
หลายครั้งตลาดปรับลงอย่างรุนแรง นักลงทุน(นักเก็งกำไร) ขายหุ้นทิ้งยังกับบริษัทเหล่านั้นจะต้องเป็นตัวลงในอนาคตอันใกล้ (หุ้นในพอร์ตผมกลับบวกสวนตลาดซะงั้น ในจัยตอนนั้นรู้สึกว่าเรามาถูกทางแย้ว) หลังจากฝุ่นจางคนเหล่านี้ก็กลับมาซื้อ ดัชนีเริ่มมีการปรับตัวขึ้นและขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่หุ้นในพอร์ตผมไม่ไปไหนเลย :? ในใจก็คิดว่าเราจะตกรถหรือไม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว อะไรละที่เปลี่ยนไป ????????????
ในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเทคนิคหรือคุณค่า "จิตใจ" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำในเราประสบความสำเร็จ ในการลงทุนด้วยเทคนิค ถ้าการวิเคราะห์หุ้นไม่เป็นไปตามตามเทคนิคที่คิด ต้องทำจัยตัดขาดทุน :? หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ(ทางเทคนิค)เป็นเพราะไม่รู้จักทำจัยตัดขาดทุน เช่นเดียวกันในการลงทุนแบบคุณค่าจิตใจยิ่งมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นในขณะที่หุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งซื้อแล้วหุ้นยังลงต่อ ก็ต้องทำใจถือ เมื่อถือมากได้สักระยะได้เวลาประการผลประกอบการ (เปรียบเหมือนวันประการผลสอบ) ผลประกอบการออกมากเป็นไปในทางบวก(ต้องทำจัยถือถ้าราคายังไม่เกินพื้นฐาน) แต่การถือที่ดูแย้วจะลำบากจัยที่สุดคือ เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นแต่หุ้นในพอร์ตไม่ขึ้น (แถมยังลงอีก

ดังนั้นเราทุกคนที่ลงทุนในหุ้นคุณค่าที่ยังมีมูลค่าสูงกว่าราคาปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีจิตใจที่มั่นคงในการถือหุ้นที่ดีเหล่านั้น