การวัดผลงานการลงทุน
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 1
เห็นมีกระทู้ตั้งขึ้นมาหลายๆ อันเพื่อวัดผลการลงทุน ทีนี้ผมก้อเลยอยากจะตั้งโจทย์อะไรง่ายๆ ว่า เราวัดผลการลงทุนกันด้วยผลตอบแทนเป็นเปอร์เซนต์อย่างเดียวดีหรือเปล่า
ลองดูการคำนวนง่ายๆ ครับ สมมติว่าผมเพิ่งลงทุนในตลาดหุ้นได้ 1 เดือนได้กำไร 10 % กับคนที่ลงทุน 1 ปีได้กำไร 100% ยังไงได้ผลตอบแทนดีกว่ากันครับ
ผมขอบอกเลยว่าตอบไม่ได้ เพราะการลงทุน 1 เดือน ได้ 10 % ถ้าเค้าสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนต่อเนื่อง 10% ไม่ต้องทบต้น เค้าก้อจะได้ผลตอบแทน 120% ทั้งปีมากกว่าคนที่สอง แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าการลงทุนของเค้าทุกเดือนจะได้ผลตอบแทนเป็น 10% ทุกปี
พี่เพื่อนๆ คงจะบอกว่า 1 เดือนมันน้อยเกินไปสำหรับการวัดผล ต้องหลายๆ เดือนสิ ยังงี้ผมว่าเรามีปัญหาเรื่องการคำนวนแหงๆ เพราะถ้าเรามีการลงทุนเพิ่มทุกเดือน การลงทุนใหม่ย่อมจะมีผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนที่ลงทุนมานานแล้ว ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ทก้อจะลดลงครับ ทีนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจและตัดสินใจอะไรผิดไปรึเปล่าเช่นไม่ซื้อหุ้นดีๆ ที่ถืออยู่แล้วเพราะกลัวผลตอบแทนจะลด ไปซื้อหุ้นใหม่ๆ แล้วหวังว่าผลตอบแทนจะดีกว่าเดิม
ผมก้องงๆ อยู่นาน จนเดี๋ยวนี้ก้อเริ่มเฉยๆ กับการวัดผลงานพอร์ทด้วยการวัดเป็นเปอร์เซนต์จากเงินต้นเพียงอย่างเดียวครับ
ผมดูว่า net worth ของผมเพิ่มขึ้นเท่าไร มาจากการลงทุนเดิมเท่าไหร่ และมาจากการลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ แทนครับ
พี่ๆเพื่อนๆ มีความเห็นว่าไงครับ
ลองดูการคำนวนง่ายๆ ครับ สมมติว่าผมเพิ่งลงทุนในตลาดหุ้นได้ 1 เดือนได้กำไร 10 % กับคนที่ลงทุน 1 ปีได้กำไร 100% ยังไงได้ผลตอบแทนดีกว่ากันครับ
ผมขอบอกเลยว่าตอบไม่ได้ เพราะการลงทุน 1 เดือน ได้ 10 % ถ้าเค้าสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนต่อเนื่อง 10% ไม่ต้องทบต้น เค้าก้อจะได้ผลตอบแทน 120% ทั้งปีมากกว่าคนที่สอง แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าการลงทุนของเค้าทุกเดือนจะได้ผลตอบแทนเป็น 10% ทุกปี
พี่เพื่อนๆ คงจะบอกว่า 1 เดือนมันน้อยเกินไปสำหรับการวัดผล ต้องหลายๆ เดือนสิ ยังงี้ผมว่าเรามีปัญหาเรื่องการคำนวนแหงๆ เพราะถ้าเรามีการลงทุนเพิ่มทุกเดือน การลงทุนใหม่ย่อมจะมีผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนที่ลงทุนมานานแล้ว ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ทก้อจะลดลงครับ ทีนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจและตัดสินใจอะไรผิดไปรึเปล่าเช่นไม่ซื้อหุ้นดีๆ ที่ถืออยู่แล้วเพราะกลัวผลตอบแทนจะลด ไปซื้อหุ้นใหม่ๆ แล้วหวังว่าผลตอบแทนจะดีกว่าเดิม
ผมก้องงๆ อยู่นาน จนเดี๋ยวนี้ก้อเริ่มเฉยๆ กับการวัดผลงานพอร์ทด้วยการวัดเป็นเปอร์เซนต์จากเงินต้นเพียงอย่างเดียวครับ
ผมดูว่า net worth ของผมเพิ่มขึ้นเท่าไร มาจากการลงทุนเดิมเท่าไหร่ และมาจากการลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ แทนครับ
พี่ๆเพื่อนๆ มีความเห็นว่าไงครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 2
สวัสดีอีกทีครับคุณ aye ผมว่าเรามาวัดผลกันตลอดๆคงเครียดแย่ ผมเองดูเอาเงินต้นเป็นหลักว่าปีนี้เรามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเท่าไร ไม่ค่อยอยากคิดเปรียบเทียบกับอะไรมานัก เดียวจะทำให้เรามุในสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ เอาเป็นว่าชนะเงินเฟ้อ ชนะอัตราดดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลดก็สบายใจแล้วครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 3
เรื่องวิธี การวัดผลตอบแทนการลงทุน คงมีหลายวิธีครับ
สุดแท้แต่ความถนัดแต่ละบุคคล ิแต่ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ต่างกันมากนัก
หากจะวัดกันให้ถูกต้องตรงเผงเลย
น่าจะเป็นวิธีของนักบัญชี ที่วัดผลตอบแทนจากเงินต้น (หรือทุน)เฉลี่ย
ที่ต้องเป็นทุนหรือเงินต้นเฉลี่ย ก็เนื่องจากเงินต้นหรือทุน ที่ใช้ลงทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปีเนื่องจาก มีการนำเงินมาลงทุนเพิ่มที่คุณ aye ว่ามา หรือ
มีการนำเงินต้นออกไปใช้ (อย่างที่ผมทำเป็นประจำ :lol: )
วิธีนี้คล้ายๆ กับการคำนวณจำนวนหุ้นเฉลี่ย หากมีการเพิ่มทุน หรือการแปลงสิทธิของวอแรนต์นั่นละครับ
วิธีผลตอบแทนจากทุนเฉลี่ยนี้ น่าจะให้ค่าีที่ถูกต้อง แต่ข้อเสียคือค่อนข้างซับซ้อน
ยุ่งยาก ผมก็เลยวัดผลตอบแทนง่ายๆ คือ นำเงินปลายงวด-ต้นงวด แล้วนำไปหารด้วยเงินต้น โดยที่ให้เงินเข้าหรือเงินออกสุทธิไปลบกับเงินต้น
อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ทำได้ง่ายครับ
แต่ถ้าใช้วิธีไหน ก็ควรใช้วิธีนั้นไปตลอดครับ จะวัดผลได้ถูกต้องกว่า
การวัดผลตอบแทน ตามช่วงระยะเวลาที่สม่ำเสมอ ทำให้เรามีเป้าหมาย มีกรอบ
หรืออาจเป็นสิ่งกระตุ้น ผลักดันให้เราสำรวจตัวเองหรือต้องทำการบ้านมากขึ้นครับ เช่นหากพอร์ทเราน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็อาจเป็นตัวบอกให้เรา ต้องทบทวนวิธีการลงทุนของเราได้ครับ

สุดแท้แต่ความถนัดแต่ละบุคคล ิแต่ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ต่างกันมากนัก
หากจะวัดกันให้ถูกต้องตรงเผงเลย
น่าจะเป็นวิธีของนักบัญชี ที่วัดผลตอบแทนจากเงินต้น (หรือทุน)เฉลี่ย
ที่ต้องเป็นทุนหรือเงินต้นเฉลี่ย ก็เนื่องจากเงินต้นหรือทุน ที่ใช้ลงทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปีเนื่องจาก มีการนำเงินมาลงทุนเพิ่มที่คุณ aye ว่ามา หรือ
มีการนำเงินต้นออกไปใช้ (อย่างที่ผมทำเป็นประจำ :lol: )
วิธีนี้คล้ายๆ กับการคำนวณจำนวนหุ้นเฉลี่ย หากมีการเพิ่มทุน หรือการแปลงสิทธิของวอแรนต์นั่นละครับ
วิธีผลตอบแทนจากทุนเฉลี่ยนี้ น่าจะให้ค่าีที่ถูกต้อง แต่ข้อเสียคือค่อนข้างซับซ้อน
ยุ่งยาก ผมก็เลยวัดผลตอบแทนง่ายๆ คือ นำเงินปลายงวด-ต้นงวด แล้วนำไปหารด้วยเงินต้น โดยที่ให้เงินเข้าหรือเงินออกสุทธิไปลบกับเงินต้น
อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ทำได้ง่ายครับ
แต่ถ้าใช้วิธีไหน ก็ควรใช้วิธีนั้นไปตลอดครับ จะวัดผลได้ถูกต้องกว่า
การวัดผลตอบแทน ตามช่วงระยะเวลาที่สม่ำเสมอ ทำให้เรามีเป้าหมาย มีกรอบ
หรืออาจเป็นสิ่งกระตุ้น ผลักดันให้เราสำรวจตัวเองหรือต้องทำการบ้านมากขึ้นครับ เช่นหากพอร์ทเราน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็อาจเป็นตัวบอกให้เรา ต้องทบทวนวิธีการลงทุนของเราได้ครับ

การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 4
การวัดผลตอบแทนการลงทุน นั้น
ผมเข้าใจว่า ผมได้ใช้หลักการเดียวกันกับคุณลูกอีสาน แต่อาจมีข้อปลีกย่อยบ้าง โดยวิธีคิดของผมได้จาก :
A. หาผลตอบแทน ซึ่งได้จาก การนำเอา 1. ผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อ-ขายหุ้น + 2. เงินปันผลที่ได้รับ + 3. กำไรหรือขาดทุนจากผลต่างของราคาซื้อกับราคาปิด ณ วันสิ้นปี
จากนั้นก็หา
B. เงินลงทุน ซึ่งตอนนี้ผมใช้การประมาณค่าเฉลี่ยเอา
ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนนั้น มันเคลื่อนไหวขึ้นๆ ลงๆ ไปตามจังหวะการซื้อๆ ขายๆ ซึ่งผมไม่ได้ติดตามบันทึกไว้มากขนาดนั้น ก็เลยใช้กะกะเอา
ผลตอบแทนที่ได้ ก็ประมาณว่า เอา A หารด้วย B แล้วทำเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ
ใครมีวิธีที่แม่นยำ ที่ง่ายกว่านี้จะแนะนำ ก็ขอรบกวนด้วยครับ
ผมเข้าใจว่า ผมได้ใช้หลักการเดียวกันกับคุณลูกอีสาน แต่อาจมีข้อปลีกย่อยบ้าง โดยวิธีคิดของผมได้จาก :
A. หาผลตอบแทน ซึ่งได้จาก การนำเอา 1. ผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อ-ขายหุ้น + 2. เงินปันผลที่ได้รับ + 3. กำไรหรือขาดทุนจากผลต่างของราคาซื้อกับราคาปิด ณ วันสิ้นปี
จากนั้นก็หา
B. เงินลงทุน ซึ่งตอนนี้ผมใช้การประมาณค่าเฉลี่ยเอา
ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนนั้น มันเคลื่อนไหวขึ้นๆ ลงๆ ไปตามจังหวะการซื้อๆ ขายๆ ซึ่งผมไม่ได้ติดตามบันทึกไว้มากขนาดนั้น ก็เลยใช้กะกะเอา
ผลตอบแทนที่ได้ ก็ประมาณว่า เอา A หารด้วย B แล้วทำเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ
ใครมีวิธีที่แม่นยำ ที่ง่ายกว่านี้จะแนะนำ ก็ขอรบกวนด้วยครับ
What do you mean.?
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 5
ผมลองเอา net worth เมื่อต้นปีมาบวกกับ net investment (ซื้อ - ขาย) เพื่อคิดเป็นเงินลงทุน แล้ว เอา net worth ปัจจุบัน มาเป็นตัวตั้ง ลบด้วยเงินลงทุน แล้วกลับไปหาร เงินต้นครับ
สูตรของผมคือ Return % = Net worth ending - (Net worth beginning + Net Investment) / (net worth beginning + net investment)
ไม่รู้ถูกหรือเปล่านะครับ แต่ค่าที่ได้ไม่ตรงกับ Microsoft money เลย (อ้อ ผมไม่ได้ใช้ Quicken ครับ)
ที่ถามก้อไม่มีอะไรครับ อยากรู้ความเห็นของคนอื่นๆเท่านั้นเองครับ
สูตรของผมคือ Return % = Net worth ending - (Net worth beginning + Net Investment) / (net worth beginning + net investment)
ไม่รู้ถูกหรือเปล่านะครับ แต่ค่าที่ได้ไม่ตรงกับ Microsoft money เลย (อ้อ ผมไม่ได้ใช้ Quicken ครับ)
ที่ถามก้อไม่มีอะไรครับ อยากรู้ความเห็นของคนอื่นๆเท่านั้นเองครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 6
คุณayeโกรธผมเปล่าเนี้ย? ผมเคยตามคิดอยู่แต่ไม่ไหวครับเครียดจริงๆเลยดูเป็นครั้งๆไป โดยใช้เงินต้นเป็นหลักดูแล้วสบายใจกว่า
ผมเคยดูปลายปีขาดไปอีกนิดหนึ่งจะได้ครบตัวเลขกลมๆต้นปีถัดมาเลยมุพยายามจะทำให้มากขึ้นเลยเป็นปัญหาจึงหยุดคิดไป เป็นเหตุผลส่วนตัวครับเห็นของท่านอื่นๆก็คิดได้ดีครับ
ผมเคยดูปลายปีขาดไปอีกนิดหนึ่งจะได้ครบตัวเลขกลมๆต้นปีถัดมาเลยมุพยายามจะทำให้มากขึ้นเลยเป็นปัญหาจึงหยุดคิดไป เป็นเหตุผลส่วนตัวครับเห็นของท่านอื่นๆก็คิดได้ดีครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 7
เรื่องของคนมีเงินเยอะ มีเงินมาเล่นตอนแรก แถมยังเติมอีกเรื่อยๆ ก็เลยปวดหัวกัน
แบบพี่ซิเงินน้อย เล่นได้กำไร ก็เก็บเงินต้นขึ้นมา แล้วเอากำไรมาเล่นต่อ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ได้กำไรเท่าไร
เอาเป็นว่า ต่อไปเหลือเท่าไร ก็กำไรเท่านั้น
อิอิ
แบบพี่ซิเงินน้อย เล่นได้กำไร ก็เก็บเงินต้นขึ้นมา แล้วเอากำไรมาเล่นต่อ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ได้กำไรเท่าไร
เอาเป็นว่า ต่อไปเหลือเท่าไร ก็กำไรเท่านั้น
อิอิ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 8
ใช้ Quicken หรือ Microsoft Money ดีสุดครับ วัดผลด้วย
วิธีที่สามารถเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร หรือ
yield ของพันธบัตรและหุ้นกู้ได้โดยตรง เพราะทั้ง Quicken
และ Microsoft Money จะแสดง return on investment
ตามวิธี IRR โดยมี time value of money เข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณ Aye ใช้วิธีคำนวนด้วยมือไม่มีตรงกับ MM หรอกครับ
นอกจากจะไม่ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเลย
ผมคิดว่าเราควรจะวัดผลตัวเองตลอดเวลาครับ (อาจจะเป็น
ปีต่อปี) อย่างน้อยก็เพื่อดูว่าเรามาถูกทางหรือไม่
วิธีที่สามารถเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร หรือ
yield ของพันธบัตรและหุ้นกู้ได้โดยตรง เพราะทั้ง Quicken
และ Microsoft Money จะแสดง return on investment
ตามวิธี IRR โดยมี time value of money เข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณ Aye ใช้วิธีคำนวนด้วยมือไม่มีตรงกับ MM หรอกครับ
นอกจากจะไม่ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเลย
ผมคิดว่าเราควรจะวัดผลตัวเองตลอดเวลาครับ (อาจจะเป็น
ปีต่อปี) อย่างน้อยก็เพื่อดูว่าเรามาถูกทางหรือไม่
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 9
Mon Money wrote:
Mon Money wrote:
Jeng wrote:
CK wrote:
ผมคงไม่ได้เปรียบเทียบกับตลาดหรืออะไรหรอกครับ เพียงแต่อยากวัดผลงานของตัวเองเท่านั้นเอง ทีนี้มันต้องคิดเสมอว่าเป็นการมองระยะสั้น ระยะยาวต้องมีเป้าหมายของหุ้นในแต่ละตัวว่าเราซื้อหุ้นนั้นไปทำไม แต่แหม มันก้ออยากดูว่าเงินเราเติบโตมากแค่ไหนด้วยใช่มั้ยละสวัสดีอีกทีครับคุณ aye ผมว่าเรามาวัดผลกันตลอดๆคงเครียดแย่ ผมเองดูเอาเงินต้นเป็นหลักว่าปีนี้เรามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเท่าไร ไม่ค่อยอยากคิดเปรียบเทียบกับอะไรมานัก เดียวจะทำให้เรามุในสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ เอาเป็นว่าชนะเงินเฟ้อ ชนะอัตราดดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลดก็สบายใจแล้วครับ
Mon Money wrote:
ผมไม่โกรธหรอกครับ ผมโกรธใครไม่เป็น หรอก เฮียมน ฝากไว้ก่อนเถอะ เอ้ย ไม่ช่ายยยยย อิอิคุณayeโกรธผมเปล่าเนี้ย? ผมเคยตามคิดอยู่แต่ไม่ไหวครับเครียดจริงๆเลยดูเป็นครั้งๆไป โดยใช้เงินต้นเป็นหลักดูแล้วสบายใจกว่า
ผมเคยดูปลายปีขาดไปอีกนิดหนึ่งจะได้ครบตัวเลขกลมๆต้นปีถัดมาเลยมุพยายามจะทำให้มากขึ้นเลยเป็นปัญหาจึงหยุดคิดไป เป็นเหตุผลส่วนตัวครับเห็นของท่านอื่นๆก็คิดได้ดีครับ
Jeng wrote:
เฮียเจ๋งเนี่ยนะเงินน้อย พูดเป็นการ์ตูนโดเรมอนผจญไดโนเสาร์ไปได้ เพ่ ผมเองก้อลงเพิ่มปีนี้ไม่เยอะหรอกครับ ไม่ถึง 1000 k เลย แต่มันมีกิจกรรมซื้อขายตลอด ปีนี้ขายของเน่า ไป 2 ตัว ขายกองทุนรวมไป ซื้อใหม่ 2 ตัว และซื้อเพิ่มตัวเก่าอีก 2 ตัว แค่นั้นเองเรื่องของคนมีเงินเยอะ มีเงินมาเล่นตอนแรก แถมยังเติมอีกเรื่อยๆ ก็เลยปวดหัวกัน
แบบพี่ซิเงินน้อย เล่นได้กำไร ก็เก็บเงินต้นขึ้นมา แล้วเอากำไรมาเล่นต่อ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ได้กำไรเท่าไร
เอาเป็นว่า ต่อไปเหลือเท่าไร ก็กำไรเท่านั้น
อิอิ
CK wrote:
พี่ CK ผมก้อดูใน Microsoft Money แต่ดูเหมือนมันหลอกๆ ไงไม่รู้ เดี๋ยวลองไล่ดูอีกทีครับ แน่นอนว่าผมดูเป็นรายปี ใน Microsoft Money มันมีรายงาน net worth over time ซึ่งบอกการเติบโตของพอร์ท ผมก้อเลยสงสัยว่า return ในหน้า portfolio มันอาจจะเพี้ยนไป ถ้าเรามีการเพิ่มหรือลดเงินลงทุนนะใช้ Quicken หรือ Microsoft Money ดีสุดครับ วัดผลด้วย
วิธีที่สามารถเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร หรือ
yield ของพันธบัตรและหุ้นกู้ได้โดยตรง เพราะทั้ง Quicken
และ Microsoft Money จะแสดง return on investment
ตามวิธี IRR โดยมี time value of money เข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณ Aye ใช้วิธีคำนวนด้วยมือไม่มีตรงกับ MM หรอกครับ
นอกจากจะไม่ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเลย
ผมคิดว่าเราควรจะวัดผลตัวเองตลอดเวลาครับ (อาจจะเป็น
ปีต่อปี) อย่างน้อยก็เพื่อดูว่าเรามาถูกทางหรือไม่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 10
ไม่เคยใช้ MM ครับเลยบอกไม่ได้ แต่ถ้ามันเหมือนกับ Quickenayethebing เขียน: พี่ CK ผมก้อดูใน Microsoft Money แต่ดูเหมือนมันหลอกๆ ไงไม่รู้ เดี๋ยวลองไล่ดูอีกทีครับ แน่นอนว่าผมดูเป็นรายปี ใน Microsoft Money มันมีรายงาน net worth over time ซึ่งบอกการเติบโตของพอร์ท ผมก้อเลยสงสัยว่า return ในหน้า portfolio มันอาจจะเพี้ยนไป ถ้าเรามีการเพิ่มหรือลดเงินลงทุนนะ
ละก้อ หน้า Port Folio แทบจะบอกอะไรไม่ได้เลยครับถ้าน้อง
Aye ซื้อขายบ่อยๆ เพราะ performance ในหน้า Port Folio
นอกจากจะ annualized แล้ว ยังคิด base อยู่บนหุ้นที่ถืออยู่
เท่านั้นครับ ไม่ได้คิด cash ด้วย มันจะเพี้ยนเป็นอย่างยิ่งสำหรับ
หุ้นที่ถือไม่ถึงปี
หน้า report จะตรงกว่าครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นแบบปีต่อปี จะ
ได้ผลตอบแทน (เป็นเปอร์เซ็นต์) ที่เป็นมาตรฐานสากลที่สุด
ปีที่แล้วผมคงจะแพ้ SET Index ครับ แต่นั่นไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่
เพราะถ้าตลาดเป็นขาขึ้น ผมตั้งเป้าไว้แค่ 50% ต่อปีเท่านั้นเอง
(และ 7% ต่อปีสำหรับขาลง) ถ้าตลาดขึ้น 7 ลง 7 ภายใน 21 ปี
ก็น่าจะ retire ได้แล้วครับ
คุณ Mon Money ครับ วางนโยบาย-ตั้งเป้า-วัดผล-ปรับปรุง คือ
ขั้นตอนการทำธุรกิจครับ อย่างที่คุณชอบอ่านแห่งสินธรบอกไว้
การเล่นหุ้นก็เหมือนการทำธุรกิจ ถ้าไม่วัดผลจะปรับปรุงได้ไงครับ
ผมวัดผลแม้แต่ว่า การเก็งกำไร กับ การลงทุนยาว อย่างไหนได้
กำไรมากกว่าในแต่ละปี
-
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 11
ผมใช้ excel ในการคำนวณผลตอบแทนครับ
โดยบันทึกการซื้อ-ขาย ทุกครั้ง
ก็สะดวกและง่ายดีครับ
อันไหนให้ผลตอบแทนมากกว่าครับ
2 เดือนที่แล้ว ผมเคยลองเก็งกำไรในหุ้นพื้นฐานดี แต่มีการปั่นราคาขึ้นมา
เก็งกำไรประมาณ 10 วัน ซื้อขายหลายรอบมาก...มากกว่าเทรดทั้งปีซะอีก
ผลปรากฎว่าขาดทุนยับเยินครับ ประมาณ 3 % ของ port
ไม่ลองไม่รู้ครับ แต่ลองแล้วเข็ดจริงๆ
คนที่ประสบความสำเร็จจากการเก็งกำไร ผมว่ามีน้อยมากครับ
ถ้ามีก็แสดงว่าเก่งมาก ต้องรู้จิตวิทยามวลชน
อาจจะต้องเรียนจิตวิทยา แบบ Gorge Soros ครับ
มือผมอยู่ที่คีร์บอร์ด ตลอดเวลายังไม่ทันเลยครับ
ใจก็ร้อนรุ่มตลอดเวลา...
ว่าแต่คุณ CK ยังถือเจ้าแ้ก้วบางๆ หรือเปล่าครับ
มันยังไม่ไปไหน เหมือนคุณ CK ว่าไว้
ถือเป็นเพื่อน ไว้รอลุ้นปีนี้นะครับ
แต่ขออย่างเดียว อย่าชวนผมไปเข้าโรงเรียนอนุบาล นะครับ
ผมไม่เอาจริงๆ ด้วย :lol: :lol: :lol:
โดยบันทึกการซื้อ-ขาย ทุกครั้ง
ก็สะดวกและง่ายดีครับ
แล้วผลเป็นอย่างไรบ้างครับคุณ CK :lol:ผมวัดผลแม้แต่ว่า การเก็งกำไร กับ การลงทุนยาว อย่างไหนได้
กำไรมากกว่าในแต่ละปี
อันไหนให้ผลตอบแทนมากกว่าครับ
2 เดือนที่แล้ว ผมเคยลองเก็งกำไรในหุ้นพื้นฐานดี แต่มีการปั่นราคาขึ้นมา
เก็งกำไรประมาณ 10 วัน ซื้อขายหลายรอบมาก...มากกว่าเทรดทั้งปีซะอีก
ผลปรากฎว่าขาดทุนยับเยินครับ ประมาณ 3 % ของ port
ไม่ลองไม่รู้ครับ แต่ลองแล้วเข็ดจริงๆ
คนที่ประสบความสำเร็จจากการเก็งกำไร ผมว่ามีน้อยมากครับ
ถ้ามีก็แสดงว่าเก่งมาก ต้องรู้จิตวิทยามวลชน
อาจจะต้องเรียนจิตวิทยา แบบ Gorge Soros ครับ
มือผมอยู่ที่คีร์บอร์ด ตลอดเวลายังไม่ทันเลยครับ
ใจก็ร้อนรุ่มตลอดเวลา...

ว่าแต่คุณ CK ยังถือเจ้าแ้ก้วบางๆ หรือเปล่าครับ
มันยังไม่ไปไหน เหมือนคุณ CK ว่าไว้
ถือเป็นเพื่อน ไว้รอลุ้นปีนี้นะครับ
แต่ขออย่างเดียว อย่าชวนผมไปเข้าโรงเรียนอนุบาล นะครับ
ผมไม่เอาจริงๆ ด้วย :lol: :lol: :lol:
-
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 12
เอ...ทำไมเข้าไม่ได้ เีดี๋ยวลองใหม่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 13
ผมกำลังดู excel อยู่เหมือนกันครับ ตัดปัญหาปวดหัวตอนเก็งกำไรลูกอีสาน เขียน:ผมใช้ excel ในการคำนวณผลตอบแทนครับ
โดยบันทึกการซื้อ-ขาย ทุกครั้ง
ก็สะดวกและง่ายดีครับ
เพิ่งจะเริ่มเดย์เทรดเก็งกำไรก็กลางปีนี้ครับ ซื้อขายกันมือเป็นลิง
เลย วันเดียวหลายสิบ transaction ยังเคย และมีหุ้นใหม่ๆแทบทุก
อาทิตย์ เลยลง Quicken ไม่ไหว หยุดไปตั้งแต่กลางปี กะจะมา
Reconcile ทีเดียวตอนสิ้นปี (ยังไม่ได้ทำเลย)
ตอนนี้ได้ Excel Sheet แบบปิดสรุปเป็นรายเดือนแล้วครับ กำลังทด
สอบอยู่ว่า accurate หรือเปล่า
อันที่ซื้อขายกันวันต่อวันก็ขาดทุนยับครับลูกอีสาน เขียน: แล้วผลเป็นอย่างไรบ้างครับคุณ CK :lol:
อันไหนให้ผลตอบแทนมากกว่าครับ
อันที่ซื้อขายเป็นหลักอาทิตย์ได้กำไรพอควร
ส่วนที่ซื้อขายห่างกันเป็นเดือนก็กำไรครับ
Net net ออกมาแล้ว ก็ถือว่าเสมอตัว ได้น้อยกว่า
พวกถือยาวๆครับ แต่เวลาได้มันได้มากจริงๆ สิ่งที่
สำคัญที่สุดคือ stop loss ซึ่งช่วยชีวิตผมได้มากทีเดียว
ฮ่าๆ ขายไปเกือบหมดแล้วครับ เอาไปเก็งกำไรน่ะสิลูกอีสาน เขียน: ว่าแต่คุณ CK ยังถือเจ้าแ้ก้วบางๆ หรือเปล่าครับ
มันยังไม่ไปไหน เหมือนคุณ CK ว่าไว้
ถือเป็นเพื่อน ไว้รอลุ้นปีนี้นะครับ
แต่ขออย่างเดียว อย่าชวนผมไปเข้าโรงเรียนอนุบาล นะครับ
ผมไม่เอาจริงๆ ด้วย :lol: :lol: :lol:
สารภาพว่ายอมขาดทุน 3 บาทครับ ขายไป 90%
กะว่าไม่เกินอาทิตย์หน้า หรืออย่างช้าปลายเดือน
ค่อยกลับไป OGC โดยยอมทำใจว่าทุนอาจจะขยับ
ไปเป็น 100 บาท
ไปเข้าอนุบาลมา 1 อาทิตย์ รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ
ไม่เชื่อลองดูสิครับ :lol:
แก้ไขล่าสุดโดย CK เมื่อ อังคาร ม.ค. 06, 2004 9:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 14
ใข้ Microsoft Money สะดวกกว่าครับ สามารถเปรียบเทียบได้ดี เป็นตัวเลข หรือ graft ก็ได้
- pinklady
- Verified User
- โพสต์: 778
- ผู้ติดตาม: 0
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 17
What do you mean.?
-
- ผู้ติดตาม: 0
- tenkafubu
- Verified User
- โพสต์: 224
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 19
3M Only...
Market Cap.
Market Cap.
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 20
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
---------------------------------------------
IRR ในความเห็นผม
ถ้าลงทุน 100 บาท ได้ผลตอบแทน 10 บาท
แต่ 10 บาทเอาไปลงทุนต่อ
IRRจะเป็น 0
เพราะ เราไม่ได้นำเงินกลับคืนมา
ดังนั้นเราควรคิด IRR เมื่อ ล้างมือจากอ่างทองคำแล้ว
แบบนายลิ้น ส่วนเฮียบัฟ ยังไม่ล้างมือยังคิดไม่ได้
[email protected]
---------------------------------------------
IRR ในความเห็นผม
ถ้าลงทุน 100 บาท ได้ผลตอบแทน 10 บาท
แต่ 10 บาทเอาไปลงทุนต่อ
IRRจะเป็น 0

เพราะ เราไม่ได้นำเงินกลับคืนมา
ดังนั้นเราควรคิด IRR เมื่อ ล้างมือจากอ่างทองคำแล้ว
แบบนายลิ้น ส่วนเฮียบัฟ ยังไม่ล้างมือยังคิดไม่ได้
- edd
- Verified User
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 22
ผมขอเอามาศึกษาด้วยคนครับ เพราะผมมีปัญหาการคำนวณตอนที่เอาเงินลงทุนมาใส่เพิ่มระหว่างปี ในจำนวนที่ไม่เท่ากัน แล้วแต่จังหวะการลงทุน ไม่รู้จะคำนวณยังไง
[email protected]
ขอบคุณครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
-
- ผู้ติดตาม: 0
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 25
นึกว่าทิ้งอีเมล์ มาขอหุ้นซะอีก ที่แท้ขอไฟล์วิเคราะห์ผลตอบแทนของคุณ genie ซะอีก
ขอด้วยครับ [email protected]
ขอด้วยครับ [email protected]
-
- Verified User
- โพสต์: 135
- ผู้ติดตาม: 0
-
- ผู้ติดตาม: 0
การวัดผลงานการลงทุน
โพสต์ที่ 29
ผมก็ใช้ Excel ครับ เพราะไม่แน่ใจว่าทาง MM และ Quicken คำนวณอย่างไร กล้วจะตีความผิดๆครับ
ผมถือหุ้นแต่ละตัวเกิน 6 เดือนขึ้นไปทั้งนั้น วิธีที่ใช้ได้ผลค่อนข้างดีครับ สำหรับหุ้นแต่ละตัวผมบันทึกดังนี้ครับ
1. เวลาซื้อหุ้นแต่ละตัว แน่นอนว่าคงไม่ได้ราคาเดียว ก็จะคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้นออกมา โดยรวมค่าธรรมเนียมต่างๆด้วย
2. อีกค่าหนึ่งที่ผมจะคิดคือ อายุเฉลี่ยของหุ้นนั้น เช่น ผมซื้อหุ้นตัวหนึ่งตอนวันที่ 1 ที่มูลค่า 100 บาท และวันที่ 30 ซื้ออีกมูลค่า 100 บาท ด้วยสูตรที่ใช้ มันก็จะบันทึกเป็นว่า ที่วันที่ 30 ผมมีหุ้นนี้มูลค่า 200 บาท และมีอายุ 15 วันครับ สูตรที่ใช้เป็นสูตรเชิงเส้นธรรมดาครับ ค่านี้ผมจะนำมาใช้ในการคำนวณผลตอบแทนของหุ้นนั้นต่อปีครับ
3. ผลตอบแทนทั้งพอร์ตก็จะเอามา weight sum กัน
ค่าที่ได้จะเป็นค่าเฉลี่ยผลตอบแทนต่อปีของพอร์ตครับ เป็น performance index อย่างหนึ่งและผมจะบันทึกค่านี้เก็บไว้ทุกเดือนครับ
นอกจากนี้จะคำนวณค่าอีกค่าหนึ่ง เป็นกำไรทั้งหมดหารเงินต้น เทียบกับ อัตราการเพิ่มขึ้นขอ
ง SET จากตอนที่ผมเริ่มลงทุน ถ้าการลงทุนอันไหนที่ยังไม่ถึง 3 เดือนและยังไม่เห็นกำไร ผมจะยังไม่รวมเข้าไปในเงินต้นครับ
สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าการวัดผลตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญ และอยากให้เพื่อนนักลงทุนหาวิธีที่เข้าใจง่ายและเหมาะกับตนเองเพื่อนำมาใช้งานครับ ขอให้โชคดีครับ
ผมถือหุ้นแต่ละตัวเกิน 6 เดือนขึ้นไปทั้งนั้น วิธีที่ใช้ได้ผลค่อนข้างดีครับ สำหรับหุ้นแต่ละตัวผมบันทึกดังนี้ครับ
1. เวลาซื้อหุ้นแต่ละตัว แน่นอนว่าคงไม่ได้ราคาเดียว ก็จะคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้นออกมา โดยรวมค่าธรรมเนียมต่างๆด้วย
2. อีกค่าหนึ่งที่ผมจะคิดคือ อายุเฉลี่ยของหุ้นนั้น เช่น ผมซื้อหุ้นตัวหนึ่งตอนวันที่ 1 ที่มูลค่า 100 บาท และวันที่ 30 ซื้ออีกมูลค่า 100 บาท ด้วยสูตรที่ใช้ มันก็จะบันทึกเป็นว่า ที่วันที่ 30 ผมมีหุ้นนี้มูลค่า 200 บาท และมีอายุ 15 วันครับ สูตรที่ใช้เป็นสูตรเชิงเส้นธรรมดาครับ ค่านี้ผมจะนำมาใช้ในการคำนวณผลตอบแทนของหุ้นนั้นต่อปีครับ
3. ผลตอบแทนทั้งพอร์ตก็จะเอามา weight sum กัน
ค่าที่ได้จะเป็นค่าเฉลี่ยผลตอบแทนต่อปีของพอร์ตครับ เป็น performance index อย่างหนึ่งและผมจะบันทึกค่านี้เก็บไว้ทุกเดือนครับ
นอกจากนี้จะคำนวณค่าอีกค่าหนึ่ง เป็นกำไรทั้งหมดหารเงินต้น เทียบกับ อัตราการเพิ่มขึ้นขอ
ง SET จากตอนที่ผมเริ่มลงทุน ถ้าการลงทุนอันไหนที่ยังไม่ถึง 3 เดือนและยังไม่เห็นกำไร ผมจะยังไม่รวมเข้าไปในเงินต้นครับ
สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าการวัดผลตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญ และอยากให้เพื่อนนักลงทุนหาวิธีที่เข้าใจง่ายและเหมาะกับตนเองเพื่อนำมาใช้งานครับ ขอให้โชคดีครับ
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0