bank กับIAS39

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

bank กับIAS39

โพสต์ที่ 1

โพสต์

งานนี้หลายคนถามว่าทำไมผลประกอบการธนาคารไม่ดี
อันนี้ไปหาคำตอบมาให้เพราะช่วงนี้มีอยู่สองมาตราการคือ IAS39กับบาเซิล2
อันแรกเริ่มใช้ตั้งแต่ปีนี้ ส่วนใหญ่ใช้ปีหน้า
ฉะนั้นผลกระทบ ณ ตอนนี้เกิดจาIAS39 เพียวๆเลย
ตัวนี้คืออะไรIAS39 คือการดูเงินกองทุน ,ความสามารถปล่อยกู้และดูลูกหนี้
เมื่อก่อนลูกหนี้ไม่ว่าส่งตลอด ส่งบ้างไม่ส่งบ้าง ไม่ส่งเลย ประวัติดีหรือเลวขนาดไหน ก็ได้เงินกู้ 100 บาทเท่ากัน
แต่ปัจจุบันเมื่อมีมาตราฐานนี้แล้วจะดูเรื่องประวัติลูกหนี้มาเกี่ยวข้องด้วย ประเด็นนี้ต้องติดตามต่อไปว่า ดูแล้วจะปล่อยกู้อย่างไง คนที่ประวัติดีส่งเงินตลอด กู้ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าหรือเปล่า และเงินกู้แต่ละครั้งวงเงินสูงกว่าหรือเปล่า เป็นสิ่งที่ต้องหาคำตอบต่อไป
ตัวกองทุน จะดูคล้ายเดิมคือ มีกองทุนขั้น 1 และ 2 แต่เพิ่มว่า ถ้าธนาคารมีเงินกองทุน 10 บาทปล่อยกู้ได้ 100 บาท ถ้าใช้เงินปล่อยกู้ไป 30 บาท เหลือ 70 บาท เมื่อก่อนจะไม่มาคิด 70 บาทที่เหลือ แต่อันใหม่คิดหมดไม่ว่าจะอย่างไง (อันนี้ฟังคนที่เชียวชาญก็งงครับ แต่เข้าใจระดับหนึ่ง)

ตอนนี้เลย ดูเหมือนว่า ธนาคารไม่ดีนั้น คือ ปรับเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ขจัดโรคที่อมมานาน และพวกที่ล้มบนขนนกจะไม่มีซักที
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
path2544
Verified User
โพสต์: 543
ผู้ติดตาม: 0

มาเสริม ท่าน miracle

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มาตรฐานการบัญชีใหม่ฉบับที่ 39 (IAS39) ... ผลกระทบที่สำคัญต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 1905)

มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศใหม่ฉบับที่ 39 หรือ International Accounting Standard (IAS) 39 เรื่อง Financial Instruments: Recognition and Measurement นั้น ประกาศออกมาครั้งแรกเดือนธันวาคม 2546 และได้เริ่มมีผลบังคับใช้ควบคู่กับมาตรฐานทางบัญชีระหว่างประเทศฉบับอื่นๆ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน ในกลุ่มประชาคมยุโรป (EU) และอังกฤษในเดือนมกราคม 2548 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำหรับในประเทศไทยนั้น ในปัจจุบัน หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและทบทวนรายละเอียดของมาตรฐานดังกล่าวอยู่ เพื่อนำมาปรับใช้ในประเทศไทยในอนาคต โดยในส่วนของธปท.นั้น อาจมีบังคับใช้หลักเกณฑ์ในส่วนของการด้อยค่าของสินทรัพย์และการกันสำรองตามหลักการของ IAS39 กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ในปี 2551
IAS39 ฉบับใหม่ จะครอบคลุมเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญทุกประเภทของกิจการ รวมถึงตราสารอนุพันธ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งวัดเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ดังกล่าว ให้สะท้อนราคาตลาด และมีเนื้อหาที่สำคัญ คือ การรับรู้รายการและการตัดรายการสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินทางการเงิน (Recognition and Derecognition) การวัดมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สิน (Measurement) การบัญชีป้องกันความเสี่ยง (Hedge Accounting) และธุรกรรมอนุพันธ์ทางการเงินแฝง (Embedded Derivatives)  ซึ่งรายละเอียดต่างๆ มีความแตกต่างกับมาตรฐานการบัญชีไทยในปัจจุบันค่อนข้างมาก
             ยกตัวอย่างเช่น การบันทึกบัญชีและการวัดมูลค่าของรายการทางการเงินที่สำคัญที่มีความซับซ้อนขึ้น โดยกรณีของเงินให้สินเชื่อและลูกหนี้ จะต้องเปลี่ยนจาก ปัจจุบัน ที่จะแสดงเฉพาะเงินต้นของสินเชื่อในงบดุล มาเป็นราคาทุนตัดจำหน่ายที่จะต้องนำเงินต้นครั้งแรก ลบด้วยเงินต้นที่ชำระคืน จากนั้น จึงปรับด้วยจำนวนตัดจำหน่ายสะสม ซึ่งคำนวณด้วยวิธีอัตราดอกเบี้ยแท้จริง (EIR) ซึ่งอัตราดอกเบี้ยแท้จริง จะเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ บวกค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง หักด้วยต้นทุนการทำธุรกิจ ในขณะเดียวกัน การบันทึกรายได้ดอกเบี้ยรับจะต้องคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริง แทนที่จะเป็นอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ดังเช่นในปัจจุบัน อันทำให้มูลค่าสินเชื่อ รายได้ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ และต้นทุนดำเนินงาน ที่เคยบันทึกในงบดุลและงบกำไรขาดทุนนั้น แตกต่างไปจากเดิม นั่นหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องพัฒนาระบบงานด้านการบันทึกบัญชีและการแยกรายละเอียดรายได้-ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อของลูกค้าแต่ละรายให้ชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ ในกรณีของการด้อยค่าของสินเชื่อนั้น หลักการ IAS39 จะต่างจาก ในปัจจุบัน ที่เน้นพิจารณาตามเกณฑ์อายุการค้างชำระเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยเป็นหลัก มาเป็นการใช้ข้อบ่งชี้การด้อยค่า ซึ่งจะรวมเครื่องชี้เชิงคุณภาพอื่นๆ ในลักษณะที่มองไปข้างหน้า (Forward Looking) มากกว่าเดิม อันทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องพัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อให้สามารถคาดการณ์พฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้แม่นยำขึ้น ในขณะที่ การกันสำรองเผื่อการด้อยค่าของสินเชื่อนั้น ในปัจจุบัน ธปท.กำหนดให้ต้องกันสำรองสำหรับสินเชื่อส่วนที่เกินจากราคาประเมินของหลักประกัน โดยใช้อัตราส่วนการกันสำรองตามการจัดชั้นของหนี้ แต่ใน IAS39 นั้น ธนาคารพาณิชย์จะต้องมีเงินกันสำรองเพียงพอที่จะรองรับการด้อยค่าของสินเชื่อที่วัดจากส่วนต่างระหว่างมูลค่าตามราคาทุนของสินเชื่อ กับมูลค่าปัจจุบันของประมาณการกระแสเงินสดรับจากสินเชื่อ (รวมจำนวนเงินที่จะได้รับจากหลักประกัน) ที่คิดลดด้วยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงเริ่มแรก ดังนั้น การใช้มูลค่าปัจจุบันของประมาณการกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับ แทนราคาประเมินของหลักประกัน โดยเฉพาะในส่วนของหนี้เสียนั้น คงมีผลทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องกันสำรองมากกว่าหลักเกณฑ์ขั้นต่ำของธปท. อย่างไรก็ตาม การประเมินถึงผลกระทบที่ชัดเจน คงจะต้องขึ้นกับขอบเขต/ความเข้มงวดของหลักเกณฑ์ IAS39 ที่ธปท.จะนำมาปรับใช้ในอนาคต
            นอกเหนือจากนั้น การที่ IAS39 กำหนดให้ธนาคารต้องรับรู้ผลกระทบจากการทำธุรกรรมอนุพันธ์และอนุพันธ์แฝงเข้ามาในงบดุล จากเดิมที่สามารถบันทึกเป็นรายการนอกงบดุลได้ อีกทั้ง ขั้นตอนการบันทึกบัญชียังมีความซับซ้อนและยึดการบันทึกบัญชีโดยใช้ราคาตลาด (ราคายุติธรรม) ส่งผลให้ธนาคารจะต้องเตรียมปรับระบบเพื่อรองรับการบันทึกบัญชีสำหรับตราสารดังกล่าว ตลอดจนอาจต้องพัฒนาวิธีการสร้างแบบจำลองเพื่อประเมินราคาตลาดสำหรับตราสารดังกล่าวเอง โดยเฉพาะเมื่อการหาราคาตลาดของอนุพันธ์ ยังทำได้ค่อนข้างยาก เพราะมักเป็นการตกลงระหว่างคู่สัญญา
              ทั้งนี้ การประเมินภาพกว้างของผลกระทบจากการปรับใช้ IAS39 ดังกล่าว ทำให้เห็นว่านอกจากอาจต้องกันสำรองเพิ่มเติมแล้ว ธนาคารพาณิชย์ไทยยังอาจต้องเร่งเตรียมความพร้อมในอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานและกระบวนการทำงาน การพัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้า การปรับปรุงระบบ Back Office ตลอดจน การพัฒนาความรู้ของบุคลากร ให้มีประสิทธิภาพและศักยภาพสูงขึ้น ซึ่งแม้ว่าทั้งหมดนี้ จะนำมาสู่ต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในระยะอันใกล้ แต่เมื่อการปรับปรุงต่างๆ แล้วเสร็จ ก็น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นที่มีต่อธนาคารพาณิชย์ไทย ผ่านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของมาตรฐานการบัญชีและรายงานทางการเงินที่ได้มาตรฐานสากลและสะท้อนภาพความเป็นจริงของธุรกิจมากขึ้น อันจะช่วยทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย
อ่านแล้วยัง งง ครับ  :oops:  :oops:  :oops:
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

bank กับIAS39

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เรียกว่าน้ำลดตอผุด bank ทั้งหลายถึงคราวต้องคายความจริงออกมามากขึ้น  :lol:
โพสต์โพสต์