ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
- Mr.Pig
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 1
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่นิยมและศึกษาการลงทุนแนว VI มานับแรมปีนับตั้งแต่ขาดทุนอย่างหนักประมาณ 60 % เมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากนั้นผมก็หันมาศึกษาแนวการลงทุนแบบ VI และประกาศสงครามกับความฟุ่มเฟือยทุกประเภทรวมถึงการจดบัญชีรายรับรายจ่ายทุกบาททุกสตางค์ในทุกวันทำอย่างนี้มา 2 ปีกว่าแล้ว
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาไม่ได้มีทรัพย์สินติดตัวอะไรมาทุกวันนี้ก็ยังทำงานอย่างหนักวันละ 12 - 15 ชม.โดยไม่มีวันหยุดและพกพาความหวังเล็กๆที่จะเป็นอิสรภาพทางการเงินในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ที่ทำและอดทนทุกวันนี้ได้ก็เพราะมีครอบครัวโดยเฉพาะเธอเป็นแรงใจ
เริ่มต้นจากค่าใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือนเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ผมสามารถเก็บเงินได้ประมาณ 30 % ของรายรับในแต่ละเดือน โดย 20 % จะถูกกันไว้เพื่อลงทุนแนว VI ซึ่งก็ได้เริ่มต้นลงทุนมาเมื่อต้นปีด้วยเงินต้นประมาณ 2XX,XXX ผลตอบแทนตอนนี้ยังน้อยนิดอยู่ ทุกๆเดือนก็จะมี 20 % ของรายรับเติมเข้าไปในพอร์ตเพื่อรอจังหวะการซื้อเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ.
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวานนี้เธอถามผมขึ้นมาเรื่องว่าจะให้ผมถอยรถยนต์ออกมา(ผมเคยพูดกับเธอว่าจะซื้อรถมาประมาณปีที่แล้วแต่ผมยังไม่พร้อมตอนนี้ให้อดทนไปก่อนซึ่งเธอก็อาศัยแมงกะไซด์ เป็นยานพาหนะมานานแล้ว) โดยที่ให้ผมลดเงินเก็บเพื่อการลงทุนในอนาคตลงประมาณกึ่งหนึ่งเพื่อมาให้น้ำหนักกับรถยนต์คันใหม่ เธอบอกผมว่าผมมีเงินเหลือเท่าไหร่ก็เอาไปลงหุ้นหมดประมาณว่าผมเอาเงินเก็บไปเผาเล่น เพื่อนๆครับตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอผมดูแลเรื่องการเงินทั้งเธอและทางบ้านของเธอ(ผมส่งเงินให้พ่อแม่เธอใช้ทุกเดือน) ทางมารดาผม และค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดผมเป็นคนรับผิดชอบ 100% โดยไม่เคยบ่ายเบี่ยงแม้แต่ครั้งเดียว
ผมตระหนักดีครับว่าการมีรถยนต์ในยุคสมัยนี้เป็นความจำเป็นระดับหนึ่งและสักวันเมื่อผมพร้อมแล้วผมก็จะต้องซื้อมันแน่ๆ และตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ให้เกินปีหน้าแต่ถ้าให้ออกมาภายในวันนี้พรุ่งนี้โดยที่จะต้องลดเงินส่วนที่ต้องเก็บไว้ลงทุนนั้นผมไม่ทำเด็ดขาดด้วยเหตุว่าการมีรถนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆนอกจากค่าน้ำมันนั้นมันต้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และโดยวิสัยของผมแล้วมันย่อมกระทบต่อเงินในส่วนที่จะต้องลงทุนรวมถึงระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินต้องยืดออกไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอพยายามที่จะจิ้มเงินส่วนที่ผมกำลังอยู่นั้นให้ได้ผมไม่ทราบว่าทำไมเธอมาพูดเรื่องนี้เอาตอนนี้ทั้งๆที่ผมก็บอกเธอเรื่องเงินส่วนนี้มานานแล้วว่าผมเก็บไว้เพื่ออนาคตของเรา...
ผมคุยกับเธอไม่เข้าใจ...........
ผมร้องไห้และบอกเธอไปว่า...ผมเหนื่อย....ผมเหนื่อยจริงๆ........
ผมปิดมือถือและยังไม่เปิดมันจนถึงนาทีนี้............
...
...
...
ผมขอโทษเพื่อนๆ พี่ๆ ด้วยที่เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าแต่ Web VI นี้เป็นแรงดลใจกับผมมาตั้งแต่เริ่มลงทุนมาใหม่ๆ
และหลากหลายหลักการ หนังสือ บทความ ข้อแนะนำในที่นี้ก็มีอิทธิพลกับชีวิตผมกว่า 80 %
...
...
ผมเหนื่อยครับ ...ผมเหนื่อยจริงๆ....
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาไม่ได้มีทรัพย์สินติดตัวอะไรมาทุกวันนี้ก็ยังทำงานอย่างหนักวันละ 12 - 15 ชม.โดยไม่มีวันหยุดและพกพาความหวังเล็กๆที่จะเป็นอิสรภาพทางการเงินในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ที่ทำและอดทนทุกวันนี้ได้ก็เพราะมีครอบครัวโดยเฉพาะเธอเป็นแรงใจ
เริ่มต้นจากค่าใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือนเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ผมสามารถเก็บเงินได้ประมาณ 30 % ของรายรับในแต่ละเดือน โดย 20 % จะถูกกันไว้เพื่อลงทุนแนว VI ซึ่งก็ได้เริ่มต้นลงทุนมาเมื่อต้นปีด้วยเงินต้นประมาณ 2XX,XXX ผลตอบแทนตอนนี้ยังน้อยนิดอยู่ ทุกๆเดือนก็จะมี 20 % ของรายรับเติมเข้าไปในพอร์ตเพื่อรอจังหวะการซื้อเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ.
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวานนี้เธอถามผมขึ้นมาเรื่องว่าจะให้ผมถอยรถยนต์ออกมา(ผมเคยพูดกับเธอว่าจะซื้อรถมาประมาณปีที่แล้วแต่ผมยังไม่พร้อมตอนนี้ให้อดทนไปก่อนซึ่งเธอก็อาศัยแมงกะไซด์ เป็นยานพาหนะมานานแล้ว) โดยที่ให้ผมลดเงินเก็บเพื่อการลงทุนในอนาคตลงประมาณกึ่งหนึ่งเพื่อมาให้น้ำหนักกับรถยนต์คันใหม่ เธอบอกผมว่าผมมีเงินเหลือเท่าไหร่ก็เอาไปลงหุ้นหมดประมาณว่าผมเอาเงินเก็บไปเผาเล่น เพื่อนๆครับตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอผมดูแลเรื่องการเงินทั้งเธอและทางบ้านของเธอ(ผมส่งเงินให้พ่อแม่เธอใช้ทุกเดือน) ทางมารดาผม และค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดผมเป็นคนรับผิดชอบ 100% โดยไม่เคยบ่ายเบี่ยงแม้แต่ครั้งเดียว
ผมตระหนักดีครับว่าการมีรถยนต์ในยุคสมัยนี้เป็นความจำเป็นระดับหนึ่งและสักวันเมื่อผมพร้อมแล้วผมก็จะต้องซื้อมันแน่ๆ และตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ให้เกินปีหน้าแต่ถ้าให้ออกมาภายในวันนี้พรุ่งนี้โดยที่จะต้องลดเงินส่วนที่ต้องเก็บไว้ลงทุนนั้นผมไม่ทำเด็ดขาดด้วยเหตุว่าการมีรถนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆนอกจากค่าน้ำมันนั้นมันต้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และโดยวิสัยของผมแล้วมันย่อมกระทบต่อเงินในส่วนที่จะต้องลงทุนรวมถึงระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินต้องยืดออกไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอพยายามที่จะจิ้มเงินส่วนที่ผมกำลังอยู่นั้นให้ได้ผมไม่ทราบว่าทำไมเธอมาพูดเรื่องนี้เอาตอนนี้ทั้งๆที่ผมก็บอกเธอเรื่องเงินส่วนนี้มานานแล้วว่าผมเก็บไว้เพื่ออนาคตของเรา...
ผมคุยกับเธอไม่เข้าใจ...........
ผมร้องไห้และบอกเธอไปว่า...ผมเหนื่อย....ผมเหนื่อยจริงๆ........
ผมปิดมือถือและยังไม่เปิดมันจนถึงนาทีนี้............
...
...
...
ผมขอโทษเพื่อนๆ พี่ๆ ด้วยที่เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าแต่ Web VI นี้เป็นแรงดลใจกับผมมาตั้งแต่เริ่มลงทุนมาใหม่ๆ
และหลากหลายหลักการ หนังสือ บทความ ข้อแนะนำในที่นี้ก็มีอิทธิพลกับชีวิตผมกว่า 80 %
...
...
ผมเหนื่อยครับ ...ผมเหนื่อยจริงๆ....
There is no satiety in study.
ไม่มีจุดสิ้นสุดสำหรับการเรียนรู้
ไม่มีจุดสิ้นสุดสำหรับการเรียนรู้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 2
เข้าใจครับ และขอเอาใจช่วยครับ
เงินไม่สำคัญเท่าคู่ชีวิตหรอกครับ
เงินน่ะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้
แต่คนที่เป็นคู่ชีวิตนะครับ
เสียไปแล้ว ยากที่ได้คืนมาครับ
ถนอมน้ำใจกันไว้นะครับ
ทั้งตัวคุณเอง และแฟนคุณด้วย
ช่วงนี้ความถี่อาจไม่ตรงกันบ้าง
แต่ลองพยายามปรับเข้าหากันดูนะครับ
เงินไม่สำคัญเท่าคู่ชีวิตหรอกครับ
เงินน่ะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้
แต่คนที่เป็นคู่ชีวิตนะครับ
เสียไปแล้ว ยากที่ได้คืนมาครับ
ถนอมน้ำใจกันไว้นะครับ
ทั้งตัวคุณเอง และแฟนคุณด้วย
ช่วงนี้ความถี่อาจไม่ตรงกันบ้าง
แต่ลองพยายามปรับเข้าหากันดูนะครับ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 3
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
พยายามคุยกับเธอให้เข้าใจ เปรียบเทียบให้เธอเห็น ระหว่างรถกับการลงทุน
รถ ถอยมาใหม่ ราคา 8 แสน ผ่านไปสองปีเหลือไม่ถึง 5 แสน
ส่วนการลงทุน มีแต่เพิ่มมูลค่า มากบ้าง น้อยบ้าง
นี่ยังดีครับ ที่บริษัทฯผม มีกรณีแฟนท้องแล้วยังมาขอหย่าเพื่อจะกลับไปแต่งกับแฟนเก่าตัวเองด้วย
พยายามคุยกับเธอให้เข้าใจ เปรียบเทียบให้เธอเห็น ระหว่างรถกับการลงทุน
รถ ถอยมาใหม่ ราคา 8 แสน ผ่านไปสองปีเหลือไม่ถึง 5 แสน
ส่วนการลงทุน มีแต่เพิ่มมูลค่า มากบ้าง น้อยบ้าง
นี่ยังดีครับ ที่บริษัทฯผม มีกรณีแฟนท้องแล้วยังมาขอหย่าเพื่อจะกลับไปแต่งกับแฟนเก่าตัวเองด้วย
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 4
ผมพูดได้เต็มปากว่า ผมก็เคยผ่านจุดๆนั้นมาครับ อย่าท้อเลย
ความรู้สึกผมตอนนั้นคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณตอนนี้แน่ เพราะตอนนั้นที่ผมได้ปฏิวัติไปนั้นหนักหนาสาหัสทางจิตใจเช่นกัน
แต่มันก็ผ่านมาได้ จากความจริงใจและการเวลาเป็นสิ่งพิสูจน์
แต่พอผมมาคิดย้อนคืน ผมก็คิดได้ว่า ที่เราได้ทำไปนั้นเราถูกด้านเดียว(ด้านฐานะการเงิน) แต่อีกด้านกำลังจะแตกหัก(ด้านความรักที่เงินซื้อไม่ได้) เพราะเราจริงจังกับมันมากเกินไป ตอนนี้ผมว่าผมโชคดีเพราะว่าตอนนี้เราถึงฝั่งแล้ว โดยไม่มีการแตกหักกันเกิดขึ้น
ถ้าเป็นผมสามารถเลือกได้อีกครั้งก็คงจะทำเหมือนเดิม แต่จะรักษาน้ำใจกันให้มากกว่าเดิม เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะโชคดีเหมือนเดิมอีกหรือเปล่าครับ
ความรู้สึกผมตอนนั้นคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณตอนนี้แน่ เพราะตอนนั้นที่ผมได้ปฏิวัติไปนั้นหนักหนาสาหัสทางจิตใจเช่นกัน
แต่มันก็ผ่านมาได้ จากความจริงใจและการเวลาเป็นสิ่งพิสูจน์
แต่พอผมมาคิดย้อนคืน ผมก็คิดได้ว่า ที่เราได้ทำไปนั้นเราถูกด้านเดียว(ด้านฐานะการเงิน) แต่อีกด้านกำลังจะแตกหัก(ด้านความรักที่เงินซื้อไม่ได้) เพราะเราจริงจังกับมันมากเกินไป ตอนนี้ผมว่าผมโชคดีเพราะว่าตอนนี้เราถึงฝั่งแล้ว โดยไม่มีการแตกหักกันเกิดขึ้น
ถ้าเป็นผมสามารถเลือกได้อีกครั้งก็คงจะทำเหมือนเดิม แต่จะรักษาน้ำใจกันให้มากกว่าเดิม เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะโชคดีเหมือนเดิมอีกหรือเปล่าครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 5
ผมผ่านเรื่องนี้มาแล้ว
ผมเหมือนคุณ pig เด๊ะ
ภรรยาผมก็เหมือนภรรยาคุณ (หมายถึงความคิดนะ :lol: )
เงินที่อุตสาห์ออมกันมา ผมตั้งใจลงทุนในหุ้น ผมรู้ว่าเงินแสนวันนี้คือเงินหลายล้านในอนาคต เธอไม่เข้าใจ เธอมีความจำเป็นต้องใช้กับครอบครัวของเธอ ผมโกรษหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทะเลาะกันค่อนข้างแรง
หายโกรษผมก็กลับไปคิด ถ้าผมเป็นเธอ
ผมจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า
ซึ่งคำตอบคือผมก็คงทำเหมือนที่เธอทำ
คิดได้อย่างนี้ก็คุยกัน
ผมอธิบาย เธอก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
ผมขอให้อย่าเกิดขึ้นบ่อยๆ
ก็คุยกันไปได้ครับ
ความสุขของครอบครัวเป็นเรื่องของคนสองคน
ถ้าเราสุข แต่เขาไม่สุข ครอบครัวก็คงไม่มีความสุขครับ
พยายามหาทางสายกลาง
ที่พอจะคิดออก...
1.ขอเป็นรถมือสอง
2.ใช้วิธีผ่อน (เราคิดว่าผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยผ่อน)
3.ซื้อรถราคาไม่แพง
พูดถึงเรื่องอย่างนี้ผมอิจฉาคนโสดนะครับ สามารถควบคุมรายจ่ายได้ แต่หากมีครอบครัวเรื่องนี้ทำได้ยากครับ เพราะเป็นเรื่องของคน 2 คนไม่ใช่เราคนเดียว
ทางสายกลาง เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงเวลารักกัน และที่สำคัญอย่างหนีปัญหาเลยครับ คุยกันให้รู้เรื่อง ชีวิตนี้ยังมีเรื่องที่คอขาดบาดตายกว่านี้อีกมากครับ
เอาใจช่วยครับ :o
ผมเหมือนคุณ pig เด๊ะ
ภรรยาผมก็เหมือนภรรยาคุณ (หมายถึงความคิดนะ :lol: )
เงินที่อุตสาห์ออมกันมา ผมตั้งใจลงทุนในหุ้น ผมรู้ว่าเงินแสนวันนี้คือเงินหลายล้านในอนาคต เธอไม่เข้าใจ เธอมีความจำเป็นต้องใช้กับครอบครัวของเธอ ผมโกรษหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทะเลาะกันค่อนข้างแรง
หายโกรษผมก็กลับไปคิด ถ้าผมเป็นเธอ
ผมจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า
ซึ่งคำตอบคือผมก็คงทำเหมือนที่เธอทำ
คิดได้อย่างนี้ก็คุยกัน
ผมอธิบาย เธอก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
ผมขอให้อย่าเกิดขึ้นบ่อยๆ
ก็คุยกันไปได้ครับ
ความสุขของครอบครัวเป็นเรื่องของคนสองคน
ถ้าเราสุข แต่เขาไม่สุข ครอบครัวก็คงไม่มีความสุขครับ
พยายามหาทางสายกลาง
ที่พอจะคิดออก...
1.ขอเป็นรถมือสอง
2.ใช้วิธีผ่อน (เราคิดว่าผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยผ่อน)
3.ซื้อรถราคาไม่แพง
พูดถึงเรื่องอย่างนี้ผมอิจฉาคนโสดนะครับ สามารถควบคุมรายจ่ายได้ แต่หากมีครอบครัวเรื่องนี้ทำได้ยากครับ เพราะเป็นเรื่องของคน 2 คนไม่ใช่เราคนเดียว
ทางสายกลาง เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงเวลารักกัน และที่สำคัญอย่างหนีปัญหาเลยครับ คุยกันให้รู้เรื่อง ชีวิตนี้ยังมีเรื่องที่คอขาดบาดตายกว่านี้อีกมากครับ
เอาใจช่วยครับ :o
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 6
น่าเห็นใจมากๆครับ
ไม่รู้ว่าการยอมซื้อรถจะเป็นทางออกที่ดีหรือเปล่า
ไม่มีทางค่อยๆอธิบายให้เข้าใจเลยหรือครับ
จริงๆแฟนน่าจะเห็นใจคุณpigน่ะ ทำงานวันล่ะ12-15ช.ม. ทุกวันนี้ผมก็ทำงานประมาณนี้ แฟนก็เห็นใจและสงสารผมมาก
"ผมบอกว่าช่วยกันประหยัดน่ะ เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ไม่รู้เมื่อไหร่ผมจะตายไป เงินส่วนที่เก็บไว้บวกกับเงินประกันชีวิต จะทำให้เธอมีทุน มีเวลาคิด มีเวลาตั้งตัว ไม่ตกใจกับอนาคต" ผมบอกแฟนผมแบบนี้น่ะ
เรื่องรถแฟนผมไม่เคยเรียกร้อง มีช่วงปีหน้านี่ล่ะที่เขาต้องไปรับส่งลูกที่โรงเรียน ผมเลยคิดว่าจะยกรถของผมให้เขาใช้ ส่วนผมไปใช้ปิคอัพมือสองเอา
เอาใจช่วยให้ผ่านวิกฤตการณ์ไปได้น่ะครับ
ไม่รู้ว่าการยอมซื้อรถจะเป็นทางออกที่ดีหรือเปล่า
ไม่มีทางค่อยๆอธิบายให้เข้าใจเลยหรือครับ
จริงๆแฟนน่าจะเห็นใจคุณpigน่ะ ทำงานวันล่ะ12-15ช.ม. ทุกวันนี้ผมก็ทำงานประมาณนี้ แฟนก็เห็นใจและสงสารผมมาก
"ผมบอกว่าช่วยกันประหยัดน่ะ เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ไม่รู้เมื่อไหร่ผมจะตายไป เงินส่วนที่เก็บไว้บวกกับเงินประกันชีวิต จะทำให้เธอมีทุน มีเวลาคิด มีเวลาตั้งตัว ไม่ตกใจกับอนาคต" ผมบอกแฟนผมแบบนี้น่ะ
เรื่องรถแฟนผมไม่เคยเรียกร้อง มีช่วงปีหน้านี่ล่ะที่เขาต้องไปรับส่งลูกที่โรงเรียน ผมเลยคิดว่าจะยกรถของผมให้เขาใช้ ส่วนผมไปใช้ปิคอัพมือสองเอา
เอาใจช่วยให้ผ่านวิกฤตการณ์ไปได้น่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 7
จริงๆ ไม่ค่อยกล้าจะแสดงความคิดเห็นในเชิงนี้สักเท่าไร จากประสบการณ์ ควรซื้อให้เขาเพราะเขาคงคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญครับ อย่าถามนะว่าสำคัญแบบใหน เดี๋ยวอาจจะไม่ได้ซื้อนะครับ เรื่องจริงครับ ตัดสินแค่ให้หรือไม่แค่นั้นครับ ที่เหลือเป็นแค่วิธีการ
Way of life is way of brain
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 8
เมื่อเราบรรลุเป้าหมาย แน่นอนเราย่อมมีความสุข แต่เป้าหมายเราอีกตั้ง 10 ปี
ในระหว่างทาง ถ้าเรายังสามารถมีความสุขได้ด้วย น่าจะดีกว่านะครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ถ้าอยากฟังธรรมมะ เผื่อจะทำให้ใจสบายขึ้นและมองเห็นทางออกก็คลิ้กที่ Link ข้างล่างนะครับ
"สุขข้างนอก สุขข้างหน้า แต่สุขที่แท้จริงอยู่ข้างใน" โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)ุ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ในระหว่างทาง ถ้าเรายังสามารถมีความสุขได้ด้วย น่าจะดีกว่านะครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ถ้าอยากฟังธรรมมะ เผื่อจะทำให้ใจสบายขึ้นและมองเห็นทางออกก็คลิ้กที่ Link ข้างล่างนะครับ
"สุขข้างนอก สุขข้างหน้า แต่สุขที่แท้จริงอยู่ข้างใน" โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)ุ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 9
เอาใจช่วยนะคะ และพูดได้เพียงว่า เมื่อผ่านปัญหานั้นไปได้ เรื่องก็จะจบ
หรือแม้หาก แก้ไขปัญหานั้นๆไม่ได้เลย มันก็จะผ่านไปอยู่ดี
สรุปก็คือ ปัญหาน่ะ ไม่ว่าจะแก้ไขมันได้หรือไม่ มันก็จะมีวันที่จะผ่านพ้นไปอยู่ดี
แค่อยู่กับตัวเองบางครั้ง ยังมีช่วงเวลาของการยุ่งยากใจ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการอยู่ร่วมกะคนอีกหนึ่งคน หรือ กะอีกหลายๆคน
มุมมองการคิดถึงปัญหาเดียวกันของแต่ละคน ก็แตกต่างกัน
มีเรื่องนึงจะเล่าให้ฟังค่ะ
เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึง ท่านมีตำแหน่งสูงพอสมควร ต้องมีคนขับรถประจำตำแหน่ง ไว้คอยพาท่านไปไหนต่อไหน ตามกำหนดการในหน้าที่การงานอันสำคัญในขณะนั้นของท่าน
ท่านเป็นคนทำงานเก่งมาก รับผิดชอบในงานสูง เป็นคนทั้งเก่งและนิสัยดี
มีวันนึง ท่านมาบ่นๆ พูดให้ฟังเรื่อง คนขับรถของท่าน ขาดงานอย่างกระทันหัน ทำให้ท่านต้องผิดนัด ลำบากมากในการที่ต้องฉุกละหุก ในการต้องเลื่อนนัดที่สำคัญ ที่คิวอัดแน่นไปหมด เป็นเหตุอันเนื่องมาจาก คนขับของท่านขาดงานกระทันหัน ทำให้วุ่นวายไปตลอดวัน
ท่านเรียกคนขับรถท่านมาต่อว่า คนขับก้อธิบายถึงเหตุอันจำเป็นส่วนตัวของเขา ที่ต้องลางานในช่วงนี้ เนื่องจากมีปัญหากะภรรยาเขา เขาจะต้องไปตามภรรยาอันเป็นที่รักของเขา
แต่ท่านก็ยังอารมณ์ค้าง คงเพราะท่านเป็นคนมาตรฐานสูงในการรับผิดชอบงาน ซึ่งเหมาะสมแล้วล่ะกะตำแหน่งของท่านนะ ดิฉันก็ว่างั้น
ท่านว่า คนเรานั้น งานต้องมาก่อน หน้าที่รับผิดชอบนั้น จะละเลยไม่ได้สิ
ดิฉันได้ทีจึงขอแย้ง ว่า สงสัยคนขับรถของท่าน คงมีมุมมองที่ต่างออกไป เขาคงจะเห็นว่า ความรักนั้นสำคัญกว่างานกระมัง หรืออาจจะหนักไปกว่านั้น เป็นว่า เขาต้องเห็นภรรยาเขา สำคัญกว่าท่านเป็นแน่
ท่านก็ยังไม่วายบ่นว่ากรณีคนขับ ไม่รับผิดชอบงานนั้นใช้ไม่ได้
ดิฉันจึงว่า งั้นไล่เขาออกเลยสิ แล้วหาคนใหม่มาทำแทน
ท่านก็ว่า อืม.. แต่คนนี้ เขาทำงานกันมานาน อยู่กันจนรู้ใจเข้าขา
นั่นสิ งั้นถึงตาท่านเลือกแล้วล่ะ ความผิดครั้งนี้ ช่างน้ำหนักกะผลงานของเขาที่ผ่านมา อะไรที่มันหนักกว่ากัน
ก็วิธีคล้ายๆกะที่คนขับใช้ช่างน้ำหนักว่า ความรักที่เขามีต่อภรรยา ความสำคัญที่ภรรยามีต่อชีวิตเขา ทำให้ตัดสินใจแล้วว่า เขาจะสูญเสียหัวใจของเขาไปไม่ได้
ดิฉันเห็นท่านยิ้มนะ
หรือแม้หาก แก้ไขปัญหานั้นๆไม่ได้เลย มันก็จะผ่านไปอยู่ดี
สรุปก็คือ ปัญหาน่ะ ไม่ว่าจะแก้ไขมันได้หรือไม่ มันก็จะมีวันที่จะผ่านพ้นไปอยู่ดี
แค่อยู่กับตัวเองบางครั้ง ยังมีช่วงเวลาของการยุ่งยากใจ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการอยู่ร่วมกะคนอีกหนึ่งคน หรือ กะอีกหลายๆคน
มุมมองการคิดถึงปัญหาเดียวกันของแต่ละคน ก็แตกต่างกัน
มีเรื่องนึงจะเล่าให้ฟังค่ะ
เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึง ท่านมีตำแหน่งสูงพอสมควร ต้องมีคนขับรถประจำตำแหน่ง ไว้คอยพาท่านไปไหนต่อไหน ตามกำหนดการในหน้าที่การงานอันสำคัญในขณะนั้นของท่าน
ท่านเป็นคนทำงานเก่งมาก รับผิดชอบในงานสูง เป็นคนทั้งเก่งและนิสัยดี
มีวันนึง ท่านมาบ่นๆ พูดให้ฟังเรื่อง คนขับรถของท่าน ขาดงานอย่างกระทันหัน ทำให้ท่านต้องผิดนัด ลำบากมากในการที่ต้องฉุกละหุก ในการต้องเลื่อนนัดที่สำคัญ ที่คิวอัดแน่นไปหมด เป็นเหตุอันเนื่องมาจาก คนขับของท่านขาดงานกระทันหัน ทำให้วุ่นวายไปตลอดวัน
ท่านเรียกคนขับรถท่านมาต่อว่า คนขับก้อธิบายถึงเหตุอันจำเป็นส่วนตัวของเขา ที่ต้องลางานในช่วงนี้ เนื่องจากมีปัญหากะภรรยาเขา เขาจะต้องไปตามภรรยาอันเป็นที่รักของเขา
แต่ท่านก็ยังอารมณ์ค้าง คงเพราะท่านเป็นคนมาตรฐานสูงในการรับผิดชอบงาน ซึ่งเหมาะสมแล้วล่ะกะตำแหน่งของท่านนะ ดิฉันก็ว่างั้น
ท่านว่า คนเรานั้น งานต้องมาก่อน หน้าที่รับผิดชอบนั้น จะละเลยไม่ได้สิ
ดิฉันได้ทีจึงขอแย้ง ว่า สงสัยคนขับรถของท่าน คงมีมุมมองที่ต่างออกไป เขาคงจะเห็นว่า ความรักนั้นสำคัญกว่างานกระมัง หรืออาจจะหนักไปกว่านั้น เป็นว่า เขาต้องเห็นภรรยาเขา สำคัญกว่าท่านเป็นแน่
ท่านก็ยังไม่วายบ่นว่ากรณีคนขับ ไม่รับผิดชอบงานนั้นใช้ไม่ได้
ดิฉันจึงว่า งั้นไล่เขาออกเลยสิ แล้วหาคนใหม่มาทำแทน
ท่านก็ว่า อืม.. แต่คนนี้ เขาทำงานกันมานาน อยู่กันจนรู้ใจเข้าขา
นั่นสิ งั้นถึงตาท่านเลือกแล้วล่ะ ความผิดครั้งนี้ ช่างน้ำหนักกะผลงานของเขาที่ผ่านมา อะไรที่มันหนักกว่ากัน
ก็วิธีคล้ายๆกะที่คนขับใช้ช่างน้ำหนักว่า ความรักที่เขามีต่อภรรยา ความสำคัญที่ภรรยามีต่อชีวิตเขา ทำให้ตัดสินใจแล้วว่า เขาจะสูญเสียหัวใจของเขาไปไม่ได้
ดิฉันเห็นท่านยิ้มนะ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 10
น่านับถือมากครับ :D
อดทนไว้ก่อนครับ สักวันหนึ่งเธอจะได้เข้าใจเอง (ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบความไม่แน่นอนครับ ก็เลยไม่ชอบหุ้นไปด้วย)
อดทนไว้ก่อนครับ สักวันหนึ่งเธอจะได้เข้าใจเอง (ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบความไม่แน่นอนครับ ก็เลยไม่ชอบหุ้นไปด้วย)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 11
ผมพอมีวิธีแก้ครับ
ปัจจุบันผมก็มีปัญญหาเหมือน พี่ Pig ครับ แต่แฟนผมแค่ไม่ได้บังคับต้องเอารถตอนนี้แต่ผู้ญ ชอบความสบายครับ กว่าผมจะหาเงินได้ก็ลําบากเช่นกันและพยายามกันเพื่อลงทุน ฉะนั้นเมื่อ Port โตผมอาจจะนําเงินปันผลมาใช้บางส่วนเพื่อเป็นค่าความสบายเวลาอยู่กับแฟน caseผมยังไม่ได้แต่งงานเหมือนพี่ฉะนั้นผมจะsaveได้ตอนไม่เจอแฟน หรือ เพื่อน แต่ถ้า แฟนพี่Pig ยืนยันจะเอารถก็ลองตกลงแบบนี้ดูครับ
1 วางเป้าหมายให้ชัดเจนเรื่องการเงินเช่นมี portเท่าใหร่ถึงจะมาผ่อนรถ
2 ระหว่างนั้นก็ให้ใช้ รถ taxi ไปคือพี่นําเงินบางส่วนมาให้เป็นค่าtaxiเธอนั่งเมื่อไปซื้อของหรือใหนไกลๆ แต่จําเป็นนะ พยามคุยกับเธอ ผูญก็มักไม่เข้าใจผมรู้
พี่ครับเรื่องความรักก็จริงครับ แต่ผมยืนยังความคิดพี่ถูกนะ
เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าเราซื้อความสบายก่อนอนาคตลําบากแน่
ถ้าเราซื้อความมั่งคั่งก่อน อนาคตความสบายจะตามมาเอง
เงินก้อนนึงหาไม่ง่ายนะ ฉะนั้นขึ้นอยู่แล้วหละว่าจะตัดสินใจใช้เพื่อซื้ออะไร
ความมั่งคั่ง หรือ ความสบายก่อน Chance มีไม่มากนะกว่าจะหาได้ก้อนๆ 1อะ
คิดดีๆๆๆครับ ยอมเสียใจตอนนี้ดีกว่า เสียใจตลอดชาติ
ส่วนตัวผมไม่ยอมนะเรื่องนี้อะ ต้องมั่งคั่งก่อน
ชอบคํานึง ของ สุมาอี้
หากคุณทนแรงกดดันที่ไฟแดงเมื่อถนนว่าง และรถบีบแตรไล่ให้คุณไป
ได้ คุณก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสําเร็จครับ
ปัจจุบันผมก็มีปัญญหาเหมือน พี่ Pig ครับ แต่แฟนผมแค่ไม่ได้บังคับต้องเอารถตอนนี้แต่ผู้ญ ชอบความสบายครับ กว่าผมจะหาเงินได้ก็ลําบากเช่นกันและพยายามกันเพื่อลงทุน ฉะนั้นเมื่อ Port โตผมอาจจะนําเงินปันผลมาใช้บางส่วนเพื่อเป็นค่าความสบายเวลาอยู่กับแฟน caseผมยังไม่ได้แต่งงานเหมือนพี่ฉะนั้นผมจะsaveได้ตอนไม่เจอแฟน หรือ เพื่อน แต่ถ้า แฟนพี่Pig ยืนยันจะเอารถก็ลองตกลงแบบนี้ดูครับ
1 วางเป้าหมายให้ชัดเจนเรื่องการเงินเช่นมี portเท่าใหร่ถึงจะมาผ่อนรถ
2 ระหว่างนั้นก็ให้ใช้ รถ taxi ไปคือพี่นําเงินบางส่วนมาให้เป็นค่าtaxiเธอนั่งเมื่อไปซื้อของหรือใหนไกลๆ แต่จําเป็นนะ พยามคุยกับเธอ ผูญก็มักไม่เข้าใจผมรู้
พี่ครับเรื่องความรักก็จริงครับ แต่ผมยืนยังความคิดพี่ถูกนะ
เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าเราซื้อความสบายก่อนอนาคตลําบากแน่
ถ้าเราซื้อความมั่งคั่งก่อน อนาคตความสบายจะตามมาเอง
เงินก้อนนึงหาไม่ง่ายนะ ฉะนั้นขึ้นอยู่แล้วหละว่าจะตัดสินใจใช้เพื่อซื้ออะไร
ความมั่งคั่ง หรือ ความสบายก่อน Chance มีไม่มากนะกว่าจะหาได้ก้อนๆ 1อะ
คิดดีๆๆๆครับ ยอมเสียใจตอนนี้ดีกว่า เสียใจตลอดชาติ
ส่วนตัวผมไม่ยอมนะเรื่องนี้อะ ต้องมั่งคั่งก่อน
ชอบคํานึง ของ สุมาอี้
หากคุณทนแรงกดดันที่ไฟแดงเมื่อถนนว่าง และรถบีบแตรไล่ให้คุณไป
ได้ คุณก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสําเร็จครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 12
ผมอยากให้คุณ Pig คิดดีๆครับ ว่าเหตุผลของเธอนั้นจำเป็นหรือเปล่า
โดยส่วนตัว ถ้าผมมีเงินแต่ไม่มีแฟนคนปัจจุบัน ชีวิตผมก็เหมือนมีแต่ GDP ที่ไม่มี GDH
โดยส่วนตัว ถ้าผมมีเงินแต่ไม่มีแฟนคนปัจจุบัน ชีวิตผมก็เหมือนมีแต่ GDP ที่ไม่มี GDH
-
- Verified User
- โพสต์: 47
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 13
ขอแจมด้วยคนนะครับ...
คุณ Mr.Pig ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าพี่ๆในนี้คงไม่รังเกียจที่จะรับฟังปัญหาและช่วยหาวิธีแก้ไขหรอกครับ บางเรื่องเราแก้ไขคนเดียวคิดเองหัวเดียวมันก็ลำบาก บางทีก็คิดไม่ออก บางทีคิดได้แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดหรือเปล่า ผมเชื่อว่าการที่คุณ Mr.Pig เล่าปัญหาออกมาทางกระทู้นี้ถือเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
ถ้าจะให้ผมออกความเห็น ผมก็เกรงว่าตัวผมเองจะเด็กไปหน่อย และประสบการณ์อาจจะยังไม่มากพอ ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าตัวผมเองนั้นอายุก็แค่ (หรือปาไปแล้ว ก็ไม่ทราบ แฮะๆ) 26 ปีเท่านั้นเอง ประสบการณ์เรื่องการอยู่ร่วมกันกับอีกคนหนึ่งก็เคยมีบ้างครับ เรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน กิเลส และความอยากเป็นเรื่องธรรมดา
ผมเคยจำได้ว่าตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ กิเลสมันบังตาเพราะความไม่เคยมี ผมเคยอยากได้รถใหม่ๆสวยๆ มือถือใหม่ๆที่มีฟังค์ชั่นเจ๋งๆ แต่พอนานไปก็เริ่มเข้าใจถึงความจำเป็นจริงๆของมันครับ รถมันก็แค่ช่วยให้เราเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ถึงมันจะเก่าหน่อย แต่ถ้ามันไม่แย่นัก เช่นแอร์ไม่ได้เสียหรือไม่ใช่วิ่งๆไปแล้วหม้อน้ำแตกบ่อยๆให้เราต้องลงมาเข็นรถในสายฝนแล้วล่ะก็ ใช้คันเก่าต่อไปเถอะครับ มือถือนี่อีกอย่างหนึ่ง หลังจากหลงผิดกับมันมานานผมเองก็เริ่มคิดได้ว่าผมใช้มือถือเป็นแค่เครื่องมือสื่อสาร ใช้โทรออกรับสาย เอาเงินที่ใช้ซื้อเครื่องใหม่ๆมาเป็นค่าโทรหาคนที่เราห่วงใยเสียยังดีกว่าครับ
นอกเรื่องไปเยอะ (เพราะแอบเก็บกดเหมือนกันหรือเปล่าไม่ทราบ แฮ่ๆ) เข้าเรื่องของคุณ Mr.Pig นะครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณ Mr.Pig อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพหรือเปล่า ถ้าอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพนะครับ คุณ Mr.Pig เคยคิดคำนวณหรือเปล่าครับว่า การมีรถยนต์นั้น มีค่าใช้จ่ายสูงกว่านั่งแท๊กซี่เสียอีก ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมันนะครับ ผมจะลอง List รายการออกมาเท่าที่ผมคิดได้ มีดังนี้ครับ..
1. ค่าน้ำมัน
2. ค่าประกันภัย (หากไม่มีชั้น 1 ก็เตรียมค่าอุบติเหตุที่ไม่คาดฝันไว้ได้นะครับ)
3. ค่าบำรุงรักษา
3.1 ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 ก.ม.
3.2 ค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ อาทิ ยาง สายพาน
3.3 ค่าล้างรถ
3.4 ค่าภาษีประจำปี
4. ค่าเสื่อมราคาของตัวรถเอง
5. ค่าที่จอดรถ
6. ค่าความเครียดซึ่งเป็นเหตุมาจากความแออัดของการจราจร
7. ค่าเสียเวลาที่ต้องนำรถเข้าอู่
8. และ.. ยังไม่รวมความเสี่ยงที่ซื้อมาแล้วอาจจะได้รถไม่ดีให้ปวดหัวหนักกันเข้าไปใหญ่ดังที่เป็นข่าวกันนะครับ
ผมเคยจำได้นะครับ ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คืนนั้นฝนตกหนักมากครับ ผมขับรถคันโปรดผมเนี่ยล่ะอยู่แถวหมอชิต มุ่งหน้ารัชโยธิน การจราจรตรงนั้นติดขัดหยุดนิ่งมากกว่า 3 ชั่วโมงเพราะมีรถคันหนึ่งขับชนเสาไฟฟ้าโค่นลงมากลางถนนทำให้การจราจรไม่สามารถเคลื่อนตัวได้... ผมคิดขึ้นมาแว๊ปหนึ่ง ถ้าผมอยู่บนรถแท๊กซี่นะ ผมจะจ่ายเงินแล้วเดินไปอีกฝั่งของถนน โบกแท๊กซี่อีกคันนึงแล้วไปต่อโดยใช้เส้นทางอื่น จะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งเผาน้ำมันอยู่กลางสายฝนเกือบ 3 ชม. อย่างที่เป็น
อีกกรณีนะครับ เคยพยายามหาที่จอดในเซ็นทรัลลาดพร้าวในวันหยุดไหมครับ แฟนคุณจะนึกถึงแท๊กซี่ขึ้นมาเต็มๆเลยล่ะ ยังกับนรกบนดิน
ลองอธิบายให้แฟนคุณ Mr.Pig เข้าใจถึงสถานการณ์โดยละเอียด และข้อได้เปรียบเสียเปรียบของการมีรถยนต์ดูนะครับ อาจจะช่วยได้บ้างครับ
ขอแจมแค่นี้ละกันนะครับ แฮะๆๆ เดี๋ยวจะหาว่าพูดมากเกินไป
คุณ Mr.Pig ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าพี่ๆในนี้คงไม่รังเกียจที่จะรับฟังปัญหาและช่วยหาวิธีแก้ไขหรอกครับ บางเรื่องเราแก้ไขคนเดียวคิดเองหัวเดียวมันก็ลำบาก บางทีก็คิดไม่ออก บางทีคิดได้แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดหรือเปล่า ผมเชื่อว่าการที่คุณ Mr.Pig เล่าปัญหาออกมาทางกระทู้นี้ถือเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
ถ้าจะให้ผมออกความเห็น ผมก็เกรงว่าตัวผมเองจะเด็กไปหน่อย และประสบการณ์อาจจะยังไม่มากพอ ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าตัวผมเองนั้นอายุก็แค่ (หรือปาไปแล้ว ก็ไม่ทราบ แฮะๆ) 26 ปีเท่านั้นเอง ประสบการณ์เรื่องการอยู่ร่วมกันกับอีกคนหนึ่งก็เคยมีบ้างครับ เรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน กิเลส และความอยากเป็นเรื่องธรรมดา
ผมเคยจำได้ว่าตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ กิเลสมันบังตาเพราะความไม่เคยมี ผมเคยอยากได้รถใหม่ๆสวยๆ มือถือใหม่ๆที่มีฟังค์ชั่นเจ๋งๆ แต่พอนานไปก็เริ่มเข้าใจถึงความจำเป็นจริงๆของมันครับ รถมันก็แค่ช่วยให้เราเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ถึงมันจะเก่าหน่อย แต่ถ้ามันไม่แย่นัก เช่นแอร์ไม่ได้เสียหรือไม่ใช่วิ่งๆไปแล้วหม้อน้ำแตกบ่อยๆให้เราต้องลงมาเข็นรถในสายฝนแล้วล่ะก็ ใช้คันเก่าต่อไปเถอะครับ มือถือนี่อีกอย่างหนึ่ง หลังจากหลงผิดกับมันมานานผมเองก็เริ่มคิดได้ว่าผมใช้มือถือเป็นแค่เครื่องมือสื่อสาร ใช้โทรออกรับสาย เอาเงินที่ใช้ซื้อเครื่องใหม่ๆมาเป็นค่าโทรหาคนที่เราห่วงใยเสียยังดีกว่าครับ
นอกเรื่องไปเยอะ (เพราะแอบเก็บกดเหมือนกันหรือเปล่าไม่ทราบ แฮ่ๆ) เข้าเรื่องของคุณ Mr.Pig นะครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณ Mr.Pig อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพหรือเปล่า ถ้าอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพนะครับ คุณ Mr.Pig เคยคิดคำนวณหรือเปล่าครับว่า การมีรถยนต์นั้น มีค่าใช้จ่ายสูงกว่านั่งแท๊กซี่เสียอีก ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมันนะครับ ผมจะลอง List รายการออกมาเท่าที่ผมคิดได้ มีดังนี้ครับ..
1. ค่าน้ำมัน
2. ค่าประกันภัย (หากไม่มีชั้น 1 ก็เตรียมค่าอุบติเหตุที่ไม่คาดฝันไว้ได้นะครับ)
3. ค่าบำรุงรักษา
3.1 ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 ก.ม.
3.2 ค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ อาทิ ยาง สายพาน
3.3 ค่าล้างรถ
3.4 ค่าภาษีประจำปี
4. ค่าเสื่อมราคาของตัวรถเอง
5. ค่าที่จอดรถ
6. ค่าความเครียดซึ่งเป็นเหตุมาจากความแออัดของการจราจร
7. ค่าเสียเวลาที่ต้องนำรถเข้าอู่
8. และ.. ยังไม่รวมความเสี่ยงที่ซื้อมาแล้วอาจจะได้รถไม่ดีให้ปวดหัวหนักกันเข้าไปใหญ่ดังที่เป็นข่าวกันนะครับ
ผมเคยจำได้นะครับ ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คืนนั้นฝนตกหนักมากครับ ผมขับรถคันโปรดผมเนี่ยล่ะอยู่แถวหมอชิต มุ่งหน้ารัชโยธิน การจราจรตรงนั้นติดขัดหยุดนิ่งมากกว่า 3 ชั่วโมงเพราะมีรถคันหนึ่งขับชนเสาไฟฟ้าโค่นลงมากลางถนนทำให้การจราจรไม่สามารถเคลื่อนตัวได้... ผมคิดขึ้นมาแว๊ปหนึ่ง ถ้าผมอยู่บนรถแท๊กซี่นะ ผมจะจ่ายเงินแล้วเดินไปอีกฝั่งของถนน โบกแท๊กซี่อีกคันนึงแล้วไปต่อโดยใช้เส้นทางอื่น จะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งเผาน้ำมันอยู่กลางสายฝนเกือบ 3 ชม. อย่างที่เป็น
อีกกรณีนะครับ เคยพยายามหาที่จอดในเซ็นทรัลลาดพร้าวในวันหยุดไหมครับ แฟนคุณจะนึกถึงแท๊กซี่ขึ้นมาเต็มๆเลยล่ะ ยังกับนรกบนดิน
ลองอธิบายให้แฟนคุณ Mr.Pig เข้าใจถึงสถานการณ์โดยละเอียด และข้อได้เปรียบเสียเปรียบของการมีรถยนต์ดูนะครับ อาจจะช่วยได้บ้างครับ
ขอแจมแค่นี้ละกันนะครับ แฮะๆๆ เดี๋ยวจะหาว่าพูดมากเกินไป
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 14
8) คนส่วนใหญ่ มองปัจจุบันไว้ก่อน
ทุกคนก็หวังสบาย
ลดปัญหา ดาวน์รถให้เธอเหตุการณ์คงจะดูดีขึ้น
เหมือนแบ่งเงินกันใช้
ถ้าทำสองคนแล้วเก็บ อีกคนจะมองว่าเป็นการเอาเปรียบ
น่าจะลองคิดแบบหัวอกเขาบ้าง
อย่าคิดแต่หัวอกเรา
ปัญหามีไว้แก้ครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
ทุกคนก็หวังสบาย
ลดปัญหา ดาวน์รถให้เธอเหตุการณ์คงจะดูดีขึ้น
เหมือนแบ่งเงินกันใช้
ถ้าทำสองคนแล้วเก็บ อีกคนจะมองว่าเป็นการเอาเปรียบ
น่าจะลองคิดแบบหัวอกเขาบ้าง
อย่าคิดแต่หัวอกเรา
ปัญหามีไว้แก้ครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 351
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 15
เข้ามาให้กำลังใจ และขอเอาใจช่วยให้สู้ต่อไปครับ ชีวิตครอบครัวก็มีปัญหาบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ผมว่าส่วนใหญ่นะครับ โดยเฉพาะตอนเริ่มสร้างตัว ถ้าเราไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง ผมคิดว่า vi ส่วนใหญ่ใช้ชิวิตแบบประหยัด เพื่อเอาเงินไว้ลงทุน คิดว่าประหยัดวันนี้ เพื่อมีชิวิตที่ดี สุขสบายในวันข้างหน้า แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ขอสะดวก สบายวันนี้ก่อน วันข้างหน้าค่อยว่ากัน เรื่องรถยนต์ถ้ามีความจำเป็นจริงๆแนะนำให้ใช้รถมือสองสภาพพอใช้ได้ราคาประมาณ สองแสนต้นๆรถญี่ปุ่นพวก toyota หรือ honda แต่ต้องดูเป็นหน่อยนะครับ ชีวิตผมใช้รถมือสองมา 5 คัน วันนี้ก็ยังใช้อยู่ ลองคิดดูนะครับ ผมใช้รถมือสอง ราคา 2 แสน ซื้อเงินสด แต่เพื่อนอีกคน ซื้อป้ายแดงราคา 1.2 ล้านแต่ผ่อน 1 ล้าน คิดดูว่าเงิน 1 ล้านเสียดอกเบี้ยเท่าไร ตรงกันข้ามถ้าเอาเงิน 1 ล้านเอามาลงทุนจะได้ผลตอบแทนเท่าไร ต่างกันมากนะครับ อยากให้ค่อยๆคุยกับแฟน ลองเปิดข้อคิดเห็นของเพื่อนๆให้เธออ่านดู เธอจะได้รู้ว่าหลายคนเขาก็คิดเหมือนคุณ ยังไงต่างคนต่างลดเป้าหมายลงมาหน่อยเพื่อความลงตัว ขออวยพรให้ปรับความรู้สึกให้เข้าใจกันได้ และมีชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 16
แล้วถ้าย้ายบ้านจะพอมั้ย ย้ายไปอยู่ที่เธอสบาย เราก็ขึ้นรถสาธารณะเหมือนเดิม
หาคอนโดแล้วผ่อน หรือเช่าอพารท์เมนต์อยู่ ถ้าซื้อก็ถือว่าลงทุน ถ้าเช่าก็ซื้อเวลาให้กับชีวิต
ผมเห็นด้วยกับ ViKid ว่ารถแพง แล้วผมก็เชื่อว่านั่ง taxi ประหยัดกว่าด้วย
สุดท้ายอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต
ชีวิตที่มีคู่
หรือ ชีวิตที่มีคู่ชีวิต
หาคอนโดแล้วผ่อน หรือเช่าอพารท์เมนต์อยู่ ถ้าซื้อก็ถือว่าลงทุน ถ้าเช่าก็ซื้อเวลาให้กับชีวิต
ผมเห็นด้วยกับ ViKid ว่ารถแพง แล้วผมก็เชื่อว่านั่ง taxi ประหยัดกว่าด้วย
สุดท้ายอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต
ชีวิตที่มีคู่
หรือ ชีวิตที่มีคู่ชีวิต
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 18
ขอเป็นกำลังใจให้ จขกท. ครับ ทัศนคติบวก จะทำให้คุณฝ่าฟันปัญหาไปได้ด้วยดีครับ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ส่งผลกระทบถึงกันหมด ดังวลีที่ว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองมันในแง่ไหน
รถยนต์อาจจะไม่เลวร้ายนัก หากคุณใช้มันอย่างคุ้มค่า ให้มันสร้างผลตอบแทนกลับมาให้คุณบ้าง คุณอาจจะเดินทางสะดวกขึ้น มีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น มีกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวมากขึ้นเพื่อสร้างความอบอุ่น ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น อาจจะนำพามาซึ่งมิตรภาพใหม่ๆ ที่ทำให้คุณมีโอกาสที่ดีขึ้นในหน้าที่การงาน ฯ ขึ้นอยู่กับมุมมองครับ
มีคำพูดหนึ่งที่ผมชอบมาก เขากล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ไม่มีสิ่งใดแพง เพียงแต่บางอย่างเราไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อเท่านั้น แต่สิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินนี่สิ แพง..
ความรัก.. ซื้อไม่ได้ด้วยเงินนะครับ
รถยนต์อาจจะไม่เลวร้ายนัก หากคุณใช้มันอย่างคุ้มค่า ให้มันสร้างผลตอบแทนกลับมาให้คุณบ้าง คุณอาจจะเดินทางสะดวกขึ้น มีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น มีกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวมากขึ้นเพื่อสร้างความอบอุ่น ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น อาจจะนำพามาซึ่งมิตรภาพใหม่ๆ ที่ทำให้คุณมีโอกาสที่ดีขึ้นในหน้าที่การงาน ฯ ขึ้นอยู่กับมุมมองครับ
มีคำพูดหนึ่งที่ผมชอบมาก เขากล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ไม่มีสิ่งใดแพง เพียงแต่บางอย่างเราไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อเท่านั้น แต่สิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินนี่สิ แพง..
ความรัก.. ซื้อไม่ได้ด้วยเงินนะครับ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 19
ความสุขตอนสุดท้าย และความสุขระหว่างเดินทาง สำคัญเท่าๆกันครับ
วิธีการที่อาจจะช่วยได้คือ การใช้ชีวิตทุกขณะให้อยู่ในระดับที่สมถะกว่าระดับความร่ำรวยของตนเอง (Live below your means) แต่ใช้ชีวิตให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น วิธีนี้จะให้ความหวังแก่คนในครอบครัว และทำให้คนในครอบครัวเชื่อตามคุณว่าวิธีที่คุณทำอยู่จะให้ผลดี
เอาใจช่วยครับ
วิธีการที่อาจจะช่วยได้คือ การใช้ชีวิตทุกขณะให้อยู่ในระดับที่สมถะกว่าระดับความร่ำรวยของตนเอง (Live below your means) แต่ใช้ชีวิตให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น วิธีนี้จะให้ความหวังแก่คนในครอบครัว และทำให้คนในครอบครัวเชื่อตามคุณว่าวิธีที่คุณทำอยู่จะให้ผลดี
เอาใจช่วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 20
ไม่ได้เข้ามานาน อ่านกระทู้แล้วต้องขอมาแจมหน่อย
ผมยังไม่มีประสบการณ์ครอบครัวหรอกนะครับ
แต่เรื่องเงินๆทองๆ ผมเห็นทำให้ผัวเมีย เลิกกันมาหลายคนแล้ว
ญาติกัน เข้าหน้ากันไม่ติดก็เพียบ
เป็นเพื่อนรักกัน ทำให้เดินคนละทางกันก็เยอะ
ระวังหน่อยก็ดีครับ อย่าใช้อารมณ์นะครับ ใช้เหตุผลเป็นหลัก
ค่อยๆอธิบาย
ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถก็ซื้อครับ ถ้าวิเคราะห์แล้วทำให้มีความสุข
ให้ครอบครัว ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นได้ก็ถอยมาเถอะครับ มือสองก็ได้ มือหนึ่งก็ดี
เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาหุ้นผม ทำให้ขาดทุนไปเยอะๆหลายสิบ % เลย cut lost ไปตรึม ทำใจ 1 วัน ก็ได้แล้ว แต่ทำให้เสียโอกาสไปเยอะ
ส่วนเรื่องครอบครัว วันเดียวทำใจไม่ได้แน่ เรื่องครอบครัวต้องเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายครับ อย่าใช้เงินมาเป็นตัวตัดสินใจอย่างเดียว เอาใจช่วยครับ
บายแล้วจะแวะมาทักทายใหม่นะครับ
ผมยังไม่มีประสบการณ์ครอบครัวหรอกนะครับ
แต่เรื่องเงินๆทองๆ ผมเห็นทำให้ผัวเมีย เลิกกันมาหลายคนแล้ว
ญาติกัน เข้าหน้ากันไม่ติดก็เพียบ
เป็นเพื่อนรักกัน ทำให้เดินคนละทางกันก็เยอะ
ระวังหน่อยก็ดีครับ อย่าใช้อารมณ์นะครับ ใช้เหตุผลเป็นหลัก
ค่อยๆอธิบาย
ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถก็ซื้อครับ ถ้าวิเคราะห์แล้วทำให้มีความสุข
ให้ครอบครัว ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นได้ก็ถอยมาเถอะครับ มือสองก็ได้ มือหนึ่งก็ดี
เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาหุ้นผม ทำให้ขาดทุนไปเยอะๆหลายสิบ % เลย cut lost ไปตรึม ทำใจ 1 วัน ก็ได้แล้ว แต่ทำให้เสียโอกาสไปเยอะ
ส่วนเรื่องครอบครัว วันเดียวทำใจไม่ได้แน่ เรื่องครอบครัวต้องเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายครับ อย่าใช้เงินมาเป็นตัวตัดสินใจอย่างเดียว เอาใจช่วยครับ
บายแล้วจะแวะมาทักทายใหม่นะครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 21
ที่นี่ยินดีรับฟังปัญหาของคุณ Pig อยู่แล้วครับ และหลายๆท่านในนี้อาจจะเคยเจอปัญหาเดียวกันมาก่อน
คุณ Pig ลองคิดดูละกันครับว่าแฟนของคุณ Pig เป็นคนแบบไหน ยอมรับฟังความเห็นกันรึเปล่าหรือว่าค่อนข้างจะดื้อ ก็ต้องเลือกเอาละครับว่าจะอธิบายให้เข้าใจกันยังไง
คุณ Pig ลองแบบนี้ก็ได้ครับ
เขียนจดหมาย (ที่เป็นจดหมายเพราะเวลาเราเขียนเราจะใช้สมองมากกว่าอารมณ์) ถึงแฟนแล้วอธิบายเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่อยากซื้อรถในวันนี้ ทำไมต้องเอาไปลงทุน ลองเขียนทั้งข้อดีและข้อเสียของการซื้อรถที่คุณนึกออก (อย่างน้อยก็ทำให้แฟนได้รู้ด้วยว่าเราก็คิดว่ามันมีข้อดีเหมือนกัน แฟนจะได้รู้ว่าเราก็เข้าใจเค้าเหมือนกัน) แล้วก็ลงท้ายจดหมายไปว่า "พี่ได้บอกเหตุผลทของพี่ แต่ถ้าคุณ... (แฟน) ยังยืนยันที่อยากจะซื้อรถ พี่ (Pig) ก็ยินดีจะซื้อให้" อย่าลืมลงท้ายว่ารักแฟนด้วยนะครับ
ระหว่างคิดไปอยากให้นึกไว้ในใจเสมอนะครับว่า ถ้าเราไปถึงอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น แต่ไม่มีแฟนอยู่ด้วยมันจะคุ้มหรือไม่ หรือว่าเราจะยอมไปช้าขึ้นหน่อยแต่มีเธออยู่ข้างๆด้วย
คุณ Pig ลองคิดดูละกันครับว่าแฟนของคุณ Pig เป็นคนแบบไหน ยอมรับฟังความเห็นกันรึเปล่าหรือว่าค่อนข้างจะดื้อ ก็ต้องเลือกเอาละครับว่าจะอธิบายให้เข้าใจกันยังไง
คุณ Pig ลองแบบนี้ก็ได้ครับ
เขียนจดหมาย (ที่เป็นจดหมายเพราะเวลาเราเขียนเราจะใช้สมองมากกว่าอารมณ์) ถึงแฟนแล้วอธิบายเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่อยากซื้อรถในวันนี้ ทำไมต้องเอาไปลงทุน ลองเขียนทั้งข้อดีและข้อเสียของการซื้อรถที่คุณนึกออก (อย่างน้อยก็ทำให้แฟนได้รู้ด้วยว่าเราก็คิดว่ามันมีข้อดีเหมือนกัน แฟนจะได้รู้ว่าเราก็เข้าใจเค้าเหมือนกัน) แล้วก็ลงท้ายจดหมายไปว่า "พี่ได้บอกเหตุผลทของพี่ แต่ถ้าคุณ... (แฟน) ยังยืนยันที่อยากจะซื้อรถ พี่ (Pig) ก็ยินดีจะซื้อให้" อย่าลืมลงท้ายว่ารักแฟนด้วยนะครับ
ระหว่างคิดไปอยากให้นึกไว้ในใจเสมอนะครับว่า ถ้าเราไปถึงอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น แต่ไม่มีแฟนอยู่ด้วยมันจะคุ้มหรือไม่ หรือว่าเราจะยอมไปช้าขึ้นหน่อยแต่มีเธออยู่ข้างๆด้วย
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 22
เดินสายกลางครับ ไม่ตึงไม่หย่อน
เก็บมากแล้วทุกข์ในชีวิตคู่ ก็เอามันออกมาบ้างเพื่อความสุขชีวิตคู่
บางทีอาจจะมีอะไรดีๆ ถ้าชีวิตมีความสุข
เพื่อนผม เอาเงินให้แฟนเลยครับ เดือนละ 3-4 พัน แล้วให้แฟนดูแลเงินส่วนนี้เอง แฟนก็เอาไปผสมกับเงินเดือนตัวเอง เอาไปออกรถครับ แล้วก็ผ่อนเอง
ส่วนตัวเพื่อนก็ เก็บเงินส่วนที่เหลือ ทำโอที เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุน ถึงมันจะน้อยเป้าหมายจะอยู่ไกลออกไปอีกแต่ว่าชีวิตมันก็มีความสุขดีครับ
สิ่งที่พี่หมูคิด ผมว่าคนในบอร์ดเข้าใจ แต่ว่า สิ่งที่แฟนพี่คิด ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ต้องบอกว่าเข้าใจเหมือนกัน กลางๆเข้าไว้ครับพี่ เป็นกำลังใจให้นะครับ ...
เก็บมากแล้วทุกข์ในชีวิตคู่ ก็เอามันออกมาบ้างเพื่อความสุขชีวิตคู่
บางทีอาจจะมีอะไรดีๆ ถ้าชีวิตมีความสุข
เพื่อนผม เอาเงินให้แฟนเลยครับ เดือนละ 3-4 พัน แล้วให้แฟนดูแลเงินส่วนนี้เอง แฟนก็เอาไปผสมกับเงินเดือนตัวเอง เอาไปออกรถครับ แล้วก็ผ่อนเอง
ส่วนตัวเพื่อนก็ เก็บเงินส่วนที่เหลือ ทำโอที เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุน ถึงมันจะน้อยเป้าหมายจะอยู่ไกลออกไปอีกแต่ว่าชีวิตมันก็มีความสุขดีครับ
สิ่งที่พี่หมูคิด ผมว่าคนในบอร์ดเข้าใจ แต่ว่า สิ่งที่แฟนพี่คิด ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ต้องบอกว่าเข้าใจเหมือนกัน กลางๆเข้าไว้ครับพี่ เป็นกำลังใจให้นะครับ ...
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1434
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 23
ผมมาให้กำลังใจด้วยคนครับ ความเห็นเพื่อนๆ พี่น้องทุกคนข้างต้นดีๆ มีคุณค่าทั้งนั้น สอบผ่านการเป็นกัลยณมิตรทุกท่าน ผมขอเพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับคุณผู้หญิงบางครั้งเธออาจไม่เข้าใจเหตุผลของชาวดาว..ดาวอังคาร(มั๊ง จำม่ายค่อยได้ เพราะตัวเองเป็นดาวลูกไก่ในกำมือ ) ลองใช้วิธีที่คุณจีบเธอสิ นึกถึงบรรยากาศนั้นดู คุณเคยทำสำเร็จมาแล้วนิครับ คุณเลือกเธอมา คุณย่อมต้องเข้าใจเธอดีอยู่แล้ว ลองใช้ความรักหรือหลักเมตตานำเหตุผลดูนะครับ น่าจะประณีประนอมได้ win-win แต่ถ้าใช้หลักเหตุผลคงมีผู้พ่ายแพ้เสียใจเป็นแน่แท้ เอาใจช่วยหลายๆ เด้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 24
อ่านแล้วก็คิดถึงตัวเองสมัยก่อนยังไม่มีตังครับ เป็นเหมือนกัน
ผมค่อยๆให้แฟนรู้จักการลงทุนแบบวีไอ ก็อดทนแรกๆ
เพราะวีไอเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้....
จะซื้อรถ ก็เอาวีไอมาอธิบายได้......
มาตอนนี้ ถามแฟนตอนนี้เรามีตังแล้ว จะซื้อรถใหม่มั๊ย
กลับไม่อยากซื้อรถใหม่แล้ว จะซื้อรถมือสองดีกว่า
บอกเก็บไว้ลงทุน........
พอดีผมมีคำสอนหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ติดไว้ที่โต๊ทำงาน
เผื่อครับ....เผื่อช่วยได้........
เงินไม่สำคัญเสมอไป
เงิน ซื้อเตียงนอนได้ แต่ ซื้อการหลับเป็นสุขไม่ได้
เงิน ซื้อกระดาษปากกาได้ แต่ ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงิน ซื้ออาหารดีๆได้ แต่ ซื้อความอยากรับทานไม่ได้
เงิน ซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงิน ซื้อการตามใจได้ แต่ ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้
เงิน ซื้อเพชรนิลจินดาได้ แต่ซื้อความงามไม่ได้
เงิน ซื้อความสนุกชั่วครู่ได้ แต่ ซื้อความสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเพื่อนร่วมเดินทางได้ แต่ ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้
เงิน ซื้ออำนาจราชศักดิ์ได้ แต่ซื้อปัญญาไม่ได้
เงิน ซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ได้ ซื้อสันติสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเมียที่สวยได้ แต่ ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้
เงินจะสำคัญเมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
พระราชสุทธิญาณมงคล
ผมค่อยๆให้แฟนรู้จักการลงทุนแบบวีไอ ก็อดทนแรกๆ
เพราะวีไอเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้....
จะซื้อรถ ก็เอาวีไอมาอธิบายได้......
มาตอนนี้ ถามแฟนตอนนี้เรามีตังแล้ว จะซื้อรถใหม่มั๊ย
กลับไม่อยากซื้อรถใหม่แล้ว จะซื้อรถมือสองดีกว่า
บอกเก็บไว้ลงทุน........
พอดีผมมีคำสอนหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ติดไว้ที่โต๊ทำงาน
เผื่อครับ....เผื่อช่วยได้........
เงินไม่สำคัญเสมอไป
เงิน ซื้อเตียงนอนได้ แต่ ซื้อการหลับเป็นสุขไม่ได้
เงิน ซื้อกระดาษปากกาได้ แต่ ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงิน ซื้ออาหารดีๆได้ แต่ ซื้อความอยากรับทานไม่ได้
เงิน ซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงิน ซื้อการตามใจได้ แต่ ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้
เงิน ซื้อเพชรนิลจินดาได้ แต่ซื้อความงามไม่ได้
เงิน ซื้อความสนุกชั่วครู่ได้ แต่ ซื้อความสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเพื่อนร่วมเดินทางได้ แต่ ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้
เงิน ซื้ออำนาจราชศักดิ์ได้ แต่ซื้อปัญญาไม่ได้
เงิน ซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ได้ ซื้อสันติสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเมียที่สวยได้ แต่ ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้
เงินจะสำคัญเมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
พระราชสุทธิญาณมงคล
- dr_norr
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้หญิง กับ หุ้น
โพสต์ที่ 25
ฟังแล้ว ก็คิดถึง บทความของ ดร.นิเวศ์ เรื่อง หุ้นกับผู้หญิง ที่เพิ่งเขียนมา
ช่วงแรก ผมก็มีปัญหากับภรรยาเหมือนกันแหละครับ
เพียงแต่ช่วงหลังเราจะไม่คุยกันเรื่องหุ้นครับ
เผอิญ ผมมีรายได้ตกเดือนละ 6 หลัก ก็จะให้แฟน เดือนละ 3-4 หมื่นเก็บในบัญชีเธอ
นอกจากนี้ ก็จะเอาบัญชีที่ไปลงทุนที่อื่นมาให้ดู เช่น สลากออมสิน กองทุนรวม LTF ฝากประจำ 3 เดือน ฝากประจำรายเดือน 5% ธ.กรุงไทย
สำหรับความเห็นผม ปัจจุบันการมีรถยนต์ใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ผมว่า นะ ดาวรถประมาณ 200000 กว่าบาท แล้วผ่อนประมาณ 4 ปี
น่าจะดี แต่แนะนำให้คุยกับแฟน ว่าช่วยกันออก อย่าออกคนเดียว
ช่วงแรก ผมก็มีปัญหากับภรรยาเหมือนกันแหละครับ
เพียงแต่ช่วงหลังเราจะไม่คุยกันเรื่องหุ้นครับ
เผอิญ ผมมีรายได้ตกเดือนละ 6 หลัก ก็จะให้แฟน เดือนละ 3-4 หมื่นเก็บในบัญชีเธอ
นอกจากนี้ ก็จะเอาบัญชีที่ไปลงทุนที่อื่นมาให้ดู เช่น สลากออมสิน กองทุนรวม LTF ฝากประจำ 3 เดือน ฝากประจำรายเดือน 5% ธ.กรุงไทย
สำหรับความเห็นผม ปัจจุบันการมีรถยนต์ใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ผมว่า นะ ดาวรถประมาณ 200000 กว่าบาท แล้วผ่อนประมาณ 4 ปี
น่าจะดี แต่แนะนำให้คุยกับแฟน ว่าช่วยกันออก อย่าออกคนเดียว
แมงเม่าวันนี้ จะตัวใหญ่ขึ้นในวันหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 27
คนโสดเข้ามาแอบอ่าน ไม่มีสาวให้ทะเลาะ ทำไงดีเนี่ย -_-'
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 28
ลืมบอกไปว่า goal นี้มันแปลกๆนะครับ คุณ Pig อายุเท่าไหร่หรือครับ? อาจจะต้องคำนวณดูว่า ถ้าใส่เงินได้อย่างปัจจุบันทุกๆปี จะต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ถึงจะได้มูลค่า port ที่ถือว่า Reach Financial Freedomอิสรภาพทางการเงินในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า
ผู้เห็น VI เก่งๆก็ทำให้ 30% ต่อปี ถ้าใช้ Inside Info ก็น่าจะได้มากกว่านั้น แต่อย่าเลย ใช้แล้วไม่สนุก
ถ้าคุณ Pig ไม่มี เงินกู้จากพ่อแม่ คงไม่มีทางทำ Financial Leverage กู้ผู้มีพระคุณมาลงทุนได้ การหาผลตอบแทนเยอะกว่าปกติคงยากนะครับ
ผมว่า 10 ปีมันสั้นไป เก็บเงินเพื่ออนาคตมากไปก็ทำให้ปัจจุบันห่วยได้
ผมใช้สูตร เงินออม = อายุ x รายได้ต่อปี / 10
ถ้าคุณ Pig มี"สินทรัพย์-หนี้สิน"เกินค่าที่ได้จากสูตรนี้ ก็ลดความจริงจังลงเถอะครับ รวยกว่าเพื่อนๆแล้ว
I do not sleep. I dream.
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 29
ลองพาไปหาผู้ที่ประสพความสำเร็จในแนว VI ดูครับ
บางทีอาจจะเข้าใจกันมากขึ้น
ส่วนรถถ้าเธออยากได้จริงๆ ลองเป็นรถมือ 2 หรือไม่ก็คันเล็กหน่อย
อ้างไปเลยครับ ขับไม่เก่งกลัวรถป้ายแดงมันจะโทรม
รอขับเก่งๆ แล้วผมจะถอยเบนซ์ 5555 (เวอร์ไปไหมนี่ :lol: )
บางทีอาจจะเข้าใจกันมากขึ้น
ส่วนรถถ้าเธออยากได้จริงๆ ลองเป็นรถมือ 2 หรือไม่ก็คันเล็กหน่อย
อ้างไปเลยครับ ขับไม่เก่งกลัวรถป้ายแดงมันจะโทรม
รอขับเก่งๆ แล้วผมจะถอยเบนซ์ 5555 (เวอร์ไปไหมนี่ :lol: )
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น
โพสต์ที่ 30
1.พยายามหางานใหม่ที่ทำรายได้มากกว่านี้ครับ
4ปี เก็บได้ประมาณ 3แสน ได้ปีละ7หมื่น5พัน
เดือนนึง 6300บาท เป็น 25-30%เงินเดือน ได้เดือนนึง
25000-30000บาทก็ไม่ได้น้อย
แต่ทำงานวันละ12-15 ชั่วโมง แถมทำทุกวันด้วย
มันมากเกินที่จะแบ่งกำลังสมองมาคิดหาหุ้นลงทุนนะครับ
ผมนั่งสำรวจหุ้นแต่ละที กว่าจะเจอได้ทุ่มแรงเป็นร้อยชั่วโมง
ไหนจะ search google นั่งอ่านทั้งเวปไทย ต่างประเทศ
ร่วม50เว็บ เช็คประวัติผู้ถือหุ้นใหญ่อีก นั่งแงะกราฟอีก
ถามผู้รู้ในนี้ด้วยอีกเป็น10ท่าน ถามผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอีก
กินเวลาเป็นร่วมเดือน
ถ้าวันๆเราทำงานเสร็จก็แทบจะสลบ จะอาบน้ำ ทานข้าว คุยกับแฟน
ยังแทบจะไม่มีเวลา แล้วเราจะหาหุ้นเจ๋งๆได้ยังไงกัน?
2.เวลาผ่อนรถให้แฟนผ่อนครึงนึงด้วยนะครับ
ใครอยากได้ของเล่นใหม่ก็ต้องอดทนหน่อย ไม่ใช่แค่นึกก็ได้ของ
ไม่งั้นรถคันนี้เก่าก็ต้องมีคันต่อไปอีก
ไหนจะบ้านเก่าจังอยากได้ใหม่
ข้างบ้านเขาไปเที่ยวเมืองนอกล่ะเราไปมั่งสิ
อะไรอีกสารพัดอย่างที่นึกไม่ถึง
3.เงินเดือนแฟนเขาไม่ให้พ่อแม่เขาเหรอครับ
ยื่นเงื่อนไขด้วยว่าให้พ่อแม่เขาน้อยลง จะได้เอามาผ่อนรถ
บอกไปก็ได้ว่าไม่ไหว ถ้าอยากได้รถ ตรงนี้ก็ต้องลดลง
จะได้ไม่เป็นภาระเรามาก ถ้าหาเหตุผลอ้างไม่ได้
ก็บอกไปก็ได้ครับว่า ค่าOTโดนลดเศรษฐกิจไม่ดี จะได้อ้างขึ้น
4.ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ให้แฟนช่วยออกด้วยนะครับ จะได้รับรู้ความเหนื่อยบ้าง
เราเครียดอยู่คนเดียว เขามาถึงก็ร้องอยากได้โน่นได้นี่
เราปฏิเสธไป เขาก็ไม่คิดจะเข้าใจหรอกครับเพราะตัวเขาไม่ได้เหนื่อยเอง
บางคนก็เข้าใจอะไรยาก อธิบายอย่างเดียวไม่รู้เรื่อง ต้องลงภาคปฏิบัติ
4ปี เก็บได้ประมาณ 3แสน ได้ปีละ7หมื่น5พัน
เดือนนึง 6300บาท เป็น 25-30%เงินเดือน ได้เดือนนึง
25000-30000บาทก็ไม่ได้น้อย
แต่ทำงานวันละ12-15 ชั่วโมง แถมทำทุกวันด้วย
มันมากเกินที่จะแบ่งกำลังสมองมาคิดหาหุ้นลงทุนนะครับ
ผมนั่งสำรวจหุ้นแต่ละที กว่าจะเจอได้ทุ่มแรงเป็นร้อยชั่วโมง
ไหนจะ search google นั่งอ่านทั้งเวปไทย ต่างประเทศ
ร่วม50เว็บ เช็คประวัติผู้ถือหุ้นใหญ่อีก นั่งแงะกราฟอีก
ถามผู้รู้ในนี้ด้วยอีกเป็น10ท่าน ถามผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอีก
กินเวลาเป็นร่วมเดือน
ถ้าวันๆเราทำงานเสร็จก็แทบจะสลบ จะอาบน้ำ ทานข้าว คุยกับแฟน
ยังแทบจะไม่มีเวลา แล้วเราจะหาหุ้นเจ๋งๆได้ยังไงกัน?
2.เวลาผ่อนรถให้แฟนผ่อนครึงนึงด้วยนะครับ
ใครอยากได้ของเล่นใหม่ก็ต้องอดทนหน่อย ไม่ใช่แค่นึกก็ได้ของ
ไม่งั้นรถคันนี้เก่าก็ต้องมีคันต่อไปอีก
ไหนจะบ้านเก่าจังอยากได้ใหม่
ข้างบ้านเขาไปเที่ยวเมืองนอกล่ะเราไปมั่งสิ
อะไรอีกสารพัดอย่างที่นึกไม่ถึง
3.เงินเดือนแฟนเขาไม่ให้พ่อแม่เขาเหรอครับ
ยื่นเงื่อนไขด้วยว่าให้พ่อแม่เขาน้อยลง จะได้เอามาผ่อนรถ
บอกไปก็ได้ว่าไม่ไหว ถ้าอยากได้รถ ตรงนี้ก็ต้องลดลง
จะได้ไม่เป็นภาระเรามาก ถ้าหาเหตุผลอ้างไม่ได้
ก็บอกไปก็ได้ครับว่า ค่าOTโดนลดเศรษฐกิจไม่ดี จะได้อ้างขึ้น
4.ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ให้แฟนช่วยออกด้วยนะครับ จะได้รับรู้ความเหนื่อยบ้าง
เราเครียดอยู่คนเดียว เขามาถึงก็ร้องอยากได้โน่นได้นี่
เราปฏิเสธไป เขาก็ไม่คิดจะเข้าใจหรอกครับเพราะตัวเขาไม่ได้เหนื่อยเอง
บางคนก็เข้าใจอะไรยาก อธิบายอย่างเดียวไม่รู้เรื่อง ต้องลงภาคปฏิบัติ
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า