ศาลอนุมัติหมายจับ"สนธิ"ในคดีหมิ่นพระมหากษัตริย์แล้

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

ศาลอนุมัติหมายจับ"สนธิ"ในคดีหมิ่นพระมหากษัตริย์แล้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา      ไม่มีเวลามอบตัว  แต่ศาลตัดสินปุ๊บไปมอบตัวได้ปั๊บ   :rofl:


กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ผู้จัดการออนไลน์

         ศาลอนุมัติหมายจับ"สนธิ"ในคดีหมิ่นพระมหากษัตริย์แล้ว โดยล่าสุด"สนธิ"พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัว เพื่อต่อสู้คดีกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว
         วันนี้( 28 เม.ย.49) เมื่อเวลา 14.37 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน กองปราบปรามโดย พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามที่ถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยก่อนหน้านี้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายาความได้ยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ศาลไต่สวนพยานหลักฐานฝ่ายพนักงานสอบสวน โดยให้เหตุผลว่าพยานหลักฐานดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ และนายสนธิไม่มีเจตนาหลบหนี
         คำสั่งศาลดังกล่าว มีใจความว่า กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่านายสนธิ ผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี ทั้งได้ความจาก พ.ต.อ.กฤษฎิ์ เปียแก้ว พนักงานสอบสวน ว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.49 พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 17 เม.ย.49 แต่ผู้ต้องหาไม่ไปตามหมายเรียก ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. 49 พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24,25 เม.ย.49 แต่ก็ไม่ไปตามหมายเรียกอีก โดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร
         ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้ให้ทนายความแจ้งแก่พนักงานสอบสวนแล้วว่า มีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัด จึงขอเลื่อนไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 พ.ค.49 นั้ ก็ได้ความจากคำแถลงของทนายความผู้ต้องหาว่า นายสนธิเดินทางจากประเทศจีนถึงประเทศไทยวันที่ 11 เม.ย.49 และมีกำหนดการปราศรัยที่จ.สระแก้ว ในวันที่ 17-18 เม.ย.นั้น และมีกำหนดการปราศรัยที่จ.ตรัง วันที่ 20 เม.ย., และที่จ.ภูเก็ต วันที่ 21 เม.ย., และที่จ.นครราชสีมา ในวันที่ 22 -24 เม.ย., ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 25 เม.ย.
         แสดงว่าตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.49 เป็นวันที่ผู้ต้องหาเดินทางกลับถึงประเทศไทย ถึงวันที่ 25 เม.ย. 49 อันเป็นวันที่ พนักงานสอบสวนนัดให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ผู้ต้องหาไม่มีกำหนดการปราศรัยตามสถานที่ต่างๆ ทุกวัน และไม่ปรากฏข้อเท็จจริง จากคำแถลงของทนายผู้ต้องหาว่า วันที่ไม่มีกำหนดการปราศรัยผู้ต้องหามีภารกิจจำเป็นอยู่ที่ใด ดังนั้นหากผู้ต้องหามีเจตนาไปรับทราบข้อกล่าวหาจริง ก็ย่อมสามารถติดต่อขอไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ผู้ต้องหาไม่มีภารกิจสำคัญได้โดยไม่ยาก แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ดำเนินการ ยิ่งกว่านั้นโดยปกติ การปราศรัยทางการเมืองมักจะเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย ต่อเนื่องไปจนถึงเวลากลางคืน และมีผู้ขึ้นไปพูดบนเวทีปราศรัยหลายคนสลับกันไป เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ต้องหาจะขึ้นปราศรัยคนเดียวตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งยุติการปราศรัย หากผู้ต้องหามีภารกิจอื่น เช่นการไปพบพนักงานสอบสวนตามนัด ก็ย่อมกำหนดเวลาขึ้นปราศรัยในเวลาที่เหมาะสมไม่ให้กระทบต่อเวลานัดหมายโดยง่าย ทั้งการไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกไม่ทำให้ต้องเสียเวลามากนักและไม่กระทบกระเทือนถึงกำหนดการปราศรัยของผู้ต้องหา เพราะพนักงานสอบสวนไม่อาจแกล้งจับกุม และไม่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 วรรคท้าย ข้ออ้างของผู้ต้องหาจึงไม่มีเหตุผลเพียงพอและมิใช่เหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้
         ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น จึงอนุญาตให้ออกหมายจับนายสนธิ ผู้ต้องหาตามขอ เมื่อจัดการตามหมายจับได้แล้วให้ส่งบันทึกการจับกุมต่อศาลภายใน 7 วัน
         หลังฟังคำสั่งศาลนายสุวัตร เปิดเผยว่า ตนไม่อาจยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งหรือขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ดังนั้นจึงต้องพานายสนธิ ไปมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และจะขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้แล้ว
         เมื่อถามว่าการถูกจับครั้งนี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ นายสุวัตรตอบว่า ไม่กระทบและไม่น่าหนักใจ ดีเสียอีกที่คดีเข้าสู่กระบวนการพิจาณาในชั้นสอบสวน ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยว่านายสนธิกระทำความผิด เพียงแต่มีมูลตามที่ถูกกล่าวหา
         ส่วนการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 2 พ.ค.49 นี้จะยังมีต่อไปหรือไม่ นายสุวัตรกล่าวว่า การปราศรัยที่กำหนดไว้แล้วนั้นจะยังคงเดินหน้าต่อไป และนายสนธิก็ยังปราศรัยได้ แต่จะเป็นการพูดในเนื้อหาน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะไม่มีการเรียกร้องมาตรา 7
         และล่าสุด ผู้สื่อข่าว รายงานจากกองปราบปราม ว่าเวลา 15.12 น.นายสนธิ พร้อมด้วย นายสุวัตร ทนายความได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยตำรวจกองปราบปราม ได้อนุญาตให้ นายสนธิ และ ทนายความ เท่านั้น ที่สามารถขึ้นไปบนห้องของพนักงานสอบสวนได้ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป
         ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป--จบ--
โพสต์โพสต์