MANRIN..

[teetotal]

โรงแรม แมนดาริน โรงแรม กลางเมือง ไม่ค่อยมีการซื้อขาย
p/e 11 p/bv 0.92 เงินปันผล 7%
ทรัพย์สิน รวม 619 ล้าน แบ่งเป็น หมุนเวียน 306 ลบ ไม่หมุน 313
หนี้สินน้อย แค่ 20.4 ล้าน

ทำเลก็ดีอยู่ในเมือง

http://www.mandarin-bkk.com/location.html

จะแนะนำให้ นักลงทุนประเภท ขอ ซื้อนะครับ
เขาบอกไม่อยากดูมาก และ ได้ปันผลมากกว่า ดอกเบี้ยธนาคาร

ผมว่า ถ้า ราคาลงมา สัก 20 บาท จะซื้อ สัก 500 หุ้น รับปันผล
และเอาไว้ สำหรับ ไปเข้าห้องน้ำโรงแรม อย่างภาคภูมิ ว่า ผมก็เจ้าของนะ นี่หลักฐาน จะได้ไม่ต้องไปเข้าส้วมปั๊มน้ำมัน
:Dma

[artvr4]

อยู่แถวบ้านครับ

คงเหมาะสำหรับปันผล  เป็นหุ้นที่ซื้อขายช่วง  call market หากว่าจำไม่ผิด

ผมแปลกใจกับผู้บริหารจริงๆ  ขนาด มีโครงการรถใต้ดินมาอยู่ใกล้ๆ แล้ว ไม่ยอม   renovate โรงแรมให้ดีๆ ยังซึมๆ ทึมๆ เหมือนเดิม  ขนาดโรงแรม บางกอก อะไรสักอย่างที่อยู่ตรงข้ามหัวลำโพง ยัง ปรับปรุงใหม่เลยครับ สวยขึ้น น่าดู

 แต่ที่นี่ ไม่ ทำอะไร สีก็ไม่ทาใหม่  หรือว่า จะอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆก็ไม่รู้

[goldendream26]

ผมก็เคยดู ๆ อยู่เหมือนกันครับ ดูจากงบในเวปset(ดูแบบคนไม่มีความรู้เรื่องการเงินและวิเคราะห์อะไรไม่ค่อยจะได้เรื่องอะนะครับ) ผมว่าดูดีนะครับ หนี้สินน้อยมากเลย ปันผลก็ดี และรู้สึกว่าเขาจะมีรีสอร์ทอยู่ที่เขาใหญ่ด้วยครับ ก็เคยลองถามเพื่อนที่เค้าเคยขับรถผ่าน ๆ เค้าบอกว่าโรงแรมอยู่กลางเมืองทีเดียว(ผมอยู่หาดใหญ่น่ะครับ) แต่รู้สึกว่าโรงแรมมันดูเก่า ๆ (อันนี้เพื่อนมันก็บอกมาน่ะครับยังไม่เคยเห็นของจริง) แต่ดูจากทำเลของเค้าแล้ว ผมว่ามูลค่าที่ดินคงจะสูงน่าดู ดูในผู้ถือหุ้นรายใหญ่เห็นนามสกุล ก็เป็นมืออาชีพด้านอสังหารฯ ผมก็ดูๆ อยู่เหมือนกันครับ แต่ราคามันจะกลับมาให้ซื้ออีกหรือเปล่านี่ซิครับ

[คลายเครียด]

คุณฉัตรชัยน่าจะรู้จักหุ้นตัวนี้ดี
เคยได้กำไรส่วนเกินทุนมาหลายล้าน

ส่วนผมก็ได้มาประมาณสี่แสน
ซื้อแถวๆ ห้าบาท  ขายทิ้งตั้งแต่ สิบแปดยันยี่สิบสาม
จำได้ว่าพีอีตอนนั้น ลงมาเหลือแค่สองสามเท่านั้น
เป็นผลมาจาก  การได้กำไรพิเศษจากการขายที่ดิน

ส่วนพีบีวี ก็ต่ำลงมาไม่ถึง ศูนย์จุดสาม

ช่วงนั้นคุณเพียงใจ หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริษัท
มารดาของคุณอนันต์ อัศวโภคินกำลังมือขึ้น
ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ จากการขายที่ดิน
ที่เก็งกำไรไว้ในนามของบริษัทแมนดาริน

ปัจจุบันไม่ได้ตามมานานแล้ว
แต่คิดว่าคุณเต่าหยวนเปียวยังถืออยู่ครับ

           

[ต.หยวนเปียว]

แหะๆ ว่าจะอ่านเฉยๆ  :lol:
มีไม่มากครับเฮีย ของฟรี9พันหุ้น  

โรงแรมนี้อยู่ใกล้บ้านพ่อแม่ผมเช่นกันครับ
วิ่งเล่นแถวๆโรงหนังราม่า เห็นมาแต่เด็ก
เข้าใจว่าเขาไม่อยากลงทุนรีโนเวท
เพราะการเช่าที่ดินก็ยังตกลงกับเจ้าของ
ไม่ค่อยจะได้
ผมหวังแค่เขาจะพัฒนาที่ดินที่มีขายทำกำไร
หรือไม่ก็ทำเป็นโรงแรมใหม่ แบบที่มีอยู่แล้วที่เขาใหญ่
ระหว่างนี้ก็งาบน้ำจิ้มไปพลางๆก่อน  :)

[chatchai]

วันที่ 24  ตุลาคม  2549
เรื่อง  ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม
เรียน  กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ้างถึง  จดหมายแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์  เลขที่ บจ. 839/2549 ลวท. 8 กันยายน 2549

     ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้นำส่งจดหมายถึง บริษัท แมนดารินโฮเต็ล จำกัด (มหาชน)
(MANRIN) ขอให้บริษัทชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อสังเกตจากผู้สอบบัญชีในเรื่องสัญญาเช่าที่ดินและอาคาร รวมถึงรายการ
ที่สำคัญอื่นๆนั้นบริษัทจึงขอเรียนชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

1. สัญญาเช่าที่ดินและอาคารโรงแรมแห่งหนึ่งของบริษัท
     ตามที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เป็นแบบไม่มีเงื่อนไข
แต่มีข้อสังเกตเกี่ยวกับสัญญาเช่าที่ดินและอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งหนึ่งของบริษัท โดยสัญญาเช่านั้นได้หมดอายุ
แล้วและผู้ให้เช่าไม่ยินดีต่อสัญญาเช่า ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวมีอายุ 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543 ถึงวันที่ 31
ธันวาคม 2545 เมื่อครบกำหนด 3 ปี ในสัญญา  ผู้ให้เช่าให้คำมั่นว่าจะให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 3 ปี โดยตกลงใช้
เงื่อนไขเดิมทุกประการ  อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ให้เช่า โดยบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งถึงข้อตกลง
ว่าผู้เช่ามีสิทธิเช่าที่ดินได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยผู้ให้เช่าจะทำสัญญาเช่าฉบับใหม่ทุก 3 ปีไปจนกว่าจะครบ
กำหนดการเช่าตามที่ได้ตกลงกันไว้ บริษัทได้ชำระค่าเช่าทุกเดือนมาตลอดจนถึงปัจจุบันโดยวางไว้ที่ศาล  บริษัทขอชี้แจง
เพิ่มเติมดังนี้

1.1    ผู้ให้เช่า :  บริษัท เจน แอน จุล จำกัด
        คณะกรรมการ :  1 นายนำชัย นำชัยศิริ  2.  นายกำลาภ เสรฐภัคดี  3.  นายเจน นำชัยศิริ  4.
นางแอน  มาลากุล ณ อยุธยา
        ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้ให้เช่า :  นายนำชัย นำชัยศิริ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เจน แอน
จุล จำกัด ถือหุ้นของ
บริษัท แมนดารินโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) จำกัด จำนวน 1,071,800 หุ้น คิดเป็น 4.87 เปอร์เซ็นต์ ของทุนที่ออก
และเรียกชำระแล้ว
1.2   ชื่อโรงแรมที่ตั้งอยู่บนที่ดินดังกล่าว :  คือโรงแรมพลาซ่าโฮเต็ล
      สถานที่ตั้ง :  178 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยะวงศ์  เขตบางรัก  กรุงเทพฯ
      ขนาดพื้นที่เช่า :  500 ตารางวา  จำนวน 159 ห้อง
1.3  ความคืบหน้าในการเจรจากับผู้ให้เช่า : ปัจจุบันผู้ให้เช่าได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เนื่องจากผู้ให้เช่าต้องการนำที่ดินและ
อาคารโรงแรมให้ผู้อื่นเช่า และบริษัทได้ยื่นคำให้การและฟ้องแย้งผู้ให้เช่าให้ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างกัน ซึ่งเป็น
ข้อเท็จจริงอยู่ในกระบวนการทางศาล และเมื่อบริษัทฯมีความคืบหน้าในคดีดังกล่าวจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบต่อไป
1.4   กรณีที่ไม่สามารถตกลงเจรจาต่อสัญญาเช่าได้ : บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการหาสถานที่ใหม่ในกรุงเทพฯ และ
ในด้านการลงทุนของโรงแรมเองบริษัทฯ มีที่ดินที่พร้อมพัฒนาให้เป็นโรงแรมได้ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการดำเนิน
การขยายธุรกิจโรงแรมเพิ่ม 2 แห่งคือที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   เนื้อที่ประมาณ 12 ไร่    และที่เขตลาดกระบัง
บนถนนอ่อนนุช  ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่





2. สัญญาเช่าที่ดินของโรงแรมแมนดาริน
สัญญาฉบับที่ 1
ผู้ให้เช่า       :  พลเรือตรี พอสม บุนนาค
ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้ให้เช่า :  ไม่มี
ความคืบหน้าในการเจรจากับผู้ให้เช่า      :  เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2533 ได้มีการทำบันทึกต่อท้ายสัญญาเช่า  ซึ่งถือ
เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่า โดยผู้ให้เช่าและผู้เช่าได้ตกลงให้เช่าที่ดินต่อไปอีก30 ปีเริ่มตั้งแต่วันที่ 09 สิงหาคม 2546
โดยกำหนดค่าเช่าตามสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น          แต่เนื่องจากผู้ให้เช่าเดิมได้เสียชีวิตลง ทายาทผู้รับมรดก
ต้องการค่าเช่าและผลตอบแทนที่สูงมาก และไม่สามารถตกลงราคากันได้   ปัจจุบันผู้ให้เช่าได้ดำเนินการยื่นฟ้องบริษัทฯ
และบริษัทฯ ยื่นคำให้การและดำเนินการฟ้องแย้งผู้ให้เช่า เพื่อให้ผู้ให้เช่าปฏิบัติตามสัญญา
กรณีที่ไม่สามารถตกลงเจรจาต่อสัญญาเช่าได้  :  บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการหาสถานที่แห่งใหม่ และมี
เป้าหมายจะขยายธุรกิจโรงแรม ตามข้อ 1.4
สัญญาฉบับที่ 2 :  จะครบกำหนดอายุสัญญาเช่า วันที่ 29 ธันวาคม 2550 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อต่อสัญญา
ต่อไป ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถตกลงกันได้
ผู้ให้เช่า :  หม่อมประภัศร  เกษมศรี  และนางสาวประพิศ หงสกุล
ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้ให้เช่า :   ไม่มี

คงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทถึงไม่ปรับปรุงโรงแรมนะครับ

[triathlon]

โห ถ้าต่อสัญญาไม่ได้ เจ้าของโรงแรมเดินออกไปตัวเปล่านะ รื้อตึกเอาไปด้วยได้ซะที่ไหน

[bmw2681]

ไม่มีคับ แต่กะลังสนใจ SHANG อยู่ กราฟเริ่มดีคับ

[Capo]

เคยแว๊บ ๆ เข้าไปครับ
คือที่ดินนั้นดีมาก ๆ ครับ
แต่ไม่ชอบตรงที่มีสะพานลอยฟ้าข้ามแยกตัดผ่านหน้า
ท่าน ให้ถือว่าฮวงจุ้ยบ่ดี (อคติผมล้วน ๆ เลยครับ  :lol: )

แต่รู้ว่าพนักงานจาก TOP เวลาเข้ากรุง ส่วนหนึ่งจะมาพักที่นี่ครับ
เพราะเห็นพี่เขาบอกว่าทางสองบริษัทตกลงกันเอาไว้
แต่จะตกลงกันรูปแบบไหน อย่างไร มีอะไรแลกเปลี่ยนกัน เท่าไหร่
ตรงนี้ไม่ได้ถามซอกแซกมาครับ

[nw108]

เข้ามาเยี่ยมครับ
ขอขอบคุณพี่ๆที่มาให้ขอมูลทภกๆท่านครับ

[chatchai]

เป็นช่วงที่ย่ำแย่ของบริษัทจริงๆครับ

สัญญาเช่าก็ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน  ยังเกิดเพลิงไหม้อีก

[jojosati]

พยายามสรุปเรื่องราวให้นะครับ ผมเพิ่งเริ่มสังเกตเห็น MANRIN หลังจากปันผลแล้ว บริษัทอะไรไม่รู้ข่าวร้ายเยอะจังวุ้ย

เรื่องสัญญาเช่าที่ดินโรงแรม 2 แห่ง
1. โรงแรมพลาซ่าโฮเต็ล ที่ถนนสุรวงศ์
    ปัจจุบันคดีดังกล่าวสามารถตกลงกันได้ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 บริษัทฯและ
ผู้ให้เช่าได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลให้บริษัทฯเช่าที่ดินและอาคารต่ออีก
3ปี 7เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2554 อัตราค่าเช่าปี
ที่1 เดือนละ 600,000.00 บาท ปีที่2 เดือนละ 700,000.00 บาท และปีที่3 จนถึง
สิ้นสุดสัญญาเดือนละ 800,000.00 บาท

2. โรงแรมแมนดาริน ที่หัวลำโพง
ประกอบด้วยสัญญาเช่า 2 ฉบับ
ล่าสุดจากงบการเงิน Q1/51 จากเดิมมีปัญหาเฉพาะฉบับที่ 1 ส่วนฉบับที่ 2 สามารถตกลงได้ ตอนนี้ มีปัญหาทั้งสองฉบับ

              18.2.1  วันที่ 21 เมษายน 2549 บริษัทฯ ถูกผู้ให้เช่าที่ดิน  ตามหมายเหตุประกอบข้อ 16.1  ฟ้องร้องข้อหาละเมิด
     และขับไล่ จากการผิดเงื่อนไขในการต่อสัญญาเช่าพร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน  10.40 ล้านบาท  บริษัทฯ ได้ฟ้องแย้ง
     ว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิตามที่ถูกฟ้อง       เนื่องจากผู้ให้เช่าได้เคยตกลงว่าจะให้บริษัทฯ    เช่าต่อตามข้อตกลงในปี   2533  
     เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2549 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้บริษัทฯ ออกจากที่เช่าและให้จ่ายค่าเสียหายเดือนละ 250,000.00
     บาท   เริ่มตั้งแต่วันที่  10 สิงหาคม 2548   เป็นต้น  ไปจนกว่าบริษัทฯ จะออกจากที่เช่า  ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 และ
     วันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทฯ ได้บันทึกตั้งค้างจ่ายค่าเสียหายแล้วจำนวนเงินรวม 7.93 ล้านบาท และ 7.18 ล้านบาท
     ตามลำดับ  บริษัทฯ ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นและเมื่อวันที่  21  มิถุนายน  2550  บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้อง
     ให้ศาลงดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว  และเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2550   บริษัทฯ ได้นำเงินวางเป็นประกันความเสียหาย
     จำนวนไม่ต่ำกว่า  6.00  ล้านบาท   ตามคำสั่งศาลแล้ว    ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีชั่วคราวและศาลอุทธรณ์
     ได้นัดไกล่เกลี่ย   ในวันที่ 4 มีนาคม 2551 และวันที่ 26 เมษายน 2551  แต่ผู้ให้เช่าไม่มาตามนัดปัจจุบันอยู่ระหว่างการ
     พิจารณาของศาลอุทธรณ์    เมื่อวันที่  5  พฤษภาคม  2551  บริษัทฯและผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทรวม 11 ราย  ได้รับหมาย
     ศาลเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งเพิ่มเติมจำนวน  700 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง

              18.2.2  วันที่ 11 มีนาคม  2551  บริษัทฯ ถูกผู้ให้เช่าที่ดินตามสัญญาเช่า  ตามหมายเหตุข้อ 16.1 สัญญาฉบับที่ 2      
ฟ้องร้องขับไล่ให้รื้อถอนอาคารและเรียกค่าเสียหาย  จำนวน   1.97   ล้านบาท     และค่าเสียประโยชน์ในที่ดินเดือนละ       810,000.00  บาท   นับแต่วันฟ้อง  
ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น

เรื่องไฟไหม้โรงแรมแมนดาริน
ทำให้ไม่สามารถเปิดดำเนินงานตึกด้านหลังได้
ผลก็คือ งบออกมาขาดทุน 0.16 ต่อหุ้น หรือทั้งหมด 3.5 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้จากตึกหลังหายไป ลดลงไป 27 ล้าน ขณะที่ต้นทุนลดลงแค่ 10 ล้าน
ตอนนี้ความเสียหายน่าจะรับรู้ไปเกือบหมดแล้วตั้งแต่ Q4/50 เหลือแต่เรื่องเคลมประกันวงเงิน 500 ล้าน

ข่าวเรื่องกรรมการลาออก
นางสาวสุดา  อัศวโภคิน           24 ตุลาคม 2550
นายทรงพล  อัศวโภคิน           7 พฤศจิกายน 2550
นายโกวิท โกกิลกนิษฐ ลาออกตามวาระ ไม่กลับเข้าดำรงตำแหน่ง เนื่องจากติดภาระกิจ

ผู้ถือหุ้นใหญ่
NVDR ลดลง
กรุงเทพประกันชีวิต และ กรุงเทพประกันภัย เพิ่ม
คุณเพียงใจ จำนวนหุ้นไม่เปลี่ยน เพียงแค่ย้ายพอร์ต
คุณบุญทรง ลดลง แต่คุณอภิชิต เพิ่มขึ้น จำนวนเท่ากัน
คุณสุดา ลดลง และ คุณวิศิษฏ์ บูรพาธนะ ลดลง

ความเห็นส่วนตัวครับ
ผมยังมีความรู้สึกด้านบวก ขอให้กำลังใจคนที่ยังถือ MANRIN ทุกท่าน
คุณเพียงใจ เป็นคนเก่ง กำลังอยู่ในสถานการณ์บังคับที่จำเป็นต้องตัดสินใจแล้วครับ
การเตรียมตัวหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการถือทรัพย์สินสภาพคล่องสูง และไม่พยายามปรับปรุงตัวโรงแรมแมนดาริน
ทำให้ผมคิดว่า ประเด็นเรื่องต่อสัญญาเช่า ถึงแม้ว่าจะผิดคาดไปบ้าง แต่น่าจะอยู่ในวิสัยของผู้บริหารที่คาดเดากรณีแย่ที่สุดไว้แล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องไฟไหม้ ยังก้ำกึ่งว่าจะเป็นผลดีหรือผลเสีย ระหว่างเคลมประกันวงเงิน 500ล้าน กับโดนฟ้องค่าเสียหายเพิ่ม 700ล้าน

.

[chatchai]

วันเวลาผ่านไปนานหลายปี

[CEO]

ผมมี 500 หุ้นพอดีครับ เป็นแฟนพันธุ์แท้ ซื้อมาจะครับ 10ปีแล้วครับ ถ้าคุณตี๋ไม่ได้มาโพสต์ถาม ผมก็ลืมไปแล้วครับ

[jojosati]

[quote="chatchai"]วันเวลาผ่านไปนานหลายปี

[chatchai]

[quote="jojosati"]เพิ่มเติม จากหมายเหตุประกอบงบของ BKI Q1/53
มีย่อหน้าสุดท้ายที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่
พอดีผมไม่รู้เรื่อง ขั้นตอนของประกันภัย เลยไม่รู้ว่าจะตีความว่าอย่างไรครับ
ได้แต่สังหรณ์ว่ามันน่าจะเกี่่่ยวข้อง
[quote]ข้อ 2. เงินลงทุนในหลักทรัพย์

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 พันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจจำนวน 30.0

[jojosati]

5. รายละเอียดประกอบงบกระแสเงินสด
           ณ วันที่ 31  มีนาคม 2553 รายการที่ไม่เป็นตัวเงิน ที่มีสาระสำคัญ  ได้แก่ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในงวด
    จำนวน  820,000.00  บาท   เกิดจากการก่อหนี้โดยการบันทึกตั้งค่าออกแบบค้างจ่าย

ไม่ว่าจะได้เคลมประกันเมื่อไหร่
แต่การปรับปรุงอาคาร คงสามารถดำเนินการได้ทันที
หลังจากสัญญาเช่าหมดปัญหา

หวังว่าจะได้เห็น new manrin ได้ทันภายในปีนี้

[chatchai]

[quote="jojosati"][quote]5. รายละเอียดประกอบงบกระแสเงินสด

[กาละมัง]

ดูไกล ๆ  บริษัทนี้น่าจะอยู่ในช่วง  sunset ???

[jojosati]

ขอบคุณพี่ฉัตรชัยครับ
ผมลืมตัวเลขของข่าวนี้ไป มัวแต่ไปคิดถึงทุนประกัน 500 ล้าน
น่าจะเป็นตามเลขตามที่พี่บอก

กทม. ประเมินไฟไหม้แมนดาริน เสียหายกว่า 100 ล้านบาท

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงแรมแมนดาริน โรงแรมเก่าแก่ย่าน ถ.พระราม4 เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเพียง 7 นาที ส่วนการควบคุมเพลิงต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่แคบ รถดับเพลิงคันใหญ่ไม่สามารถสวนทางเข้าไปได้ ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า จะเรียกประชุมผู้ประกอบการโรงแรม เพื่อพิจารณาตรวจสอบความปลอดภัย อุปกรณ์ดับเพลิง สัญญาณเตือนภัย โดยเฉพาะโรงแรมที่ใช้งานมานาน

ด้านนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกทม. ประเมินมูลค่าความเสียหายว่า ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เตรียมส่งเจ้าหน้าที่โยธาธิการ กทม.เข้าสำรวจรอยร้าวของอาคารทั้งหมด เพื่อหาข้อสรุปว่าจะอนุญาตให้ซ่อมแซมหรือปิดบริการ ซึ่งระหว่างนี้จะประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกอย่างเด็ดขาด  

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 16 คน ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 8 คน ส่วนคนที่เหลือเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลหัวเฉียวและโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บที่ร่างกาย เพียงแต่สำลักควันไฟเท่านั้น โดยทางโรงแรมจะดูแลค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลต่อไป

ขอถามอีกนิดนึงครับ ไม่ทราบว่า โรงแรมที่สุรวงศ์ ที่จะหมดสัญญาปีหน้า นั่นจะต้องปล่อยทิ้งให้หมดสัญญา หรือสามารถเจรจาต่อสัญญาได้

อีกข้อนึง ประเด็นเกี่ยวกับคุณเพียงใจครับ
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=6974
เมื่อปี 46 ตอนที่สัมภาษณ์ตอนนั้นอายุ 80 ปี
ตอนนี้ปี 53 เท่ากับ 87 ปีแล้ว ...

[chatchai]

[quote="chatchai"][quote="jojosati"][quote]5. รายละเอียดประกอบงบกระแสเงินสด

[holidaytours]

อีกหน่อยถ้าการท่องเที่ยวกลับมาหุ้นพวกนี้ก็น่าจะดีนะครับ  :D

[jojosati]

ขอมองข้ามช็อต นิดนึงครับ

วิบากต่อไปของ manrin คือ

สัญญาเช่าที่ สุรวงศ์ จะหมดปีหน้า (อีกแล้ว)

และ.... เ่อ่อ... ด้วยความเคารพครับ
อายุของคุณเพียงใจ (ยังกะหุ้น "ประเทศไทย" เลยวุ้ย)

[arica]

ีupdate จาก Efin ครับ
บอร์ด MANRIN มีมติลดทุน-เพิ่มทุน โดยออกหุ้นสามัญใหม่ 11ล้านหุ้น ขายผถห.เดิม สัด
ส่วน 2:1 ราคา 10 บาท รองรับการขยายธุรกิจโรงแรมเขาใหญ่

         นางสาวเพียงใจ หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แมนดาริน
โฮเต็ล จำกัด (มหาชน ) (MANRIN) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่
3/2553 ในวันพุธ ที่ 28 กรกฏาคม 2553 ที่ประชุมมีมติดังนี้
     1. มติรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 2/2553
     2. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ลด
        ทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก เดิม 250,000,000 บาท (สองร้อยห้าสิบล้านบาท) เป็น
        220,000,000 บาท (สองร้อยยี่สิบล้านบาท) เท่ากับทุนที่ชำระแล้ว โดยการตัดหุ้น
        สามัญที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วยังมิได้จำหน่ายออก จำนวน 3,000,000 หุ้น (สามล้าน
        หุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท (สิบบาท)
     3. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติการ
        แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณฑ์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุน
        จดทะเบียนดังกล่าวเป็นดังนี้
            ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 220,000,000 บาท (สองร้อยยี่สิบล้านบาท)
                       แบ่งออกเป็น    22,000,000 หุ้น (ยี่สิบสองล้านหุ้น)
                       มูลค่าหุ้นละ          10.00 บาท (สิบบาท)
                 โดยแบ่งออกเป็น
                       หุ้นสามัญ       22,000,000 หุ้น (ยี่สิบสองล้านหุ้น)
                       หุ้นบุริมสิทธิ      -ไม่มี-     หุ้น
     4. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติการ
        เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 110,000,000 บาท (หนึ่งร้อยสิบล้านบาท)
        โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 11,000,000 หุ้น (สิบเอ็ดล้านหุ้น) มีมูลค่าที่ตราไว้
        หุ้นละ 10.00 บาท (สิบบาท) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของ
        บริษัทที่โรงแรมเขาใหญ่ เพื่อรองรับแขกที่เพิ่มขึ้นและห้องพักไม่เพียงพอ โดยจะนำ
        เงินจากการเพิ่มทุนดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างห้องพักจำนวนประมาณ
        300 ห้อง 2 อาคารและอาคารห้องประชุมที่จุได้ประมาณ 1,200 คน 1 อาคาร และ
        ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง ทำให้บริษัทสามารถ
        แข่งขันและสร้างผลกำไรในภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต
     5. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติการ
        จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 11,000,000 หุ้น (สิบเอ็ดล้านหุ้น) ตามรายละเอียด
        ดังนี้โดยหุ้นสามัญใหม่จำนวนดังกล่าวจะออกและเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ
        บริษัท ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) โดยผู้ถือหุ้นเดิม 2
        หุ้น จะมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น (เศษที่เหลือปัดทิ้ง) ในราคาเสนอขายหุ้นละ
        10 บาท และผู้ถือหุ้นเดิมสามารถจองซื้อหุ้นในส่วนที่เกินสิทธิได้ในราคาเสนอขายหุ้น
        ละ 10 บาท โดยบริษัทจะจัดสรรตามขั้นตอนดังนี้
            1. จัดสรรตามสิทธิก่อน
            2. นำหุ้นที่เหลือภายหลังการจองซื้อตามสิทธิแล้วมาจัดสรรให้กับผู้ที่จองเกินสิทธิ
               ดังนี้
                 2.1 หากหุ้นที่เหลือจากการใช้สิทธิไม่ครบของผู้ถือหุ้นเดิมมีจำนวนเพียงพอกับ
                     จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่แสดงเจตจำนงซื้อหุ้นเพิ่มเติม ให้คณะกรรม
                     การหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดสรรหุ้นที่เหลืออยู่
                     ดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่ได้แสดงเจตจำนงซื้อหุ้นเพิ่มเติมตามจำนวน
                     ที่ได้แจ้งไว้
                2.2 หากดำเนินการตามข้อ 2.1 แล้วยังคงมีหุ้นเหลืออยู่อีก ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
                    อนุมัติให้คณะกรรมการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท
                    จัดสรรหุ้นจำนวนที่เหลืออยู่ โดยให้เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วัน
                    ปิดสมุดทะเบียนอีกครั้งหนึ่งหรือยกเลิกหุ้นจำนวนที่ยังเหลือทั้งหมดได้ และ
                    นำไปจดทะเบียนกับนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
                2.3 หากหุ้นที่เหลือจากการใช้สิทธิไม่ครบของผู้ถือหุ้นเดิมมีจำนวนไม่เพียงพอ
                    กับจำนวนหุ้นที่ผู้ถือทุกรายที่แสดงเจตจำนงซื้อหุ้นเพิ่มเติมที่ได้แจ้งไว้ ให้
                    คณะกรรมการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดสรรหุ้นที่เหลืออยู่
                    ดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่ได้แสดงเจตจำนงซื้อหุ้นเพิ่มเติมไว้ ตามสูตร
                    การคำนวณดังนี้


             จำนวนหุ้น             = จำนวนหุ้นที่เหลืออยู่ x จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นขอซื้อหุ้น
(ที่ผู้ถือหุ้นที่แสดงเจตจำนงซื้อหุ้นใน           (หลังใช้สิทธิไม่ครบ)  เพิ่มเติมถืออยู่หลังใช้สิทธิซื้อ
ส่วนที่เหลืออยู่จะได้สิทธิซื้อเพิ่มเติม)                            หุ้นเพิ่มทุนแล้ว(เดิมบวกใหม่)
                                 -------------------------------------------
                                 ผลรวมของจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นที่ขอซื้อหุ้นเพิ่มเติมทุก
                                 รายถืออยู่หลังใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนแล้ว (เดิมบวกใหม่)


ตัวอย่าง หากมีหุ้นที่เหลืออยู่จากการใช้สิทธิ จำนวน 100,000 หุ้น และมีผู้ถือหุ้นต้องการซื้อ
เพิ่มเติมรวม 3 รายดังนี้
    1. ผู้ถือหุ้น ก. เป็นผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 1,000 หุ้น ได้สิทธิในการซื้อหุ้นใหม่ในอัตราส่วน
       2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่และมีความประสงค์จะซื้อหุ้นใหม่ในส่วนที่เหลืออยู่จากการใช้สิทธิ
       ของผุ้ถือหุ้นเดิม
    2. ผู้ถือหุ้น ข. เป็นผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 2,000 หุ้น ได้สิทธิในการซื้อหุ้นใหม่ในอัตราส่วน
       2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่และมีความประสงค์จะซื้อหุ้นใหม่ในส่วนที่เหลืออยู่จากการใช้สิทธิ
       ของผุ้ถือหุ้นเดิม
    3. ผู้ถือหุ้น ค. เป็นผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 3,000 หุ้น ได้สิทธิในการซื้อหุ้นใหม่ในอัตราส่วน
       2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่และมีความประสงค์จะซื้อหุ้นใหม่ในส่วนที่เหลืออยู่จากการใช้สิทธิ
       ของผุ้ถือหุ้นเดิม
    จาการคำนวนตามสูตรที่กล่าวถึงข้างต้น ผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 3 ราย จะมีสิทธิได้ซื้อหุ้นในส่วนที่
เหลือจากการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม ดังนี้
    1. ผู้ถือหุ้น ก. จำนวน 16,666 หุ้น = 100,000 x   (1,000 + 500)
                                            --------------------------
                                             (1,500 + 3,000 + 4,500)

   2. ผู้ถือหุ้น ข. จำนวน 33,333 หุ้น =  100,000 x  (2,000 + 1,000)
                                             -------------------------
                                             (1,500 + 3,000 + 4,500)

   3. ผู้ถือหุ้น ค. จำนวน 50,000 หุ้น =  100,000 x  (3,000 + 1,500)
                                              -----------------------
                                              (1,500 + 3,000 + 4,500)
      ทั้งนี้หากจำนวนหุ้นที่ได้จากการคำนวณตามสัดส่วนดังกล่าวข้างต้นมีจำนวนเป็นเศษ
ทศนิยมให้ตัดทศนิยมของจำนวนหุ้นดังกล่าวออก และให้ใช้จำนวนเต็มของหุ้นเป็นจำนวนหุ้น
ตามสิทธิที่ผู้ขอซื้อหุ้นเพิ่มเติมจะได้รับ
     ทั้งนี้ บริษัทจะคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญสำหรับส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรแก่ผู้ถือหุ้น โดย
ไม่มีดอกเบี้ยภายใน 14 วันนับแต่วันที่ปิดรับการจองซื้อหุ้น
     6. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติการ
        แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณฑ์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน
        จดทะเบียนดังกล่าวเป็นดังนี้
            ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 330,000,000 บาท (สามร้อยสามสิบล้านบาท)
                   แบ่งออกเป็น       33,000,000 หุ้น (สามสิบสามล้านหุ้น)
                   มูลค่าหุ้นละ             10.00 บาท (สิบบาท)
                 โดยแบ่งออกเป็น
                   หุ้นสามัญ          33,000,000 หุ้น (สามสิบสามล้านหุ้น)
                   หุ้นบุริมสิทธิ         -ไม่มี-     หุ้น
     7. มติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณากำหนดวัน
        จองซื้อ และรับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวระหว่างวันที่ 4 - 8 ตุลาคม 2553
        ในวันและเวลาทำการ (รวม 5 วันทำการ) โดยมีข้อกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดใน
        การเสนอขายตามที่ปรากฎในเอกสารที่จัดส่งให้ผู้ถือหุ้นต่อไป
     8. มติอนุมัติกำหนดวัน เวลา สถานที่สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553
        ตลอดจนวาระการประชุมและการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนดังนี้
             ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 ในวันอังคาร ที่ 14 กันยายน 2553
      ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ณ ห้องบุษบา โรงแรมแมนดาริน เลขที่ 662 ถนนพระราม 4
      กรุงเทพมหานคร โดยมีวาระการประชุมดังนี้
             วาระที่ 1 พิจารณารับรองการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553
             วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติเรื่องการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท
             วาระที่ 3 พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณฑ์สนธิ ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้อง
                     กับการลดทุนจดทะเบียน
             วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติเรื่องการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
             วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 11,000,000
                     หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
             วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณฑ์สนธิของบริษัท
                     ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
             วาระที่ 7 พิจารณากำหนดวันจองซื้อและวันรับชำระค่าหุ้น
             วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

            กำหนดให้วันที่ 16 สิงหาคม 2553 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อ
สิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา
225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.
2551) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2553
           และกำหนดให้วันที่ 23 กันยายน 2553 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date)
เพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระ
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551) โดย
วิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 24 กันยายน 2553





เรียบเรียง โดย พรทิพย์ พลสิทธิ์
อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  [email protected]




ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   29/07/10   เวลา   9:13:18

[paew]

ผมยังแปลกใจ(อาจโง่อยู่คนเดียวก็ได้) ไม่ทราบ โรงแรมโอเรียลเท็ล เดี๊ยวนี้เขาใช้ชื่อ แมนดาริน-โอเรียลเต็ล ไม่ทราบว่าได้มีการเข้าไปถือหุ้นในโอเรียลเต็ลหรือเปล่า ทำไมชื่อถึงต้องต่างไปจากเดิม หมายถึงโอเรียลเต็ลนะ  ใครรู้ช่วยบอกที

[chatchai]

ตอนประชุมผู้ถือหุ้น  ผู้จัดการโรงแรมที่เขาใหญ่ก็ได้สรุปปัญหาของโรงแรมให้ผู้ถือหุ้นได้ฟัง

ขนาดของโรงแรมที่เขาใหญ่นั้น  มีจำนวนห้องประมาณ 80 ห้อง  ซึ่งมีขนาดเล็กเกินไป  เมื่อมีบริษัทติดต่อจะจัดงานสัมมนา  ส่วนใหญ่จะมีผู้เข้าร่วมเกิน 200 ท่าน  ทำให้จำนวนห้องของโรงแรมไม่เพียงพอ  

คงจะเป็นเหตุนี้  ทางผู้บริหารจึงคิดที่จะสร้างอาคารใหม่  มีจำนวนห้องมากถึง 300 ห้อง  และมีห้องจัดประชุมสัมมนาจุคนได้ถึง 1200 คน  ดีที่บริษัทมีที่ดินว่างอยู่จึงลงทุนไม่มากนัก

[markmorjed]

หุ้นตัวนี้ ไม่ใช่หุ้น VI
ที่ดินของตัวเองไม่มี ทำโรงแรมบนที่เช่าของชาวบ้าน ใกล้หมดสัญญาแล้ว ชาวบ้านไม่ให้เช่าต่อจะทำไง ต้องเสียใช้จ่ายค่าทุบทิ้ง จะยกโรงแรมออกไปวางที่ีอื่นก็ไม่ได้ ความมั่นคงแทบไม่มี ชื่อเสียงก็ไม่ได้ติดตลาดอะไรเลย

[chatchai]

หุ้นตัวนี้ ไม่ใช่หุ้น VI
ที่ดินของตัวเองไม่มี ทำโรงแรมบนที่เช่าของชาวบ้าน ใกล้หมดสัญญาแล้ว ชาวบ้านไม่ให้เช่าต่อจะทำไง ต้องเสียใช้จ่ายค่าทุบทิ้ง จะยกโรงแรมออกไปวางที่ีอื่นก็ไม่ได้ ความมั่นคงแทบไม่มี ชื่อเสียงก็ไม่ได้ติดตลาดอะไรเลย

MANRIN มีโรงแรมทั้งหมด 3 แห่ง

1. โรงแรมพลาซ่า

[chatchai]

บริษัทมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 22 ล้านหุ้น ราคาตลาด 12 บาท

[chatchai]

มูลค่าบริษัท 374 ล้านบาท  

จำนวนห้อง 735 ห้อง

ตกห้องละ 0.51 ล้านบาท

ถ้าราคาห้องคืนละ 2000 บาท  Occupancy Rate 50%  

ทั้งปี  มีรายได้ห้องละ 0.365 ล้านบาท