คู่ชีวิต

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

คู่ชีวิต

โพสต์ที่ 1

โพสต์

8) เชื่อไหมครับว่าคู่ชีวิตตายตามกัน
    แต่ผมเคยอ่านว่ามีนกเป็ดน้ำจีน เป็นอย่างนี้นะ
    คือจะผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต แล้วถ้าฝ่ายไหนตายไปก่อน
    อีกฝ่ายก็จะตายตามไปด้วย

    พอดีอยู่ปลายๆยุคที่ป้าแกกำลังดังหน่ะครับ
    น้องๆในเวบคงไม่ค่อยรู้จักหรอก


เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ตายตามรพีพร [15 พ.ค. 50 - 02:49]

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ รพ.เมืองสมุทร สาขาปากน้ำ บริเวณหน้าห้องไอซียูของโรงพยาบาล ต่างมีบรรดาญาติมิตรจำนวนกว่า 10 คน ยืนร่ำไห้เสียใจกับการจากไปของนางเพ็ญศรี พุ่มชูศรี อายุ 78 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาขับร้อง ประจำปี 2534 และเจ้าของรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน พ.ศ. 2507 และ พ.ศ. 2509 เจ้าของบทเพลงอมตะนิรันดร์กาล อย่างวิหคเหิรลม ง้อรัก ม่านไทรย้อย ศกุนตลา ฯลฯ หลังจากญาตินำตัวส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน  

ทั้งนี้ นางพรรณี พลรัตน์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/1838 ม.3 หมู่บ้านพฤกษา 15 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ น้องสาวแท้ๆ ของอดีตศิลปินผู้ล่วงลับ เปิดเผยด้วยความโศกเศร้าว่า พี่สาวป่วยเป็นโรคประจำตัวหลายโรค มีทั้งเบาหวาน อัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมาหลายปี ซึ่งอาการของการป่วย ทำให้พี่สาวไม่สามารถใช้เวลาได้เหมือนคนปกติ คือจะต้องนอนในกลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน โดยมาพักอยู่กับตนและลูกๆ คอยช่วยให้การดูแลก่อนเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าตนได้หาซื้อแซนด์วิช มาให้พี่สาวรับประทานเป็นอาหารเช้า แต่เมื่อกินเข้าไปได้เพียง 2 คำ พี่สาวเกิดอาการสำลักจนหมดสติ จึงได้ช่วยกันนำตัวส่งสถานพยาบาลแพรกษา ที่อยู่ใกล้บ้าน

นางพรรณีกล่าวอีกว่า เมื่อส่งถึงมือเจ้าหน้าที่ ก็ได้ช่วยเหลือ ใช้เครื่องดูดเศษอาหาร และปั๊มหัวใจ จนพี่สาวได้สติ แต่อาการกลับไม่ดีขึ้น จึงได้ประสานนำส่ง รพ.เมืองสมุทร สาขาปากน้ำ แต่เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล อาการกำเริบ ร่างกายไม่ตอบสนอง ก่อนจะได้รับแจ้งจากแพทย์ประจำห้องไอซียูว่า พี่สาวของตนเสียชีวิตแล้ว และจะมีพิธีรดน้ำศพในช่วงเย็น ที่วัดมกุฎกษัตริยาราม ซึ่งก่อนหน้านี้นายสุวัฒน์ วรดิลก หรือรพีพร สามีของนางเพ็ญศรีก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมเป็นระยะเวลาครบ 1 เดือนพอดี  

ด้าน นพ.พิพัฒน์ พงศ์รัตนามาน ผอ.โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ เปิดเผยอาการของนางเพ็ญศรีก่อนสิ้นลมว่า ในความเห็นแพทย์ มีการระบุลงความเห็นการถึงแก่กรรมของนางเพ็ญศรี เนื่องจากอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน สมองทำงานไม่ปกติ สำลักอาหารอุดตันทางเดินหายใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้นลงเวลา 10.15 น. วันที่ 14 พ.ค. 2550 สำหรับคนชราที่มีอาการป่วยลักษณะนี้ จะมีระบบกล้ามเนื้อภายในร่างกายที่ไม่แข็งแรง เมื่อเกิดการสำลักก็จะทำให้มีเศษอาหารเข้าไปอุดตันในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดอากาศจนเสียชีวิตในที่สุด

สำหรับประวัติของเพ็ญศรี พุ่มชูศรี มีชื่อเดิมว่า ผ่องศรี พุ่มชูศรี รู้จักกันในชื่อเล่นว่า โจ๊ว เกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2472 ที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นบุตรีของนายผิว นางจันทร์ พุ่มชูศรี เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จากนั้นย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี แต่เป็นคนที่สนใจร้องเพลง จึงได้เข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัดต่างๆ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จากนั้นได้เริ่มต้นฝึกหัดร้องเพลงกับครูศิวะ วรนาฏ เมื่อ พ.ศ.2484 และได้บันทึกแผ่นเสียงเพลง ศีลธรรมทั้งห้า ช่วงอายุ 12 ปี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เพ็ญศรี พุ่มชูศรี จนกระทั่ง พ.ศ. 2487 เข้าเป็นนักร้องประจำวงดนตรีกรมโฆษณาการ ซึ่งมีครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นหัวหน้าวง และได้บันทึกแผ่นเสียงเป็นจำนวนมาก

ในปี พ.ศ. 2490 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เพลง สายฝน เป็นคนแรก โดยร้องสดในรายการบรรเลงดนตรีรายการหนึ่ง หลังจากนั้น พ.ศ. 2491 จึงได้ร้องเพลงดังกล่าวลงแผ่นเสียง และในพ.ศ. 2495 เข้าร่วมงานกับละครคณะชุมนุมศิลปิน ซึ่งเป็นคณะละครเวทีของรพีพร (สุวัฒน์ วรดิลก) ต่อมาได้สมรสกันและใช้ชีวิตร่วมกันจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งชีวิตป้าโจ๊ว-เพ็ญศรี ยิ่งกว่านิยาย เพราะเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสุวัฒน์คู่ชีวิตคู่ทุกข์คู่ยากของป้าโจ๊ว ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ที่บ้านพักใน จ.ชลบุรี โดยที่ช่วงนั้น ทางญาติไม่มีใครกล้าบอกข่าวร้ายแก่ป้าโจ๊วที่ล้มป่วยด้วยอาการทางสมอง จนต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ไปก่อนหน้า แม้กระทั่งวันสวดพระอภิธรรมศพที่วัดมกุฎกษัตริยาราม ที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วมีการเก็บศพไว้ 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพ ป้าโจ๊วก็ยังไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงการสูญเสียสามี โดยทั้งคู่มีลูกบุญธรรม 1 คน คือนายฉัตรชัย วรดิลก  

ส่วนผลงานของเพ็ญศรี พุ่มชูศรี นั้น เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากล ที่มีผลงานต่อเนื่องกว่า 50 ปี โดยได้บันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้หลายเพลง อาทิ เพลงสายฝน, ดวงใจกับความรัก, เทวาพาคู่ฝัน, มหาจุฬาลงกรณ์, ความฝันอันสูงสุด, อาทิตย์อับแสง เป็นต้น รวมทั้งได้รับเชิญให้ไปขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อบันทึกแผ่นเสียงอีกหลายครั้ง ซึ่งในปี พ.ศ. 2506 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลงวิหคเหิรลม และ เพลงม่านไทรย้อย ต่อมาปี พ.ศ. 2508 ได้รับรางวัลชนะเลิศแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลงง้อรัก และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจาก สวช.ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทย-ขับร้อง) เมื่อเดือนธันวาคม 2534 และได้เข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2535  

ด้านความช่วยเหลือจากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งดูแลศิลปินแห่งชาตินั้น นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีสวัสดิการศิลปินแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 135,000 บาท โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ และจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกเชิดชูเกียรติ และดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพให้ด้วย อย่างไรก็ตาม มีความรู้สึกเสียใจกับการที่สูญเสียศิลปินแห่งชาติครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียครูเพลงของประเทศไทยที่มีความสามารถในการขับร้องเพลงไทยได้อย่างไพเราะมาก ซึ่งในปีนี้เราได้สูญเสียศิลปินแห่งชาติหลายท่านแล้ว รวมถึงเมื่อเดือนเมษายน นายสุวัฒน์ วรดิลก หรือรพีพร ศิลปินแห่งชาติ ผู้เป็นสามีก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เช่นกัน ขณะเดียวกัน ขณะนี้ยังมีศิลปินแห่งชาติอีกหลายท่านที่ล้มป่วยด้วยความชราภาพ

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า เป็นแฟนเพลงของเพ็ญศรี พุ่มชูศรี มาตั้งแต่วัยเด็กรู้สึกประทับใจเสียงของคุณเพ็ญศรีมาก โดยเฉพาะเพลงม่านไทรย้อย รำพันสวาท ศกุนตลา เป็นเพลงที่คุณเพ็ญศรี ร้องได้ไพเราะมาก เพราะเป็นคนเสียงเพราะ หวานนุ่ม เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการศิลปินแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการสูญเสียบุคคลที่ใช้ภาษาไทยดีเด่นด้วย เนื่องจากคุณเพ็ญศรีสามารถร้องเพลงไทยได้อย่างชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ ถูกอักขระภาษาไทย ดังนั้นในฐานะที่กำกับดูและกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งดูแลศิลปินแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวพุ่มชูศรี ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวและประชาชนทั่วไป  

จากนั้น ในเวลา 14.00 น. ญาติๆได้เคลื่อนศพ ป้าโจ๊ว-เพ็ญศรี มายังศาลา 15 ขุนโชติธนากร วัดมกุฎกษัตริยาราม ท่ามกลางญาติมิตรและบุคคลที่เคยร่วมงาน กับป้าโจ๊ว-เพ็ญศรี เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายอย่างคับคั่ง อาทิ นายวันจักร วรดิลก น้องชายสุวัฒน์ วรดิลก นางจีรวรรณ พนมยงค์ น้องสาวสุวัฒน์ วรดิลก นายฉัตรชัย วรดิลก บุตรบุญธรรมป้าโจ๊ว-เพ็ญศรี นายฉลวย ศรีรัตนา ผู้กำกับชื่อดัง นายชรินทร์ นันทนาคร นายธานินทร์ อินทรเทพ นางโฉมฉาย อรุณฉาน พญ.พันทิวา สินรัชตนันท์ นายใหญ่ นภายน นายนคร ถนอมทรัพย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ฯลฯ  

ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังอัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน และหีบก้านแย่งประกอบศพ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาที่ศาลา จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นประธานอัญเชิญน้ำหลวงอาบศพรดลงบนร่างของศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ ก่อนที่จะบรรจุศพลงหีบก้านแย่งประกอบศพ ท่ามกลางความเศร้าสลดของผู้ที่มาร่วมพิธี   แล้วตามด้วยพิธีสวดพระอภิธรรม

หลังจากนั้น นางพรรณี พลรัตน์ อายุ 65 ปี น้องสาวของนางเพ็ญศรี กล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพี่สาวอีกครั้งว่า เมื่อช่วงเช้า เวลาประมาณ 08.30 น.ลูกสาวตน ซึ่งเป็นคนคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ ได้ปลุกพี่สาวขึ้นป้อนแซนด์วิช ซึ่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆให้พี่สาวรับประทานก่อนทานยา คำแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอคำที่ 2 ปรากฏมีอาการตัวแข็ง หลังจากนั้นได้ล้มนอนหงายลงไป ด้วยความตกใจ ได้ช่วยทุบหลังเบาๆจนอาเจียนเอาแซนด์วิชที่ติดคอออกมา แต่เมื่อจับตัวดูพบว่าไม่มีเรี่ยวแรง จึงได้ช่วยกันอุ้มไปส่งคลินิกใกล้บ้าน ต่อมาได้ส่งตัวมาที่ รพ.เมืองสมุทร ในเวลาประมาณ 09.00 น. แพทย์ได้ ให้การรักษาอย่างเต็มที่แล้ว แต่ร่างกายของพี่สาวไม่รับรู้อะไรแล้ว ขณะที่อาการเบาหวานที่ต้องกินยาควบคุมอยู่ได้ เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน หมอบอกว่าน้ำตาลในเลือดสูงถึง 400 และบอกให้ทำใจ เพราะร่างกายไม่ตอบสนอง เมื่อญาติมากันพร้อมเพรียงแล้ว จึงได้ให้หมอถอดออกซิเจนออกเพื่อให้ไปอย่างสงบ  

นางพรรณีกล่าวว่า พี่เพ็ญศรีรับประทานโจ๊กและอาหารเหลวนานๆแล้วจะเบื่อ จึงได้ให้ทานแซนด์วิชที่หั่นชิ้นเล็ก ซึ่งก็รับประทานมานานแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์นี้ ตนกับพี่สาวมีอยู่ด้วยกันแค่ สองคน อายุห่างกัน 1 รอบ ผูกพันกันมาตั้งแต่ตอนเด็ก จะเรียกพี่สาวว่าแม่เพราะคอยดูแลน้องทุกอย่าง ซึ่งก่อนที่จะเสียชีวิตก็มีลางบอกเหตุบางอย่าง ครั้งแรกหลังจากพี่สุวัฒน์ สามีของพี่เสียชีวิตได้สามวัน ตอนนั้นพี่รักษาตัวจากอาการเส้นเลือดฝอยในสมองแตกที่ รพ.ตำรวจ มีอาการมือสั่นและไม่มีแรง ได้เพ้อพูดขึ้นมาว่า สามีมาเยี่ยมให้ไปเปิดประตูห้อง แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะตามปกติจะเพ้อเป็นประจำ จนล่าสุดเมื่อเวลาตีสามคืนก่อนที่จะเสียชีวิต ได้พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า พี่สุวัฒน์มาชวนไปที่ศาลาแห่งหนึ่ง เสียดายที่ไปแล้วมีดอกไม้อยู่ดอกเดียว และลงคนละบันไดจึงไม่ได้พบกัน ไม่คิดว่าวันรุ่งขึ้นจะจากไปอย่างกะทันหัน

ด้านนายวันจักร วรดิลก น้องชายสุวัฒน์ วรดิลก ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ 3-4 วันก่อนที่พี่โจ๊วจะเสีย จู่ๆได้พูดว่า พี่สุวัฒน์มารอรับไปอยู่ด้วย ทั้งๆที่พี่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่สุวัฒน์จากไปแล้ว หลังจากนั้นพี่โจ๊วก็มาจากไป จึงคิดว่าทั้งสองคือคู่ชีวิตกันจริงๆ ส่วนพิธีสวดพระอภิธรรมนั้นจะมีไปจนถึงวันที่ 18 พ.ค.นี้ และจะบรรจุศพเอาไว้ ซึ่งทางญาติพี่น้องได้ตกลงกันว่า จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทั้งสุวัฒน์ และเพ็ญศรี สองสามีภรรยาพร้อมๆกันที่วัดมกุฎกษัตริยาราม แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา คาดว่าภายในเดือน ส.ค.นี้ เพราะสุวัฒน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ห่างกันเพียง 29 วันเท่านั้น โดยในงานจะมีการแจกดอกไม้จันทน์ 2 ดอก และส่วนหนังสือที่จะแจกในงานจะเขียนคำไว้อาลัยทั้ง 2 คนร่วมกันทีเดียว

ส่วนนางจีรวรรณ พนมยงค์ น้องสาวนายสุวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่นายสุวัฒน์เสียชีวิต ญาติได้พยายามจัดงานศพให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะดูแลรักษาอาการของพี่โจ๊วให้ดีที่สุดเช่นกัน จนถึงขณะนี้พี่โจ๊วยังไม่รู้ด้วยว่าพี่สุวัฒน์ได้จากไปแล้ว ตนคิดว่านับเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนที่พี่สุวัฒน์เสียแล้ว หลังจากนั้นพี่สุวัฒน์มารับพี่โจ๊วไปอยู่ด้วย ซึ่งนับว่าทั้งสองคือคู่ทุกข์ คู่สุขกันอย่างแท้จริง  

ขณะที่นายชรินทร์ นันทนาคร นักร้องชื่อดัง กล่าวว่า ไม่อยากเชื่อจะเป็นเรื่องจริง เพราะเพิ่งสูญเสียนายสุวัฒน์ไป พวกเราใกล้ชิดทั้ง 2 ท่านนี้มาก ตอนแรกนึกว่ามีคนโทรศัพท์มาแกล้ง กระทั่งทราบข่าวทางโทรทัศน์ และโทรศัพท์ไปสอบถามกับน้องสาวพี่โจ๊ว จึงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่เชื่อว่าพี่โจ๊วจะเป็นอย่างนี้ ทราบว่าออกจากโรงพยาบาลแสดงว่าดีขึ้น ส่วนเรื่องการร้องเพลงของพี่โจ๊วนั้น เสียงของพี่เหมือนเสียงสวรรค์ ไม่มีใครจะมาเลียนแบบได้ ร้องเพลงได้ไพเราะทุกเพลง เกิดมาเพื่อร้องเพลงจริงๆ รู้สึกเสียดายมาก เคยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เมื่อเดือนสองเดือนก่อน ตนถามว่า จำได้ไหมว่าใคร ท่านยิ้มๆแล้วบอกว่า ริน ตอนนั้นตนกำลังจะจัดคอนเสิร์ตชรินทร์ ยังว่าจะมาขอเอาเพลง ฟ้าครึ้มฝน ไปร้องนะ พี่โจ๊วก็ทำปากร้องเพลงนี้ให้ฟัง
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
triathlon
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 0

คู่ชีวิต

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากคะพี่พอใจ
จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้ฟังคุณเพ็ญศรีร้องเพลง คืองานรับน้องที่ธรรมศาสตร์ และท่านร้องเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ซึ่งเพราะมากๆ และจับใจมาจนถึงทุกวันนี้
ขอให้ดวงวิญญาณของท่านทั้งสองไปสู้สุคติ
just one life, use it!
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

คู่ชีวิต

โพสต์ที่ 3

โพสต์

triathlon เขียน: ขอให้ดวงวิญญาณของท่านทั้งสองไปสู้สุคติ
8) ท่านทั้งสองมีคุณอเนกอนันต์ต่อสังคมโดยรวม
    ผมขอให้ดวงวิญญาณของท่านทั้งสองไปสู้สุคติ เช่นกันครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
121
Verified User
โพสต์: 843
ผู้ติดตาม: 0

คู่ชีวิต

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณ ความจริงของชีวิต
โพสต์โพสต์