27 กันยายน 2550 09:08
ขี่กระทิงจัดพอร์ตเป้า900จุด
--------------------------------------------------------------------------------
ทันหุ้น-โบรกไทย-เทศร่วมจัดพอร์ตสู้ศึกเลือกตั้ง ประเมินสัปดาห์นี้เหมาะสมช้อปปิ้งหุ้นเข้าพอร์ต ก่อนเตรียมแรลลี่ยาว 900 จุดรับวันลงคะแนนเลือกรัฐบาลใหม่ 23 ธันวาคมนี้ เริ่มต้นด้วยโบรกต่างชาติบล.ทีเอ็มบี แมควอรี่ แนะจัดพอร์ตตามสไตล์การลงทุน 5 รูปแบบ จัดหุ้นเด็ดเข้าพอร์ต 10 ตัว ทั้งพอร์ตหุ้นบิ๊กแคป พอร์ตมีอัพไซต์ห่างเป้าหมาย พอร์ตไฮเบต้า พอร์ตค่าพี/อี ต่ำ และพอร์ตที่ให้เงินปันผลสูง ส่วนบล.กรุงศรีอยุธยา มองทางตลาดหุ้นเริ่มออกสตารท์ลองเครื่องในช่วงเดือนกันยายนหรืออาจล่าออกไปเป็นเดือนตุลาคมนี้ กลยุทธ์เด็ดให้ตั้งใจสะสม 60 วันก่อนเลือกตั้ง มีลุ้นได้ผลตอบแทน 8-9% จากเป้าหมายดัชนี 880-900 จุด
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทีเอ็มบี แมคควอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก จึงถือเป็นจังหวะและเวลาที่ดีในการเข้าลงทุนในหุ้น โดยจะมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ประมาณ 9%
เราเชื่อว่าจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ นั้นจะทำให้เกิดการแรลลี่ อีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนธันวามคมนี้ ซึ่งจากประวัติศาสต์แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยมักจะปรับตัวขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปและตลาดหุ้นมักจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งนักวิเคราะห์กล่าว
จัดพอร์ตตามสไตล์
สำหรับพอร์ตการลงทุนฝ่ายวิจัยได้แนะนำและจัดพอร์ตตามเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุน โดยแบ่งออกเป็น 5 แบบ และจะเลือกหุ้นเด่น 10 ตัว คือพอร์ตหุ้นบิ๊กแคป ซึ่งที่แนะนำคือหุ้น PTT , PTTEP , BBL , KBANK , SCC , ADVANC , SCB , KTB , BANPU และ AOT ส่วนพอร์ตที่มีอัพไซต์จากราคาเป้าหมายมากที่สุด เช่น SATTEL , DTAC , HANA , TCAP , KTB AOT , KK , TRUE , IRPC และ SCC
ส่วนพอร์ตไฮเบต้า (High Beta Financial) แนะนำหุ้น ASP , PHATRA , KEST , LH , AP , PS , QH SCB , KTB และ KBANK
ส่วนพอร์ตที่ค่าพี/อี ต่ำ แนะหุ้น SATTEL , HANA , TCAP , KTB , KK , PTT , IRPC , TOP , SCC และ DTAC และพอร์ตที่ให้เงินปันผลสูง เช่นหุ้น KK , ADVANC , HANA , TISCO , MCOT , TUF , SCC , TCAP , GLOW และ TOP
เราได้จัดพอร์ตการลงทุน 5 แบบ โดยแต่ละพอร์ตนั้นก็มีปัจจัยการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหุ้นกลุ่มธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นหุ้นที่มีเบต้าสูง ได้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งที่ 12-14% เมื่อเทียบกับผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดที่ 9% และจะได้รับผลดีจากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนักวิเคราะห์กล่าว
เดือนนี้เริ่มออกสตารท์
นายกิตติ เหมนิลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการประเมินคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน หรือต้นตุลาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อตอบรับกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้ซึ่งจากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ปรับตัวสูงขึ้น
เราคาดว่าตลาดหุ้นจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน หรือ ต้นเดือนตุลาคม ตอบรับกับการเลือกตั้งช่วงปลายปี ในการเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2531-ปัจจุบัน ทั้ง 8 ครั้ง โดยเฉลี่ยตลาดหุ้นจะปรับสูงขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยจะมีเพียงการเลือกตั้งเพียงครั้งเดียวในปี 2539 ที่ตลาดหุ้นปรับลดลงทั้งช่วงก่อนการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง นายกิตติกล่าว
สะสมหุ้น60วันก่อนเลือกตั้ง
นอกจากนี้โดยเฉลี่ยแล้วการเข้าสะสมหุ้นก่อนการเลือกตั้งประมาณ 60 วันทำการ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนสูงที่สุด แต่อย่างไรก็ตามหลังจากการเลือกตั้งไปแล้วส่วนใหญ่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเช่นกัน
ดังนั้นการเข้าซื้อหุ้นก่อนการเลือกตั้งประมาณ 60 วันทำการจะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ซึ่งการปรับลดลงของดัชนีถือเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นเพื่อรอการปรับสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้ง โดยมีเป้าหมายก่อนการเลือกตั้งที่ 880 900 จุด โดยแนะให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นในช่วงปลายเดือนนี้ โดยระยะกลางถึงยาว คงเน้นกลุ่มหุ้น Domestic Play เป็นหลัก เช่น AP, LPN, QH, CPF และ BEC เป็นต้น ส่วนหุ้นใหญ่พื้นฐานดีแนะนำ เช่นหุ้น PTT , IRPC , TOP และ RRC และหุ้นที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นหุ้น CCET และ BLS
--------------------------------------------------------------------------------