สงสัยเรื่องการบล็อกเว็บของไอซีที
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องการบล็อกเว็บของไอซีที
โพสต์ที่ 2
อ่านเล่นๆคับ..
กฎหมายคุมเว็บ เครื่องมือทำหมันความเห็นการเมือง
แม้ว่าแนวรบบนโลกไซเบอร์ยังเป็นพื้นที่ที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะติดขัดบ้างจากการบล๊อคข้อความอันไม่สุภาพหรือกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคลจากบรรดาเว็บมาสเตอร์ (ผู้ดูแลเว็บ) แต่ทว่าจุดอ่อนแห่งเสรีภาพบนเว็บเหล่านี้ก็นำมาเป็นเหตุผลหนึ่งในการจัดร่างกฎหมายขึ้นมาดูแลโลกไซเบอร์ในน่านฟ้าไทยอย่างเป็นจริงเป็นจัง
กฎหมายดังกล่าว เดิมมีชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ และเพิ่งเปลี่ยนเป็นร่าง พ.ร.บ.อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เมื่อปีที่แล้ว เป็น 1 ใน 6 ร่างกฎหมายที่ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือ เนคเทค เป็นผู้ร่างในสมัยรัฐบาลชวน แต่จนถึงปัจจุบันมีเพียง พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ 2544 เท่านั้นที่ได้รับการประกาศใช้
อย่างไรก็ตาม หลังจากกระแสข่าวอันอื้อฉาวในโลกไซเบอร์ที่ครึกโครม ทำให้การร่างกฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องรวดเร็วมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้ร่างดังกล่าวได้ผ่านปรับแก้โดยกฤษฎีกาและการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่มีการยุบสภาเสียก่อน จึงไม่ได้มีการพิจารณาของสภาจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้จะเป็นกฎหมายสำคัญที่ต้องออกมาบังคับใช้เพื่อควบคุมการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายที่มีโทษทางอาญา จึงทำให้มีข้อท้วงติงจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยและสภาวิชาชีพผู้ดูแลเว็บไทย ที่จัดทำร่างคู่ขนานขึ้นมาเพื่อท้วงติงในแต่ละประเด็น
ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย หนึ่งในผู้ร่างกฎหมายคู่ขนาน ระบุว่า ร่างที่ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีการและ ครม.หลังสุด ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่โดยยังคงเนื้อหาหลักในร่างเดิม ซึ่งตนคิดว่าจะมีผลกระทบในวงกว้างต่อผู้ประกอบการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เขาระบุว่า ประเด็นการบังคับระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายที่ชี้ว่าต้องบังคับทันทีหลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยไม่มีการประชาสัมพันธ์หรืออบรมผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎหมาย จะเป็นข้อจำกัดให้กับผู้ประกอบการที่ต้องจัดเตรียมฮาร์ดแวร์และแบคอัพข้อมูล ทั้งๆ ที่มีโทษรุนแรง ในขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ทางการจะจัดอบรมเจ้าพนักงานได้ทัน
ที่สำคัญมากกกว่านั้น ขอบเขตอำนาจของเจ้าหน้าที่ที่ระบุในร่างดังกล่าวมีมาก อาจจะมากกว่าเจ้าหน้าที่ใน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เสียอีก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานที่ไม่ระบุชัดว่าเป็นหน่วยงานใด แต่เป็นเพียงการแต่งตั้งมาจากกระทรวงไอซีที และยังมีอำนาจยึดระบบคอมพิวเตอร์ ทำสำเนาข้อมูล เรียกข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ สั่งให้ถอดรหัส โดยที่ไม่ต้องร้องขอต่อศาลก่อน
นอกจากนี้ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ภายใต้หลักการมีเหตุให้ต้องสงสัย อาจเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่พิเศษเหล่านี้ใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอการเปิดสภาและการพิจารณาในวาระร่างกฎหมายดังกล่าว ทางสมาคมฯ จะผลักดันเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาของกรรมาธิการ วุฒิสภา และอาจขยายประเด็นโดยการรณรงค์ล่ารายชื่อเพื่อผลักดันร่างคู่ขนานของทางสมาคมฯ