จากข้อมุลที่ได้รับมา การงดโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
จะถูกห้ามเผยแพร่ ไม่ว่าทางสื่อใด เป็นที่หวาดหวั่นแก่ผู้ประกอบการ
และแม้แต่กับสาวเชียร์สินค้า ที่เราเห็นกันดาษดื่นเองก็ตาม
พวกเธอยังหวั่นกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอาชีพของพวกเธอ
เพราะการห้ามโฆษณานั้น ยังครอบคลุมไปถึง
โลโก้ที่ติดบนเครื่องแต่งกาย อันมีพื้นที้น้อยนิด
แต่ผมมองว่า อาชีพของพวกเธอนั่นละ
คือช่องทางสุดท้ายของการโฆษณา
เพราะการบอกเล่า ยังไม่ได้ถูกจำกัด
งบประมาณโฆษณาต่าง ๆ จึงอาจถูกทุ่มโฟกัสมายังจุดนี้จุดเดียว
จนทำให้อาชีพนี้เฟื่องฟูขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
รวมถึงสิ่งที่ผมตั้งตารออีกอย่าง
วิกฤตมักนำมาซึ่งนวัตกรรม
ความเฟื่องฟูและนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมส่วนหนึ่งในปัจจุบัน
มีบ่อเกิดมาจากสงคราม ! ถ้าผมจำไม่ผิดก็เช่นระบบการผลิตแบบสายพานของฟอร์ด เป็นต้น
สิ่งที่ผมรอดูด้วยความตื่นเต้นคือ นวัตกรรมใหม่ของช่องทางในการโฆษณา
และรอลุ้นว่า สาวเชียร์เครื่องดื่มจะมีเยอะขึ้นตามที่คาดเอาไว้หรือไม่
งดโฆษณาเหล้า-เบียร์จะทำให้อาชีพสาวเชียร์เฟื่องฟู ???
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
งดโฆษณาเหล้า-เบียร์จะทำให้อาชีพสาวเชียร์เฟื่องฟู ???
โพสต์ที่ 2
ผมคิดไม่เหมือนคุณ Capo แฮะ... :lol:
ผมคิดว่าที่ยังอนุญาตให้สาวเชียร์เบียร์ยังสามารถเชียร์ได้
เนื่องจากมันเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องของน้องเชียร์เบียร์
เลยยังอนุญาตให้สามารถเชียร์เบียร์ต่อได้
ไม่อย่างนั้นก็คงมีปัญหาการตกงานตามมา และตามมาด้วยปัญหาอย่างอื่น
ในอนาคตอันใกล้นี้จะห้ามแม้กระทั่งวางให้เห็นในร้านสะดวกซื้อ
เหมือนกับบุหรี่ แต่ในสถานบริการยังสามารถวางจำหน่ายได้ตามปกติ
สื่อสาธารณะทุกอย่างก็ห้ามหมด
ซึ่งแขกที่เข้าไปเที่ยวดังกล่าว ไม่เชียร์เค้าก็ดื่ม
และโดยมากจะเป็นยี่ห้อที่เค้าชอบดื่มเป็นประจำ
ผมว่าผลกระทบที่ค่อนข้างมาก น่าจะเป็นวงการกีฬาและรายการทีวี
ที่ขาด Sponsor สนับสนุน โดยเฉพาะวงการกีฬาคงต้องพึ่งพางบประมาณรัฐมากขึ้น
หากการห้ามดังกล่าวสามารถลดจำนวนผู้ดื่ม และอุบัติเหตุของการดื่มได้อย่างมีนัยสำคัญ
ก็ถือว่าคุ้มครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยกับทั้ง 2 นโยบายนี้ของ รมว.สาธารณสุข
คือยกเลิกการเก็บ 30 บาทไปเลย ไม่คุ้มกับการบันทึกบัญชีและเวลาเจ้าหนี้ที่
รวมทั้งนโยบายห้ามโฆษณาสุราด้วย
ผมคิดว่าที่ยังอนุญาตให้สาวเชียร์เบียร์ยังสามารถเชียร์ได้
เนื่องจากมันเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องของน้องเชียร์เบียร์
เลยยังอนุญาตให้สามารถเชียร์เบียร์ต่อได้
ไม่อย่างนั้นก็คงมีปัญหาการตกงานตามมา และตามมาด้วยปัญหาอย่างอื่น
ในอนาคตอันใกล้นี้จะห้ามแม้กระทั่งวางให้เห็นในร้านสะดวกซื้อ
เหมือนกับบุหรี่ แต่ในสถานบริการยังสามารถวางจำหน่ายได้ตามปกติ
สื่อสาธารณะทุกอย่างก็ห้ามหมด
ซึ่งแขกที่เข้าไปเที่ยวดังกล่าว ไม่เชียร์เค้าก็ดื่ม
และโดยมากจะเป็นยี่ห้อที่เค้าชอบดื่มเป็นประจำ
ผมว่าผลกระทบที่ค่อนข้างมาก น่าจะเป็นวงการกีฬาและรายการทีวี
ที่ขาด Sponsor สนับสนุน โดยเฉพาะวงการกีฬาคงต้องพึ่งพางบประมาณรัฐมากขึ้น
หากการห้ามดังกล่าวสามารถลดจำนวนผู้ดื่ม และอุบัติเหตุของการดื่มได้อย่างมีนัยสำคัญ
ก็ถือว่าคุ้มครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยกับทั้ง 2 นโยบายนี้ของ รมว.สาธารณสุข
คือยกเลิกการเก็บ 30 บาทไปเลย ไม่คุ้มกับการบันทึกบัญชีและเวลาเจ้าหนี้ที่
รวมทั้งนโยบายห้ามโฆษณาสุราด้วย
"Winners never quit, and quitters never win."