Microsoft VS GM
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
Microsoft VS GM
โพสต์ที่ 1
Microsoft VS GM
ในงาน COMDEX ครั้งที่ผ่านมามีรายงานว่า Bill Gate ได้กล่าวเชิงเปรียบเทียบอุตสาหกรรม
คอมพิวเตอร์ กับอุตสาหกรรมรถยนต์ว่า "ถ้า GM พยายามที่จะพัฒนารถยนต์ ของตน ตามให้ทันกับ
เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน เหมือนกับที่ Microsoft ทำมาตลอด ป่านนี้เราอาจจะ
สามารถซื้อรถยนต์ที่มีราคาเพียงแค่ 25 เหรียญสหรัฐฯ
และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000ไมล์ โดยกินน้ำมันแค่ 1 แกลลอน ออกมาขับกันแล้วก็ได้
หลังจากนั้นไม่นาน ทางผู้บริหาร GM บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ก็ออกมาแถลงข่าวว่า
"ถ้าเราทำการพัฒนาเทคโนโลยีของเราให้เหมือนกับแบบที่ Microsoft ทำมาตลอด ทางกลุ่ม
ผู้ผลิตรถยนต์ได้คาดการณ์ว่า
1. รถยนต์อาจจะเสีย อย่างไม่มีสาเหตุ วันละอย่างน้อย 2 ครั้ง
2. ทุกๆครั้งที่มีการทาสีถนน หรือซ่อมถนนใหม่ ผู้ใช้จะต้องซื้อรถคันใหม่ด้วย
3. บางครั้งที่รถเสียขณะวิ่งอยู่บนไฮเวย์ ผู้ขับก็อาจจะต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่
4. บางครั้งผู้ขับเพียงแค่เลี้ยวขวา รถยนต์ก็อาจจะดับแล้วไม่ยอมทำการสตาร์ทเครื่องใหม่ จนกว่าจะทำการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง
5. Macintosh จะสามารถผลิตรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีความเร็วสูงกว่าของ GM ถึง 5 เท่า และยังขับง่ายกว่า และเข้าอู่น้อยกว่าอีกด้วย
6. ในบางครั้งรถยนต์อาจไม่ยอมเปิดล็อคประตู จนกว่าผู้ใช้จะทำการกดปุ่มเปิดประตู + บิดสวิทช์ + เสียบกุญแจ + จับเสาอากาศวิทยุ พร้อมๆกัน
7. GM อาจจะบังคับผู้ใช้รถยนต์ ให้ซื้อแผนที่ถนนของ Rand McNally ด้วย ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการหรือไม่ก็ตาม
และถ้าผู้ใช้นำแผนที่ออกไปจากรถ อาจจะทำให้รถยนต์วิ่งช้าลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะทำให้ GM ต้องไปขึ้นศาลคดีผูกขาดทางการค้า
8. ทุกครั้งที่ GM เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ผู้ใช้จะต้องทำการหัดขับรถใหม่ทุกครั้ง"
Source: Forward Mail
:lovl: :lovl: :lovl:
ในงาน COMDEX ครั้งที่ผ่านมามีรายงานว่า Bill Gate ได้กล่าวเชิงเปรียบเทียบอุตสาหกรรม
คอมพิวเตอร์ กับอุตสาหกรรมรถยนต์ว่า "ถ้า GM พยายามที่จะพัฒนารถยนต์ ของตน ตามให้ทันกับ
เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน เหมือนกับที่ Microsoft ทำมาตลอด ป่านนี้เราอาจจะ
สามารถซื้อรถยนต์ที่มีราคาเพียงแค่ 25 เหรียญสหรัฐฯ
และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000ไมล์ โดยกินน้ำมันแค่ 1 แกลลอน ออกมาขับกันแล้วก็ได้
หลังจากนั้นไม่นาน ทางผู้บริหาร GM บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ก็ออกมาแถลงข่าวว่า
"ถ้าเราทำการพัฒนาเทคโนโลยีของเราให้เหมือนกับแบบที่ Microsoft ทำมาตลอด ทางกลุ่ม
ผู้ผลิตรถยนต์ได้คาดการณ์ว่า
1. รถยนต์อาจจะเสีย อย่างไม่มีสาเหตุ วันละอย่างน้อย 2 ครั้ง
2. ทุกๆครั้งที่มีการทาสีถนน หรือซ่อมถนนใหม่ ผู้ใช้จะต้องซื้อรถคันใหม่ด้วย
3. บางครั้งที่รถเสียขณะวิ่งอยู่บนไฮเวย์ ผู้ขับก็อาจจะต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่
4. บางครั้งผู้ขับเพียงแค่เลี้ยวขวา รถยนต์ก็อาจจะดับแล้วไม่ยอมทำการสตาร์ทเครื่องใหม่ จนกว่าจะทำการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง
5. Macintosh จะสามารถผลิตรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีความเร็วสูงกว่าของ GM ถึง 5 เท่า และยังขับง่ายกว่า และเข้าอู่น้อยกว่าอีกด้วย
6. ในบางครั้งรถยนต์อาจไม่ยอมเปิดล็อคประตู จนกว่าผู้ใช้จะทำการกดปุ่มเปิดประตู + บิดสวิทช์ + เสียบกุญแจ + จับเสาอากาศวิทยุ พร้อมๆกัน
7. GM อาจจะบังคับผู้ใช้รถยนต์ ให้ซื้อแผนที่ถนนของ Rand McNally ด้วย ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการหรือไม่ก็ตาม
และถ้าผู้ใช้นำแผนที่ออกไปจากรถ อาจจะทำให้รถยนต์วิ่งช้าลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะทำให้ GM ต้องไปขึ้นศาลคดีผูกขาดทางการค้า
8. ทุกครั้งที่ GM เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ผู้ใช้จะต้องทำการหัดขับรถใหม่ทุกครั้ง"
Source: Forward Mail
:lovl: :lovl: :lovl:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- ผู้ติดตาม: 0
Microsoft VS GM
โพสต์ที่ 4
9. เมื่อเจ้าของรถลืมกุญแจ ก็อาจจะต้องรื้อรถทั้งคัน
10. ต้องคอยเปลี่ยนคนขับ(Driver)ให้ทันสมัยตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นรถจะชนได้(Crash)
11. รถอาจจะต้องมีสองเครื่องยนต์ เครื่องหนึ่งเอาไว้ขับเคลื่อนตัวรถเอง เครื่องหนึ่งขับเคลื่อนตัวผู้โดยสารและสัมภาระ
10. ต้องคอยเปลี่ยนคนขับ(Driver)ให้ทันสมัยตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นรถจะชนได้(Crash)
11. รถอาจจะต้องมีสองเครื่องยนต์ เครื่องหนึ่งเอาไว้ขับเคลื่อนตัวรถเอง เครื่องหนึ่งขับเคลื่อนตัวผู้โดยสารและสัมภาระ
-
- Verified User
- โพสต์: 1717
- ผู้ติดตาม: 0
Microsoft VS GM
โพสต์ที่ 5
12.เวลาขับ ต้องสรวมเสื้อเกราะเพื่อป้องกันหนอน แมลง และเชื้อโรค
13.ต้องทุบรถทิ้งและฆ่าตัวตายทันทีทุกครั้งที่ติดเชื้อ
13.ต้องทุบรถทิ้งและฆ่าตัวตายทันทีทุกครั้งที่ติดเชื้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
Microsoft VS GM
โพสต์ที่ 7
14. มีคนหมั่นไส้ถึงขนาดรวมกลุ่มกันสร้างรถมาให้ขับฟรีๆ (Open Source)แถมยังปลอดภัยกว่า แทบจะไม่มีอุบัติเหตุ (Crash)
"Winners never quit, and quitters never win."