@..ตอบพี่บีเอ็ม...@

[por_jai]

8) อนุสนธิตามที่พี่ได้ขอให้ผม comment
    บทความในblog ของพี่เกี่ยวกับ การประมาณมูลค่าของหุ้น
    ด้วยวิธีของ วอเรน บัฟเฟ่ท์ ฉบับที่ป๋าเวบแปล
    the new bufftology โดย mary buffet &david clark
    นั้น
    (http://bmw2681.blogsavy.com/long-07/n-t-v/ )

    ถือว่ามาแลกเปลี่ยนกันนะ
    ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด
    ที่พี่บีเอ็มว่าสีดำ
    ที่ผมว่าสี dark blue นะครับ
    มาโพสในนี้ จะได้มีคนมาให้ความเห็นต่างๆหลากหลายดี
...................................................................................

    ในปี 2004 กำไรต้อหุ้นของ NTV เท่ากับ 5.36 บาท ผลกำไรเติบโตขึ้นในอัตรา 20% ทบต้นต่อปี ระหว่างปี 1999 ถึง 2004

ตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปี 2004 บริษัทได้มีการสะสมผลกำไรไว้เท่ากับ 8.09 บาทต่อหุ้น (นโยบายจ่ายปันผล 60% ของกำไร) ในขณะที่กำไรต่อหุ้นของบริษัท เพิ่มจาก 1.78 บาท ในปี 1999 เป็น 5.36 บาท ในปี 2004 หรือเพิ่มขึ้น 3.58 บาทต่อหุ้น สามารถกล่าวได้ว่า กำไรสะสมไว้จำนวน 8.09 บาทต่อหุ้น เป็นตัวที่ทำให้กำไรต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3.58 บาท ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนได้เท่ากับ 3.58/8.09 = 44%
      ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เฉลี่ยของ NTV ในช่วง 1999-2004 เท่ากับ 10.06%



8) อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้ครับ
    เรื่องบุ๊คทำให้หุ้นมีกำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่เพิ่มขึ้นก็ได้
    ถ้าจะให้แน่ก็คือ ถ้าเราเอาเงินสดส่วนที่เหลือจากปันผลไปลงทุนเพิ่ม
    ส่วนที่ดีก็คือ ไม่ต้องกู้แบ๊งค์(หรือกู้น้อยลง) หนี้ก็ไม่เพิ่มขึ้น
    ดบ.จ่ายก็ไม่มี
    ถ้าแบ๊งค์ยังไม่ต้องกู้ ก็ไม่ลามไปถึงเพิ่มทุน จริงไหมครับ


ในปี 1999 กำไรต่อหุ้นของ NTV อยู่ที่ 1.78 บาทต่อหุ้น หากเรานำมาหารด้วยอัตราตอบแทนจากการลงทุนทั่วไปประมาณ 10%  ต่อปี จะได้มูลค่าหุ้นเมื่อเทียบกับการลงทุนปกติ อยู่ที่ 17.80 บาท นั่นหมายความว่า หากเราซื้อหุ้น NTV ที่ราคา 17.80 บาทต่อหุ้น เราจะได้รับผลตอบแทนเทียบเท่ากับผลตอบแทนจากการลงทุนเน้นคุณค่าทั่วไป ในปี 1999 ราคาหุ้น NTV อยู่ระหว่าง 11.25 ถึง 19 บาท หากเราซื้อหุ้นที่ราคา 19 บาท (ราคาสูงสุดของปี 1999) เราจะได้รับผลตอบแทนเริ่มแรกประมาณ  9.36% และมีอัตราการเติบโตของผลตอบแทน 20% ต่อปี

8) ปี1999มาถึงปี2000  eps จาก 1.78มาเป็น2.38
    เท่ากับกำไรโตขึ้น 33%
    ราคาหุ้น(สิ้นปี)จาก14.5มาเป็น17.25
    เท่ากับราคาเปลี่ยนแปลงดีขึ้น19%
    ดูอะไรได้บ้างนิดหน่อย
    แต่ห้ามเอา33%ที่เติบโตมาmark upเท่าๆกัน
    ราคาหุ้น อีตา Mr.market แกเป็นคนให้ครับ ไม่มีใครรุ้
    ว่าแกจะให้เท่าไหร่
    แต่ละวันก็มาเคาะประตูแล้ว เออวันนี้ให้เท่านี้นะ ซื้อมั๊ย ขายมั๊ย
    แกดีนะครับ อีตานี่ ไม่ซื้อไม่ขายก็ไม่โกรธ ไม่ว่า เช้าก็มาแล้ว..


ในปี 1999 BV ของ NTV = 31.18 บาทต่อหุ้น หาก NTV สามารถรักษาผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย อยู่ที่ 10.06% ตลอด 3-6 ปี ข้างหน้า และสะสม 40% ของกำไรที่ทำได้ไว้ในบริษัท มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นจะเติบโตขึ้นในอัตราประมาณ 40% * 10.06% = 4.024% ซึ่งหุ้นจะมีมูลค่า 43.68 บาทต่อหุ้น ในปี 2007 และ 49.16 บาทต่อหุ้น ในปี 2010

8) สำหรับผม BV  ถ้าผมจะใช้ประเมิน
    ต้องทำ adjust book value แบบละเอียดๆหน่อย
    ดูมันเกือบทุกรายการในงบดุล
    แล้วพยายาม adjust ด้วยข้อมูลล่าสุดเท่าที่มี
    พอได้แล้ว ค่อยมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในขณะนั้น
    ดูว่าแพงไปไหมเมื่อเทียบราคาในขณะนั้นกับ adjust bv
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยู่ที่เราประมาณ มูลค่าพวก intangible assets ด้วย
    เขาถึงว่าเล่นหุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป

หากในปี 2007 มูลค่าทางบัญชีของ NTV อยู่ที่ 43.68 บาทต่อหุ้น และบริษัท สามารถสร้างผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นได้ที่ 10.06% เราสามารถคำนวณกำไรต่อหุ้นของ NTV ออกมาได้เท่ากับ 43.68*10.06% =  4.39 บาทต่อหุ้น หากหุ้น NTV ซื้อขายกันที่ P/E 6.41 เท่า ซึ่งเป็นค่า P/E ที่ต่ำที่สุดของบริษัทในช่วง 1999-2004 เราจะสามารถคำนวณราคาหุ้นของบริษัทออกมาได้ประมาณ 4.39*6.41 = 28.13 บาทต่อหุ้น และหากเราใช้ค่า P/E สูงสุดระหว่างช่วงปีดังกล่าวที่ 10.45 เท่า จะคำนวณราคาหุ้นออกมาได้เท่ากับ 4.39*10.45 = 45.87 บาทต่อหุ้น

8) ที่เหลือต่อมาผมอ่านแล้ว ก็แนวเดียวกับที่ผมใช้คำนวณราคาเลยครับ
    ก็ใช้เหมือนพี่บีเอ็มว่านี่แหละ
    ผมว่าเซียนๆส่วนใหญ่ในนี้ก็ใช้กันทุกคน
    เราก็ ประมาณการ eps ได้แล้ว ก็ลองใส่ pe เข้าไปหลายๆค่า
    แล้วก็หลับตา เอาปากกาจิ้ม ฮ่า...ได้การเอา pe ค่านี้แหละ
    พระเจ้าประทาน
    แต่ที่จะผิดกันนิดนึงก็ตรงที่
    ผมจะคอยตามข่าว เขาครับว่า เขาลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ ที่ไหน
    มันจะสร้างหนี้ สร้างสตอรี่
    หักกลบลบกันแล้วเป็นรายได้เพิ่มหรือลด
    กิจการโตเท่าไหร่ กำไรโตเท่าไหร่ รับรู้เมื่อไร
    ก็อะไรประมาณนี้แหละ

หากกำไรต่อหุ้นของบริษัท ยังคงเติบโตขึ้นในอัตรา 20% ต่อปี และหาก NTV ยังสะสม 40% ของผลตอบแทนไว้ในบริษัท และจ่าย 60% ของผลตอบแทนในรูปเงินปันผล นั่นหมายความว่า เราจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า

กำไรต่อหุ้นในปี 2007 ของ NTV จะเท่ากับ 9.26 บาทต่อหุ้น หากหุ้น NTV ซื้อขายกันที่ค่า P/E ต่ำสุดของบริษัทในช่วง 1999-2004 ราคาหุ้นของบริษัทจะอยู่ที่ 9.26*6.41= 59.35 หากเรารวมเงินปันผลจำนวน 14.05 เข้าไปด้วย จะได้เงินทั้งหมดเท่ากับ 59.35+14.05 = 73.4 บาทต่อหุ้น หากใช้ค่า P/E สูงสุดในช่วง 1999-2004 ที่ 10.45 เท่า ราคาหุ้นในปี 2007 จะอยู่ที่ 9.26*10.45+14.05 = 110.817 บาทต่อหุ้น

กำไรต่อหุ้นในปี 2010 ของ NTV อยู่ที่ 16 บาทต่อหุ้น เราสามารถคำนวณมูลค่าหุ้น (รวมเงินปันผล) ในปี 2010 โดยใช้ช่วง P/E ระหว่างปี 1999-2004 ได้เท่ากับ 16*6.41+38.32 = 140.88 ถึง 16*10.45+38.32 = 205.52 บาทต่อหุ้น

หากในปี 2004 เราซื้อหุ้นมาในราคา 19 บาทต่อหุ้น เราสามารถคำนวณวิธีเดียวกับวอร์เรน และได้ผลรวมของราคาหุ้นและเงินปันผลออกมาระหว่าง 73.4-110.817 บาทต่อหุ้นในปี 2007 และ 140.88-205.52 บาทต่อหุ้น ในปี 2010

8) NTV ว่าจะดูมาตั้งนานแล้ว พี่บีเอ็มถามมาพอดี
    เดี๋ยวสายๆกว่านี้ จะไปโหลด มานั่งอ่านดูจะได้มาคุยกันเพิ่ม

    ส่วน TPAC ที่พี่บีเอ็มให้ช่วยดูให้ด้วย ผมขอไม่วิจารณ์ดีกว่า
    กิจการลักษณะนี้ ถ้าไม่มีโอกาสได้ไปดูโรงงานคงไม่สนใจ
    เพราะดูยังไงก็ไม่มี dca
    โรงงานฉีดพลาสติค เมืองไทยมีเป็นร้อยๆโรงมั๊งครับ
    ถ้าไม่รู้จุดเก่งของเขาอยู่ไหน
    ถ้าไม่ได้ถามกับปากผู้บริหาร
    คงซื้อไม่ลง
    ผมยึดคติ คนในเวบนี้แหละครับ เฮียครรชิต หรือเฮียปรัชญานี่แหละ
    ไม่โลภเกินความรู้ ดีที่สุด ครับ..........

[bmw2681]

ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำครับ แสดงว่า ผมคลำมาถูกทางแล้วซิครับ เพียงแต่พี่ por_jai กับท่านอื่นๆ ใช้แผนที่ แต่ผมยังใช้วิธีถามทางอยู่เรยยยย  :lol:

[por_jai]

[quote="bmw2681"] ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำครับ แสดงว่า ผมคลำมาถูกทางแล้วซิครับ เพียงแต่พี่ por_jai กับท่านอื่นๆ ใช้แผนที่ แต่ผมยังใช้วิธีถามทางอยู่เรยยยย