดใส่ผมได้
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 17
ปีที่แล้ว พวกหมอดูที่ทายว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่ได้ตอนปลายปี หรือไม่ก็จะเกิดการนองเลือด หรือไม่ก็คุณอภิสิทธิ์จะได้เป็นนาย ก ฯลฯ ตอนนี้หน้าแตกหมดแล้ว และอีกไม่นานคนฟังก็จะลืมไปว่าหมอดูที่เคยทายอะไรพวกนี้ได้ทายอะไรพวกนี้เอาไว้ :lol:
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 18
ผมจำได้เมื่อ เอเชี่ยนเกมส์ ที่จัดในไทยปี 2543 หมอหยองทำนายว่า บอลไทยจะไปโลด รอบ 8 ทีม ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ซัดฟรีคิก ช่วงต่อเวลาพิเศษ เด็ดปีกเกาหลี เข้ารอบรอง สนามราชมังคลากีฬาสถานแทบแตก ..หมอหยองขึ้นมาก มีผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอล ให้หมอหยอง พานักเตะไปทำพิธีกรรมทางโหรที่อยุธยา พอเตะรอบรอง นาทีแรกก็โดนคูเวตยิงเลย และหลังจากนั้น ไทยก็ทำประตูใครไม่ได้อีกเลย จบได้ที่ 4 ของทัวรืนาเมนต์ ..ถ้าให้นักเตะได้พักผ่อนแทนที่จะไปทำพิโหร อาจจะได้เหรียญใดเหรียญหนึ่งก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 19
แล้วทำไมต้อง ลบ 18 นาที ด้วยล่ะครับ เข้าใจว่า คงมีที่มาteetotal เขียน: โหรสมัยนี้ ผูกดวง ยังไม่ลบเวลาตกฟากเลย
ลองไปลองภูมิ พวกที่บอกว่า ตัวเองเป็นหมอดูโหรไทย
ถามมันว่า เวลาท้องถิ่นที่ กทม ทำไม ต้องลบ 18 นาที
บางคนยังไม่รู้เลย
เกี่ยวกับ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง บนโลก?
ใครทราบ ช่วยบอกเป็น วิทยาทาน หน่อยเถอะ
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 20
ใช่แล้วครับ เวลาของไทยทุกวันนี้ใช้เส้น 105 องศาตะวันออกซึ่งผ่านอุบลราชธานีเป็นเส้นกำหนดเวลา นาฬิกาทั้งประเทศจะมีเวลามาตรฐานเดียวกันซึ่งเป็นเวลาที่จังหวัดอุบลฯ แต่เวลาเฉพาะท้องที่จะต่างกัน กทม. อยู่ห่างมาทางตะวันตกเวลาจริงจึงช้ากว่าเวลามาตรฐานราว 18 นาทีครึ่ง 8)ปุย เขียน: แล้วทำไมต้อง ลบ 18 นาที ด้วยล่ะครับ เข้าใจว่า คงมีที่มา
เกี่ยวกับ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง บนโลก?
ใครทราบ ช่วยบอกเป็น วิทยาทาน หน่อยเถอะ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
โหรหุ้นชี้ "สมัคร" อยู่ไม่ครบเทอม
โพสต์ที่ 22
จริงๆแล้วการหาลัคนาเป็นเรื่องดาราศาสตร์ภาคคำนวณครับ เกี่ยวข้องกับเรื่องตรีโกณมิติเพื่อหาจุดตัดของระนาบที่เรายืนกับขอบฟ้าตะวันออก ถ้าเราต้องการคำนวณลัคนาให้ละเอียด จำเป็นต้องใช้ทั้งละติจูด (เส้นรุ้ง) และลองติจูด (เส้นแวง) ครับ
อย่างไรก็ตาม โหรไทยโบราณได้ลดความยุ่งยากแต่โบราณด้วยการสร้างตารางสำเร็จรูปขึ้นมาชุดหนึ่ง (เรียกว่า อันโตนาที) ใช้ได้เฉพาะคำนวณดวงชะตาในพื้นที่ใกล้เคียง (อันที่จริงน่าจะเป็นพื้นที่แถวๆมอญในยุคพระนเรศวรมากกว่าประเทศไทยปัจจุบัน) ทำให้ไม่ต้องมาหาละติจูดลองติจูดให้ปวดหัว ใช้แต่เพียงเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ยุคหลังประเทศไทยประกาศใช้เวลามาตรฐานซึ่งเป็นเวลาที่อุบลราชธานี และแตกต่างจากเวลาท้องถิ่น ก็เลยต้องปรับเวลามาตรฐานให้เป็นเวลาท้องถิ่น แล้วจึงจะไปคำนวณหาลัคนาโดยอาศัยอันโตนาทีสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม โหรไทยโบราณได้ลดความยุ่งยากแต่โบราณด้วยการสร้างตารางสำเร็จรูปขึ้นมาชุดหนึ่ง (เรียกว่า อันโตนาที) ใช้ได้เฉพาะคำนวณดวงชะตาในพื้นที่ใกล้เคียง (อันที่จริงน่าจะเป็นพื้นที่แถวๆมอญในยุคพระนเรศวรมากกว่าประเทศไทยปัจจุบัน) ทำให้ไม่ต้องมาหาละติจูดลองติจูดให้ปวดหัว ใช้แต่เพียงเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ยุคหลังประเทศไทยประกาศใช้เวลามาตรฐานซึ่งเป็นเวลาที่อุบลราชธานี และแตกต่างจากเวลาท้องถิ่น ก็เลยต้องปรับเวลามาตรฐานให้เป็นเวลาท้องถิ่น แล้วจึงจะไปคำนวณหาลัคนาโดยอาศัยอันโตนาทีสำเร็จ
"As Above, So Below"