อเบอร์ดีนชูหุ้นไทยน่าลงทุน ราคาต่ำกว่าเพื่อนบ้าน 20%

[vichit]

บลจ.อเบอร์ดีนชี้หุ้นไทยยังน่าลงทุน เหตุราคาหุ้นต่ำกว่าเพื่อนบ้านประมาณ 15-20%
ระบุลงทุนได้ทั้งในระยะกลาง-ยาว ภายในเวลา 3-5 ปี เพราะการเมืองคลี่คลาย ความเชื่อมั่นฟื้น
เผยมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารพุ่งกระฉูด โตกว่า 35% แตะ 4.2 หมื่นล้านบาท
    นางสาวรัตนวรรณ แสงกิติโกมล ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์
จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าดัชนีหุ้นไทยปี
นี้จะอยู่ที่เท่าใด ระบุได้เพียงว่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยยังถูกกว่าภูมิภาคประมาณ 15-
20% ขณะเดียวกันมองว่าภาพการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยระยะกลางถึงระยะยาว ประมาณ
3-5 ปี ถือว่ายังมีน้ำหนักในการลงทุน (Overweight) ที่ดีอยู่
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะการเลือกตั้ง
ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนต่างๆกลับคืนมาและทำให้ตัวเลข
เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากคาดหวังว่าภายหลังการเลือกตั้งจะได้รัฐบาลใหม่ที่
ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองที่ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้มองว่าแม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับ
เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.1% มาอยู่ที่ 2.1% ตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง แต่เชื่อว่าคณะ
กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน
(อาร์พี 1 วัน) ลงแน่นอน
    ด้านนายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า มูลค่า
สินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ของบริษัทปีนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นสุดส.ค. 50  
AUM ขยายตัว 35% มาอยู่ที่ 43,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 49 ที่มีทั้งสิ้น 31,989 ล้าน
บาท ซึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าของกองทุนที่ลงทุนเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนเพื่อการลงทุน
ในต่างประเทศ (FIF) และการลงทุนกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ซึ่งถือว่าตัวเลขการเติบ
โตดังกล่าวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
AUM ปีนี้ถือว่าเติบโตเกินเป้าหมาย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะตัวเลข 8 เดือนมี
การเติบโตจากสิ้นปีถึง 35% ซึ่งในส่วนของ FIF มั่นใจว่าปีนี้จะติดอันดับ 1 ใน 3 อย่างแน่นอน
มร.โรเบิร์ต กล่าว
ด้านนายทอม ฮูเปอร์ ผู้จัดการการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน จำกัด (มหาชน) ประเทศ
อังกฤษ กล่าวถึงความคืบหน้าในการลงทุนกองทุนเปิดอเบอร์ดีน ยูโรเปี้ยน โกลท ฟันด์ ว่าการลง
ทุนในกองทุนดังกล่าวยังให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรปยังคง
แข็งแกร่งดูได้จากตัวเลขการจ้างงานที่สูงขึ้น ขณะที่กำไรของบริษัทฯและการส่งออกมีการเติบ
โต  แม้ค่าเงินยุโรปจะแข็งค่าบ้างแต่การลงทุนภายในบริษัทต่างๆก็ยังเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึง
ความมั่นใจของการบริโภคที่ยุโรปยังดีอยู่
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้มีการเข้าไปเยี่ยมชมบริษัทกว่า 650 แห่ง ที่เข้าไป
ลงทุนผ่านกองทุนเปิดอเบอร์ดีน ยูโรเปี้ยน โกลท ฟันด์ ซึ่งพบว่าบริษัทฯส่วนใหญ่ยังมีพื้นฐานธุรกิจ
ที่ดี และไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาในเรื่องของตราสารที่อ้างอิงหลักทรัพย์ (CDO) โดยตรง
และจากราคาหุ้นที่ลดลงจากความกังวลในเรื่องตราสาร CDO ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโอกาสที่
บริษัทฯเข้าไปซื้อสะสมหุ้นเหล่านั้น

ที่มา : น.ส.พ. กระแสหุ้น